คลั่งรักที่ 3-2 ข้าทำผิดต่อเจ้า

972 คำ
“อาเล่ย...ลูกสะใภ้ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง” หญิงวัยกลางคนที่ยังคงความงดงามดั่งสาวน้อยวัยแรกแย้มรีบเร่งฝีเท้าเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องหอ มองบุตรชายที่ยืนนิ่งจ้องมองไปยังบานประตูด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ร่างกายนางอ่อนแอมากขอรับท่านแม่ ตอนนี้หมอกำลังทำการรักษานางอยู่...” โหวปีศาจตอบโดยที่ไม่แม้แต่จะละสายตาจากบานประตู ราวกับเฝ้ารอคอยที่จะให้หมอเปิดประตูออกมา แล้วบอกข่าวแก่เขาว่านางปลอดภัยแล้ว ฮูหยินเฉิงเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความกังวลที่มากล้นไม่ได้น้อยไปกว่าบุตรชายคนโต เสี้ยวอึดใจต่อมา เสียงฝีเท้าหนักๆ หลายฝีเท้าพุ่งตรงมายังเรือนหอของโหวปีศาจอย่างเร่งรีบ “ข้าได้ข่าวจากพ่อบ้านแล้ว อาการนางไม่สู้ดีสินะ เช่นนั้นยาเม็ดนี้น่าจะช่วยนางได้ไม่มากก็น้อย” ประมุขเฉิงเอ่ยขึ้นโดยถือกล่องโอสถหมื่นปีจากคลังสมบัติของตระกูลมาด้วย หวังว่าโอสถเม็ดนี้จะช่วยฟื้นคืนร่างกายของลูกสะใภ้ให้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว “พี่สะใภ้ต้องไม่เป็นอะไร ขะ...ข้าไม่อยากเห็นพี่สะใภ้ต้องเจ็บปวดอีกแล้ว ข้าไม่อยากเห็นอีกแล้ว ฮือ...” เด็กสาวที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นได้เพียงปีเดียวถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ใบหน้าหวานน่ารักบิดเบี้ยวเหยเก ดวงตาแดงก่ำอาบไปด้วยหยาดน้ำตาเป็นสาย สะอึกสะอื้นฮักจนร่างบอบบางสั่นเทาโยกคลอนไปทั้งสรรพางค์กาย “เด็กโง่อย่าเพิ่งฟูมฟายจนเกินไปนัก พี่สะใภ้ของเจ้าต้องหายดีอย่างแน่นอน” ผู้เป็นบิดาดึงบุตรสาวคนรองเข้ามากอด ขณะนั้นเองบุตรชายคนสุดท้องที่มีอายุเพียงสิบสี่ปี กำลังเริ่มเป็นหนุ่มแขนขายืดยาวเก้งก้างก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น “พะ...พี่สะใภ้จะตายอีกแล้วหรือขอรับท่านพี่” คำถามที่ทำให้ครอบครัวสกุลเฉิงถึงกับนิ่งงันคล้ายมีหินก้อนใหญ่ถ่วงทับที่อกจนแทบหายใจไม่ออก ภาพเหตุการณ์ที่แสนเจ็บปวดผุดขึ้นในห้วงแห่งความทรงจำอีกครั้ง กลิ่นคาวเลือด คราบน้ำตา และการสูญเสียยังคงตราตรึงเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้น…เมื่อวาน! “เสี่ยวหง...พี่สะใภ้ของเจ้าจะต้องไม่ตาย” โหวผู้เป็นบุตรชายคนโตของตระกูล ยื่นมือไปวางบนไหล่ของน้องชายคนเล็กอย่างปลอบโยน ภาพทุกอย่างในชาติก่อนยังคงกระจ่างชัด อีกสองปีนับจากนี้...สงครามอสูรจะลุกลามจนยากจะทัดทาน ทุกคนในตระกูลเฉิงร่วมออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่อย่างหาญกล้า ทว่าอสูรเจ้าเล่ห์กลับเหลี่ยมจัดกอปรกับมีไส้ศึกภายใน ทำให้กองทัพของเขาเพลี่ยงพลั้งล้มตายราวกับฝูงแมลงบินเข้ากองเพลิง น้องชายคนเล็กผู้ถือครองพลัง ‘ควบคุมเงา’ ได้สูญเสียแขนทั้งสองข้าง บิดาผู้ถือครองพลัง ‘บทเพลงแห่งปีศาจ’ ได้ถูกกรีดเย็บริมฝีปากจนไม่อาจเอื้อนเอ่ย น้องสาวผู้ถือครองพลัง ‘เพลิงเนตร’ ได้สูญเสียดวงตาทั้งสองข้าง และมารดาถูกแทงเข้าที่ไหล่ใกล้หัวใจและกำลังเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ส่วนเขาถูกจ้วงแทงตามร่างกายนับร้อยแผล แม้จะยังตั้งหลักสู้สุดตัว แต่ก็เกินกำลังจนแทบล้มทั้งยืน เมื่อวานนี้...พวกเขาทุกคนกำลังจะตาย หากไม่ใช่เพราะถานอ้ายเยว่ช่วยชีวิตไว้ พวกเขาก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ และเผ่าพันธุ์มนุษย์อาจถูกกวาดล้างจนสิ้นสูญ อ้ายเยว่ยื่นมือเข้ามาช่วยทุกคนโดยแลกกับชีวิตของนาง! “แม่ไม่คิดเลยว่าพวกเราจะหวนคืนกลับมาในวันนี้ ถ้าเร็วกว่านี้อีกสักปีสองปีก็คง...” เฉิงหวังเล่ยหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินน้ำเสียงเศร้าของมารดา เขาจึงหันไปหาแล้วใช้สองแขนโอบกอดมารดาเอาไว้อย่างปลอบโยน “สิ่งที่ท่านแม่ทำเพื่อพวกเรานั้นยิ่งใหญ่และไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ข้าจะไม่มีวันลืมความเสียสละในครั้งนี้ของท่านแม่เลย ไม่ว่าพวกเราจะย้อนกลับมาวันใดหาใช่สิ่งที่ต้องเพ่งโทษ เพราะสิ่งสำคัญคือวันนี้ เวลานี้ ชั่วขณะนี้ พวกเรามาทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีที่สุดกันเถอะขอรับ” “นะ...นั่นสินะ” เฉิงเข่อชิงพยายามเม้มริมฝีปากที่สั่นระริก นางในฐานะฮูหยินแห่งสกุลเฉิง เป็นมนุษย์ผู้มีเศษเสี้ยวเซียนและยังเป็นผู้ถือครอง ‘ศิลาหวนคืน’ ศิลาที่มีเพียงหนึ่งเดียว ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นางได้มีโอกาสใช้มันเพื่อให้ครอบครัวของนางหวนคืนกลับมา หากไม่ใช่เพราะลูกสะใภ้ช่วยชีวิต นางและครอบครัวคงตายในสนามรบ ไม่มีโอกาสได้ใช้ศิลาหวนคืนที่เก็บรักษาเอาไว้ภายในห้องลับของตระกูล “นับจากนี้ชีวิตของพวกเราจะทำเพื่ออ้ายเอ๋อร์ จะทำให้นางมีความสุข และสมหวังในทุกสิ่งที่นางปรารถนา” ฮูหยินเฉิงเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา แค่ได้เห็นสามี บุตรชายคนโต บุตรสาวคนรอง บุตรชายคนเล็กกลับมามีร่างกายครบสามสิบสองอีกครั้ง มีลมหายใจอีกครั้ง ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว “พวกเราล้วนเป็นหนี้บุญคุณลูกสะใภ้” ประมุขเฉิงรวบร่างภรรยาและบุตรทั้งสามเข้ามากอด ทุกคนต่างตั้งปณิธานว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ถานอ้ายเยว่มีความสุขที่สุด ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยสิ่งใดก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม