“จันทร์เจ้าคะ ถึงเวลาเรียนแล้ว ให้ลัคกี้ออกไปกับป๊ะป๋านะคะ หนูกับคุณครูจะได้เรียนกันเป็นส่วนตัว” ทันทีที่เข้ามาในห้อง เจตต์ก็หันไปพูดกับลูกสาวเสียงอ่อนเสียงหวาน
“ไม่ค่ะ หนูจะให้ลัคกี้เรียนด้วย ถ้าลัคกี้ไม่เรียน หนูก็ไม่เรียนค่ะ” เด็กน้อยตอบโดยไม่เสียเวลาคิด
“แต่หนูก็เห็นว่าคุณครูเขากลัวลัคกี้มากแค่ไหน หนูไม่สงสารคุณครูเหรอคะ” เจตต์ยังพยายามโนมน้าวต่อ
“หนูจะบอกลัคกี้ไม่ให้ไปยุ่งกับคุณครูเองค่ะ” เด็กน้อยบอกตามประสา
“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ค่ะ ลัคกี้เป็นหมาที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง อีกเดี๋ยวก็ต้องกระโจนเข้าไปหาครูอีก แบบนั้นหนูจะมีสมาธิเรียนได้ยังไง ให้ลัคกี้ออกไปก่อน เชื่อป๊ะป๋านะคะ” คำว่ากระโจนของเขา ทำเอาคุณครูที่ยืนเงียบถึงกับผงะตาโตด้วยความตื่นตระหนก
“ไม่ค่ะ หนูไม่ยอมให้ลัคกี้ไปค่ะ ลัคกี้เป็นเพื่อนคนเดียวของหนู หนูจะอยู่กับลัคกี้” เด็กน้อยยืนกรานด้วยการนั่งลงข้างๆ หมาแล้วกอดมันไว้แน่น
“จันทร์เจ้า” เสียงเขาเข้มขึ้น ทำให้เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสีหน้าปริ่มจะร้องไห้ มีนาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบแทรกขึ้น
“อะเอ่อ…ให้ลัคกี้อยู่ด้วยก็ได้ค่ะ มีนักเรียนเพิ่มขึ้นอีกคนไม่เป็นไรหรอกเนอะ” เธอมองหน้าลูกศิษย์ทั้งสองพลางยิ้มให้ แต่ในใจกลับกำลังร่ำไห้
‘โอ๊ย! พูดอะไรออกไปเนี่ย จะทำตัวเป็นนางฟ้าเพื่อ? หาเหาใส่หัวชัดๆ เลยมัดหมี่เอ๊ย’
“แน่ใจเหรอ ก็ไหนบอกว่ากลัวหมา เดี๋ยวก็หาว่าฉันรังแกเด็กอีก ฉันว่าเอามันออกไปดีกว่า ฉันไม่อยากมีปัญหา” เขาทำท่าจะก้มลงไปลากเจ้าหมาตัวนั้นออกไปให้ได้ แต่ก็ถูกเธอฉุดแขนแล้วลากออกมาตรงมุมห้อง
“ตอนนี้ถ้าจะมีปัญหา มันก็เป็นเพราะคุณนั่นแหละ ขอร้องล่ะ ออกไปก่อนได้ไหม ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจนักเรียนของฉัน แล้วก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้คุณสองคนพ่อลูกต้องทะเลาะกันด้วย เอาเป็นว่าเดี๋ยวทางนี้ฉันจะจัดการเอง” พูดจบเธอก็พยายามจะผลักเขาให้ออกจากห้อง แต่มันกลับไม่ทำให้กำแพงมนุษย์ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด
“แต่เธอกลัวหมา เกิดเป็นลมช็อคตายคาห้องไปจะทำยังไง ฉันว่าฉันเอามันออกไปดีกว่า” เขาทำท่าจะย้อนกลับไปทางเดิม แต่เพราะถูกดึงชายเสื้อเอาไว้ จึงต้องชะงักฝีเท้าอีกครั้ง
เอ็นดูคนกลัวหมานะคะ เอาเป็นว่ามาลุ้นกันต่อว่าคุณครูคนใหม่จะเอาชนะใจนักเรียนทั้งสองได้ไหม โดยเฉพาะนักเรียนที่ชื่อลัคกี้ ฮ่าๆๆ ส่วนถ้าใครอยากตามไปอ่านเล่มพี่ๆ ของนางเอก วันนี้แนะนำเรื่องนี้ค่า อะ! เรื่องขายไว้ใจเรา