ตอนที่3 คนไม่ควรคู่

1143 คำ
ตกเย็นของวันเดียวกัน คุณากรเดินเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับน้องสาวและแขกของบ้านอีกสามคน คุณชิดชนกและสามีเดินเข้าไปต้อนรับ โอบกอดทักทายอย่างเป็นกันเอง "ยินดีต้อนรับนะคะ ดีใจมากที่ให้เกียรติมาถึงบ้านในวันนี้" "ก็ต้องมาอยู่แล้ว คุณนกเชิญทั้งทีนี่นา มากี่ครั้ง ๆ ก็ยังได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเหมือนเดิมเลยนะคะ" คุณกมลวรรณหุ้นส่วนธุรกิจที่รู้จักและคบหากันมานานหลายสิบปียิ้มอย่างยินดีเช่นทุกครั้งที่ได้พบเจอหน้า "หนูรสาสวยมากเลยนะจ๊ะ ไม่ได้เจอแค่สองปีเอง ได้แต่ถามข่าวผ่านตากรไป รายนี้ก็นะขยันเดินทางไปดูงานในเครือถึงสิงคโปร์ ไม่รู้ว่าไปดูงานหรือดูหนูรสาคนสวยกันแน่" คุณากรที่ยืนอยู่ข้างกายกับสาวสวยคนที่โดนแซว ต้องหันไปยิ้มมองสบตากันเมื่อถูกหยอกเอินชวนให้ต้องเขินอายนัก "อย่าแซวสิครับแม่ ไม่ดีหรือไงแม่จะได้เลิกบ่นผมเรื่องลูกสะใภ้สักที ผมคงหาว่าที่ภรรยามาได้ถูกใจแม่อยู่หรอกมั้ง" "ถูกใจมาก ดีมากเลยคนนี้ แม่ปลื้มที่สุด ว่าแต่พรุ่งนี้แต่งเลยดีไหมจ๊ะหนูรสา?" "คุณป้าคะ แซวอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้" รสาหน้าแดงด้วยความเขินอายอีกครั้ง ทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนต้องหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูอย่างพร้อมเพรียง "แหม...หนูนิดต้องไปเตรียมตัดชุดเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยไหมคะเนี่ย?" น้องสาวถึงกับรีบแซวพี่ชายกลับอย่างอารมณ์ดีเช่นเดียวกัน "คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น อยากมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว เลี้ยงแต่ลูกคนอื่นมานาน นี่พี่เพิ่งรู้มานะว่าเพื่อนสาวเราเขากำลังท้องลูกคนที่สองแล้ว" "รุ้งน่ะเหรอคะ ว้าว! เดี๋ยวหนูนิดจะต้องโทรไปถามข่าวซะหน่อยแล้วล่ะ" "อย่ามัวแต่ยืนคุยกันอยู่ตรงนี้เลย เข้าไปทานอาหารเย็นกันเถอะ ตั้งโต๊ะรอทานกันแล้วนะลูก" คุณชิดชนกบอกกล่าว ก่อนที่ทุก ๆ คนจะเดินตามหลังกันเข้าไปภายในบ้าน วาสิตาที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะอาหาร เธอได้แต่ยืนจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่ยากจะอธิบาย ผู้หญิงที่ดูเหมาะสมและควรคู่ แล้วเธอล่ะเป็นแค่เด็กรับใช้ที่ไม่มีอะไรเลย ยังบังอาจที่อยากจะบินสูง ไม่เจียมเนื้อเจียมตัวของตัวเอง หญิงสาวก้มมองที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองอีกครั้ง ลูกของเธอที่มีเขาคนนั้นเป็นพ่อ สงสัยว่าจะไม่ได้เกิดมาลืมตาดูโลกใบนี้แล้วจริง ๆ จะบอกเขาก็คงไม่ได้เพราะชีวิตของเขามีสิ่งที่คู่ควรมากกว่าอยู่แล้ว เธอเป็นแค่ผู้หญิงต่ำต้อยด้อยค่าที่ไม่มีสิทธิ์เสนอหน้าเรียกร้องความรับผิดชอบใด ๆ เลย หนึ่งคืนที่เผลอใจกับความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น ไม่ควรจะโทษใครเพราะเป็นเธอที่จะต้องก้มหน้ายอมรับกับความเผลอไผลที่ไม่ยอมหักห้ามหัวใจของตัวเอง... วาสิตายืนอยู่เคียงข้างกับป้ามาลาเพื่อคอยดูแลรับใช้หากว่าคุณ ๆ ทั้งหลายอยากเรียกใช้อะไร หญิงสาวยืนจ้องมองภาพอาหารบนโต๊ะ อยู่ ๆ น้ำตาก็ร่วงเผาะลงจนต้องรีบปาดเช็ดออกอย่างไว "เป็นอะไรน่ะวา แกร้องไห้อีกแล้วหรือไง ไม่ต้องไปคิดเรื่องนั้นแล้ว เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันว่างฉันจะพาแกไปยุติปัญหานี้ แกจะได้กลับมายิ้มได้เหมือนแต่ก่อนนี้สักที" เสียงกระซิบกระซาบพูดคุยพอได้ยินกันสองคน วาสิตาฝืนยิ้มส่ายหน้าให้กับคนเป็นป้าอีกครั้ง "เปล่าจ้ะป้ามา วาแค่คิดถึงแม่ ป่านนี้แม่จะทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้สินะ" "คิดถึงก็โทรไปหายายพวงสิ ให้เขาเอาโทรศัพท์ไปให้แม่แกคุย" "เกรงใจเขาจ้ะป้า กลัวแม่ไม่อยู่บ้านด้วย เดี๋ยวเดือนหน้าว่าง ๆ วาว่าจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านหน่อย จะซื้อโทรศัพท์ไปให้สักเครื่องเอาไว้โทรติดต่อหากัน" "เออ ดี ๆ เป็นความคิดที่เข้าท่า" "เราต้องยืนกันอยู่ตรงนี้อีกนานไหมป้ามา?" วาสิตาหันไปมองจ้องที่โต๊ะอาหารอีกรอบ ความสนิทสนมและทีท่าหยอกเอินของสองหนุ่มสาว แลดูเป็นคู่รักที่น่าอิจฉามากมายเหลือเกิน จนต้องหันกลับมาดูสภาพของตัวเอง เป็นแค่คนรับใช้ที่ไม่มีอะไรจะเทียบเทียมใครเขาได้เลย "มาลา มาลา มาเก็บจานออกไปได้แล้ว เอาของหวานมาเสิร์ฟต่อเลยนะ" เสียงเจ้านายเรียกหาจนนางมาลาต้องรีบสะกิดแขนหลานสาวที่กำลังยืนเหม่อลอย ให้เดินออกไปช่วยกันเก็บจานชามเข้าไปไว้ในครัวเพื่อรอล้าง วาสิตาเดินไปเก็บของคุณหนูนิด ผ่านหน้าคุณากร ชายหนุ่มปรายสายตาจ้องมองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจพูดคุยกับหญิงสาวคนที่นั่งข้างกายแทน วาสิตาเดินอ้อมไปเพื่อเก็บของรสา เพียงแค่เอื้อมมือไปหยิบจับ กำลังจะยกขึ้นมารวมกับที่ถืออยู่ในมืออีกข้าง กลับเป็นจังหวะเดียวกันที่รสาจะขยับลุกออกจากเก้าอี้ เป็นเหตุให้จานในมือของวาสิตาหล่นลงกระทบกับพื้น เพล้ง!!! แตกกระจายจนเกลื่อนเต็มไปหมด "ว๊าย ตายแล้ว!" เสียงคนบนโต๊ะอาหารดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง "ขอโทษค่ะ วาขอโทษค่ะคุณผู้หญิง" "รสาซุ่มซ่ามเองค่ะ รสาต้องขอโทษด้วยนะคะ" สีหน้าของรสาแลดูรู้สึกผิดอยู่มาก หญิงสาวกำลังจะก้มลงไปหยิบจับช่วยวาสิตาเก็บจานชามที่แตก แต่ฝ่ามือหนาของคุณากรจับข้อมือเรียวนั้นเอาไว้เสียก่อน "ไม่ต้องหรอกรสา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านเขาทำไป เดี๋ยวบาดมือเลือดไหลหรอก" "แต่รสาก็เป็นคนทำให้จานหล่นจากมือเขานะคะพี่กร" "ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยให้วาสิตาจัดการไป มันเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว รสาจะไปห้องน้ำก็ไปเถอะนะ เดินอ้อมมาทางนี้มา จะได้ไม่เหยียบเศษกระเบื้องแตกพวกนี้" คุณากรขยับเก้าอี้ของตัวเองออก เพื่อที่จะให้อีกคนได้เดินผ่านทางที่ปลอดภัยไปยังห้องน้ำได้ วาสิตาลอบมองทุกการกระทำของเขา รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก เขาดูห่วงใยเธอคนนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำไมตัวเองถึงรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจแบบนี้ด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม