ตอนที่ 14

1209 คำ
ตอนที่ 14 ไป๋หย่งเล่อเดินทางด้วยรถม้า ใช้ระยะการเดินทางเพียงแค่สองวันก็ถึง เมื่อมาถึงจวนตระกูลตงแล้ว ได้สอบถามอาการต่าง ๆ ก็พบว่าท่านลุงขุนนางมีอาการป่วยทางใจ ร้ายแรงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคนป่วยแล้ว “ท่านป้า ท่านลุงป่วยคราวนี้ดูเหมือนว่าอาการจะหนักหนาไม่น้อย” แม้จะเป็นหมอรักษาผู้ป่วยมาหลากหลาย แต่อาการป่วยทางใจเกรงว่าจะต้องใช้ยารักษาชนิดพิเศษ “ไม่รู้ว่าช่วงนี้ท่านลุงครุ่นคิดเรื่องอะไรอยู่ขอรับ” ภรรยาขุนนางตงถอนหายใจสีหน้านั้นดูเหนื่อยล้านัก “จะมีเรื่องอันใดก็จูเอ๋อร์นะสิ ยามนี้ก็ล่วงเลยวัยจะออกเรือนแล้ว คุณชายเนี่ยก็ยังไม่มาสู่ขอเสียที ปล่อยให้รอมาหลายปี” ว่าแล้วนางก็ปวดใจนัก สีหน้าของนางก็คงจะไม่ต่างกับคนป่วยนอนอยู่บนเตียง “คุณชายเนี่ย คู่หมั้นของจูเอ๋อร์” ชายหนุ่มหย่อนก้นนั่งลงที่เก้าอี้ ข้างท่านป้า สีหน้าของเขาก็ดูจะเคร่งเครียดไม่ต่างกัน “หมั้นหมายกันมาก็สามปีแล้วมิใช่หรือขอรับ ก็เห็นทางนั้นบอกว่าปลายปีนี้จะมาสู่ขอนี่นา” ที่เขารู้ข่าวก็เป็นเช่นนี้ “ทางนั้นยังคงเงียบ แต่ว่า...” ว่าแล้วนางก็ถอนหายใจอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงปวดร้าวและเสียใจยิ่งนัก “คุณชายเนี่ย รับปากจะแต่งน้องสาวเจ้าเป็นฮูหยินเอก แต่ว่าเขากลับแต่งงานกับหญิงอื่นไปก่อน ให้นางเป็นฮูหยินเอกแล้ว หากน้องสาวเจ้าแต่งงานไปก็คงได้เป็นเพียงแค่ฮูหยินรองเท่านั้น” “ถ้าเช่นนั้นก็ถอนหมั้นก็ได้นี่ขอรับ” ความคิดอันตื้นเขินของเขาก็หาใช่ไม่ ในเมื่อเขาคิดจะช่วยน้องสาวให้สมหวังในรักนี้แล้ว “เช่นนั้นข้าจะปรุงยาสงบใจให้ท่านลุง ไม่นานอาการจะดีขึ้น” เขากล่าวด้วยความหนักแน่น อาการป่วยนี้ไม่ได้ร้ายแรงเกินฝีมือเขา “แต่ว่าเรื่องถอนหมั้น เหตุใดไม่ขอถอนหมั้นกับฝ่ายนั้นเสียทีล่ะขอรับ ข้าสงสัยนัก” สีหน้าของเขาก็ดูอยากรู้อยากเห็นข้อเท็จจริงบางประการ ถึงตัวเขาเองเป็นเพียงแค่ญาติห่าง ๆ แต่ทว่าความผูกพันสนิทแนบแน่นนัก ภรรยาของขุนนางตงถอนหายใจอีกครั้ง น้ำเสียงของนางยังคงปวดร้าวทุกเมื่อที่กล่าวขึ้นมา “ท่านลุงของเจ้าไม่อยากให้นางถอนหมั้น ยังคงยืนกรานจะให้นางแต่งงานเข้าตระกูลเนี่ยให้ได้” นางทอดถอนหายใจพลางเหนื่อยหน่ายใจกับความคิดเอาแต่ใจของสามียิ่งนัก ไม่ว่านางจะเอ่ยเหตุผลนานาประการ แต่เขาก็มิรับฟัง ยังคงยืนกรานเสียงแข็ง เอาความคิดของตนเองเป็นที่ตั้ง มิสนใจความรู้สึกของลูกสาวเพียงคนเดียว มารดาเช่นนางมิอาจช่วยเหลือลูกสาวให้สมหวังในรัก ก็พาลเสียใจนักและยังคงกล่าวโทษตนเองเป็นมารดาไม่ได้ความ ไม่อาจช่วยเหลือลูกสาวได้ “หากถอนหมั้นทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น” สีหน้าของนาง ยามนี้ดูจะโศกเศร้า “พูดก็พูดนะ เมื่อก่อนจูเอ๋อร์รักใคร่ชอบพออยู่กับรองแม่ทัพหลิว ยามนั้นนางดูมีความสุขนัก แต่พอนางทำตามคำขอร้องของท่านลุงเจ้า นางก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน” “รองแม่ทัพหลิว” เขาทวนคำพูดของท่านป้า นึกสงสัยไม่น้อย คงจะไม่ใช่คู่หมั้นของยอดดวงใจของเขากระมัง ดังนั้นยามนี้เขาต้องการคำตอบนี้ยิ่งนัก “ท่านป้าขอรับ ใช่หลิวมู่ฉวนหรือไม่” เขาภาวนาขอให้เป็นคนคนเดียวกันเถิด ทุกอย่างจะง่ายขึ้น “ใช่ เจ้ารู้จักด้วยรึ” ฮูหยินขุนนางตงกล่าวขึ้นมา