1.
เมืองหลวงขนาดใหญ่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาร้อยพ่อพันแม่พร้อมทั้งยานพาหนะชนิดต่างๆพากันวิ่งวุ่นขวักไขว่แน่นขนัดไปทั่วทุกมุมเมือง
ตึกรามบ้านช่องแออัดเบียดเสียดแทบจะหาต้นไม้เพื่อเป็นร่มเงาแทบไม่เจอ แต่ไม่ใช่กับร้านกาแฟกึ่งร้านอาหารแห่งนี้ที่ถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับและไม้ยืนต้นที่ปลูกไว้ให้ร่มเงาให้ความสดชื่นแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
ด้านล่างคือโซนสำหรับลูกค้าที่ต้องการทานกาแฟและขนม ส่วนชั้นบนคือโซนห้องอาหารที่เป็นอาหารจานเดียวง่ายๆทั้งไทยและเทศไว้คอยบริการลูกค้า ที่ต้องการมาทนกาแฟและทานอาหารในร้านเดียวกัน จึงไม่แปลกที่ร้านแห่งนี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย
“PS Coffee&Resturant สวัสดีค่ะ” เสียงทักทายลูกค้าพร้อมกับรอยยิ้มสดใสของหญิงสาวเจ้าของร้านคนสวยพ่วงตำแหน่งพนักงานของร้านบ้างบางเวลาดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งที่แขวนอยู่ที่ประตูร้านดังขึ้นเป็นการส่งสัญญาณบ่งบอกว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ
“คาปูชิโน่เย็นแก้วนึงครับ” เสียงลูกค้าชายหนุ่มดังขึ้นอย่างสุภาพ พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มเป็นมิตรที่แฝงความหมายบางอย่างมาให้หญิงสาวที่ยืนอยู่หลังเคาเตอร์
“ได้ครับ ทวนออเดอร์นะครับ คาปูชิโน่เย็นหนึ่งแก้ว ทั้งหมดหกสิบบาทครับ”
“ผมขอให้คุณลูกศรชงให้นะครับ” เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มและสายตาเว้าวอนที่มองมายังหญิงสาวที่ยืนชงกาแฟอยู่ข้างบาริสต้าหนุ่ม
“ได้ค่ะ” ภัสสรรับคำด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลงมือชงกาแฟให้ลูกค้าหนุ่มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพึงพอใจที่จะได้ทานกาแฟฝีมือหญิงสาว
“คาปูชิโน่เย็นได้แล้วค่ะ ขอบคุณที่อุดหนุน โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ”
“เจ้าของร้านสวยและชงกาแฟอร่อยขนาดนี้ ผมต้องมาอุดหนุนอยู่แล้วครับ”
“ค่ะ” รับคำสั้นๆ ไม่พูดอะไรต่อเพื่อเป็นการตัดบทสนทนาด้วยรู้ดีว่าผู้ชายส่วนมากที่เข้ามาพูดแบบนี้ก็ต้องการมาขายขนมจีบกับเธอทั้งนั้น นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มจำใจต้องเดินคอตกออกจากร้านไป
“เสน่ห์แรงไม่มีตกเลยนะพี่ลูก มีผู้ชายมาอ้อล้อขายขนมจีบให้ทุกวันเลย” เต้บาริสต้าหนุ่มสุดหล่อประจำร้านพูดแซวหลังจากที่ลูกค้าเดินออกจากร้าน
“ก็คนมันสวยช่วยไม่ได้” ยักไหล่พูดออกมาหน้าตาเฉยทำเอาเต้ถึงกับกรอกตาบนเล่นด้วยความหมั่นไส้เจ้านายสาวที่ออกจะดูมั่นอกมั่นใจในความสวยของตัวเองอย่างออกนอกหน้า แต่จะว่าไปเจ้านายของเขาก็สวยจริงๆนั่นแหละ แต่ที่แปลกทำไมถึงยังไม่มีแฟนก็ไม่รู้
“สวยอ่ะไม่เถียง แต่สวยแล้วทำไมถึงยังโสดนี่สิ ผมโคตรสงสัยอ่ะ”
“ก็ผู้ชายดีๆมันหายาก ที่เข้ามาก็เห็นมีแต่ผู้ชายเจ้าชู้ทั้งนั้น น่าเบื่อจะตาย” ได้ฟังเหตุผลของเจ้านายสาวก็ถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ ยิ่งเห็นหน้าตาของเจ้านายที่แสดงออกว่าเอือมระอาขนาดไหนเมื่อพูดถึงผู้ชายเจ้าชู้ที่ขยันมาขายขนมจีบให้เจ้านายของเขาไม่เว้นแต่ละวันและก็วันละหลายๆคน
“ผมถามจริงๆ นะ พี่มีอะไรฝังใจกับคนเจ้าชู้ป่ะเนี่ย ดูพี่จะแอนตี้ผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบเลยนะ” ภัสสรยักไหล่น้อยๆ อย่างไม่ใส่ใจอะไรในคำถามนั้น
“มันก็ไม่ถึงกับแอนตี้อะไรขนาดนั้น...เพียงแต่ภาพทรงจำในวัยเด็กที่พ่อทิ้งแม่ไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่มันทำให้ฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้” แม้น้ำเสียงที่พูดออกมาจะราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์หรือความรู้สึกอะไร
แต่แววตาของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยคามเจ็บปวด และความเศร้า จากครอบครัวที่อบอุ่นมีพ่อ แม่ ลูก ก็หายไป เมื่อพ่อมีใครอีกคนเข้ามาบ้านที่เคยอบอุ่นก็ลุกเป็นไฟ
ภาพที่แม่คุกเข้ากอดขาพ่อไว้เพื่อรั้งให้พ่อไม่ไป ภาพที่แม่นอนร้องไห้เพราะเสียใจที่พ่อมีคนอื่น ภาพที่แม่นอนซมจนตรอมใจและจากไป เพราะความรักมันยังคงไหลเวียนเข้ามาในหัวไม่ขาดสาย
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น แฟนคนแรกที่คบก็นอกใจไปมีผู้หญิงคนใหม่ จนเธอจับได้คาหนังคาเขา จึงทำให้หญิงสาวเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนบนโลกใบนี้ ยังดีที่เธอยังมีพี่ชายที่รักและดูแลเธออย่างดีที่สุดทำให้เธอไม่กลายเป็นเด็กมีปัญหาจนเสียคน
“แล้วพี่คิดจะครองความโสดเกาะคานทองอยู่แบบนี้ไปจนตายเลยหรือไง”
“ก็ผู้ชายดีๆ ที่รักเดียวใจเดียวมันหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรไง ดำน้ำหาทั้งชีวิตจะหาเจอหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ อยู่เป็นโสดสวยๆ ให้ผู้ชายเสียดายเล่นแบบนี้ดีกว่าย่ะ ที่สำคัญถึงจะเป็นโสดไปจนตายฉันก็มีปลายฟ้าคอยเลี้ยงตอนแก่แล้ว” ภัสสรตาเป็นประกาย เมื่อคิดถึงหลานสาวตัวน้อยลูกของพี่ชายที่ตอนนี้ทำธุรกิจไร่กาแฟอยู่ที่ภาคเหนือและสร้างครอบที่น่ารักอยู่ที่นั่น
“ปลายฟ้าก็คือหลานมั้ยพี่ มันก็ไม่เหมือนลูกตัวเองป่ะ...แล้วผมก็จะคอยดูว่าพี่จะอยู่เป็นโสดไปจนตาย หรือจะถูกผู้ชายคนไหนสอยลงมาจากคานก่อนแก่ตายกันแน่” ยักคิ้วส่งยิ้มกวนๆไปให้เจ้านายอย่างทะเล้น
“ไอ้เต้!!!” ภัสสรเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันใส่ลูกน้องคนสนิทที่ยืนยิ้มกวนประสาทโชว์ฟันสวยสามสิบสองซี่มาให้อย่างไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
และคนที่สามารถกล้ากวนประสาทหญิงสาวได้ก็คงมีแค่เต้คนเดียวนี่แหละ เพราะเต้คือคนที่ภัสสรกับธนูพี่ชายของหญิงสาวรับมาอุปการะเลี้ยงดูทั้งแต่เต้อายุสิบแปดปี
สาเหตุก็มาจากธนู เข้าไปช่วยเหลือเต้จากพวกอัธพาลที่รุมทำร้ายร่างกายจนปางตาย เพราะจำคนผิด และยิ่งรู้ว่าเต้เป็นเด็กกำพร้าก็ยิ่งสงสาร เลยรับเต้มาอยู่ด้วย โดยให้เต้ทำงานที่ร้าน ช่วยภัสสรดูแลร้านกาแฟ และช่วยดูแลภัสสรแทนธนู
นั่นจึงทำให้ภัสสรและเต้ สนิทสนมกันมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง แม้หญิงสาวจะพร่ำบอกอยู่เสมอว่าถ้าเจอสิ่งที่ดีกว่าหรืออยากไปหาประสบการณ์ใหม่ เธอก็ยินดีที่จะให้ไป
เพราะทุกคนก็ต้องการความก้าวหน้าในชีวิตกันทั้งนั้นเธอเข้าใจ แต่เต้ก็ยังคงยืนยันที่จะทำร้านที่ร้านเหมือนเดิมไม่ไปไหน
“ครับ เจ๊ลูกศรคนสวย” เต้ก็ยังคงเป็นเต้วันยังค่ำ กวนประสาทไม่เลิก เข้ามาวันแรกกวนยังไงวันนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นไม่มีเปลี่ยน
“เจ๊บ้านแกอ่ะดิ ฉันยังไม่แก่โว้ย ไอ้เต้แกนี่มัน ...ฮึ่ย! น่าตัดเงินเดือนซะให้เข็ด”
“อ้าวๆ ได้ไงล่ะครับพี่ลูกศร ผมมีน้องๆต้องดูและนะครับ”
“ย่ะ ระวังรถไฟจะชนกันเข้าสักวันนะไอ้เต้ และถ้าถึงวันนั้นมาถึง ฉันนี่แหละจะเป็นคนแรกที่สมน้ำหน้าแก เจ้าชู้ดีนัก”
“ไม่ได้เจ้าชู้ครับ เขาเรียกบริหารเสน่ห์”
“ไม่ต้องพูดมากลูกค้าสาวๆ แกมาแล้วนู่น” พยักเพยิดให้ดูลูกค้าสาวเจ้าประจำ ที่เดินยิ้มหวานมาแต่ไกล เป็นการตัดจบบทสนทนาระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง
เพราะต่างคนก็ต่างวิ่งวุ่นทำงานหน้าที่ของตัวเองไป ยิ่งใกล้ช่วงเที่ยงวันลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาในร้านเยอะขึ้น ทั้งมาทานกาแฟและทานอาหาร จนพนักงานแทบไม่มีเวลาหยุดพักและบริการลูกค้าไม่ทัน
“พี่ลูก เค้กที่ลูกค้าโต๊ะสิบสั่งได้ยัง กาแฟเสร็จแล้วจะได้เอาไปเสริฟ์ลูกค้า” เต้ ร้องถามขึ้นโดนที่มือก็ยังคงวุ่นอยู่กับการชงกาแฟเป็นพัลวัล
“แกช่วยเรียกชื่อฉันเต็มๆได้มั้ย เรียกแค่ลูกมันดูแปลกๆยังไงพิลึก...แกอยู่นี่แหละรับออเดอร์ไปเดี๋ยวฉันเอาไปเสิร์ฟลูกค้าเอง” พูดพร้อมกับวางจานเค้กรสช๊อกโกแลต ลงบนถาดและยกไปเสิร์ฟให้ลูกค้าทันที
แต่ด้วยความรีบหรือไม่ทันระวัง หรือจะด้วยเหตุผลบ้าบออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ภัสสรชนเข้ากับลูกค้าที่กำลังหันหลังหมุนตัวมาอย่างจังจน...
เพล้ง!!!!