“ฝันดีนะ”

1962 คำ
“แล้วเขาจะจัดการยังไงดีนะ” เจ้าชายหยิบกางเกงในขึ้นมา “หรือจะไปทิ้งในถังขยะเลยดี” “หรือจะวานให้เธอซัก” เจ้าชายกุมขมับ ตอนนี้เจ้าชายกำลังหาทางออกเรื่องกางเกงในที่เขาใส่มาหลายวันตัวนี้ ถ้าใครรู้เรื่องนี้เข้า ว่าเขากำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับกางเกงใน เขาคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเข้าห้องน้ำไปนาน ไม่ยอมออกมาสักที เธอกลัวว่าเขาจะลื่นล้มในห้องน้ำ จึงตัดสินใจตะโกนถาม “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เจ้าชายสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตะโกนถาม “เปล่าๆ ครับ ผมกำลังจะออกไป” ชายหนุ่มที่พับเสื้อและกางเกงยีนส์ รวมถึงกางเกงใน โดยเอากางเกงในวางบนกางเกงยีนส์ แล้วใช้เสื้อปิดอีกที แล้วรีบเปิดประตูห้องน้ำออกมา “ฉันก็ตกใจนึกว่าคุณเป็นอะไร แล้วทำไมถึงไม่ยอมออกมาล่ะคะ หรือว่าเสื้อผ้าที่ฉันซื้อให้คุณใส่ไม่พอดี ยังไงก็ทนเอาหน่อยนะคะ ดีกว่าใส่ชุดเดิมซ้ำๆ” “ไม่ใช่ครับที่คุณเลือกมาผมใส่ได้พอดีเลย ขอบคุณมากครับ” เจ้าชายกอดเสื้อผ้าชุดเก่าไว้แน่น “ส่งมาค่ะ” หญิงสาวยื่นมือออกไป “อะไรครับ” เจ้าชายงงว่าเธอต้องการอะไร “เสื้อผ้าชุดเก่าของคุณไงคะ เดี๋ยวฉันจะเอาไปซักไว้ให้ เผื่อวันที่คุณหาเพื่อนค้นพบ คุณจะได้ใส่กลับไป” “ผมซักเองดีกว่าครับ” “แล้วคุณซักเป็นเหรอ” “น่าจะเป็นนะ” เค้าไม่กล้าตอบว่าซักเป็น เพราะในชีวิตเขายังไม่เคยซักเองสักครั้ง แต่คงไม่เกินความสามารถเขาหรอก “คุณไม่เคยสักเลยใช่ไหม” ลดามองผิวพรรณของเขา ช่างเนียน ไร้จุดตำหนิ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ผิวของเธอยังหยาบกร้านมากกว่าเขาซะอีก เจ้าชายพยักหน้ายอมรับ “งั้นส่งมาเถอะ” “คุณสอนผมซักได้ไหม” “เดี๋ยวแผลเปียก ฉันทำเองดีกว่า” เจ้าชายยื่นเสื้อผ้าที่ใส่แล้วให้เธอ เธอรับแล้วเดินไปหลังบ้าน เจ้าชายเดินตามเธอมา เธอจัดการเอาน้ำใส่กะละมัง เทผงซักฟอกลงไป นั่งบนเก้าอี้เตี้ย เตรียมซักเสื้อผ้าของเขาด้วยมือ “ทำไมคุณไม่ซักเครื่องล่ะ” เขาเห็นเครื่องซักผ้าอยู่ใกล้ๆ “แค่นิดเดียวเอง อีกอย่างกางเกงยีนส์ซักมือจะถนอมผ้ามากกว่านะ” เธอหยิบเสื้อขึ้นมาซักก่อน แต่กางเกงในของเขาดันติดขึ้นมาและร่วงลงที่พื้น หญิงสาวมองตาม พลันหน้าเธอแดงขึ้น เธอตกใจจ้องมองกางเกงในที่ตกพื้น เจ้าชายเห็นรีบเดินมาหยิบ “เอ่อ.. อันนี้ผมซักเองดีกว่า” เขารีบหยิบกางเกงในที่ตกพื้นขึ้นมา “เอ่อ.. เดี๋ยวน้ำจะโดนแผลคุณนะ” “แล้วคุณจะซักให้ผมเหรอ” เขานั่งยองๆ ข้างเธอ “…” “ผมจะระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ” ลดาพยักหน้า ‘ตอนซักกางเกงในตัวที่ซื้อให้เขาใหม่ ทำไมใจไม่เต้นแรงเท่าตอนนี้เลยนะ ก็กางเกงในเหมือนกัน’ เธอบ่นในใจ เจ้าชายขยำกางเกงในเจ้าปัญหาจนฟองลอยไปติดที่หน้าเขา เจ้าชายมือขึ้นปัด แต่ยิ่งปัดก็ยิ่งเลอะ ลดาที่นั่งข้างๆ อมยิ้ม แล้วช่วยเช็ดฟองที่หน้าให้เขา เจ้าชายนั่งนิ่งมองดูหน้าเธอที่มีแสงประกายเปล่งระยิบระยับแผ่ออกมา เจ้าชายปล่อยให้เธอเช็ดฟองที่หน้าให้โดยไม่ขัดขืน จะมีสักกี่คนนะที่กล้าทำแบบนี้กับเขา “ฟองหมดแล้ว เอาไปซักน้ำเปล่าที่กะละมังนี่” เธอชี้ไปที่กะละมังข้างๆ ที่ใส่น้ำเปล่าไว้ เจ้าชายพยักหน้ารับ อมยิ้ม แล้วทำตามที่เธอบอก ก่อนลดาเอาเสื้อของเขาลงซักบ้าง แต่ก็เหลือบมองชายหนุ่มอยู่ตลอด “บิดให้หมาด แล้วเอาไปตากตรงนั้น” ชี้ไปที่ราวตากผ้ากลางแจ้งข้างบ้าน “เสร็จแล้วก็เข้าไปนั่งรอในบ้านเถอะ เดี๋ยวแผลเปียกจะอักเสบได้” หลังจากบอกเขา เธอก้มซักเสื้อกับกางเกงให้เขาต่อจนเสร็จ แล้วนำไปตากไว้ใกล้ๆ กางเกงในของเจ้าชาย ที่เขาตากไว้เป็นเลขแปด “ถ้าไม่ใช่ลูกคุณหนู ก็คงเป็นคนที่ขี้เกียจมากคนหนึ่ง ถึงทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” เธอส่ายหัวเบาๆ ดึงกางเกงในมาสะบัดแล้วตากให้ใหม่ โดยที่เธอไม่รู้ตัว ว่าเจ้าชายกำลังแอบมองเธอทางหน้าต่าง เขาได้ยินเธอพูด แต่ไม่รู้เธอพูดว่าอะไร เพราะเธอไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ เหมือนตอนที่สื่อสารกับเขา แต่จากสีหน้าของเธอต้องกำลังบ่นเขาอยู่แน่ๆ หลังจากตากผ้าเสร็จเธอเดินเข้ามาในบ้าน เจ้าชายกำลังนั่งดูทีวีอยู่ “คุณนั่งดูทีวีไปก่อนนะ ฉันขอไปแก้งานสักหน่อยก่อน” “ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย” “ ไม่เป็นไรค่ะ พักผ่อนไปเถอะ ฉันอยู่ข้างบนถ้ามีเรื่องอะไร คุณไปเรียกฉันได้นะ” พูดจบเธอส่งยิ้มให้เขาแล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเพื่อไปแก้งานวิจัยต่อ เธอมีเวลาอีกหนึ่งเดือนที่จะส่งงานวิจัยชิ้นนี้ เพื่อร่วมชิงทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เธอหวังกับทุนนี้มาก ถ้าเธอได้ ทุนนี้เธอจะต้องไปศึกษาต่างประเทศสองปี ตอนแรกเธอจะไม่ไป เพราะเป็นห่วงยาย กลัวยายอยู่คนเดียว แต่ยายมะลิเป็นคนที่สนับสนุนเธอ เพราะยายรู้ว่า ยายอยู่กับหลานได้ไม่นาน แต่ความฝันของหลานจะอยู่กับหลานตลอดไป หลังจากลดาขึ้นไปชั้นบน เจ้าชายทรงครุ่นคิดหาวิธีการติดต่อแดเนียลบอดี้การ์ดคนสนิทของเขา เขาเชื่อว่าแดเนียล คงกำลังตามหาเขาอยู่แน่ๆ คงมีแค่ทางเดียวที่แดเนียลจะหาเขาเจอ คือเขาจะต้องทิ้งเบาะแสให้แดเนียลรู้ แต่เขาจำทางไปตรงที่ลดาเจอเขาไม่ได้ “สงสัยจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากสาวน้อยหน้าหวานอีกแล้ว” เจ้าชายเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน ไฟห้องขวามือเปิดอยู่ เขามองเข้าไปเห็นเธอกำลังเปิดหนังสือสลับกับดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เขายังไม่กล้าเรียกเธอเพราะเห็นเธอกำลังตั้งใจทำอะไรบางอย่างอยู่ เขายืนมองเธออยู่ที่หน้าประตู แล้วตัดสินใจจะเดินลงไปข้างล่าง “ มีอะไรหรือเปล่า” ลดาที่หันมาเจอเขาเอ่ยถามขึ้น เจ้าชายหยุดเดินหันหลังกลับมา แต่ยังไม่กล้าเอ่ยคำขอ “ถ้านายมีอะไรให้ช่วยก็บอกมาเถอะ” ลดาลุกขึ้นเดินมาหาเขาที่หน้าประตู “คุณช่วยพาผมไปตรงที่คุณเจอผมได้ไหม” ลดาเหลือบมองนาฬิกา เวลานี้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว “ คุณต้องไปตอนนี้เลยเหรอคะ นี่มันมืดแล้วนะ เอาไว้พรุ่งนี้เช้า ฉันค่อยพาคุณไปดีไหม” “ได้ครับ พรุ่งนี้ตอนเช้าก็ได้” “โอเคค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะพาคุณไปตั้งแต่ 7 โมงเช้าเลย” “ขอบคุณครับ” “งั้นฉันขอตัวไปแก้งานต่อก่อนนะ” เจ้าชายพยักหน้า “ถ้าคุณง่วงคุณก็ไปนอนก่อนได้เลย” “แล้วปกติคุณนอนกี่โมง” “ ฉันเป็นคนนอนดึกค่ะ เวลาดึกๆ มันสงบดีเหมาะสำหรับการแก้งาน” “ความจริงผมยังไม่ง่วงเลย ถ้าเรื่องภาษา ผมว่าผมพอที่จะช่วยคุณได้นะ” เขาเห็นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอเป็นเนื้อหาภาษาอังกฤษ แล้วตำราที่เธออ่านเขาเดาว่าคงเป็นตำราภาษาอังกฤษเหมือนกัน ลดาแววตาเป็นประกาย แบบนี้ยิ่งดี เพราะมีคำศัพท์ที่เธอไม่รู้ทำให้ต้องเสียเวลาไปค้น และถ้าได้เขาช่วยตรวจประโยคของเธอ น่าจะยิ่งทำให้วิจัยที่เธอกำลังแก้อยู่เสร็จไวขึ้น “ถ้าอย่างนั้นคงต้องรบกวนคุณแล้วค่ะ” “ยินดีครับ” ลดาเดินนำเขาไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เขาเดินตามเขา “คุณรอแป๊บนะ ฉันไปเอาเก้าอี้มาให้คุณก่อน” “ ครับ” ลดาเดินไปเอาเก้าอี้ห้องข้างๆ เจ้าชายมองไปรอบๆ ห้องนี้ไม่ใหญ่มาก เตียงนอนน่าจะ 3.5 ฟุตได้ เธอใช้ชุดผ้าปูที่นอนลายหมีสีชมพู เหมือนเด็กน้อยอยู่เลย