สีหน้าของนางดูตกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าหลานชายจะรู้จัก รองแม่ทัพหลิวด้วย “ก็ไม่เชิงขอรับ” เมื่อได้ยินคำตอบนึกไม่ถึงว่าโชคชะตาจะเข้าข้างเขาถึงเพียงนี้ เห็นทีว่าเขาจะต้องช่วยเหลือน้องสาวของเขาให้สมหวังในรักในเมื่อเขาและนางต่างก็มีผลประโยชน์ตอบแทน เขาจะช่วงชิงยอดดวงใจกลับมาให้ได้ แววตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้าดูโหดเหี้ยมเล็กน้อยมุมปาก ยกยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย น้ำเสียงหนักแน่นกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านป้าไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าจัดการเอง รับรองว่าอีกไม่นานจูเอ๋อร์จะได้แต่งงานกับรองแม่ทัพหลิวอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่ ท่านป้าทำตามที่ข้าขอร้อง” ผ่านมาหลายวันแล้ว หลิวมู่ฉวนขยันเขียนจดหมายส่งให้นางในดวงใจไม่เว้นวัน จดหมายสามฉบับส่งถึงมือสาวงามเป็นที่เรียบร้อย ยามนี้ใบหน้าหวานกำลังอ่านจดหมายของชายหนุ่ม ที่นางแอบมีใจหรือแอบปลื้มเขาเมื่อนานมาแล้ว นึกไม่ถึงว่าโชคชะตาจะทำให้นางและเขากลับมาพบกันอีกครั้ง ในฐานะคู่หมั้น หากวันนั้น ฟางหรูปฏิเสธการแต่งงานเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านลุงหลิว นางกับเขาก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า แต่ทว่ายามนี้นางและเขามีฐานะพิเศษต่างออกไปคือ คู่หมั้น ตัวอักษรในจดหมายที่เขียนมอบส่งมายังดวงใจของเขา มีความหมายอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าจะมีระยะทางห่างไกลไม่ได้พบหน้าหวานใจของตนเอง แต่ความสัมพันธ์รองแม่ทัพหลิวและฟางหรูเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตัวอักษรมากมายถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ในแต่ละวันที่ได้พบเจอ อีกทั้งยังมีความหมายบางอย่างซ่อนเร้นเอาไว้ด้วย นั่นคือ การบอกรักนางผ่านการถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมด ร้อยเรียงเป็นคำกลอนหวานซึ้งอบอุ่นละมุนหัวใจนัก ภายในศาลารับลมบึงสระบัวขนาดใหญ่ สายลมพัดผ่านพลิ้วไหวบางเบา หมู่มวลดอกไม้ต่างก็เริงระบำเอนไหวโยกเยก พลิ้วสวยดูงดงาม เอนเอียงไปมาตามสายลมเย็น ๆ กลิ่นหอมอ่อนของเหล่าดอกไม้นานชนิด ช่างหอมสดชื่นยิ่ง อีกทั้งยังมีเหล่าภมร และผีเสื้อหลากหลายสีกำลังโบยบินดอมดม ลิ้มรสชิมน้ำหวานจากยอดเกสรดอกไม้อีกด้วย บรรยากาศในยามเย็นช่างดูน่าอภิรมย์ยิ่ง เสี่ยวเสียนสาวใช้คนสนิท นั่งอย่างเรียบร้อยอยู่ข้างกายเจ้านายไม่ห่าง เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายสาว ก็อดที่จะเอ่ยถามขึ้นไม่ได้ แต่นั่นไม่มากสักเท่าไหร่ เรื่องที่นางอยากรู้มีมากกว่านั้น “คุณหนู” เสี่ยวเสียนส่งเสียงเรียกเจ้านายขึ้น แต่มีจุดประสงค์บางอย่างซ่อนเร้นเอาไว้ บนใบหน้ารูปไข่คล้ายคนสงสัยใคร่รู้ จากนั้นนางถึงได้ถามขึ้นมา “ท่านรองเขียนอันใดมาเจ้าคะ เหตุใดใบหน้าของท่านจึงได้แดงก่ำเช่นนี้” เสี่ยวเสียนกล่าวเย้าแหย่เจ้านายสาวแสนสวยและน่ารักเข้าให้ นั่นเพราะเห็นอีกฝ่ายยิ้มหวานอยู่อย่างเบิกบานใจ ใบหน้ายังดูแดงระเรื่ออีกด้วย ก็คงจะเขินหนักมากหรือว่าในจดหมายนั่น เขียนบอกรักมาเป็นแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม