"ไฟมาร! ท่านจะทำอะไร!" กอพเยียร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะบิดลำตัวเป็นเกลียวเมื่อกระแสความเร่าร้อนบางอย่างกำลังละเลงอยู่ยังเนินหญ้าแสนงาม นางเอนแผ่นหลังลงที่โขดหินจนสนิทแนบแน่น มือก็ไขว่คว้าชะง่อนโขดที่ยื่นออกมาเอาไว้
ซู่ววว!!!
ไฟมารกลั้นหายใจใต้น้ำได้เพียงเท่านั้นก็โผล่หัวขึ้นมา เห็นดวงหน้างามของกอพเยียแดงจัดจนร้อน ยิ่งทำให้เจ้าตัวได้ใจ
"ข้ายังหาบาดแผลของเจ้าไม่เจอเลยกอพเยีย"
ซู่ววว!!!
"ไฟมาร! ไม่เอานะขึ้นมาเดี๋ยวนี้" กอพเยียโวยวายด้วยน้ำเสียงดังลั่น ทว่าคนที่อยู่ใต้น้ำหาได้สนใจไม่ คราวนี้ไฟมารยกท่อนขาอีกข้างหนึ่งของนาง ให้พาดเกยอยู่บนไหล่ทั้งสองข้าง ใช้ฝ่ามือด้านหนึ่งดันสะโพกของนางให้ลอยต้านกระแสน้ำ ส่วนอีกข้างก็แยกต้นขาด้านในออกเพื่อเปิดทางให้ปลายลิ้นสวาทของตนเอง ได้ทำการสืบค้นหาร่องรอยบาดแผลต่อไป
เสียงครางจากปากของกอพเยียดังขึ้น เมื่อได้รับการซอกซอนปาดป่าย ไล้เลียวนอยู่รอบๆ เนินหญ้า ก่อนจะสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อมันได้สำรวจเข้าไปภายใต้โพรงไม้แสนงาม ละเลงซอนหาดอกไม้งามที่กลีบดอกซ่อนตัวเบียดกันอยู่ตามซอกหลืบ ก่อนจะสะดุดปลายลิ้นเข้ากับบ่อน้ำทิพย์จากสรวงสวรรค์ที่ไหลเอ่อออกมาให้ลิ้มรสเล่น
ซู่ววว!!!
"ถ้ายังอยู่ในน้ำข้าคงขาดใจตายก่อนแน่กอพเยีย" ลมหายใจหอบกระเส่าพ่นออกมาด้วยความเหนื่อยที่ต้องกลั้นหายใจภายใต้น้ำ ไฟมารจึงอุ้มร่างเปลือยของนางให้ขึ้นจากผิวน้ำ โดยที่นางยังคงไม่ทันได้รู้สึกตัวเพราะว่าความรู้สึกหวามเมื่อสักครู่ยังเล่นงานอยู่ไม่สร่างซา
แผ่นหลังบางแตะเข้ากับดอกหญ้าริมลำธาร กอพเยียก็สะดุ้งสุดตัวอีกหนเมื่อไฟมารก้มลงประกบเรียวปากอิ่มของนางเอาไว้แน่น หนวดเคราสากของมหาโจรยังคงสร้างความปวดแสบให้นางแทบทุกครั้งไป ไม่ช้าร่างงามงดที่ปราศจากอาภรณ์ก็เปลี่ยนจากสีขาวเนียนลออมาเป็นสีชมพูระเรื่อ ก่อนจะกลายสีเป็นแดงเถือกไปทั่วทั้งตัว
"ข้าอายผีสางเทวดา ไฟมาร...อย่าเลยนะ" นางเอ่ยปากขอเมื่อไฟมารถอนจูบออกแล้ว
"อายทำไม ผีสางสิควรอายเจ้า ดูสิเจ้างามออกปานนี้กอพเยีย" สายตาชื่นชมความงามเบื้องหน้า พร้อมกับน้ำลายที่กลืนลงคอดังเอื๊อก คนที่นอนอยู่บนพรมหญ้าถึงกับตัวสั่นระริกด้วยความหวั่นกลัว
"เดี๋ยวมีคนมาเห็น"
"ไม่หรอกกอพเยียข้าสั่งแล้ว ไม่มีใครกล้ามาแถวนี้หรอก" ฝ่ามือหนาสั่นเล็กน้อยเมื่อต้องเอื้อมออกไปวางแหมะอยู่บนเต้างามข้างหนึ่ง ความอวบอัดที่ดันฝ่ามือหนากร้านของตนเอง ทำให้ไฟมารออกแรงขยำมันเล่นอย่างชอบใจ
"อื้อ"
"ข้าหาแผลของเจ้ายังไม่เจอ คงต้องหาหลายๆ รอบ" กอพเยียถึงกับสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ใบหน้าสากเคราเคลื่อนลงสู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว ต้นขาอวบถูกฝ่ามือของไฟมารดันแยกออกจากกัน ไม่ช้าปลายลิ้นร้อนก็เลาะลัดเข้าสู่โพรงหญ้าแสนงาม เพื่อทำหน้าที่ในการค้นหาต่อไป กอพเยียแอ่นลำตัวขึ้นสูงยามเมื่อถูกทักทายอย่างลึกซึ้ง มือของนางเอื้อมออกไปกำต้นหญ้าที่อยู่รอบๆ ตัวเอาไว้แน่น ก่อนจะครวญครางออกมาเมื่ออารมณ์ใคร่พุ่งทะยานสูงขึ้น
ไฟมารออกแรงดูดดึงยอดเกสรของนางเล่น ร่างอิ่มก็แอ่นผวาบิดเร่าไปมาอย่างสุดแสนจะทรมาน ก่อนที่ลิ้นสากจะผลุบหายเข้าไปยังภายในโพรงหญ้าแล้วตวัดไล้เลียจนถ้วนทั่วเนื้อนาง กอพเยียแอ่นลำตัวขึ้นสูงเรื่อยๆ กระทั่งไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป ต้องส่งเสียงร้องครางระงมดังลั่นบริเวณริมธาร ก่อนจะหลุดเสียงหวีดลากยาวเด้งตัวขึ้นสูงสุดแล้วทรุดตัวลงนอนราบกับพื้นหญ้าในเวลาต่อมา น้ำหวานจากรวงผึ้งที่อยู่ภายในก็ไหลเยิ้มออกมาสู่อุ้งปากของไฟมาร และหมดเกลี้ยงลงไปในพริบตาเดียว มหาโจรกดจูบลงยังซอกขานวลของนาง กระทั่งเปลี่ยนเป็นห่อปากแล้วดูดนวลเนื้อจนเกิดเป็นรอยจ้ำสีแดง รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อได้เห็นรอยรักของตนเองจารึกลงบนกระดาษเนื้อคนของกอพเยีย
"ข้าหาเจอแล้วกอพเยีย" ไฟมารตวัดปลายลิ้นเลียน้ำหวานที่ยังคงติดอยู่รอบบริเวณริมฝีปากของตนเองอย่างช้าๆ
"ท่านหาอะไรเจอกันแน่...ไฟมาร" กอพเยียแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเอ่ยออกมา หอบกระเส่าเร่าร้อนเกินจะบรรยายได้ เต้างามทั้งสองข้างสะท้อนขึ้นลงตามแรงหอบหายใจเหนื่อย และกระเพื่อมไหวคล้ายคลื่นเป็นระลอกริ้ว
ไฟมารหัวเราะเบาๆ ไม่ยอมตอบคำถามของนาง ร่างหนาเคลื่อนตัวลงบดเบียดกายกำยำกับร่างนุ่มนิ่ม จนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปลายลิ้นแตะชิมยอดเต้างามละเลียดไล้วนก่อนจะหายเข้าสู่อุ้งปากหนา กอพเยียจิกปลายนิ้วตรงหัวไหล่ของไฟมารสุดแรงเกิด ร่างกายบิดเร่าไปมาอย่างทรมาน ขณะที่อีกคนยังคงเมามันอยู่กับเต้างามอย่างลุ่มหลง ทั้งดูดดุนดึงขบเม้ม บีบขยำกำขยี้เป็นว่าเล่น
กระทั่งรู้สึกสาสมและหนำแก่ใจแล้ว ไฟมารจึงเงยหน้าขึ้นเลื่อนฝ่ามือไปขยุ้มสะโพกมนของนางอย่างหนักมือ แล้วดันต้นขางามข้างหนึ่งขึ้นพาดไหล่หนาของตนเอง ได้เวลาที่จะเข้าไปทักทายโพรงหญ้างามแสนหวานฉ่ำ และทันทีที่จอมพญามารคืบคลานเข้าสู่เนินเนื้องาม นางก็สะดุ้งโหยงสุดตัวด้วยความรู้สึกหวาดกลัว สองฝ่ามือของนางจึงผลักหน้าอกหนาของไฟมารออกห่างกายตน
"เป็นอะไรกอพเยีย" มหาโจรเอ่ยถามเมื่อเห็นอาการต่อต้านของเมียตนเอง
"ข้ากลัว" นางตอบด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว
"กลัวอะไรกัน ข้าเห็นเจ้าครางระงมลั่นป่า" ไฟมารแค่นหัวเราะเบาๆ ก่อนจะดันตัวพรวดรวดเดียวเข้าสู่โพรงหญ้างาม
"อ๊ะ!"
"มันจะไม่เจ็บอีกต่อไป เจ้าก็ทำตัวให้ชินกับข้าเสียเถอะกอพเยีย เรื่องแบบนี้เราคงต้องทำกันอีกหลายๆ ครั้ง" พูดจบสะโพกหนาก็กดแนบสนิทกับด้านล่างของนาง จากนั้นก็ส่งแรงโยกไหวไปมาเบาๆ ก่อนจะกระแทกกระทั้นเข้าออกตามแรงรัก กอพเยียสะดุ้งทุกครั้งที่ถูกทักทายแนบลึกและรุนแรง
"อา..."
ไฟมารสะบัดใบหน้าสากเงยขึ้น ส่งเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อจอมพญามารได้รับการห่อหุ้มล้อมรอบไปด้วยน้ำหวานจากกายนาง ความปรารถนาพุ่งสูงด้วยความไหลลื่นเป็นตัวนำพา มือหนาจับท่อนขางามของนางทั้งสองข้างแยกกว้างออกจากกัน แล้วโจนจ้วงเข้าใส่อย่างไม่ยั้งแรง กอพเยียสะบัดหน้าไปมาบนพรมหญ้าไม่อาจรับรู้ได้ว่าตอนนี้นางรู้สึกเช่นไร ความว่างเปล่ากับสายรุ้งที่ทอแสงอยู่ด้านหน้า รอเพียงแค่ให้นางเอื้อมมือไปไขว่คว้า โดยมีไฟมารเป็นคนขับเคลื่อนนำส่งอีกแรง
"อ๊ะ...อยากให้ขะ...ข้าหยุดไหม...กอพเยีย" ไฟมารกลั้นใจถามนางทั้งที่จวนเจียนอยู่รอมร่อ
"ไม่!" นางตอบโดยไม่ต้องคิด กำปั้นเล็กทุบหัวไหล่ของเขาทั้งสองข้างเป็นการเร่ง
กระทั่งแรงกระแทกอย่างเร็วระรัวผ่านเข้าสู่กายนางนับครั้งไม่ถ้วน ร่างของทั้งสองก็เกร็งตัวกันสุดขีดกระตุกกันเป็นระยะ ก่อนจะแตกสลายกระจายซ่านลงไปพร้อมกันทั้งสองคน ณ เส้นขอบรุ้งงาม
ไฟมารทรุดตัวลงแนบใบหน้ากับเต้างามที่ชูสล้างอยู่ด้านล่าง ไม่วายกดจูบแนบลงยังฐานทรวงเป็นรางวัลแด่เมียคนงาม
"เห็นไหม...ขะ...ข้าบอกแล้วว่าไม่เจ็บ" มหาโจรเอ่ยทั้งที่ลมหายใจยังไม่เข้าที่เข้าทาง ส่วนอีกคนที่นอนราบแน่นิ่งไปกับพรมหญ้าราวกับไม่ได้ยินคำพูดของไฟมาร นางเหมือนนกน้อยในกรงทองที่เพิ่งจะได้โบยบินสู่โลกกว้าง โลกที่นางไม่เคยคิดว่าจะได้พานพบเจอ
เมื่อลมหายใจกลับสู่ปกติแล้วไฟมารก็อุ้มร่างงามของกอพเยียลงสู่ลำธารอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้นางนิ่วหน้าอีกเมื่อรู้สึกปวดแสบด้านล่างมากกว่าเดิม
"ยังเจ็บอยู่ไหม" มหาโจรถามอย่างมีเลศนัย
"มะ...ไม่เจ็บแล้ว" นางส่ายหน้าอย่างรวดเร็วไม่กล้าที่จะบอกความจริงต่อเขา กลัวว่าไฟมารจะหาวิธีค้นหาบาดแผลที่แสนจะพิสดารนั่นอีก
"แน่นะ" มหาโจรเอ่ยอย่างรู้เท่าทัน
"อืม" นางตอบสั้นๆ แล้วมุดลงใต้น้ำบ้างเพื่อล้างเนื้อตัวให้สะอาด
ไฟมารก็ดำผุดดำว่ายไปมาอย่างระเริงใจ หลังจากได้ปลดปล่อยอารมณ์พิศวาสของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"อูย..." คราวนี้กอพเยียร้องครวญจนน่าสงสาร เมื่อรู้สึกปวดแสบตรงแผ่นหลัง คนที่ว่ายน้ำอยู่บริเวณใกล้เคียงต้องรีบตรงเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมียตน
"เจ้าเป็นอะไรกอพเยีย"
"ข้าแสบหลัง" นางเจ็บแสบจนน้ำตาเล็ดออกมาให้ไฟมารเห็น
"ไหนหันมาให้ข้าดูสิ" และทันทีที่ได้เห็นแผ่นหลังเนียนของเมียตนเอง ไฟมารก็หน้าตึงขึ้นในทันที เพราะว่าผิวพรรณนวลเปล่งขาวลออ บัดนี้ได้แปรสภาพเป็นรอยบาดของใบหญ้ากิ่งไม้เกิดร่องรอยเต็มไปหมด
"หลังของข้าเป็นอะไร" คนเจ็บถามเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของไฟมาร
"ถูก...ธรรมชาติข่วน" ไฟมารเลี่ยงตอบ
"ธรรมชาติข่วน?"
"เศษหญ้า กิ่งไม้ นั่นล่ะกอพเยีย เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วขึ้นไปหายาทาก็หายแล้ว" ไฟมารอธิบายเพิ่ม แต่กอพเยียกลับหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมยกกำปั้นตีลงไปยังผืนน้ำจนกระจายเต็มหน้าของไฟมาร
"เพราะว่าท่านนั่นแหละ อุตริดีนัก" นางด่าออกมาด้วยความกระดากอาย
"อุตริตรงไหน ข้าเห็นเจ้าร้องครางเสียนกกาบินหนีกันให้ว่อน"
"อ๊าย! ไอ้คนลามก" นางวิ่งไล่ทุบตีไฟมารที่อยู่ในน้ำไป อีกฝ่ายก็แสร้งหนีไม่ให้นางจับได้
เสียงหัวเราะของมหาโจรดังแข่งกับเสียงหวีดร้องของกอพเยียยามที่ถูกเขาจับตัวได้ ส่งเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณป่า ลูกสมุนที่อยู่รอบๆ บริเวณออกอาการแปลกใจเล็กน้อย ในความครื้นเครงที่ไม่ได้ยินมาแสนนาน