ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก เทียร์รดาก็ก้มหน้าเดินดุ่มๆ ไม่มองซ้ายขวา ไม่วายถูกคียติณณ์ก้าวเท้าไล่ตามก่อนคว้าแขนเธอเอาไว้ เธอแทบจะไม่เงยหน้ามองทาง ไม่สบสายตาชายหนุ่มที่รั้งแขนเธอไว้ เอาแต่ก้มมองพื้นเพราะไม่อยากให้ใครได้เห็นน้ำตาในเวลานี้ “เอาแต่ก้มหน้าแบบนั้นเดี๋ยวก็หกล้มพอดี” คียติณณ์เอ่ยเสียงดุอีกฝ่ายอย่างลืมตัว ก่อนระบายลมหายใจร้อนผ่าวด้วยความขัดใจตัวเอง เขาอยากจะแสดงออกให้มากกว่านี้ แต่ก็กลัวอีกฝ่ายจะอึดอัดใจแล้วเลือกเดินหนีเขาไป “คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ” เทียร์รดาถามเสียงสั่นเครือ พร้อมกับเมินหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา “เดี๋ยวผมขับรถไปส่ง” คียติณณ์ยื่นข้อเสนอ แน่นอนว่าถ้าเธอปฏิเสธ เขาก็จะยัดเยียดตัวเองให้อยู่ดี “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวฉันให้คนมารับ” “แล้วคุณจะยืนรอพวกเขาในสภาพนี้เหรอเทียร์” ดวงหน้าหวานลิ้มดูทุกข์หนัก เธอเม้มริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น รู้สึกสูญเสียความมั่นใจอีกครั้ง