ซ่า ซ่า ซ่า
สายฝนเทกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา พร้อมกับเสียงฟ้าผ่า เป็นระยะ ๆ แต่ร่างบางกลับไม่เคลื่อนย้ายไปไหน โดยมีร่างของนันยศโอบร่างของเธอเอาไว้
เขาไม่อยากปล่อยให้เธออยู่คนเดียว เสียงสะอื้นยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แข่งกับเสียงฝนที่โปรยปรายลงมา
“ธิดา เข้าบ้านกันนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย” เขากล่าวด้วยความเป็นห่วง
เธอเงยหน้าขึ้นมองชายคนรักทั้งน้ำตา ที่ปะปนไปกับน้ำฝน ตอนนี้ร่างกายของเธอและเขาเปียกโชกจนดูไม่ได้
หมับ!
เธอโผเข้ากอดเขา กลัวว่าจะไม่ได้กอดหรือไม่ได้เจอหน้ากันอีกพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังกว่าเก่า จนชายหนุ่มต้องช้อนร่างบางเข้ามาในวงแขน ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน
ใจจริงเขากะว่าจะโทรบอกหญิงสาวทางโทรศัพท์เสียด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้มันต้องคุยกันต่อหน้า เพื่อจะได้เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย
แต่เมื่อนันยศได้เห็นหน้าของธิดา ก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ สูดลมหายใจเข้าไม่เต็มปอด เพราะกลัวคำที่เขาได้พูดออกไปมันไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
และก็เป็นอย่างที่เขาคิด หญิงสาวไม่สามารถรับกับสิ่งที่เขาบอกกับเธอได้ ตัวเขาเองก็ยังรับมันไม่ได้ด้วยซ้ำ
นันยศและธิดา คบกันมาเกือบห้าปี ตั้งแต่เธออยู่มัธยมปีที่หก ส่วนเขาเรียนอยู่ปี 4 ทั้งสองเจอกันในห้างสรรพสินค้า และนั่นคือครั้งแรกที่ทั้งสองได้สานสัมพันธ์ จนกลายมาเป็นคู่รักที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉา
เขาชอบธิดาตรงที่เธอขยันทำงาน ไม่ว่าจะงานบ้านงานเรือน ไหนจะช่วยมารดาขายอาหารหน้าร้าน ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเขา เธอก็ยังเป็นธิดา ที่ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยให้เขาได้ยิน
เมื่อเขาพาหญิงสาวไปทำความรู้จักกับครอบครัว บิดาและมารดาของตนดูพอใจเธอเป็นอย่างมาก แต่นั่นคือต่อหน้าเขา พอลับหลังเมื่อไร เป็นต้องเอ็ดบุตรชายของตน ที่ไปหยิบผู้หญิงที่ไหนมา เพราะไม่สมฐานะสำหรับพวกเขา
เรื่องนี้เขาไม่เคยพูดหรือบอกธิดาให้เธอไม่สบายใจ เขายังต้องการเธออยู่ข้าง ๆ
ทว่าฝันร้ายของเขาและเธอก็มาถึง เมื่อมารดาโกหกว่าจะให้เขาไปทำความรู้จักกับญาติห่าง ๆ ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ที่ไหนได้ ผู้ใหญ่ทั้งสองพาเขาไปสู่ขอหญิงสาว คนที่พิชัยและพิมพ์ภาหมายปองมาเป็นสะใภ้ของบ้าน
การแต่งงานจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า นั่นคือการตัดสินใจระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย โดยที่เขาไม่ได้ยินยอมแม้แต่น้อย
เขาเคยคัดค้านหัวชนฝา จนบิดาให้คำขาดกับเขา หากนันยศไม่ทำตาม ชีวิตของธิดาจะไม่เป็นสุข
แน่นอนว่าบิดาของตนพูดคำไหนคำนั้น ทำให้เขากลืนไม่เข้า คายไม่ออกกับคำพูดของพิชัย
“ธิดาตัวเปียกแบบนี้ ไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่เตรียมยาแก้ไข้ กินดักไว้ก่อน เดี๋ยวจะไม่สบาย” ในระหว่างที่บอกกับหญิงสาว เขารีบไปหยิบกล่องยาและน้ำมาตั้งไว้บนโต๊ะกระจก หน้าโซฟาตัวยาว
แต่ธิดาก็ไม่ได้ทำตามที่เขาว่า ชายหนุ่มจึงอุ้มร่างของหญิงสาวไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ พลางเปิดฝักบัวเพื่อจะอาบน้ำให้เธอ
“พี่อุ่นกลับบ้านไปเถอะค่ะ เดี๋ยวธิดาจัดการเอง” เหมือนกับเธอจะทำใจได้บ้างแล้ว แต่ใบหน้าที่เลื่อนลอยกับ สายตาที่เหม่อไปด้าน หน้า ยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงมากกว่าเดิม
หมับ!
นันยศคว้าร่างอันคุ้นเคยเข้ามากอดอย่างหลวม ๆ นำฝ่ามือข้างที่ถนัดลูบศีรษะเธอเบา ๆ เพื่อให้หญิงสาวไว้ใจเขาเหมือนเมื่อก่อน
ทุกครั้งที่เธอไม่ได้สบาย เขาจะเป็นคนจัดการให้ ไม่ว่าจะพาเธอไปอาบน้ำ ทำอาหารให้เธอทาน รวมไปถึงงานบ้านที่หญิงสาวต้องทำ เขาก็จะเป็นคนจัดการให้
จนผู้เป็นมารดาอย่างดุจดาว ไว้ใจเขามากขึ้น และสามารถฝากผีฝากไข้ไว้กับชายหนุ่ม ในระหว่างที่หล่อนไม่อยู่บ้าน
วันนี้ก็เช่นกัน ดุจดาวจะนอนค้างที่ร้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้โทรมาแจ้งกับทางธิดาแล้วว่าหล่อนจะไม่กลับ และให้นันยศมาอยู่เป็นเพื่อนแทนมารดา
“พี่รักธิดานะ อยากให้ธิดาจำเอาไว้ ต่อให้พี่แต่งงานกับใคร หรืออยู่กับใคร แต่หัวใจของพี่ พี่ยกให้ธิดาไปหมดแล้ว” เขาไม่แน่ใจว่าคำพูดของเขาจะช่วยเธอได้มากน้อยแค่ไหน
ทว่าหญิงสาวกลับผละร่างออก สายตามองไปที่ใบหน้าอันคุ้นเคยของเขา ก่อนที่น้ำใส ๆ จนไหลออกจากดวงตาอีกครั้ง
“พี่อุ่นอย่าปลอบใจธิดาเลยค่ะ ธะ ธิดารู้ดี รู้มาตลอดว่าไม่คู่ควรกับคนแบบพี่” เธอนำหลังมือปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้ง “ไม่ต้องโทษพวกท่าน ที่ให้เราสองคนเลิกกัน ธิดาเข้าใจค่ะ ว่าพวกท่านต้องการผู้หญิงที่ดีที่สุดให้อยู่ข้างกายพี่” แม้ว่าในใจลึก ๆ ไม่ได้คิดอย่างที่พูด แต่ก็อดโทษตัวเองไม่ได้ ที่ดีไม่พอสำหรับผู้ใหญ่ หรือยังดีไม่พอสำหรับนันยศ
แต่ก่อนที่เธอจะคิดไปกันใหญ่ เขาก็ได้ประทับริมฝีปากเข้าหาหญิงสาวอย่างคุ้นเคย มือไม้ที่เคยอยู่ข้างลำตัว บัดนี้มันซุกซนเสียจน คนทั้งสองไม่อาจห้ามกันและกันได้
“พี่อุ่นกลับไปเถอะค่ะ นี่ก็สายมากแล้ว เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ของพี่จะเป็นห่วง” ร่างบางนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบาง เอ่ยปากไล่ให้เขากลับ แต่ใจของเธอกลับอยากให้เขาอยู่