เขาเหลือบไปเห็นที่โต๊ะอ่านหนังสือของเธอมีรูปเธอกอดคุณป้าคนหนึ่งอยู่ เขาหยิบขึ้นมาดู นี่คงเป็นคุณย่าหรือคุณยายของเธอแน่เลย “น่ารักแต่เด็กเลยแฮะ” เจ้าชายมองภาพเด็กน้อยผมเปียกำลังกอดคุณยายอยู่ “นั่นคุณยายฉันเองค่ะ” “ขอโทษครับที่หยิบมาดูโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน” เจ้าชายรีบวางรูปลงที่เดิม “ไม่เป็นไรค่ะ คุณนั่งตรงนี้ก่อนดีกว่าค่ะ” ลดาวางเก้าอี้ไว้ข้างเก้าอี้ของเธอ “งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ” ลดาเอ่ย “ให้ผมช่วยตรงไหนคุณบอกได้เลยนะ” “งั้นเริ่มจากประโยคตรงนี้เลยค่ะคุณช่วยดูให้หน่อยว่าฉันใช้ศัพท์คำนี้มันเหมาะสมหรือเปล่า” “งั้นผมขออ่านก่อนนะ” เจ้าชายช่วยเธออ่านวิจัยและคอยให้คำแนะนำทั้งเรื่องของใช้ภาษาและเพิ่มเติมเนื้อหาให้กับเธอ ทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนจนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน หาวว~~ เธอเริ่มหาวบ่อยขึ้น “ถ้าง่วงเธอก็ไปนอนกันมั้ย” เจ้าชายถามขึ้น ขณะที่สายตาของเขายังจดจ้องที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคุณง่วงคุณไปนอนพักผ่อนก่อนเถอะ” “ผมนอนมาทั้งวันแล้วคุณ ผมยังไม่ง่วงเลย” “แต่ฉันอยากทำหัวข้อนี้ให้เสร็จ เหลืออีกนิดเดียวเอง” ตอนนี้เธอง่วงมาก แต่ใจเธอก็อยากทำให้เสร็จ “งั้นเอาแบบนี้ไหม คุณไปนอนพักสักงีบ ถ้าผมดูเสร็จ ผมจะเรียกคุณมาดูอีกที” เธอเริ่มลังเลเพราะ เธอรู้สึกง่วงมากจริงๆ “เราค่อยมาดูพรุ่งนี้ต่อก็ได้ค่ะ คุณก็จะได้ไปนอนพักผ่อนด้วย” “ผมบอกแล้วไง ผมยังไม่ง่วง คุณพักสักงีบเดี๋ยวผมปลุก” เจ้าชายพยักหน้าชี้ไปที่เตียง “แต่เหมือนฉันจะเอาเปรียบคุณเลย ถ้าทำแบบนั้น” ลดารู้สึกเกรงใจ “ถ้าคุณไม่กล้านอนเพราะรู้สึกเกรงใจผม แบบนั้นผมก็คงไม่กล้านอนเหมือนกัน เพราะผมก็กวนคุณมาทั้งวัน แถมพรุ่งนี้ยังต้องกวนคุณพาไปข้างนอกอีก” “งั้นฉันขอพักซักงีบนึงนะ ถ้าคุณดูเสร็จแล้วปลุกฉันนะ” “โอเค” ลดาลงนอนที่เตียงดึงผ้าขึ้นมาห่มครึ่งตัวแล้วหลับไปทันที เจ้าชายเปิดไฟตรงโต๊ะทำงานแล้วเดินไปปิดไฟกลางห้อง เพราะกลัวจะทำให้เธอไม่สบาย แล้วเดินกลับมาดูงานวิจัยของเธอต่อ เจ้าชายแก้งานให้เธอจนเสร็จ เวลาก็ปาไปเกือบตีสี่แล้ว เค้าไม่คิดจะปลุกเธอตั้งแต่ที่แรกเขายืนมองดูเธอหลับ แล้วช่วยดึงผ้าห่มให้เธอจนถึงหน้าอก เขายืนมองสาวน้อยที่นอนหน้ายุ่งอยู่บนเตียง “ฝันดีนะ” ก่อนจะเดินกลับไปนอนที่ห้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม