หลังจากพามีนามาถึงบ้าน ดรัณก็รีบออกไปทำธุระต่อข้างนอก จึงไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าครูที่ควรจะนั่งสอนอยู่ในห้องอย่างที่ควรจะเป็น กลับถูกน้องสาวเขาไหว้วานให้ช่วยออกไปทำงานแทน ด้วยเหตุที่ว่า…คุณเธอดันรับงานชนกัน สุดท้ายแทนที่จะได้เป็นครูนั่งสอนเปียโนให้ลูกศิษย์ตัวน้อย กลับต้องมายืนแหกปากเป็นพริตตี้นุ่งน้อยห่มน้อยขายสินค้าอยู่ในห้างแทน
“ไอ้รินนะไอ้ริน ทำไมต้องให้ฉันมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย แล้วขายอะไรไม่ขาย ดันขายอาหารหมาซะงั้น รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนไม่ถูกกับหมา แล้วจะเข้าใจความรู้สึกของหมาไหมเนี่ย เอ๊ะ! เดี๋ยวนะทำไมต้องเข้าใจหมาวะ สงสัยจะเพี้ยนไปแล้วเรา” หลังจากยืนโฆษณาสินค้าเสร็จ เธอก็แอบมายืนบ่นพึมพำตามลำพัง แล้วก็อดนึกไปถึงเหตุการณ์ตอนที่ยืนเถียงกับเพื่อนด้วยไม่ได้
“ไม่เด็ดขาดริน กี่ครั้งแล้วที่แกรับงานชนกันแบบนี้ ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าให้จดตารางไว้ให้เป็นระเบียบ แกก็ไม่เคยเชื่อ แล้วเป็นไงสุดท้ายฉันก็ต้องมาเดือดร้อนแทนแกทุกครั้ง” มีนาบ่นพลางทำหน้ายุ่ง หลังถูกเพื่อนรักอย่างดารินลากออกมาจากห้องซ้อมเปียโน
“แกจะบ่นจะด่าจะว่าฉันยังไงก็ได้ ขอแค่แกยอมช่วยฉันก็พอ ช่วยฉันอีกครั้งนะแก ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ ” ดารินเข้ามากอดพร้อมอ้อนวอน
“แกก็พูดแบบนี้ทุกที แต่ครั้งนี้ฉันไม่หลงกลแกหรอก เพราะครั้งสุดท้ายของแกมันไม่มีอยู่จริง อีกอย่างยังไงวันนี้ฉันก็ช่วยแกไม่ได้ แกก็เห็นว่าฉันกำลังสอนหลานแกอยู่ จบนะ” สิ้นเสียงเธอก็ทำท่าจะเดินกลับเข้าห้อง แต่ก็ต้องชะงักเท้าทั้งคู่เพราะประโยคต่อมาของเพื่อน
“อืม! มันก็จริงของแก ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉัน ฉันควรรับผิดชอบด้วยตัวเอง ก็แค่ยอมโดนด่า แล้วก็โดนปรับสามเท่าของค่าจ้างเท่านั้นเอง ไม่เป็นไร ฉันโอเค” อืม! และเพราะคำพูดนี้แหละ สุดท้ายเธอถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้
“เฮ้อ! อย่างน้อยพริตตี้อาหารหมาก็น่าจะดีกว่าพริตตี้รถแข่งล่ะมั้ง” เป็นเพราะเพื่อนให้เลือกระหว่างงานพริตตี้งานแข่งรถ กับพริตตี้อาหารหมา คนที่ไม่ค่อยถูกโฉลกกับที่ที่มีคนเยอะๆ เท่าไหร่ สุดท้ายก็เลยได้เป็นพริตตี้อาหารหมาอย่างที่เห็น
“ดีนะที่อีตาคุณเจตต์นั่นไม่มาเห็นฉันในสภาพนี้ ไม่งั้นหมอนั่นคงล้อฉันยันลูกบวช เฮ้อ! หมากระเป๋ากับอาหารหมา เข้ากันดีแท้” เธอถอนหายใจด้วยความโล่งใจ แต่หารู้ไม่ว่าคนที่ตัวเองพูดถึง หลังจากหงุดหงิดจนต้องออกจากบ้าน ตอนนี้มาโผล่อยู่ที่นี่แล้ว ก็ไอ้ห้างที่เธอยืนอยู่ตอนนี้ มันดันเป็นห้างในเครือเดียวกับโรงแรมของเขานี่นา หลังจากตรวจงานโซนโรงแรมเสร็จ พ่อคุณก็เดินมาตรวจฝั่งห้างต่อ
“เอ๊ะ! นั่นมันยัยหมากระเป๋านี่ ไหนบอกมีสอนต่อ แล้วทำไมมาอยู่นี่ได้” คนที่กำลังเดินดูความเรียบร้อยถึงกับต้องขมวดคิ้วกับภาพที่เห็นอยู่ไกลๆ