“เจ้าเอ่ยถึงฮ่องเต้องค์ก่อนด้วยเหตุใดกัน เจ้าเป็นใครกันแน่ เจ้าเป็นไส้ศึกอย่างนั้นหรือ” ว่าแล้วบุรุษผู้นั้นก็ย่างกรายถอยหลัง คว้าดาบข้างตัวแล้วยกขึ้นมา
ทว่าในเวลานี้นางไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขา นางจึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาอย่างละเหี่ยใจที่ตนนั้นดันหลุดมายุคนี้ทำไมกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางยังนอนอยู่บนตั่งที่นิ่มและอุ่น จู่ ๆ นางก็ถูกดูดเข้ามาในซีรีส์ ที่นางเพิ่งได้ชมไปก่อนที่จะเข้านอน
“อยากจะจับฉันก็เอาเลย ฉันเหนื่อยที่จะหนีไปไหนแล้ว ง่วงก็ง่วง แถมหนาวก็หนาว และถ้าเป็นไปได้ช่วยหาเสื้อผ้ามาให้ฉันเปลี่ยนด้วย” นางว่าพลางยื่นแขนมาด้านหน้ายอมจำนนเขาแต่โดยดี ในขณะที่เหล่าผู้คนกลุ่มน้อยใหญ่ค่อย ๆ สลายตัวไปทำหน้าที่ของตน
“ข้าจับเจ้าไปแน่ ว่าแต่เจ้ามีชื่อเรียงนามว่าอะไร ที่เจ้าเอ่ยมา ก่อนหน้า ข้ามิอาจเข้าใจในสิ่งที่เจ้ากล่าวออกมา” เขาว่าพลางเก็บดาบ เข้าไปในฝักตามเดิม เพราะว่าบุรุษผู้นี้เพิ่งจะออกเวรมาได้ไม่นาน เขาเป็นถึงแม่ทัพ ประจำการอยู่ทัพหน้าทุกครั้ง และได้ยศได้ตำแหน่งมามากมาย
“ฉันมีชื่อว่าพร” นางกล่าวออกมา แต่เขากลับทำสีหน้าไม่เข้าใจเหมือนเช่นเคย ทว่านางนึกอะไรขึ้นมาได้ “ฉันชื่อเฟยฮวา” นางยืดอก อย่างมั่นใจว่าชื่อนี้น่าจะเหมาะกับนางและยุคสมัยที่นางกำลังเผชิญหน้า นางได้ชื่อนี้มาจากซีรีส์ที่นางได้ชมไปก่อนหน้านี้
“ดอกไม้ที่โบยบิน นี่คือความหมายชื่อของเจ้า” เขาว่าพลางพยักหน้าตอบรับ “ข้ามีนามว่า เลี่ยงหรง หรือลู่เลี่ยงหรง ชื่อของข้ามีความหมายว่าเกียรติยศที่สว่างไสว คำว่าลู่ มีความหมายว่าแผ่นดิน ข้าอยู่ในสกุลลู่ เป็นตระกูลขุนนางชนชั้นกลาง และเป็นตระกูลที่สืบทอดตำแหน่งแม่ทัพจากรุ่นสู่รุ่น” ชายดังกล่าวว่าพลางย่างกรายไปข้างหน้า เพื่อพานางไปยังจวนของตน ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากวังหลวง
‘นี่ฉันหลุดเข้ามาในซีรีส์จริง ๆ เหรอ ถ้าฉันเจอยัยผู้หญิงคนนั้น จะตบและสั่งสอน บังอาจมาหักอกแม่ทัพที่หล่อเหลา แต่ว่าเขาใช่คนเดียว กับที่ฉันเพิ่งดูไปเมื่อคืนรึเปล่านะ นิสัยต่างราวฟ้ากับเหว เจอฉันก็จะจับฉันเลยเหรอ ผู้ชายอะไรไม่อ่อนโยนเอาซะเลย ไม่แปลกที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ รักเขา’
นางขบคิดเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างเขากับสาวใช้ที่นางได้ชมเรื่องราวในซีรีส์ที่เพิ่งได้ดู
ถ้าถามนางว่าหลุดมายุคนี้หรือในหนังซีรีส์ที่นางได้ชมได้อย่างไร คงต้องย้อนกลับไปในช่วงหลังจากที่นางหลับ ปลายนิ้วของนางกลับไปแตะโดนปุ่มหน้าจอที่สแกนลายนิ้วมือได้โดยไม่ต้องกดรหัสผ่านเข้าไป ด้านในและพบกับซีรีส์ที่นางเปิดค้างเอาไว้ ในระหว่างที่หน้าจอโทรศัพท์ของนางกำลังเล่นอยู่นั้น เกิดลมพายุพัดกรรโชกจากทางด้านนอกส่งผลให้เทคโนโลยีมีปัญหา และดวงจันทร์เปล่งประกายเป็นสีน้ำเงินในคราเดียวกัน นางจึงถูกดูดเข้ามาในโทรศัพท์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปัจจุบันที่นางอาศัยอยู่
“นี่นายคงไม่พาฉันไปหาฮ่องเต้ใช่มั้ย” นางกระซิบกระซาบถามเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ในขณะที่ข้อมือของนางถูกผ้าบางมัดเอาไว้ เขากลัวว่านางจะวิ่งหนีหายไป ในขณะที่มือของเขาจับแขนของหญิงสาวเอาไว้ไม่ห่างกาย
“ข้าไม่พาเจ้าไปหาฮ่องเต้หรอก ถ้าข้าพาเจ้าไปสภาพเช่นนี้ หัวของเจ้าคงได้หลุดออกจากบ่าเป็นแน่แท้” เขาชายตามองสตรีข้างกาย ที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“งั้นนายรีบพาฉันไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันอายคนอื่นจะแย่แล้ว” นางกล่าวพลางในขณะที่สายตาสอดส่องไปรอบ ๆ ด้าน กลับพบว่าผู้คนเหล่านั้นได้นำนิ้วมาชี้นางว่าเหมือนตัวพิลึก วาจาก็แปลกประหลาดเช่นเดียวกัน ทำเอาผู้คนที่เห็นนางต่างก็ถอยห่างออกเป็นวงกว้าง กลัวว่านางเป็นตัวอัปมงคลของเมืองหลวงแห่งนี้
“ข้าคงต้องให้สาวใช้หรือมารดาของข้า สอนเจ้าเรื่องกิริยา มารยาท รวมไปถึงสิ่งที่เจ้าเปล่งวาจาออกมา เจ้าเป็นใครกันแน่ แม่นาง” เลี่ยงหรงหยุดชะงักเท้า
ณ จวนสกุลลู่ เมื่อเลี่ยงหรงและเฟยฮวาได้ย่างกรายเข้ามาในจวนก็พบกับสาวใช้ในเรือนที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศ ชุดบางหลากสี จนนางอดอิจฉาบุรุษผู้นี้ไม่ได้ ที่เขามีสาวใช้คอยปรนนิบัติรับใช้เป็นอย่างดี
“กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่ทัพฮูหยินรอท่านอยู่ในห้องน้ำชาเจ้าค่ะ” สาวใช้คนเดิมกล่าวในขณะที่ย่อเข่าเคารพผู้เป็นนาย พร้อมกับเหล่าสาวใช้อีกหลาย ๆ คน
“คนใช้เยอะชะมัด แถมสวยอีกต่างหาก จะแอบรักคนใช้ก็ไม่แปลก” นางบ่นพึมพำกับตนเอง ในขณะที่สายตาสอดส่องไปทั่วทั้งจวน
“เจ้าเป็นใครกัน เหตุใดเจ้าถึงมากับคุณชายลู่ อาภรณ์ที่นางสวมใส่ก็แปลกประหลาด วาจาที่กล่าวออกมาช่างไม่คุ้นหู” สาวใช้คนเดิมกล่าว พลางส่งสายตาเชือดเฉือนมาทางเฟยฮวาอย่างไม่เป็นมิตร
สาวใช้ผู้นี้ เป็นสตรีผู้เดียวกับที่ท่านแม่ทัพเคยตัดพ้อกับนางเอาไว้ก่อนที่เฟยฮวาจะนอนหลับใหลแล้วมาโผล่ในยุคของเขา ซึ่งในขณะนี้เรื่องราวต่าง ๆ ไม่ได้ดำเนินไปตามเนื้อเรื่อง แต่เหมือนนางได้หลุดเข้ามาในยุคสมัยเก่าจริง ๆ เมื่อหลายร้อยปีก่อน