ตอนที่ : 9 มัดแมน...ล่าหัวคน

1503 คำ
4 มัดแมน...ล่าหัวคน "นี่ไฟมาร ข้ามีเรื่องอยากจะถาม" กอพเยียรวบรวมความกล้าเอ่ยถามคนที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ตรงหน้า ระหว่างทางเดินกลับไปยังที่พัก "เรื่องอะไร" ไฟมารถามกลับพร้อมกับผิวปากไปอย่างอารมณ์ดี "เรื่องผกา นางไม่ต้องเป็นเมียโจรทั้งฝูงได้ไหม" คำพูดของนางเป็นผลให้มหาโจรหยุดเดินกึกลงในทันที หันมามองหน้าคนพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึง ก่อนก้าวพรวดเดียวไปถึงตัวของกอพเยีย จากนั้นก็ยื่นมือออกไปบีบสันกรามของนางเอาไว้แน่น "อื้อ" เสียงร้องด้วยความตกใจปนเจ็บดังขึ้น "จำใส่หัวของเจ้าเอาไว้นะกอพเยีย พวกข้าเป็นคนไม่ใช่สัตว์ที่เจ้าจะมาเรียกว่าฝูงได้" ไฟมารสะบัดฝ่ามือออกจนนางเซไปด้านหลังเล็กน้อย กอพเยียเพิ่งรู้ตัวว่าได้ทำผิดไป ไม่คิดว่าไฟมารจะโมโหง่ายเช่นนี้เพียงเพราะคำว่า ฝูง ที่นางเอ่ยออกมา ทั้งที่เมื่อครู่ยังอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ เชียว "ข้าขอโทษ" น้ำเสียงอ่อยๆ ของคนเป็นเมียทำให้อีกคนหันมามองด้วยสายตาโกรธเคือง "ระวังปากของเจ้าเอาไว้ให้ดีๆ นะกอพเยีย ถ้าสมุนของข้าคนอื่นได้ยินคำพูดที่ดูแคลนพวกมัน เจ้าอาจได้เป็นเมียโจรทั้งห้าสิบคนอย่างแน่นอน" คำขู่ของไฟมารทำเอานางผวาด้วยความกลัว ก้มหน้างุดมองพื้นทางเดิน ก่อนจะเอ่ยปากถามเขาเบาๆ อีกครั้งหนึ่ง "เรื่องผกา..." "หึ ตัวเองยังเอาไม่รอดยังจะนึกห่วงสาวใช้อีก ขอบอกนะว่าถ้านางไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน หรือไม่มีสมุนโจรคนไหนรับนางเป็นเมีย นางก็ต้องเป็นเมียของโจรทั้งหมดนี่!" พูดจบไฟมารก็เดินหนีไปในทันที ปล่อยให้นางพยุงร่างอันแสนจะอ่อนล้ากลับที่พักตามลำพัง กอพเยียรีบสาวเท้าตามคนข้างหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนสะดุดก้อนหินก้อนหนึ่งทำให้หยุดเดินลง แล้วหันไปมองบริเวณรอบๆ ป่า ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา หนี เมื่อเขาสั่งสมุนไม่ให้เข้าใกล้บริเวณนี้ ก็ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ฝีเท้าของนางเริ่มจะช้าลง มองตามแผ่นหลังหนาของไฟมารที่เดินกลับไปลิ่วๆ เพียงลำพัง คงเพราะเคืองเรื่องเมื่อครู่นี้ ไม่ช้าก็ลับสายตาไป นางรีบซอยฝีเท้าของตนเองเข้าไปในป่ากว้างโดยไม่รู้ทิศทาง ขอให้ไปให้พ้นๆ ไอ้มหาโจรไฟมารที่แสนจะป่าเถื่อนนั่นเป็นพอ วิ่งผ่านต้นไม้น้อยใหญ่เข้าไปเรื่อยๆ กระทั่งจากไม้พุ่มเปลี่ยนเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ และอาทิตย์ก็เริ่มจะอับแสงลงไปเรื่อยๆ "แฮก แฮก แฮก" เสียงหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยยามหยุดพัก นางวิ่งไปได้พักใหญ่ๆ ก็ทรุดตัวลงนั่งอยู่ที่โคนของต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เมื่อหยุดนิ่งนางเพิ่งสำเหนียกได้ว่าป่าที่นางวิ่งเข้ามาเมื่อครู่ใหญ่มีสภาพที่เปลี่ยนไป กลายเป็นต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้า พร้อมกับความมืดที่แผ่เข้าปกคลุมทำให้บรรยากาศวังเวงแลดูน่ากลัว ขาของนางเริ่มสั่นเมื่อความน่ากลัวของป่าใหญ่แล่นสู่จิตใจ หันหลังจะกลับไปทิศทางเดิมที่วิ่งมาก็ทำไม่ได้เพราะว่านางจำเส้นทางไม่ได้เสียแล้ว ร่างงามทำได้เพียงยืนเคว้งคว้างกลางความมืดในป่ากว้าง มีเพียงแสงจันทราลอดส่องลงมาเพียงเล็กน้อย กอพเยียตัดสินใจกลับมานั่งอิงโคนต้นไม้ใหญ่ มือบางกระชับสาบเสื้อของตนเองเข้าหากันแน่น เสียงจิ้งหรีดเรไรที่ส่งเสียงท่ามกลางความมืดและเงียบ ทำให้หญิงสาวตัวน้อยๆ คนหนึ่งถึงกับหวาดกลัวไปรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้ายหรือความกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น ตอนนี้กอพเยียกลัวไปหมดเสียทุกอย่าง ปิดเปลือกตาลงแน่นไม่อยากลืมขึ้นมามองอะไรอีกต่อไป ในความมืดที่น่าสะพรึงกลัวนี้ กรอบ...แกรบ... คนที่เพิ่งหลับไปได้ชั่วครู่ใหญ่จำต้องตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างที่ผิดปกติไป สายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาสู่ผิวกายจนสะท้านเยือกไปทั่วสรรพางค์ กอพเยียกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณที่เต็มไปด้วยความมืดด้วยหัวใจที่สั่นกลัว วูบ!!! นางสะดุ้งเฮือก! เหมือนมีอะไรบางอย่างสีขาวเคลื่อนไหวผ่านไปมาในความมืดสลัว แต่กลับมองเห็นไม่ชัดว่ามันคืออะไร ร่างงามค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นยืนแผ่นหลังพิงกับต้นไม้เอาไว้แน่น กวาดสายตามองไปรอบข้างอย่างหวาดกลัว วูบ! "กรี๊ด!!!" เสียงกรีดร้องดังลากยาวขึ้นอย่างโหยหวน เมื่อสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มีสีขาวโพลนทั้งตัวเคลื่อนมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนหัวของมันใหญ่โตกว่าคนทั่วไปเท่าหนึ่ง รูปร่างแปลกประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวด้วยการไม่มีลูกตา แถมยังมีเขี้ยวงอกยาวออกมาจากจมูกอันแสนจะอัปลักษณ์ เพียงเท่านั้นสติของกอพเยียก็ดับวูบไป ด้านไฟมารพร้อมสมุนโจรกำลังเคร่งเครียดจากการหายตัวไปของกอพเยีย มหาโจรยืนหน้าขรึมอยู่กลางลานด้วยแววตาดุน่ากลัว ก่อนหน้าที่กลับมาถึงที่พักชั่วครู่ใหญ่ๆ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจนาง นึกว่าคงเดินไปรวมกลุ่มกับสาวใช้ของนางเอง จนพระอาทิตย์อัสดงเขาจึงได้รู้เรื่องเมื่อผกาเดินมาถามหากอพเยียกับเขา มหาโจรจอมเถื่อนได้แต่กัดฟันกรอดด้วยไม่คิดว่านางจะกล้าหนีเขา เผียะ! ขินฟาดฝ่ามือหนักของตนลงไปยังใบหน้าของผกา ที่ถูกมัดอยู่ที่เสาต้นหนึ่งกลางลาน ด้วยคิดว่านางอาจจะรู้เห็นเป็นใจในการหนีไปครั้งนี้ของนายสาว "ขะ...ข้าไม่รู้จริงๆ" นางปฏิเสธออกมาด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร เผียะ! คราวนี้ใบหน้าอีกข้างหันกลับบ้างตามแรงตบ ผกาถึงกับน้ำตาร่วงพรูด้วยความเจ็บ สะอื้นไห้ออกมาจนสุดเสียง "พอแล้วขิน นางคงไม่รู้เรื่องจริงๆ ถ้านางรู้นางคงไม่กล้าเดินมาถามข้าหรอก" ไฟมารเป็นคนเอ่ยห้าม หนังตากระตุกด้วยความโกรธที่ถูกเมียตนเองลูบคมเหลี่ยม ถ้ารอดกลับมาได้งานนี้จะมีรางวัลให้อย่างงามเลยทีเดียว "ไปตามล่าตัวนางกลับมา!" มหาโจรตะโกนลั่นป่าด้วยความโกรธ ไม่ช้าบรรดาลูกสมุนทั้งหมดก็จุดคบเพลิงนำทาง ในการออกตามล่าเมียหัวหน้าของพวกมันกลับคืนมา โดยปล่อยให้ผกาถูกมัดตากลมตากน้ำค้างอยู่กลางลานเพียงลำพัง โทษฐานที่เจ้านายของนางบังอาจหลบหนีไป 'หนีให้พ้นนะคะคุณหนู ถ้าถูกจับกลับมาไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง' ผกาหลับตาลง แล้วเฝ้าภาวนาให้กอพเยียหลบหนีไปให้พ้นเงื้อมมือของโจรเถื่อนเหล่านี้ แสงไฟจากคบเพลิงสว่างวาบไปทั่วบริเวณป่ายามค่ำคืน เหล่าสมุนโจรทั้งหมดเดินเรียงหน้ากระดานเพื่อออกตามหากอพเยีย โดยการแกะรอยที่นางทิ้งเอาไว้ตามทางเดิน กระทั่งล่วงเลยเข้าสู่เขตป่าดงทึบทุกคนจึงหยุดเพื่อรอฟังคำสั่งของไฟมาร "ตามหาต่อไป" ไฟมารเอ่ยปากสั่ง เดินนำหน้าทั้งหมดเข้าไปในป่าลึกที่ถ้าไม่จำเป็นเหล่าโจรก็จะไม่เหยียบย่างเข้ามาเด็ดขาด เพราะว่าเจ้าที่ที่นี่ค่อนข้างหวงแหนอาณาเขต "หัวหน้ารอยของนางหายไปจากตรงนี้" สมุนโจรที่มีรูปร่างสันทัดสีผิวสีดำเข้มนามว่ามืดร้องบอกไฟมาร เมื่อตามแกะรอยของกอพเยียมาจนสุดเส้นทางแล้วรอยของนางก็หายไป ทำให้ทุกคนพากันกรูเข้าไปดูร่องรอยที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ "รอยเท้านางหายไป แต่ว่ามีรอยเท้าของสิ่งอื่นเข้ามาแทนที่" ขินที่ยืนอยู่ใกล้เคียงเอ่ยสมทบ รอยเท้านับสิบคู่ที่ปรากฏอยู่บนพื้นดิน ซ้ำยังมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้ไฟมารหน้านิ่งเครียดขึ้นในทันที มันเป็นรอยเท้าของสิ่งมีชีวิต ทว่ารอยเท้าเหล่านั้นกลับไม่ได้ใส่รองเท้า ทำให้เดาได้ว่าพวกมันเป็นใครและถ้าหากได้ตัวนางไป การมีชีวิตรอดกลับมานับเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก "ตามรอยพวกมันต่อไป" คำสั่งของไฟมารทำให้ลูกสมุนหันไปมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าให้แก่กันแล้วทำตามคำสั่งแต่โดยดี ทั้งที่ภายในก็อดสั่นกลัวไม่ได้ที่ต้องก้าวย่างเข้าสู่ดินแดนทมิฬของพวกมัดแมน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม