ตอนที่ 16

1204 คำ
ตอนที่ 16 เขาถอนหายใจ ไม่ใช่เพราะความโล่งอก แท้จริงแล้วท่านย่าเป็นห่วงน้องสาวนัก เกรงว่าอยู่ที่แคว้นจิ่วโจว นางจะได้รับอันตราย ถึงแม้จะเดินทางมาดูแลนางช้าถึงสี่ปี แต่ทว่าความปลอดภัยของนางย่อมมาก่อนเสมอ ผู้ติดตามหลายคนส่งจากแคว้นหนาน หน้าที่อันสำคัญคือกล่าวรายงานความเป็นอยู่ของกงจู่กุ้ยอิง ดังนั้นเองจดหมายของฟางหรูส่งไปยังแคว้นหนานเพียงแค่สองฉบับ แต่มีรายงานความเป็นอยู่ของกุ้ยอิง ผ่านองครักษ์ที่ติดตามอยู่เงียบ ๆ มานานหลายปี ไม่ว่าจะเรื่องอันใดก็ตาม ท่านย่ามักจะรับรู้ก่อนเสมอ ยกเว้นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกแปลกใจในครั้งนี้ น้องสาวกำลังจะแต่งงาน! แม้ว่าจะโล่งอกที่นางไม่ต้องได้รับรู้ความเป็นไปในแคว้นหนาน แต่ทว่ามีคนผู้หนึ่งเฝ้ารอคอยนางมาเนิ่นนาน แม้จะไม่สมหวัง แต่ชายคนนั้นก็ไม่เคยเรียกร้อง ขอเพียงแค่ นางมีความสุขก็เพียงพอ สหายของเขาช่างเป็นบุรุษที่ใจกว้างดั่งแม่น้ำจริง ๆ “พี่ใหญ่เหตุใดสีหน้าของท่านจึงย่ำแย่ถึงเพียงนี้” ฟางหรูแอบขบขันพี่ชายดูท่าจะผิดหวังกระมัง “ข้าก็คงเสียใจแทนซือฟงเท่านั้น เจ้าบ้านั่นรอคอยให้เจ้ากลับไป รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าไม่มีทางกลับไปแน่ ๆ แต่เจ้าบ้านั่นยังคงรอเจ้าเสมอ และยังบอกว่า ขอให้เจ้ามีความสุขมาก ๆ” เขาเติมท่อนหลังให้สหายรัก และรู้ว่าหัวใจของสหายนั้นมอบให้น้องสาวของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ ทางด้านผู้ที่กำลังถูกกล่าวถึง ยามนี้สีหน้าดูเคร่งเครียดไม่น้อย นั่นเพราะตอนนี้มีความเคลื่อนไหวของชินอ๋อง มุ่งหน้ามาทางแคว้นจิ่วโจว จุดประสงค์สำคัญคือการสังหารไท่จื่อและกงจู่ ต่อไปก็คือการลอบปลงพระชนมน์ของฮ่องเต้หนานเฟยหรง ยามนี้ในท้องพระโรงมิได้เอ่ยเรื่องลับสุดยอดนี้แต่อย่างใด คนไว้ใจมีเพียงแค่แม่ทัพอ้ายเท่านั้น เมื่อมีภัยคุกคามอันใหญ่หลวงนี้ แน่นอนว่า อ้ายซือฟงจะต้องเดินทางไปปกป้องไท่จื่อและกงจู่ด้วยตนเอง ส่วนเรื่องทางวังหลวง ก็มอบหน้าที่นี้ให้กับท่านรองแม่ทัพดูแลและสั่งการแทน กองทัพเฟิ่งหวงแม้จะขาดผู้นำไป แต่ทว่าก็ไม่อาจดูเบาได้ มหาเสนาบดีอ้าย คิดถอดใจกับเรื่องบรรดาศักดิ์ของตนเอง นั่นก็เพราะว่าถูกลูกชายคนเดียวข่มขู่ มิใช่การข่มขู่เอาชีวิต แต่ทว่าเมื่อก่อนนี้เขาให้คำมั่นสัญญาต่ออดีตฮ่องเต้ว่า จะปกป้องแคว้นนี้จากการรุกรานของชนเผ่า และแคว้นศัตรู “แม่ทัพอ้ายซือฟง รับราชโองการ” กงกงชราผู้หนึ่ง รับราชโองการสีเหลืองทอง ด้านหลังมีรูปมังกรทะยานฟ้า เพียงแค่กงกงเปิดม้วนราชโองการถึงกับหน้าถอดสี นี่หมายถึงอะไรกันแน่ จู่ ๆ ก็ปลดท่านแม่ทัพอ้ายผู้จงรักภักดีออกจากตำแหน่งเสียอย่างนั้น “พ่ะย่ะค่ะ” อ้ายซือฟง รับรู้ทุกอย่างและปรึกษากับฮ่องเต้เอาไว้แล้ว แผนการนี้จะต้องสำเร็จให้จงได้ นี่คือแผนการตบตาศัตรู สองมือของชายหนุ่มประสานเบื้องหน้าอย่างนอบน้อม แววตาเหี้ยมซ่อนเอาไว้ บนใบหน้าคมคายและหล่อเหลา สองขาคุกเข่าลงเบื้องล่าง ใบหน้าก้มลงต่ำติดแนบพื้น “ยามนี้บ้านเมืองวุ่นวาย แม่ทัพอ้ายซือฟง เพิกเฉยไม่ใส่ใจ มิหนำซ้ำยังปล่อยคนร้ายเข้ามาในวังหลัง สร้างเรื่องวุ่นวาย ปลดตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของเมืองหลวงนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จบราชโองการ” เหล่าขุนนางเสียงแตกเป็นสองฝ่าย แต่ละคนสีหน้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางคนก็ยกยิ้มด้วยความดีใจ ก้างชิ้นใหญ่ทำงานพลาดและถูกปลดเข้าให้เสียแล้ว ต่อไปนี้แผนการจะได้เดินหน้าเร็วขึ้น มหาเสนาบดีอ้าย ก้าวเท้าออกมาเบื้องหน้า ทรุดกายคุกเข่าลงที่พื้นหยาบกระด้าง เต็มไปด้วยความเจ็บปวดบนใบหน้าของชายชรา นับตั้งแต่ทำงานรับใช้ราชสำนัก ครั้งนี้ทำให้เขาอับอายยิ่งนัก แทบจะไม่มีที่ยืนอยู่บนเมืองหลวงอีกแล้ว “กราบทูลฝ่าบาท ซือฟง เป็นทหารอยู่ในกองทัพตั้งแต่สิบห้าปี รับใช้กองทัพและดูแลบ้านเมืองมานาน บาดเจ็บก็มาก แต่เหตุใดเรื่องเพียงแค่เล็กน้อยถึงกับต้องปลดออกจากตำแหน่งแม่ทัพหลวงพ่ะย่ะค่ะ” หากจะหลอกศัตรูให้หลงเชื่อ จะต้องหลอกคนใกล้ตัวให้เชื่อเสียก่อน แน่นอนว่ามหาเสนาบดีอ้าย มิได้ล่วงรู้แผนการนี้ ดังนั้นชายชราเส้นผมสีขาวจึงมีแต่ความทุกข์ทรมานใจ อีกทั้งเสียใจอย่างสุดซึ้งก็ว่าได้ “บังอาจ! กล้าขัดราชโองการของเจิ้นรึ เอาตัวมหาเสนาบดี ไปคุมขังที่จวน มิให้ออกมาวุ่นวายเป็นเวลาหนึ่งเดือน” สุรเสียงคำรามดังกึกก้องในท้องพระโรง เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยกราบทูลขัดขวางแต่อย่างใด นั่นเพราะตนเองก็เกรงว่าตนจะเดือดร้อนไปด้วย เช่นนั้นจึงไม่อยากหาเหาใส่หัวตนเอง มหาเสนาบดีอ้ายสีหน้าราวกับคนอมทุกข์ แบกรับเรื่องอับอายเอาไว้ ตระกูลต้องมัวหมองและสร้างความอัปยศอดสู ชายชราแทบจะกระอักเลือดออกมา ไทเฮามิได้มาร่วมว่าราชการหลังม่านเหมือนเช่นเคย ยามนี้อยู่ในวังหลัง สั่งเสียนางกำนัลน้อยใหญ่ที่สามารถไว้ใจได้ “หากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับอ้ายเจีย พวกเจ้าต้องเร่งพากันหนีออกไปให้ได้ อย่าลืมองค์หญิงกุ้ยอิงเด็ดขาด” น้ำเสียงของหญิงชรากล่าวขึ้นมา รู้ว่าอีกไม่นานในวังจะต้องเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่ แม้ว่าจะระแวดระวังอย่างไรก็คงจะไม่พ้นการนองเลือดในครั้งนี้ “ไทเฮา อย่าทรงตรัสเช่นนี้เลยเพคะ จะต้องอยู่รอรับองค์หญิงหวนคืนแคว้น” แม้ว่าจะรับใช้มาตั้งแต่อายุสิบห้า บัดนี้นางอายุเกือบจะหกสิบปี เรื่องราวต่าง ๆ มากมายก็ล้วนผ่านมาหมดสิ้น แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหนักหนาไม่น้อย “อ้ายเจียอยากจะรอวันได้พบหน้ากุ้ยอิงอีกสักครั้งก่อนสิ้นใจ จงจำเอาไว้ ดูแลนางให้ดี ยามที่อ้ายเจียจากไป ขอฝากพวกเจ้าด้วย” เมืองหลวง ลานฝึกทหาร ลานฝึกซ้อมของเหล่าทหารหลายร้อยนาย กำลังฝึกซ้อมมีทั้งทวน กระบี่ยาว และยังมีอาวุธพิเศษอีกด้วย ท่านรองแม่ทัพหลิว กำลังฝึกซ้อมกับเหล่าทหารฝีมือดีหลายนาย อากาศวันนี้ช่างดูจะร้อนอบอ้าวไม่น้อย ดังนั้นเอง ใบหน้าของชายหนุ่มจึงเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนหน้าผากกว้างของเขา ช่างทำให้ดูหล่อเหลายิ่งนัก อีกทั้งยังดูดึงดูดไม่น้อย ตงจินจูมองชายหนุ่มที่ตนเองเฝ้าปรารถนามาแต่ไกล ยิ่งเห็นเขาออกท่วงท่าฝึกซ้อมก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกร้อนรุ่มนัก นั่นเพราะว่าใบหน้าของเขาช่างทำให้นางลุ่มหลง อีกทั้งนิสัยใจคอของเขาก็เป็นยอดบุรุษยิ่ง มีหรือที่นางจะปล่อยให้เขาหลุดมือไปเป็นของสตรีอื่น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม