บทที่ 18 ยื่นข้อเสนอ

2016 คำ
เซี่ยเจียวหงอ่านจบจดหมายก็ร่วงหล่นไปจากมือ พอดูวันที่เวลา ก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว แสดงว่าเขาเขียนจดหมายนี้มาตั้งแต่เกิดเรื่อง พร้อมกับก่นด่าเซี่ยเจียวหงคนก่อนว่าสามีตัวเองเกิดเรื่องขนาดนี้ ยังนิ่งดูดายได้ แต่พอคิดไปคิดมาและนึกขึ้นได้ว่าร่างนี้อ่านหนังสือไม่ได้ทุกตัวอักษร คงจะรู้เพียงหนังสือหย่า ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับซือเฉิงซาน ตลอดทั้งคืนเซี่ยเจียวหงแทบจะไม่ได้นอนเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร สุดท้ายเช้ามาจึงบอกทุกคนว่าวันนี้หยุดขายของหนึ่งวัน “พี่ใหญ่กวงฉันมีเรื่องจะปรึกษา” เซี่ยเจียวหงเห็นว่ากวงฮ่าวจื่อยืนอยู่คนเดียวจึงเอ่ยขอคำปรึกษา ก่อนจะเดินมาที่ห้องครัวด้านหลัง เมื่อไม่เห็นใครเธอจึงส่งจดหมาย ฉบับนั้นให้เขาอ่าน กวงฮ่าวจื่อแทบล้มทั้งยืนเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักกำลังตกที่นั่งลำบากโดยไม่มีใครรู้ ต่อให้อยากจะโกรธเซี่ยเจียวหงที่เพิ่งเอามาให้อ่านป่านนี้ แต่เมื่อฟังคำอธิบายเขาจึงพอจะเข้าใจ “แล้วน้องสะใภ้จะทำอย่างไร” เขาถามกลับเสียงเครียด “ฉันจะลองไปขอความช่วยเหลือนายท่านโล่ดู ท่านน่าจะพอมีเส้นสายเรื่องนี้และฉันจะไปตามพี่เฉิงซานด้วยตัวเอง ส่วนทางนี้ฉันขอให้พี่ช่วยดูแลได้ไหม” “มันจะไม่อันตรายหรือ ให้พี่ไปด้วยดีกว่า” กวงฮ่าวจื่ออดเป็นห่วงไม่ได้ จึงเอ่ยปากว่าจะไปด้วย “ไม่ได้! ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้ แม่สามีอายุเยอะแล้ว อย่าให้ท่านต้องเป็นกังวลเลย ฉันจะบอกท่านว่าฉันรู้ที่อยู่พี่เฉิงซานและจะไปตามให้กลับมาอยู่ด้วยกัน ส่วนทุกคนที่นี่ฝากพี่ดูแลด้วย ฉันไม่อยู่ ก็อย่าเข้าป่าคนเดียว ถ้าไม่มีวัตถุดิบก็หยุดก่อนจนกว่าฉันจะกลับมา พร้อมพี่เฉิงซาน” “ไม่เป็นไร เรื่องวัตถุดิบพี่จะหาซื้อมาจากในตำบล ได้กำไร น้อยหน่อยแต่ดีกว่าอยู่เฉย ๆ พี่จะกังวลเอานะสิ ถ้าว่างงานจนเกินไป” “อืม ถ้าอย่างนั้นพี่ไปเช่าเหมาเกวียนหน่อยฉันจะพาแม่และ สองแฝดไปถ่ายรูป เผื่อว่าพี่เฉิงซานเห็นทั้งสามคนจะได้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ขึ้นมาบ้าง และขากลับฉันจะได้แวะไปคุยกับนายท่านโล่” เซี่ยเจียวหงบอก ความต้องการก่อนจะเดินไปหาแม่สามีและ ลูกทั้งสองคนเพื่อแจ้งข่าวว่าเธอรู้แล้วว่าซือเฉิงซานอยู่ที่ไหน เมื่อ นางหลิงมู่ทราบข่าวก็น้ำตาซึมและถามว่าทำไมซือเฉิงซานถึงไม่กลับมา “พี่เฉิงซานโดนโกงเรื่องค่าแรง ฉันเลยตั้งใจว่าจะออกเดินทาง ไปรับด้วยตัวเอง วันนี้เลยจะพาแม่และสองแฝดไปถ่ายรูป หลังจากนั้นฉันจะแวะไปหาพี่ซินถงที่ร้านเพื่อแจ้งเรื่องแบบชุดของเดือนนี้” เซี่ยเจียวหงเลี่ยงที่จะบอกว่าเธอต้องการไปหานายท่านโล่ จึงบอกว่าไปหาซินถงแทน นางหลิงมู่เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบไปเปลี่ยนชุดกับหลาน ทั้งสองคนเพื่อไปถ่ายรูป และหวังว่าการที่ลูกสะใภ้จะเดินทางในวัน สองวันนี้ตอนกลับมาเฉิงซานลูกชายของเธอคงกลับมาด้วย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยและกวงฮ่าวจื่อนำเกวียนมารอแล้วทั้งหมดจึงมุ่งหน้าเข้าตำบลทันที ทันทีที่มาถึงร้านถ่ายรูปเซี่ยเจียวหงจึงให้ลูกทั้งสองคนและ แม่สามีถ่ายกันเพียงสามคน แต่อาฝานและเจินเจินไม่ยอม “แม่จะไม่ถ่ายกับผมและน้องจริง ๆ หรือ” ซืออี้ฝานทำสีหน้าเศร้าหมองทันตา เขาอยากให้แม่มาถ่ายรูปด้วย หากพ่อเห็นภาพพวกเขาทั้งสี่คนจะได้ดีใจ ทางด้านซืออี้เจินเห็นด้วยกับพี่ชายจึงเดินเข้ามาเกาะแขนแม่ ไม่ปล่อย ทำให้นางหลิงมู่ต้องคะยั้นคะยอด้วยอีกคน “อาหงมาถ่ายด้วยกันเถอะ แค่ถ่ายรูปเอง” เมื่อสามเสียงรวมกันและสงสารลูกน้อยทั้งสองคน เซี่ยเจียวหง จึงยอมที่จะมาถ่ายรูปด้วย ภาพถ่ายที่ออกมาถึงเป็นที่พอใจทั้งคนถ่ายและคนถูกถ่าย เมื่อต้องรอภาพเซี่ยเจียวหงจึงพูดว่าขอตัวไปที่ร้านของซินถง “แม่คะ ฉันฝากพาเด็ก ๆ กลับบ้านด้วยนะ พอดีฉันจะต้องไปคุยเรื่องแบบชุดกับพี่ซินถงที่ร้าน อย่างไร เสร็จธุระแล้วฉันจะรีบกลับ” พอเห็นว่าลูกสะใภ้จะต้องไปธุระ เธอจึงรับปากว่าจะพาหลานทั้งสองคนกลับบ้านพร้อมกับกวงฮ่าวจื่อเอง “พี่ใหญ่กวง ฉันฝากดูแลทุกคนด้วยนะ เสร็จเรื่องกับนายท่านโล่ฉันจะรีบกลับ และคิดจะเดินทางพรุ่งนี้เช้า” “อืม พี่จะพาทั้งสามคนกลับบ้านเอง น้องสะใภ้ดูตัวเองด้วยล่ะให้พี่ไปส่งที่คฤหาสน์ตระกูลโล่หรือเปล่า” “ไม่ต้องพี่ใหญ่กวง ฉันจ้างรถไปสะดวกกว่า อย่างไร ฉันฝาก แม่สามีกับสองแฝดด้วยนะ” เมื่อพูดจบเซี่ยเจียวหงจึงรีบขึ้นเกวียนรับจ้างเพื่อให้ไปส่งที่คฤหาสน์ตระกูลโล่อย่างเร่งด่วน เมื่อมาถึงหน้าคฤหาสน์ตระกูลโล่ เซี่ยเจียวหงสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกที่เธอขอร้องคนอื่น เธอรู้ว่ายุคสมัยนี้ส่วนมากจะมีผู้อิทธิพลหนุนหลังจึงจะทำเรื่องแบบนี้สำเร็จ หากเธอไปในฐานะชาวบ้านธรรมดาคิดว่าคงได้แค่เกาะลูกกรงคุยกันระหว่างขอเยี่ยมสามี และการที่ซือเฉิงซานอยู่ในเรือนจำมาเป็นปี เรื่องที่จะยื่นอุทธรณ์คงทำได้ยากและคงหมดโอกาสเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเธอจึงเลือกมาหา นายท่านโล่เพื่อยื่นข้อเสนอซึ่งเธอเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ส่วนเขาจะช่วยหรือไม่นั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง “ขอโทษนะพี่ชาย จำฉันได้ไหม ฉันต้องการพบนายท่านโล่ ท่านอยู่หรือเปล่า” เซี่ยเจียวหงเอ่ยกับยามเฝ้าประตู เพื่อขอเข้าพบนายท่านโล่ “สักครู่นะครับ” ยามคนเดิมรีบวิ่งเขาไปด้านในเพราะนายท่านเคยสั่งไว้ว่า หากหญิงสาวคนนี้มาขอพบอีกให้รีบเข้าไปบอกทันที และดีที่วันนี้ นายท่านเพิ่งจะกลับมาจากต่างมณฑล หากมาก่อนหน้านี้สักวันสองวัน คงไม่พบกับนายท่านแน่ “นายท่านมีคนมาขอพบครับ” “ใครมาขอพบฉัน เขาได้แจ้งชื่อไว้หรือเปล่า” นายท่านโล่ที่ยังไม่หายจากการเดินทางจึงมองหน้ายามอย่างแปลกใจ เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าเขาเพิ่งกลับมาจากการดูงาน “ผู้หญิงคนเดิมครับ เธอชื่อเจียวหง” ยามจำชื่อเซี่ยเจียวหงขึ้นใจ จึงรีบเอ่ยบอก “มาแล้วสินะ รีบไปพาเธอเข้ามาเถอะ” ทันทีที่ยามเดินจากไปนายท่านโล่กหันมาคุยกับคนสนิท เพราะคิดไม่ถึงว่าเวลาผ่านมาเกือบสองเดือน เซี่ยเจียวหงจึงได้กลับมาหาเขา อีกครั้ง “เจียไท่ นายคิดว่าครั้งนี้เจียวหงจะมาคุยเรื่องของสามีเธอหรือไม่” “ผมว่ามีส่วนนะครับ เท่าที่ยามบอกเมื่อครู่ เธอน่าจะมาคนเดียว” เชอเจียไท่ออกความคิดเห็น ไม่นานก็เห็นแม่บ้านเดินนำ เซี่ยเจียวหงเข้ามา “สวัสดีค่ะนายท่านโล่” เซี่ยเจียวหงกล่าวทักทายนายท่านโล่และคนสนิทของท่าน “วันนี้มาหาฉัน คงจะมีธุระใช่ไหม คล้ายจะมีเรื่องร้อนใจ” นายท่านโล่ถามหยั่งเชิง เซี่ยเจียวหงไม่พูดอะไรมากทำเพียงยื่นจดหมายของซือเฉิงซาน ที่เขียนมาเมื่อปีก่อนยื่นให้คนสนิทของนายท่านโล่ จากนั้นชายหนุ่ม จึงส่งต่อให้เจ้านายตนเอง นายท่านโล่รับมาแล้วเปิดอ่าน ใจความในจดหมายทำให้เขารู้ว่าเซี่ยเจียวหงเพิ่งจะรู้เรื่องของสามีเพราะจดหมายฉบับนี้ จากนั้นจึงส่งจดหมายกลับไปให้คนสนิทอีกครั้ง เชอเจียไท่มองเซี่ยเจียวหงเป็นเชิงขออนุญาต เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้า เขาจึงเปิดจดหมายอ่านด้วยอีกคน เมื่ออ่านจบจึงส่งคืนให้กับเซี่ยเจียวหง “จะให้ฉันช่วยอย่างไร ฉันเต็มใจเพราะหนี้ชีวิตฉันยังค้างเธออยู่” นายท่านโล่เอ่ยถามน้ำเสียงจริงจัง “เรื่องที่ฉันเคยช่วยเหลือท่านมันหมดไปตั้งแต่เรื่องของอาเหยาและสามีแล้ว ดังนั้นวันนี้ที่ฉันมาขอความช่วยเหลือ ฉันมีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยน นายท่านยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอของหญิงชาวบ้านคนนี้ไหม” ในเมื่อมาเจรจาเพื่อขอความช่วยเหลือและขอยืมคนของ นายท่านโล่ไปใช้งาน เธอจึงไม่คิดที่จะอ้อมโลกดังนั้นจึงเลือกที่จะ พูดตรง ๆ นายท่านโล่และคนสนิททำเพียงมองไปทางเซี่ยเจียวหงเพื่อฟังเงื่อนไขของเธอ “ฉันพอจะทราบมาว่านายท่านเป็นเจ้าพ่อค้าอาวุธที่ถูกกฎหมายให้กับกองทัพ ค้าทั้งในและต่างประเทศ แต่อาวุธพวกนี้ท่านไม่ได้ผลิตเองท่านสั่งมาจากต่างชาติเช่นกัน อาจเพราะสภาพพื้นที่ของที่นี่ไม่เหมาะที่จะผลิตอาวุธขายเองหรืออีกกรณีหนึ่ง ท่านไม่สามารถหาคนสร้างขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงสั่งจากต่างชาติมาอีกทอดหนึ่ง ข้อเสนอของฉันคือ ฉันจะร่างแบบและบอกวิธีการสร้างปืนสั้นแบบออโต้ อีกชิ้นคือปืนไรเฟิล อ้อฉันหมายถึงปืนยาวที่มีลำกล้องและ มีประสิทธิภาพมากที่จะยิงเจาะหัวศัตรูได้ในระยะไกล” นายท่านโล่นิ่งไปสักพัก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาเชื่อในคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า “ข้อแลกเปลี่ยนคืออะไร” “ฉันต้องการเส้นสายของท่านเพื่อรื้อคดีของพี่เฉิงซาน และขอยืมตัวคนของท่านเพื่อสืบเรื่องราวทั้งหมดพร้อมกับช่วยหาทนายดูแลคดีนี้ให้ด้วย ส่วนเรื่องคนร้ายตัวจริงเมื่อสืบได้แล้วฉันจะลากคอมันมา รับโทษเอง ใครที่ทำให้พี่เฉิงซานต้องพบกับหายนะในครั้งนี้ คนอย่าง เซี่ยเจียวหงไม่มีทางปล่อยไปแน่ ต่อให้คนคนนั้นจะมีอำนาจ ล้นฟ้า ฉันก็จะล่ามันมาด้วยตัวเอง” ท่าทางที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของเซี่ยเจียวหงทำให้นายท่านโล่เชื่ออย่างสนิทใจว่าหญิงสาวตรงหน้านี้สามารถทำตามที่พูดได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่วยสามีและเรื่องผลิตอาวุธปืน “ตกลง ฉันจะให้คนกับเธอ แต่เธอต้องไปในฐานะลูกบุญธรรมของฉัน พร้อมกับเจียไท่และคนอีกจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อใจเธอ แต่คนบางกลุ่มถ้าไม่เห็นคนสนิทของฉันไปด้วยจะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด สิ่งที่เธอกำลังจะทำจากที่มีอุปสรรคอยู่แล้ว จะมีอุปสรรคขึ้นมากกว่าเดิม” นายท่านโล่ตอบกลับข้อเสนอที่เป็นไปได้ เท่าที่คนของเขาสืบมา คนที่เป็นคนร้ายตัวจริงเป็นถึงลูกผู้มีอิทธิพลและคนมีเงิน ไม่อย่างนั้นจะปิดปากเจ้าทุกข์ได้อย่างไร และตอนนี้เจ้านายเก่าของซือเฉิงซานมีร้านค้าเพิ่มอีกสองสามแห่งนอกจากร้านอาหาร ซึ่งฐานะแบบนั้นไม่น่าจะเปิดได้ สินค้าที่นำมาขายก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ “ไปกับคุณเจียไท่ฉันพอจะเข้าใจ แต่การที่จะไปในฐานะลูกบุญธรรมของท่าน ข้อนี้ฉันไม่เข้าใจ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม