ชีวินจ้องมองเธอ รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมานั้น บ่งบอกถึงอารมณ์อันบรรเจิดของเขาโดยแท้ ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกฉุนเฉียวเมื่อถูกเธอพูดตอกหน้าตั้งแต่อยู่ในรถแล้วละ ปกติเศรษฐีอย่างเขา ใครพูดผิดหูเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
เขาสามารถเข้ามานั่งบนเก้าอี้พลาสติก
มองเธอ
มองข้าวของมีไม่กี่ชิ้นภายในห้อง ทุกอย่างล้วนไม่ใช่ของมีราคาอะไร แต่ข้าวของทุกอย่างอยู่เป็นระเบียบ
ห้องเล็ก สะอาดสะอ้าน แม้แต่ที่นอนของเธอก็จัดเอาไว้อย่างเรียบร้อย
“เธอสวยถูกใจฉันจังหนูนา”
“คะ...?”
“ฉันชมว่าสวย”
หนูนาชักสีหน้า “ไม่เชื่อ”
“อ้าว จริงนะ”
คราวนี้สีหน้าของหนูนาเปลี่ยนเป็นถมึงทึง เธอไม่ยอมเขาง่าย ๆ อีกแล้ว ไม่ใช่อะไร เพราะเจอมาทั้งวัน
ต้องรับมือกับพ่อสุดหื่น ที่อารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา
อธิบายจนปากเปียกปากแฉะ บางครั้งก็เข้าใจว่า ไม่ใช่ฟ้า แต่สุดท้ายก็ยังแอบแต๊ะอั๋ง คว้าตัวเธอไปกอดจูบลูบคลำ ทำท่าจะเลยเถิดซะทุกครั้งไป
เจอกับแท่งแข็ง ๆ มาทั้งวัน
อารมณ์ไม่ได้บังเกิดตลอดเวลาหรอกนะ
“ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ขอร้องเถอะ ฉันจะอาบน้ำ เหนื่อยมาทั้งวันนะคะ”
น้ำเสียงฉุนเฉียว ตาขวาง
“ก็บอกแล้ว อาบสิ ฉันจะรอ... ฉันจะพาเธอไปทานอาหารข้างนอก”
“ฉันไม่เคยอาบน้ำตอนที่มีผู้ชายอยู่ร่วมห้อง”
“ก็ลองดูจะเป็นไรไป”
หนูนากำลังเผชิญหน้าความดื้อด้านของผู้ชาย เธอไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการอย่างไรเหมือนกัน
รู้เพียงแค่ว่า ขืนเขาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ เธอสู้ตาย
“นี่คุณ... อย่าคิดทำไรบ้า ๆ นะ”
“เห็นเธอแล้วมีอารมณ์จัง”
“บ้า ฉันไม่ยอมนะ”
เขาลุกจากเก้าอี้พลาสติก ขยับก้าวเข้ามาหาเธอ หนูนาใจสั่น หน้าเสีย บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า ถ้าเขาเข้ามาจริง ๆ เธอจะหนีอย่างไรพ้น
“ฉันจะไม่ทำอะไรเธอ ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุข”
“คะ”
“จริง ๆ นะหนูนา”
หญิงสาวหน้าแดงเข้ม ขณะร่างสูงขยับก้าวเข้าใกล้
ใจเต้นรัว เหมือนจะหลุดออกมานอกอก ภาพเหตุการณ์ในรถยนต์เมื่อเช้า ยังฝังอยู่ในอณูความทรงจำ
ภาพเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญกับชายสูงวัยผู้เป็นพ่อก็ยังถูกขังอยู่ในความจำของเธอไม่มีวันลบเลือนไปง่าย ๆ
ใครจะคิดว่า แค่วันเดียวของเธอ จะต้องเจออะไรมากมายถึงเพียงนี้ ทั้ง ๆที่ตลอดระยะเวลา 25 ปีของเธอ ไม่เคยข้องแวะกับเพศตรงข้ามแม้แต่คนเดียว
บทจะเจอ มาซะมากมายไม่ทันตั้งตัว
กำลังคิดอยู่ว่าจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร ร่างของเขาก็ก้าวมาถึงตัว
“ว้าย!”
หลุดปากร้องเสียงหลง แต่ผวาวูบเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
หนุ่มห่ามกระตุกผ้าขนหนูหลุดผลัวะ เนื้อในงดงามก็อวดตัวอล่างฉ่าง หนูนาดิ้นขลุกขลัก แต่รู้สึกเลยว่าพละกำลังของเธอกำลังอ่อนแรงลงอย่างฮวบฮาบ!
