บทนำคลั่งรัก ก้อนกรวดแห่งสกุลถาน
บทนำคลั่งรัก
ก้อนกรวดแห่งสกุลถาน
ไร้ค่า
เวลาที่หัวใจเหนื่อยล้า...
เวลาที่ท้อแท้สิ้นหวัง...
เวลาที่รอบตัวเต็มไปด้วยความเกลียดชัง...
เมื่อสามสิ่งมารวมกัน บีบคั้นหน่วงหนักในหัวใจราวกับกำลังคืบคลานอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิดดั่งคนดวงตามืดบอด อาจเกิดคำถามกับตนเองว่า
‘ข้าเกิดมาทำไม?’
‘ข้าควรจะตายไปเสีย!’
ใช่แล้ว... เกิดคำถามนั้นซ้ำๆ ในหัวสมองของข้า คนไร้ค่าเช่นข้าควรจะตายไปเสีย ไม่ควรจะมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นเพียงก้อนกรวดไร้ค่าแห่งสกุลถาน เป็นเพียงของเล่นชั้นต่ำให้ใครๆ ย่ำยีถากถางดูแคลน
หยาดน้ำตามากมายไหลรินผสานไปกับสายฝนที่เปียกชุ่ม ฝนห่าใหญ่ตกลงมาราวกับฟ้ารั่ว ร่างกายของหญิงสาวหนาวสั่นจนริมฝีปากม่วงคล้ำ ใบหน้าซีดขาว ลมหายใจรวยรินราวกับจะขาดห้วง
ทว่าทั่วบริเวณนั้นกลับเหือดแห้ง ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอกและลมฝน มีเพียงจุดที่ ‘ถานอ้ายเยว่’ ถูกเถาวัลย์ตรึงมัดข้อมือข้อเท้ายกขึ้นสูงเท่านั้นที่สายฝนและลมแรงโหมกระหน่ำใส่นางไม่หยุด
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เสียงหัวเราะสนุกสนานราวกับกำลังรื่นรมย์ที่เห็นน้องสาวร่วมบิดาเจ็บปวดเจียนตาย ดั่งเสียงกระซิบจากนรกที่ทำให้อ้ายเยว่รู้สึกคล้ายถูกกดศีรษะให้จมลงสู่หนองน้ำสีดำเหม็นเน่า
“ฆ่าข้าเสีย! ได้โปรดฆ่าข้า!”
อ้ายเยว่เค้นเสียงลอดไรฟันออกไป หัวใจของนางไม่อาจแตกสลายไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว สิบแปดปีที่นางมีชีวิตดั่งหนูท่อสกปรกในจวนสกุลถาน ไม่มีเลยสักวันที่นางจะได้ลิ้มรสกับความสุข
ความสุขเป็นเช่นไร...
การกินอิ่มเป็นเช่นไร...
การนอนหลับสนิทเป็นเช่นไร...
ถานอ้ายเยว่คนนี้ไม่เคยพบพานสิ่งเหล่านั้นเลยแม้เพียงเสี้ยวลมหายใจ
“นังโง่! หากเจ้าตายไป พวกเราก็หมดสนุกกันพอดีสิ”
หญิงสาวรูปร่างงดงามผู้สวมใส่เสื้อผ้าราคาแพงหรูหราเอ่ยขึ้น แสยะยิ้มเหี้ยมมองดูน้องสาวต่างมารดาด้วยความสะอิดสะเอียน ก่อนจะผายมือเร่งสายฝนให้ตกแรงขึ้นอีก แรงขึ้นอีก!
นางคือบุตรสาวคนโตของตระกูลถาน ‘ถานเยว่เสียง’ ผู้ถือกำเนิดจากฮูหยินภรรยาเอก อีกทั้งยังสืบเชื้อสายพลังเซียนจากบิดา จึงเป็นผู้ควบคุม ‘ธาตุน้ำ’ ได้ดั่งใจนึก นางเติบโตขึ้นมาพร้อมกับชื่อเสียงและอำนาจ ทุกคนต่างนอบน้อมหวาดกลัวและปฏิบัติต่อนางราวกับเจ้าชีวิต
“นั่นสิ...การตายดูจะปรานีเกินไปสำหรับก้อนกรวดเช่นเจ้า”
‘ถานเยว่รู่’ เอ่ยสมทบก่อนจะผายมือควบคุมเถาวัลย์ให้กระชากแขนขาของน้องสาวต่างมารดาแรงๆ สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส นางคือบุตรคนที่สามของตระกูลถานอันเกิดจากอนุ ถือกำเนิดพร้อมพรสวรรค์ ‘ธาตุไม้’ แม้การควบคุมธาตุของนางจะเป็นเพียงชั้นต้น กระนั้นการถือครองพรสวรรค์กลับทำให้นางได้รับอภิสิทธิ์มากมายจนหยิ่งผยองชูคออย่างทะนงตน
“น่าจะพอได้แล้ว หากนางตายเสียตั้งแต่ตอนนี้ วันหน้าพวกเราพี่น้องคงไม่มีอะไรให้เล่นสนุกด้วยกันอีก”
คุณชายเพียงคนเดียวของสกุลถาน บุตรชายคนที่สองผู้เกิดมาพร้อมกับพลัง ‘ธาตุลม’ และเป็นว่าที่ผู้นำตระกูลคนต่อไปเอ่ยพลางยกมือให้ลมพายุที่หมุนวนรอบตัวน้องสี่หยุดลง เพราะเห็นว่าลมหายใจของ ‘ของเล่น’ จวนเจียนจะแตกดับเต็มที
“นั่นสินะ หากมากไปกว่านี้เกรงว่าอาจถูกบิดาเอ็ดเอาได้”
คุณหนูใหญ่และคุณหนูสามพากันถอนพลังควบคุมธาตุน้ำและธาตุไม้ออกแทบจะพร้อมๆ กัน ยังผลให้เถาวัลย์คลายตัวปล่อยอ้ายเยว่ให้ร่วงหล่นสู่พื้น สายฝนห่าใหญ่หยุดลงทันที
ตุ๊บ!
ถานอ้ายเยว่ตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดทั่วร่างจนไม่อาจแม้แต่จะโงหัวขึ้นจากพื้นดินเปียกแฉะ
จากนั้นคุณหนูเยว่เสียงจึงหันไปหาพ่อบ้าน ซึ่งยืนรอราวกับรู้หน้าที่ของตนเองอยู่ก่อนแล้ว
“พ่อบ้าน”
“ขอรับคุณหนูใหญ่”
“จัดการเหมือนเดิม”
“ได้เลยขอรับ”
คุณหนูใหญ่แห่งสกุลถานเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินจากไป ไม่แม้แต่จะเหลือบแลไปยังสิ่งมีชีวิตโสโครกที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นดิน คุณชายรองและคุณหนูสามเดินตามพี่สาวคนโตออกไป ก่อนที่ทั้งสามจะพูดคุยถึงภัตตาคารแห่งใหม่ และนัดหมายกันว่าจะไปลิ้มชิมอาหารรสเลิศอย่างสนุกสนาน
ถานอ้ายเยว่มองตามแผ่นหลังของพี่ๆ ทั้งสามด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ‘ข้าอยากตาย!’ นั่นคือสิ่งที่นางเฝ้าอธิษฐานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ทว่าแม้แต่ความตายนางก็ไม่อาจเลือกได้
พ่อบ้านปราดเข้าไปประคองร่างซีดเซียว ก่อนจะยัดยาลูกกลอนราคาแพงเข้าไปในปากของคุณหนูสี่ ยาที่ช่วยบำรุงพลังปราณที่ใกล้แตกดับให้กลับฟื้นคืนโดยเร็ว เพื่อที่คุณหนูสี่ผู้นี้จะมีชีวิตอยู่เป็นที่ระบายอารมณ์แก่บุตรทั้งสามของประมุขถานต่อไป
อ้ายเยว่ถูกปล่อยให้นอนสลบอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีแม้แต่สาวใช้คนใดเหลียวแล นั่นเพราะนางคือบุตรที่ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่มีพลังใดๆ ติดตัว เป็นเพียงก้อนกรวดไร้ค่าแห่งสกุลถาน
เมื่อพันปีก่อนบรรพบุรุษของสกุลถานเคยครองคู่ร่วมกับท่านเซียน พลังเซียนถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวพลังแห่งเซียน ทว่านั่นกลับเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์คนอื่นๆ
เมื่อครั้งที่ถานอ้ายเยว่ถือกำเนิด ประมุขถานหมายมั่นว่าบุตรคนสุดท้องจะต้องถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับ ‘ธาตุไฟ’ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ตระกูลถานมั่งคั่งจนไม่มีใครหาญเทียบเคียง
แต่ทว่าเด็กคนนี้กลับไร้ค่า นอกจากนางจะไม่มีพลังใดๆ ในร่างกายแล้ว นางยังไม่มีปราณเซียนไหลเวียนอยู่ในร่างกายอีกด้วย นี่จึงเป็นครั้งแรกในรอบพันปีที่สายเลือดของสกุลถานปราศจากปราณเซียน
อีกทั้งประมุขถานไม่อาจมีบุตรได้อีกนับตั้งแต่บุตรสาวคนที่สี่ถือกำเนิดขึ้น ความหวังที่สกุลถานจะได้ครอบครองธาตุไฟจึงดับสูญไปโดยปริยาย
กาลกิณี!
หายนะ!
มันคือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เด็กคนนี้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่แสนอ่อนแอและต่ำต้อย นำความเสื่อมมาสู่ตระกูลได้อย่างน่าเดียจฉัน
เมื่ออายุห้าขวบอ้ายเยว่จึงถูกขับไล่ให้ไปอาศัยอยู่ที่กระท่อมหลังเล็กๆ ท้ายจวน ไม่มีแม้แต่สาวใช้สักคนดูแล ส่วนมารดาผู้ให้กำเนิดยินดีที่จะรับเงินก้อนโตจากสามีเพื่อหย่าร้าง แล้วเดินทางออกจากสกุลถานโดยไม่คิดแม้แต่จะพาบุตรสาวเพียงคนเดียวไปด้วย
มารดาทิ้งนางเอาไว้ ทั้งที่รู้ว่าคนสกุลถานจงเกลียดจงชังนางสักเพียงใด
‘ความรัก’ เป็นเช่นไรหนอ ความอบอุ่นจาก ‘อ้อมกอด’ ให้ความรู้สึกอย่างไรหนอ ข้าไม่เคยได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว