“อึก…อุ๊บ” ขณะประชุมแต่งตั้งผู้บริหาร วรา เฌอสลัล ผู้บริหารสูงสุดคนใหม่ของ Captivating W Enticing Co.,Ltd. ที่รับวางแผนการตลาด ผลิต และออกแบบผลิตภัณฑ์เกี่ยวความสวยความงาม ทั้งสกินแคร์ น้ำหอม ครีมทาผิว เครื่องสำอาง และอาหารเสริม ก็เกิดอาการพะอืดพะอมอยากจะอาเจียน
“เป็นอะไรวรา” เดล จันทรัช ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้มากับมือเอ่ยถามลูกชาย คณะกรรมการบริหารในที่ประชุมต่างหันมอง
“จู่ๆ ก็รู้สึกคลื่นไส้ครับ”
“ไปพักก่อนไหม” หน้าที่ซีดเซียวของบุตรชายทำให้เดลอดเป็นห่วงไม่ได้
“ต่อเลยครับ ผมไหว” การประชุมดำเนินต่อไป แม้วราจะมีอาการพะอืดพะอมเป็นระยะ แต่เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม เขาก็พาร่างตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำอยู่นานสองนาน ก่อนจะออกมาด้วยสภาพโรยแรง
“วราเป็นอะไรลูก” เอวารีบเข้าไปช่วยพยุงลูกชาย ด้วยกลัวว่าจะเดินเซล้มไปเสียก่อน
“เห็นคลื่นไส้ตั้งแต่ประชุมละ” เดลเป็นคนตอบแทนลูกชาย
“ตื่นเต้นหรือไงคะท่านประธาน” นาราน้องสาวฝาแฝดของวราที่ติดตามคนเป็นแม่มาด้วยเอ่ยว่าอย่างไม่จริงจัง มือก็หยิบผลสตรอว์เบอร์รี่สีแดงสดเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย
“กินอะไร เอามากินมั้ง” วรานึกเปรี้ยวปาก ยิ่งเห็นสตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่ๆ สีแดงๆ เนื้อฉ่ำๆ ก็นึกอยาก คว้ากล่องสตรอว์เบอร์รี่มาจากนารา
“วรา เอาคืนมาเลยนะ” ในบรรดาของกิน นาราหวงสตรอว์เบอร์รี่ยิ่งกว่าสิ่งใด เวลาที่เธอกินอยู่ใครก็ห้ามแย่ง
“อย่าขี้งกไปหน่อยเลยน่า”
“วราก็รู้ว่าเวลานารากินสตรอว์เบอร์รี่ห้ามแย่ง ก็ยังจะแกล้งน้อง” เอวาว่า
“วรากินแค่ลูกสองลูกเองครับ แก้คลื่นไส้ เอาคืนไปเลย” วราส่งกล่องสตรอว์เบอร์รี่คืนคนขี้หวง
“จบโทกันแล้วยังจะทะเลาะกันเป็นเด็กๆ อีกนะ” เดลส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับฝาแฝดคู่เล็ก ถึงจะเป็นฝาแฝดกันแต่ใบหน้าของทั้งคู่กลับไม่เหมือนกันเลย ต่างจากแฝดผู้พี่ ที่เป็นแฝดสาม ชายสอง หญิงหนึ่ง แต่ใบหน้าละม้ายคล้ายกันมาก วรากับนาราต่างไม่ยอมกัน จ้องแต่จะเอาชนะ แต่ด้วยความที่นาราเปรียบเสมือนลูกคนเล็ก จึงได้รับความเอนเอียงจากผู้เป็นแม่มากกว่าใคร แม้จะชอบทะเลาะกัน แต่ก็รักกันมาก ทั้งคู่คล้ายมีสัมผัสพิเศษระหว่างกัน ไม่ว่าใครมีเรื่องไม่สบายใจ อีกฝ่ายก็สามารถรับรู้ได้
“นี่ถ้ามีเมียนึกว่าแพ้ท้องแทนเมียนะเนี่ย” ด้วยมีพี่น้องหลายคนที่มีครอบครัวไปแล้ว นาราจึงเห็นจนชินตาที่สามีจะมีอาการแพ้ท้องแทนภรรยา และในเวลานี้วราก็กำลังมีอาการคล้ายคนแพ้ท้อง ทั้งคลื่นไส้อาเจียน และกินผลไม้รสเปรี้ยว
“แอบไปทำใครท้องหรือเปล่าวรา”
“วราป้องกันตลอดนะครับหม่าม้า…” วราพูดเพียงเท่านั้นก็ชะงักนิ่งงัน จู่ๆ ก็เริ่มไม่แน่ใจ และนึกถึงใบหน้าสวยพริ้มเพราของหญิงสาวที่เขาถูกตาต้องใจ และมีความสัมพันธ์กัน แต่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบข้ามคืน ไม่แม้แต่จะได้ร่ำลากันด้วยซ้ำ สองเดือนแล้วที่ใบหน้าของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา
“มีไม่แน่ใจ” นาราว่าราวกับอ่านความคิดพี่ชายฝาแฝดได้
“ไม่แน่ใจอะไร ป้องกันตลอดจะไม่แน่ใจได้ไง” วราแก้ตัวพัลวัน ไม่มีอะไรที่เขาปิดบังน้องสาวฝาแฝดได้
“แล้วเมื่อไรจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที รีบๆ หาได้แล้ว ป๊าอยากอุ้มหลาน” เดลได้โอกาสไตร่ถามเรื่องนี้ เขามีลูกชายสามคน แต่ละคนอยู่ในวัยฉกรรจ์ แต่ก็ไม่มีใครยอมลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวเลยสักคน ส่วนลูกสาวสองคนนั้นหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน
“ปะป๊าให้เฮียศิรา เฮียธารา หาก่อนเลยครับ วรายังไม่พร้อม”
“ก็พูดกันแต่ไม่พร้อมๆ เอาอะไรมาไม่พร้อม หลานเป็นสิบคนป๊าก็เลี้ยงได้สบาย”
“วราไปทำงานก่อนนะครับ ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะเลย” วราเริ่มหาวิธีเอาตัวรอด แม้จะยังมีอาการคลื่นเ**ยนวิงเวียนศีรษะอยู่ แต่ถ้าคุยเรื่องนี้กับผู้เป็นพ่อต่อ มีหวังอาการเขาคงหนักยิ่งกว่าเดิม ก่อนไปยังมิวายหยิบผลสตรอว์เบอร์รี่ติดมือไปด้วย และก็ถูกนาราโวยวายด้วยความหวงแหนไปตามระเบียบ
เพจ ChicChic By มุกไหม เพจของความสวยที่ทันสมัย เพียบพร้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว และของใช้จิปาถะของเหล่าคุณแม่ ที่รับประกันว่าดีแน่นอน เพราะว่าที่คุณแม่เจ้าแฝดได้ทดลองใช้มาหมดแล้ว ก่อนที่จะนำมาขายให้กับลูกค้า จากยอดผู้ชมต่อการไลฟ์สดหลักสิบ ขยับขึ้นมาเป็นหลักร้อย จนพุ่งทยานไปสู่หลักพัน มีผู้ติดตามและกดไลก์เพจหลักหมื่น และอีกไม่นานก็จะก้าวสู่หลักแสน มีออเดอร์เข้ามาต่อวันไม่ต่ำกว่าร้อยบ้านที่ต้องจัดส่ง และทุกการไลฟ์สดจะมีออเดอร์ถล่มทลายนับพันชิ้น ถือเป็นความสำเร็จแบบก้าวกระโดดทีเดียวกับระยะเวลาเพียงหกเดือน
“กลับมาแล้ว อ่ะเลขพัสดุ ออเดอร์เข้าอีกแล้วเหรอ ขายดีแบบนี้หลังคลอดมุกไม่ต้องไปหางานทำแล้วแหละ ยึดอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ต่อเลย” แพทออกไปส่งของให้มุก ไม่ลืมที่จะหิ้วอาหารกลางวันสำหรับสองคนกลับมาด้วย ห้องพักแบบสตูดิโอดูเล็กไปถนัดตายามที่มีกล่องพัสดุและสต็อกสินค้าที่รอส่ง และในเวลานี้รอบๆ ตัวมุกมีออเดอร์เตรียมรอแพ็คลงกล่องอีกหลายออเดอร์ และดูท่าจะยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ จากที่มุกตอบข้อความของลูกค้ามือเป็นระวิง
“มุกก็ว่างั้น ถ้าขายดีแบบนี้มุกว่าจะทำแบรนด์เป็นของตัวเอง แพทว่าดีไหม” มุกเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยความแช่มชื่นใจ แม้จะเหนื่อยและต้องอดตาหลับขับตานอน แต่เมื่อเห็นจำนวนเงินในบัญชีก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“ดีสิ ดีมากๆ เลยแหละ แพทพร้อมช่วย ถ้ามุกเปิดบริษัทเป็นของตัวเองเมื่อไร แพทจะยื่นใบสมัครเป็นพนักงานคนแรกเลย” แพทตอบ พลางเดินไปจัดการกับอาหารที่ซื้อมาเทใส่จาน
“อย่างแพทน่ะต้องเป็นหุ้นส่วน”
“แพทจะเอาเงินที่ไหนมาลงทุนกับมุก ลำพังส่งให้ที่บ้านก็เดือนชนเดือนแล้ว ดีนะช่วงนี้มีมุกช่วยหารค่าใช้จ่าย” น้องชายของแพทเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอจึงต้องส่งเงินไปให้ที่บ้านมากขึ้น แม้จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่เธอก็ไม่ยอมรับเปอร์เซ็นต์กำไรที่มุกขายของออนไลน์ได้ ด้วยคิดว่าตัวเองไม่ได้เดือดร้อนอะไรขนาดนั้น และอยากให้มุกเก็บเงินไว้ให้เจ้าแฝดที่ใกล้จะออกมาลืมตาดูโลกอยู่ไม่กี่วันนี้แล้ว
“มุกแบ่งกำไรให้ก็ไม่เอา”
“ไม่เอา เก็บไว้ให้หลาน หลานตั้งสองคนเลยนะ เก็บไว้เถอะ มุกยังมีรายจ่ายอีกเยอะ” แพทเดินกลับมาพร้อมอาหารสองจาน
“ทำไมแพทถึงดีกับมุกขนาดนี้ ขอบคุณนะ” มุกสวมกอดแพท ตามด้วยหอมแก้มเป็นการขอบคุณ
“ขนลุกแล้วเนี่ย กอดหอมกันทุกวันจนจะเป็นเบี้ยนอยู่แล้ว ว่าแต่มุกจะเอาเวลาที่ไหนทำ อย่าลืมนะว่าไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่คูณสอง” แพทแกล้งทำเป็นคนลุกคนชันยามถูกมุกกอดกับหอมแก้ม แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามุกจะแบ่งเวลาได้อย่างไรทั้งเลี้ยงลูกน้อยฝาแฝด ทั้งโปรเจ็คใหญ่ที่ผุดขึ้นมา
“มุกว่ามุกทำได้ แต่คงต้องหาผู้ช่วยเพิ่มด้วย เมฆกับหมอกจะเป็นเด็กดีของแม่มุกกับน้าแพทครับ” มุกมั่นใจในตัวเอง เมื่อมีโอกาสแล้วเธอจะไม่รอคำว่าพร้อม เหมือนเมื่อครั้งที่เธอตัดสินใจเป็นแม่ค้าออนไลน์ ในวันนั้นเธอกับแพทคิดได้ และลงมือทำทันที จึงประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ลูกคือกำลังใจที่ดีเยี่ยมของเธอ และเชื่อว่าลูกก็พร้อมสู้ไปกับเธอ
“เดือนหน้าก็จะได้เจอกันแล้วนะครับม่านเมฆ ม่านหมอก ดิ้นแรงขนาดนี้หิวแล้วใช่ไหม มุกพักกินข้าวก่อน ดูสิ หลานชายแพทหิวแล้ว” แพทยื่นมือไปวางทาบบนหน้าท้องที่ขยายใหญ่ของมุก ทารกน้อยในครรภ์ดิ้นรับสัมผัส ก่อนจะให้ว่าที่คุณแม่ที่นั่งหลังขดหลังแข็งจากการจัดออเดอร์ให้ลูกค้าพักรับประทานอาหาร แต่ก็มิวายพูดคุยวางแผนเรื่องโปรเจ็ค และเห็นตรงกันว่าต้องหาคนมาช่วยแพ็คของกับตอบข้อความของลูกค้า