“ให้ตายเถอะ คุณจะข่มขืนฉัน”
“เปล่า...” ชีวินปฏิเสธ เสียงพร่า ลมหายใจของเขาดังฟืดฟาด อารมณ์เดียวกับผู้เป็นพ่อไม่มีผิด
“ฉันแค่จะทำให้เธอ”
“ทำอะไร”
“เล้าโลม”
“โอย ไม่นะ”
“เธอยังไม่เคยโดน”
“ใครอยากโดนกันล่ะคะ ไม่ ม่ายยยย...”
ถูกรุนไปที่เตียง แผ่นหลังแตะพื้น
ชีวินคลุกวงใน
ปากของเขาจู่โจมเข้าหาหัวนมที่เกิดอาการชูชันตั้งแต่แรก ทั้ง ๆ ที่ปากของเธอไม่ยินยอมให้เขากระทำ
ข้างขวาถูกดูด ได้ยินเสียงอันเกิดจากการดูดเน้น ๆของเขา ลิ้นไวฉกโจมตี หนูนาพยายามผลักไส หมัดระดมรัวใส่จนกระทั่งอ่อนแรง
เขาไม่ถอย ไม่หยุดดูด หนูนารับรู้ตอนนี้เองว่า เธอได้สูญเสียความเชื่อมั่นให้กับเขาไปเรียบร้อยแล้ว
“อย่า... คนเลว...”
เวลานี้อับจนถ้อยคำด่าทอ หัวนมอยู่ในปากของเขา บ่งบอกถึงอีกอารมณ์ของเธอ น้ำเสียงของหนูนาแหบพร่า
นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเจออะไรแบบนี้
ร้อนวูบวาบ การการถูกสัมผัสล่วงเกิน ฝ่ามือของเขาล้วงเข้าไปตะปบลงเหนือเนินสวาท นิ้วกดแทรกเข้าสู่ร่องที่ปิดสนิทมาแต่ไหนแต่ไร
“อ๊ายยย”
เสียววูบ ร่างกายเกร็ง ตอนแรกต่อต้าน แต่เพียงไม่นาน หนูนาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังฉ่ำเยิ้ม
สัมผัสจากผู้ชาย ทำไมถึงได้มีพลังอำนาจรุนแรงขนาดนี้นักนะ เพียงแค่แผ่วเบา เธอยังอ่อนปวกเปียก สูญสิ้นพลังต่อกรใด ๆ กับเขา
อยากร้องออกมาให้สุดเสียง แต่กลับยินยอมให้เขาทำต่อไป บนพื้นที่ว่างเปลือยเปล่า ที่ไม่เคยมีชายใดได้เห็น
แค่เผลอสติเพียงชั่ววูบ ใบหน้าของเขาเลื่อนจากหัวนมมาตามหน้าท้อง และกำลังจะเลื่อนต่อไปบนเนินนูน ผ่านเส้นไหมปกคลุมพองาม มันคือจุดซ่อนเร้นที่ไม่เคยมีใครได้เห็นอย่างกระจ่างชัดแบบนี้
หนูนาพยายามจะผลักเขาออก แต่ติดหนึบ อีกอย่างเรี่ยวแรงของเธอเหลือน้อยเต็มที สีหน้าแดงเข้มด้วยเลือดฝาดสาว
ลมหายใจดังฟืดฟาดขึ้นมาบ้าง เกิดอารมณ์หรือเปล่า หนูนาจะรู้ได้อย่างไร นอกเสียจากวูบ ๆ วาบ ๆ ร่างกายตอบสนองต่อการสัมผัสของชายหนุ่มอย่างชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และในบัดดลนั้นเอง...
วูบวาบอย่างแรง เมื่อเนินเนื้อสวาทถูกอะไรบางอย่างปาดลงไป รับรู้ได้ว่ามันเป็นอวัยวะอ่อนนอกแข็งใน และสามารถรุกต่อผ่านกลีบเนื้อของเธอได้อย่างง่ายดาย
“โอ้ว์ ไม่นะ!”
ร้องเสียงหลง พยายามผลักใบหน้าของเขาให้ออกห่าง แต่เธอแพ้เขา แพ้กับสิ่งที่เขากำลังทำให้กับเธอ
เขาใช้ลิ้นเลีย โจมตีเม็ดทับทิมของเธอ
มันน่าพิสมัยตรงไหนกันนะ โอย... สองมือของหนูนาจิกลงบนศีรษะของเขา ไม่ใช่การผลักไส แต่เป็นไปด้วยอารมณ์ประหลาดที่เธอเพิ่งมีโอกาสได้รับรู้ครั้งแรก
น้ำฉ่ำทะลักทลาย
โธ่...
หนูนารุ่มร้อน ผะผ่าวไปทั้งสรรพางค์ ความคิดความอ่านของเธอยามนี้สับสนอลหม่านหวั่นไหวปั่นป่วนไปหมด
แค่การถูกเขาดูดนม มันก็มากเกินพอแล้ว ตอนนี้มันมากกว่านั้นหลายร้อยหลายพันเท่า ไม่มีส่วนใดเป็นความลับอีกแล้ว
เอวของเธอขยับไหว สะโพกเริ่มลอยขึ้น
ปากและลิ้นของชายหนุ่มยังระดมโจมตี ล้วนแล้วแต่เป็นจุดสำคัญทั้งสิ้น สองมือของหญิงสาวจิกลงไปบนศีรษะของเขาหลายต่อหลายครั้ง
น้ำเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก แม้แต่เธอเองก็ไม่อาจจะเข้าใจ ทว่า...ความหมายคงมีอยู่อย่างเดียว
วาบหวิว เร่าร้อน
อารมณ์ดิบเถื่อนที่ถูกเก็บกดเอาไว้ ไม่ค่อยได้ปลดปล่อยออกมา ถูกชายหนุ่มระเบิดอารมณ์ดังกล่าวทั้งหมดออกมา
สะโพกที่ร่อนขึ้น ต่อกรกับปากและลิ้นของชายหนุ่ม ย่อมการันตีได้ว่า หนูนาเป็นสาวเร่าร้อนคนหนึ่ง
เมือกน้ำหวานที่ทะลักออกมาไม่หยุด ก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี
เขาเลื่อนตัวขึ้นไป ใช้มือเคล้นเต้า แล้วริมฝีปากก็ครอบลงบนหัวนมสีแดงระเรื่ออมชมพูของเธอ
ถูกดูดคราวนี้ สีหน้าของหนูนาเหยเก สูดปากเร่าร้อน
ผู้หญิง...ลำพังแค่ถูกจูบ ยังเกิดความรู้สึกผูกพัน แต่ตอนนี้ ถูกชายหนุ่มกระทำล่วงล้ำกว่านั้น มีหรือจะไม่รู้สึก
สอดมือเข้าไปสัมผัสกับแท่งเอ็นตุงเป้าของเขา
ได้จับชักจนเขาปลดปล่อยธารารักมาหนหนึ่งแล้ว เพียงแต่...ตอนนั้นเมื่อเทียบกับห้วงเวลานี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และคราวนี้ ไม่ใช่เพราะเขาจับมือเธอให้ล้วงเข้าไปจับ หากทว่าเธอจับเพราะอารมณ์พิศวาสวาบหวามที่ถูกเขาปลุกเร้าจนกระทั่งปลดปล่อยออกมา
“หนูนา...” ชีวินพรมจูบลงไปบนแก้มอันร้อนผ่าว เฉดสีแดงเข้มของหญิงสาว ไม่ได้รอให้เธอต้องตอบหรือใด ๆ แค่เพียงเธอขยับปากเท่านั้น เขาก็เลื่อนริมฝีปากเข้าไปประกบ บดขยี้
ลิ้นเลื้อยผ่านเข้าไปเหมือนรู้หน้าที่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าลิ้นของหนูนาก็สามารถกระดกและตอบสนองกับลิ้นของเขา
นี่แหละ คือการจูบของจริง
ความหวาน อาจไม่ได้หมายถึงหวานจริง ๆ หากแต่เป็นรสอุปมา และความหมายของมันก็คือ ปลุกเร้าทุกประสาทสัมผัสให้ตื่นตัว จนไม่เหลือซึ่งความรู้สึกอย่างอื่น มีเพียงความต้องการมากมาย
อารมณ์ของหนูนาเวลานี้ จึงถูกปลดปล่อยออกมาเหมือนกับคลื่นทะเลแปรปรวน จังหวะการเต้นของหัวใจ
เสียงลมหายใจอย่างที่ปกติไม่เคยมี แต่ยามนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว