“ฟ้า...” หนูนาได้สติ พยายามยันแผงอกของเขาเอาไว้ “ไม่ใช่แล้ว หนูไม่ใช่ฟ้า”
“เธอคือฟ้า”
“หนูเปล่า”
“ไม่ต้องมาโกหกฉัน”
หนูนากำลังพ่ายแพ้ให้กับน้ำเสียงคุกคามของเขา
“คุณชาญคะ ฉันชื่อหนูนา แค่มีหน้าที่มาดูแลคุณนะคะ แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วละมั้งคะ คุณชาญ”
เรี่ยวแรงของผู้ชายคนนี้มหาศาล พละกำลังของเขาก็เหลือเฟือ อะไรไม่ว่า... หนูนารับรู้ เขามีอาการตื่นตัวทางเพศ
นี่ไม่ใช่คนป่วยหรือผู้สูงวัยที่ต้องมาดูแลแล้ว แต่เธอถูกส่งตัวมาเพื่อสังเวยกามให้กับเขามากกว่า
“ปล่อยหนูนะ!”
“เธอจะร้องทำไม เธอชอบไม่ใช่เหรอ”
เขาทำให้ร่างของเธอนาบแนบกับร่างของเขา จนดิ้นไม่หลุด พละกำลังสูญสิ้นเหมือนแพ้ทางอะไรสักอย่าง
รุ่มร้อน ปั่นป่วน หนูนาควรรังเกียจผู้ชายคนนี้ให้มากกว่า และควรจะเป็นอย่างนั้น แต่พลังงานแห่งความเกลียดชัง กลับสลายลง เหมือนกับว่า... แท้จริงเธอก็กำลังมีความต้องการอย่างที่เขาว่า
รสจูบอันเร่าร้อนดูดดื่มที่ได้รับจากเขาครั้งแรกในชีวิต
หนูนาควรโกรธแค้น เพราะเขากำลังย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิงของเธอ เขาไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้
ควรทำอะไรหลายอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง
แต่แล้ว...
กลับปล่อยให้ริมฝีปากของเขาบดเข้าหาอีกครั้ง ลิ้นถูกเกี่ยวออกจากปาก จูบครานี้ ดูเหมือนจะดูดดื่มกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า
สะโพกแน่น ๆ ของหนูนา
แก้มแดงเข้มด้วยเลือดฝาดสาว สะโพกถูกเคล้นหนักหน่วง หน้าขากำลังบดเบียดเข้าหาอาการตื่นตัวทางเพศของบางอวัยวะ
อยากให้สลัดร่างให้หลุดออกมา แต่...สถานการณ์กลับคับขันเข้าทุกที
สมองยังคงมีสติรับรู้ว่าเธอมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร...
หรือว่า เธอถูกหลอกให้มาที่นี่ เพียงเพื่อสนองตัณหาของผู้ชายบ้ากามสองพ่อลูก ในรถเจอลูกชายมาแล้ว
ตอนนี้ยังจะต้องเจอคนเป็นพ่ออีกหรือ
ภูมิ เจ้าของโรงเรียนบริบาล... มองชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวเช้ามา ท่าทางอารมณ์ดี
“ขอบคุณมากนะครับพี่ภูมิ เรื่องจัดหาคนไปดูแลคุณพ่อ”
สีหน้าภูมิดูกังวล
“คงไม่เกิดเรื่องอะไรนะ นับวันคุณพ่อของคุณยิ่งดูเพี้ยน ๆ”
“ไม่หรอกครับ แค่ห่าม ๆ” ชายหนุ่มตอบ “แต่ดูเผิน ๆ เธอเหมือนแม่เลี้ยงผมมากนะครับ เหมือนแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน”
“นั่นสิ แปลกมาก”
“อาจจะร้อนแรงกว่า”
“หือ” ปื้นคิ้วของภูมิขมวดเข้าหากัน “รู้ได้ไง”
“ผมลองมาแล้ว”
“อะไรนะ” เสียงดังขึ้นมาทันที ก่อนเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียว “คุณนี่มันบ้าทั้งพ่อทั้งลูกเลย”
“เฮ้ย ผมแค่ให้เธอใช้มือ” ชีวินตอบราวกับเป็นเรื่องปกติในชีวิต “ใช้มือในรถ ทดสอบดูว่าเธอเคยผ่านอะไรมาบ้าง”
“แล้วคุณก็สรุปว่าเธอเคยผ่าน”
“มันแน่อยู่แล้ว คนไม่เคยต้องกรี๊ดลั่นรถแน่ อย่าห่วงไปเลยน่า ผมจ่ายค่าช่วยไปห้าพัน สบายตัวไปแล้ว”
“ให้ตายเถอะ” ภูมิโพล่งออกมาอย่างเหลืออด “พวกคุณสองพ่อลูกเนี่ย ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี”
“ก็ไม่ต้องพูด ผมแค่แวะมาขอบคุณเองนะ ไม่ได้ให้มาบ่น”
ชีวิน สฤงคารชน... ทายาทเจ้าสัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงหนึ่งเดียว ที่เพิ่งปลดระวางตัวเองจากงานทั้งหมด ภายหลัง...สาวคนรัก หรือแม่เลี้ยงของชีวินเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ พร้อมกับลูกน้องใกล้ชิดคนหนึ่ง
รักแค่ไหน กว่าจะรู้รสชาติของความรักนั้น ก็ต่อเมื่อได้สูญเสียไปแล้ว
ชีวิน รับช่วงสานงานต่อทั้งหมด หลังพ่อมีอาการไม่สู้ดีนัก จนหย่อนความสามารถในการบริหาร
วัน ๆ เอาแต่เพ้อพร่ำหา...ฟ้า
เจ้าสัวชาญยังเชื่อว่า ฟ้าทรยศ ทั้ง ๆที่แท้จริงแล้ว เธอไม่ได้ทรยศ ก็แค่หมดรัก
เงินทองไม่ใช่คำตอบของชีวิตเสมอไป
ภูมิ... ในฐานะที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าสัวชาญมาตั้งแต่เริ่มต้นสร้างตัว ถ้าไม่ได้รับการหยิบยื่นมาจากเจ้าสัวชาญ ชีวิตของเขาคงล่มสลายไปนานแล้ว
ดังนั้น จึงเหมือนตกกะไดพลอยโจน
ถ้ามีหญิงสาวคนใดมีส่วนละม้ายกับฟ้า เขามีหน้าที่ส่งตัวไปดูแลเจ้าสัวชาญ
เพียงแค่หวังว่า จะมีสักคน ที่เหมือนฟ้าจริง ๆ และเป็นคนที่สามารถช่วยเยียวยาความรู้สึกของเจ้าสัวให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีกครั้ง
ไม่น่าเชื่อว่าพิษรัก จะทำลายความรู้ความสามารถของเจ้าสัวระดับนั้นจนพังพินาศ
อีกด้าน...
หนูนากำลังจะหมดแรง ไม่มีกระทั่งแรงที่จะขัดขืนต่อความบ้าระห่ำของคนสูงวัย ตัวใหญ่ ผู้มีพละกำลังเหลือเฟือ
“ไม่นะคะ... ไม่...”
ยิ่งปฏิเสธ เนื้อตัวยิ่งร้อนผ่าว จากสัมผัสหื่นกระหายของคุณชาญ
จมูกปาก ลิ้นซอกไซ้ซุกซน ตอนนี้ไม่ใช่แค่จูบ แต่เขากำลังซุกเข้าหากึ่งกลางระหว่างเต้าของเธอ
สยิวกายโดยอัตโนมัติ แรงต่อต้านไม่มีเหลือ กระทั่งการหยัดยืนแท้จริงแล้วเวลานี้หนูนาถูกประคองด้วยร่างกายของคนสูงวัยต่างหาก
“อย่า... อย่าค่ะ”
เสียงปรามเบาหวิว สั่นพร่า แทบฟังไม่ได้ยิน “ไม่ดีเลยนะคะคุณ หนูแค่... หนู... อู้ววว... ไม่ค่ะ ไม่”
เสียงห้ามปรามของหนูนา ยิ่งสั่นพร่ามากเท่าใด ก็บ่งบอกได้ว่า เธอกำลังปั่นป่วนอย่างที่สุด
น่าแปลก อารมณ์รุ่มร้อนสับสน กลับไม่มีซึ่ง...ความโกรธแค้นหรือชิงชัง ราวกับว่าเธอกำลังคล้อยตามไปตามการปลุกเร้าอารมณ์ของชายสูงวัย กลิ่นของผู้ชายสูงวัย ไม่ใช่กลิ่นเนื้อกลิ่นตัวสกปรก เขาดูดีทีเดียว
เขาทำลายความสับสนอลหม่านภายในจิตใจของหนูนาให้ล่มสลายด้วยริมฝีปาก และแล้ว...ลิ้นของเธอก็อยู่ในสถานะยินยอมพร้อมใจ
ยอมขยับเขยื้อนไปตามจังหวะของเขา
หนูนาหน้าแดง เลือดสาวบริสุทธิ์ร้อนฉ่า อารมณ์กระเจิดกระเจิง แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาพาไปเอนร่างลงบนม้านั่งโยกตัวที่เขาเพิ่งลุกจากมาตั้งแต่เมื่อไหร่
กว่าจะได้สติ สะดุ้งเฮือก ขณะแผ่นหลังแตะพื้น แล้วร่างของเขาก็โถมทับอยู่เหนือร่างของเธอ
“คุณชาญ...”
กำลังจะหลุดปากพูด ก็ถูกเขาบดขยี้เสียจนมีแค่เสียงอึกอักในลำคอเท่านั้น
“ฟ้า ฟ้าของฉัน”
เขาพร่ำเรียกชื่อของอีกคน
“หนูไม่ใช่ฟ้า”
“จะไม่ใช่ฟ้าได้ไง ดูนี่ ฉันจะพิสูจน์”
คว้าก!
เขากระตุกเสื้อของเธอ กระดุมหลุด เผยให้เห็นร่องอกขาวโพลน หนูนาอยากจะกรีดร้อง
มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่มีทางจะเอาตัวรอดได้ พละกำลังของเขาเวลานี้ อาจจะหักคอเธอสะบั้นได้ในพริบตา
อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในสถานที่อันเป็นส่วนตัวของเขาแบบนี้
ไม่รู้คิดถูกหรือผิด กับงานใหม่
เขากระตุกอีกครั้ง คราวนี้...เต้าอวบอิ่มในยกทรงสีดำปรากฏตรงหน้าของเขา
“นี่ไง ชั้นในเธอก็เป็นสีดำแบบฟ้า”
“อะไรนะคะ”
“ฟ้าใส่ชุดชั้นในดำ”
“หนูชอบสีดำอยู่แล้วค่ะ ไม่เกี่ยว....ว้าย...”
นิ้วใหญ่โตของเขาสอดเข้าไปใต้สายยกทรง แล้วกระตุกอีกครั้ง อกคู่งาม ๆ ก็หลุดผลัวะอวดความสมบูรณ์แบบ
“โอ้... ดูนมเธอสิ ของฟ้าชัด ๆ”
เขาจ้องเขม็ง หลุดปากเหมือนเพ้อ
หนูนาหน้าแดงเข้ม รู้สึกสับสนอลหม่านไปหมด ใครจะไปคิดว่าจะต้องมาเจอกับสภาพอะไรแบบนี้...
“เป็นอะไรไปหรือเปล่าคะ คุณชีวิน”
เลขาณุการิณี ที่เพิ่งยื่นเอกสารมาให้ชายหนุ่มเซ็น สังเกตเห็นอาการลุกลี้ลุกลนของเขา
“มีอีกหลายแฟ้มไหม”
“แค่แฟ้มเดียวนี่แหละค่ะ”
“งั้นฉันจะเอาไปเซ็นในรถนะ”
“คุณชีวินจะออกข้างนอกเหรอคะ”
“ใช่”
“คุณเพิ่งเข้ามาเองนะคะ อีกอย่าง... อีกไม่ถึงชั่วโมงมีประชุมนะคะ”
“ฉันจะกลับมาทันประชุมแน่”
น่าแปลก ตอนที่กดคันเร่งเพิ่มความเร็วของรถทะยานออกมาจากสำนักงานใหญ่ของบริษัท เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน หัวใจของชีวินเต้นรัวเร็วผิดจังหวะ
มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องห่วงผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะต่อให้เธอถูกล่วงเกินจากพ่อของเขา เธอจะได้รับการสมนาคุณจนคุ้มค่า เขาค่อนข้างเชื่อว่า เงินสามารถปิดปากเธอได้สนิทแน่
ก็แค่นั้น...
พ่อ เสียศูนย์ก็เพียงเพราะผู้หญิงแค่คนเดียว
เขากำลังจะดำเนินตามรอยพ่อหรืออย่างไร มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้เลย
“บ้าเอ๊ย”
คำรามอย่างฉุนเฉียว หัวเสียกับอารมณ์ประหลาดของตัวเอง ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง... เบาเครื่องยนต์ แล้วยูเทิร์นกลับสำนักงานใหญ่เพื่อสะสางงานต่อให้จบ