ตอนที่ 15

1288 คำ
ตอนที่ 15 ฟางหรูแอบอมยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าของนางยังคงแดงก่ำ ลามเลียไปถึงใบหู เมื่อสาวใช้พูดเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้นางเขินอายสะท้านหนักขึ้น เกิดมาเพิ่งจะได้รับจดหมายบอกรักเช่นนี้ “ไม่มีอะไรมาก” คำโกหกของนางได้กล่าวขึ้น พลางเก็บจดหมายรักใส่หีบเอาไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังรู้สึกร้อนผะผ่าว หายใจติดขัดบ้าง บ้างก็สั่นระรัวราวกับกำลังตีกลองออกศึก ความรักคือเช่นนี้เองหรือ นางเพิ่งจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็ต่อเมื่อได้รักใครสักคนเข้าให้ เสี่ยวเสียนไม่เชื่อคำพูดของเจ้านายสักนิด เพียงแค่มองหน้าก็ดูออก เห็นชัด ๆ ว่ากำลังเขินอายจนหน้าแดงเช่นนี้ “จะไม่มีอะไรได้อย่างไรเจ้าคะ ดูสีหน้าของท่านก็รู้แล้ว” เสี่ยวเสียนแอบลอบยิ้มอย่างคนรู้ทัน “ในจดหมายคงจะบอกรักกระมังเจ้าคะ ถึงทำให้คุณหนูแย้มยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างแดงก่ำคล้ายกับลูกอิงเถาเช่นนี้ ท่านรองนี่ก็ช่างดูอบอุ่นนัก” เสี่ยวเสียนได้ทีก็กล่าวพูดไม่หยุด หยอกเย้าเจ้านายได้นางยิ่งชอบใจนัก “เจ้าช่างกล้าตีฝีปากกลั่นแกล้ง คุณหนูนักนะ เสี่ยวเสียนเจ้านี่มันจริง ๆ เชียว” คราวนี้เป็นมารดารองของฟางหรู นางเดินเข้ามาพบพร้อมกับใครบางคน ฟางหรูเห็นผู้มาใหม่ สีหน้าของนางดูราบเรียบไม่น้อย ไม่มีความรู้สึกดีใจสักนิดเมื่อได้พบหน้าอีกฝ่าย แม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันมานานหลายปีแล้วก็ตาม “เหตุใดเห็นหน้าพี่ จึงได้ทำหน้าบึ้งเช่นนี้เล่า รู้ไหมว่าท่านย่าเป็นห่วงนัก เจ้าจากมานานแล้ว เมื่อไหร่จะเดินทางกลับแคว้นหนานเสียที” ชายผู้มาใหม่ถือวิสาสะหย่อนก้นนั่งลง ไม่แม้แต่จะบอกฐานะที่แท้จริงกับใครต่อใคร การเดินทางมาแคว้นจิ่วโจวเป็นความลับ “ข้าอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดี หากไม่ใช่ท่านยายบีบบังคับข้า ข้าก็คงจะไม่หนีมา แต่จะให้ข้ากลับไปย่อมไม่มีทาง” เหวินซื่อไม่เข้าใจนัก เหตุใดลูกเลี้ยงของนางจึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา นางไม่เคยรู้เรื่องราวเบื้องหลังของครอบครัวลูกสาวคนนี้เลยเสียด้วยซ้ำไป อีกทั้งสามีกล่าวบอกเล่าเพียงว่า ได้พบกับแม่ของเด็กสาวในยามที่เดินทางไปค้าขายที่แคว้นหนาน บังเกิดรักแรกพบขึ้นมา ครอบครัวของเย่วฟางหลัน ภูมิหลังของเย่วฟางหลันก็ไม่เคยล่วงรู้มาก่อน ในเมื่อนางไม่เปิดเผยตัวของเถาจื่อเทาก็ไม่เคยคิดถาม “หรูเอ๋อร์” ญาติผู้พี่หน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อเห็นน้องสาวไม่ยอมความ แม้จะผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว นางยังคงไม่ให้อภัยท่านย่า ช่างดื้อรั้นและหัวแข็งนัก “ท่านแม่ นี่คือญาติผู้พี่จากแคว้นหนานเจ้าค่ะ” ฟางหรูกล่าวขึ้นมา แนะนำอีกฝ่ายให้รับรู้ ชายผู้สูงศักดิ์ ท่าทางของเขาองอาจและยังสง่างาม อีกอย่างน้องสาวได้บอกเล่าความเป็นอยู่ที่แคว้น จิ่วโจว เมืองตงหยางอย่างละเอียด และยังเขียนบอกเล่าเรื่องของฮูหยินรองผู้นี้อีกด้วย ดังนั้นชายหนุ่มผู้นี้จึงยกมือขึ้นประสานกันเล็กน้อย พลางให้เกียรติอีกฝ่าย “คารวะฮูหยินรอง” น้ำเสียงอันหนักแน่นกล่าวขึ้นมา “ข้าขอเวลาพูดคุยกับหรูเอ๋อร์สักครู่” “ได้ เช่นนั้นก็ตามสบายนะ” เหวินซื่อกล่าวขึ้นมา เสี่ยวเสียนเองก็ไม่กล้าจะอยู่ดูแลคุณหนู เห็นบรรยากาศขมุกขมัวเช่นนี้ก็ดูเหมือนจะชวนขนหัวลุกไม่น้อย “เดี๋ยวสำรับมื้อค่ำเสร็จแล้ว แม่จะให้เสี่ยวเสียนมาเรียกก็แล้วกัน” นางกล่าวขึ้นก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนี้ พลันเมื่อเห็นสตรีทั้งสองเดินจากไป ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์จึงได้เอ่ยขึ้นมาอย่างทันใด “เจ้าเป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้นหนาน กลับมาใช้ฐานะเพียงแค่คุณหนูชนชั้นปลายแถว” น้ำเสียงนี้มิพอใจน้องสาวนัก เสด็จพ่อพระราชทานตำแหน่งองค์หญิงขั้นหนึ่งแห่งแคว้นหนาน คือฐานะที่แท้จริงให้นาง แต่นางกลับปฏิเสธ และเดินทางหนีออกจากเมืองหลวง เพียงแค่เพราะมิต้องการจะหมั้นหมายกับแม่ทัพอ้าย ช่างดื้อรั้นไม่มีใครเกิน “ท่านยายบีบบังคับให้ข้าหมั้นหมายกับท่านแม่ทัพอ้าย ก็เหมือนกับท่านยายบังคับท่านแม่จนต้องหนีออกจากวังหลวง ป่านนี้แล้วยังไม่เลิกบังคับจิตใจอยู่อีก พี่ใหญ่จะให้ข้าทำเช่นไรเจ้าคะ” ฟางหรูกล่าวขึ้นด้วยความอัดอั้นตันใจ นานหลายปีตั้งแต่นางกลับไปอยู่วังหลวง พร้อมกับท่านแม่ มักจะถูกท่านยายอบรมอยู่ทุกวัน จะให้กระดิกตัวไปไหนก็ดูจะลำบากไม่น้อย “ท่านย่าเพียงแค่หวังดีกับเจ้า แต่เจ้าช่างเป็นเด็กมีอคตินัก” ญาติผู้พี่ได้กล่าวขึ้นมา รู้ทั้งรู้ว่าน้องสาวจะต้องทุกข์ใจเพียงใด แต่การมาครั้งนี้ก็มีจุดประสงค์อื่นด้วย ฐานะของเขาคือไท่จื่อแห่งแคว้นหนาน “ไม่ใช่ นางทำเพื่ออำนาจต่างหากเล่า พี่ใหญ่อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ท่านมาพบข้าที่นี่มีเรื่องอันใดกันแน่ มิใช่ให้ข้ากลับแคว้นหนานอย่างเดียวกระมัง” นางรู้ทันเข้าให้อีกจนได้ สีหน้าของพี่ชายดูเจื่อนไปทันที ด้วยเพราะไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเก่า ๆ จะพาลให้มีความกรุ่นโกรธ แม้ว่าจะเติบโตทั้งในและนอกวังหลวง ถึงแม้ว่าเดินทางยังแคว้นจิ่วโจว แต่กระนั้นนางก็ถูกอบรมและสั่งสอนจากท่านยายหรือไทเฮา นางอยากมีอิสระและอยากโบยบินออกมายังทุ่งกว้าง ไม่อยากจะอยู่ในกรงขังอันหรูหราล้ำค่า เช่นนั้นแล้ว ฟางหรูจึงมีนิสัยคล้ายเด็กเอาแต่ใจและดื้อรั้นนัก นางจึงไม่เคยรู้เลยว่า แท้ที่จริงแล้วท่านยายรักนางมากขนาดไหน สิ่งเดียวที่ไทเฮาแคว้นหนานต้องการมากที่สุดคือความสงบสุขภายในแคว้น ไร้การแก่งแย่งชิงดีหาผลประโยชน์ใส่ตัว เหล่าข้าราชบริพารรักและหวงแหนในแคว้นถิ่นฐาน แต่นั่นก็คงจะเป็นไปได้ยากยิ่งนัก เมื่อมีผลประโยชน์เข้ามา ความละโมบโลภมากครอบงำจิตใจ “ท่านย่าล้มป่วย เพราะคิดถึงเจ้า” คำบอกกล่าวเพียงแค่เรื่องจำเป็นแค่นั้น แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ายามนี้บ้านเมืองกำลังจะมีสงครามเกิดขึ้น แต่ก็นับว่าโชคเข้าข้าง ที่น้องสาวไม่ได้อยู่ที่แคว้น นางอาจจะมีอันตรายเอาได้ การมาครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องท่านย่าป่วย แต่ยังมีเรื่องอื่นที่เขาจะต้องฝากฝังนาง หากเขาและท่านพ่อไปเยือนปรโลก ก็คงจะเหลือเพียงแค่นางคนเดียวที่เป็นทายาทแห่งแคว้นหนาน ฟางหรูกลั้นหัวเราะเล็กน้อย จากนั้นจึงได้ยิ้มเยาะและกล่าวขึ้นมาอย่างคนถือดี “เหอะ พี่ใหญ่คิดว่าข้าจะเชื่อรึ ไม่มีทางหรอก คงจะมาทวงถามกระมังว่าเมื่อไหร่ข้าจะรับหมั้นกับแม่ทัพอ้าย” เพียงแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว พี่ชายของนางผู้นี้โกหกไม่แนบเนียนพอ “อีกสามเดือนข้างหน้า ข้ากำลังจะแต่งงานกับคนที่ข้ารัก” น้ำเสียงของน้องสาวยามกล่าวออกมาดูจะหนักแน่นไม่น้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม