เหล่าโจรป่าถือว่ามีการระแวดระวังตนไม่น้อย พวกมันพุ่งทะยานมาล้อมหลี่รั่วหานและจ้าวไป๋ลู่ เอาไว้ ดวงตาของพวกมันเปล่งประกายเมื่อมองเห็นสตรีใบหน้างดงามตรงหน้า ยามนี้เสื้อผ้าของนางเปียกชื้นจึงทำให้มองเห็นสัดส่วนที่เย้าตายวนใจได้อย่างชัดเจน พวกมันแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนพร้อมกับแสดงสีหน้าหื่นกระหาย สายตาของพวกมันจ้องมองแทะโลมจ้าวไป๋ลู่อย่างไม่ปิดบัง
จ้าวไป๋ลู่จับชายแขนเสื้อของหลี่รั่วหานเอาไว้แน่น หลี่รั่วหานใช้มือดันนางไปอยู่ที่ด้านหลังของเขา ดวงตาคมจ้องมองเหล่าโจรป่าพวกนั้นอย่างเย็นชา
"ส่งสตรีน้อยนางนั้นมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป"
หนึ่งในโจรป่าเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อำมหิต หลี่รั่วหานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง ในขณะที่จ้าวไป๋ลู่ในยามนี้ใบหน้าของนางซีดเผือดไร้สีเลือดอย่างเห็นได้ชัด
หากเขามอบนางให้พวกมันจริงๆเล่า!
"พวกเจ้าอยากได้ตัวนางจริงๆหรือ?"
หลี่รั่วหานเอ่ยด้วยร้ำเสียงที่กลั้วหัวเราะ รอยยิ้มร้ายกาจของเขาราวกับปีศาจที่หลุดออกมาจากการคุมขัง
"หากพวกเจ้าอยากได้นางจริงๆ ข้าก็ยินดียกนางให้กับพวกเจ้า"
"ซื่อจื่อ!!!"
จ้าวไป๋ลู่ตื่นตระหนกจนมือไม้สั่น นางคลายมือออกจากการเกาะกุมชายเสื้อของเขา
นี่เขาจะส่งนางให้....
"แต่ต้องฆ่าข้าให้ตายก่อน พวกเจ้าจึงจะได้ตัวนางไป!!!"
สิ้นสุดคำพูด หลี่รั่วหานก็ผลักจ้าวไป๋ลู่ให้ไปซ่อนกายอยู่ที่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะโผทะยานเข้าไปต่อสู้กับเหล่าโจรป่าทั้งห้าคนอย่างรวดเร็ว
ท่วงท่าการต่อสู้ของเขาเรียกได้ว่าเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง แม้จะไร้ซึ่งอาวุธต่อกร แต่เขาคือผู้ฝึกยุทธ์ พลังภายในย่อมมากมายกว่าเหล่าโจรป่าตรงหน้า
โจรป่าผู้หนึ่งใช้กระบี่อ่อนแหลมคมพุ่งเป้ามาที่หลี่รั่วหาน เขาเบี่ยงกายหลบกระบี่อ่อนเล่มนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้ฝ่ามือฟาดซัดไปที่ข้อมือของโจรผู้นั้น จนกระบี่อ่อนของมันหลุดกระเด็นออกจากมือ หลี่รั่วหานไม่รอช้าเขารีบคว้าจับกระบี่อ่อนที่ร่วงหล่นเล่มนั้นเอาไว้ ก่อนจะฟาดฟันต่อสู้กับพวกมันอย่างไม่ลดละ
ท่วงท่าที่งดงามและพริ้วไหวราวกับเทพสงครามลงมาจุติ ทำให้จ้าวไป๋ลู่จ้องมองด้วยความตื่นตะลึง
เขาเก่งกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ!!
เคร้ง!!
ไม่นานโจรป่าทั้งหมดก็ถูกหลี่รั่วหานสังหาร เหลือเพียงคนเดียวที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าใหญ่ ที่ยามนี้ร่างกายโชกไปด้วยเลือดทั้งตัว
"เจ้ามิใช่โจรป่าธรรมดา ใครส่งเจ้ามาแอบซ่อนกายอยู่ที่นี่!!"
"เหอะ!!!"
"ซื่อจื่อนั่นเขากำลังจะทำสิ่งใดเจ้าคะ!!!"
กว่าที่หลี่รั่วหานจะคาดคั้นเอาความผิดจากมันได้ โจรป่าผู้นั้นก็กัดยาพิษในปากจนตายไปเสียแล้ว
บัดซบ!!!สารเลวสิ้นดี
เขาทิ้งกระบี่อ่อนลงบนพื้น ก่อนจะหลับตาลง ถ้อยคำของพวกมันเมื่อครู่นี้ยังติดอยู่ในสมองของเขา
นายท่านหนิง...
"ซื่อจื่อ มือท่านเลือดออกแล้ว!!"
"ข้าไม่เป็นอันใด!"
เขาไม่ยอมให้นางดูบาดแผล อีกทั้งยังสลัดมือนางทิ้งอีกด้วย ยามนี้ในหัวของเขามีบางเรื่องให้ต้องครุ่นคิดอย่างหนัก
จ้าวไป๋ลู่เองก็ไม่ยอมแพ้ นางพยายามหาทางทำแผลให้เขาใหม่ เมื่อคิดถึงประโยคที่เขาบอกว่าจะไม่ละทิ้งนาง ในใจของนางก็พลันหวานละมุนขึ้นมาอย่างประหลาด
"ซื่อจื่อให้ข้าดูแผลท่านหน่อยเถิด"
"ก็บอกว่าไม่!!เจ้าฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือ!!!!"
เขาตะคอกนางเสียงดังจนจ้าวไป๋ลู่สะดุ้งตัวโยน นางจึงไม่ยุ่งกับเขาอีก แต่กลับเดินมาทิ้งกายนั่งที่หน้ากองไฟแทน
ความร้อนของไฟสร้างความอบอุ่นให้แก่นางเป็นอย่างยิ่ง หลี่รั่วหานหันไปมองนางที่ยามนี้กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่หน้ากองไฟก็รู้สึกประหลาดยิ่งนัก
ใบหน้างามแหงนมองบนท้องฟ้า ดวงจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องลงมาบนใบหน้าขาวนวลเนียนของนาง ยิ่งเขาได้มองก็เหมือนกับเห็นหยกเนื้อดีที่ถูกแสงจันทร์ส่องสว่างจนเปล่งประกายความงดงามออกมา
จ้าวไป๋ลู่ยกมือขึ้นลูบผมตนเองก่อนจะตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง
ปิ่นหยกปักผมของข้าหายไปไหน!!
มันคงหล่นตอนที่นางตกน้ำเป็นแน่!!
เมื่อได้เห็นท่าทีลนลานของนาง หลี่รั่วหานจึงเดินไปทิ้งกายลงนั่งตรงข้ามกับนาง ก่อนจะโยนปิ่นหยกนั้นลงตรงหน้านางอย่างไม่ไยดี
เขาคว้าเก็บมันได้ระหว่างที่ลอยตามกระแสน้ำกับนางเมื่อครู่
จ้าวไป๋ลู่ที่ได้เห็นว่าปิ่นหยกของตนมิได้หายไปไหนก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่เหตุใดเขาจึงโยนมาให้นางเช่นนี้กันเล่า ส่งให้นางดีดีไม่ได้หรือ!!
"จะตายแล้วยังห่วงสมบัติอีกหรือ!!"
"ห่วงสิเจ้าคะ เผื่อวันหนึ่งข้าต้องเป็นหม้ายขึ้นมา จะได้เอาไปขายกินได้"
"หน้าเงิน!!!"
"ดีกว่าคนปากสุนัขก็แล้วกัน"
"เหอะ!!ยามนี้ข้าไม่อยากจะทะเลาะกับเจ้า!!"
หลี่รั่วหานสบถออกมาอย่างหัวเสีย ด้านจ้าวไป๋ลู่เองก็ไม่สนใจเขาอีก นางหันไปหยิบขวดน้ำเต้าที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาดู ก่อนจะเปิดฝาออกเพื่อดมกลิ่นด้านในของมัน
โอวว เหมือนเป็นน้ำที่ผสมน้ำผึ้ง นางกำลังกระหายน้ำอยู่พอดี
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงยกขวดน้ำเต้านั้นขึ้นดื่มอึกใหญ่ หลี่รั่วหานที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"อยู่กลางป่ากลางเขากลับกล้ากินสิ่งของส่งเดช เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ!!!"
"ส่งเดชอันใดกัน มันคือน้ำผสมน้ำผึ้ง มิเชื่อท่านลองดูสิเจ้าคะ หากมีพิษข้าคงตายไปนานแล้ว"
หลี่รั่วหานหรี่ตามองนางเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปดึงน้ำเต้านั้นมาดมกลิ่นดู
ท่านแม่ของเขาเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ เรื่องการสัมผัสยาพิษชนิดต่างๆเขาย่อมได้รับการถ่ายทอดความรู้มาจากท่านแม่อยู่บ้าง เมื่อเห็นว่าไม่มีพิษเขาจึงยกมันขึ้นดื่มเช่นกัน ความหวานแผ่ซ่านลงไปที่ลำคอทำให้เขาชุ่มคออย่างประหลาด
ผ่านไปราวหนึ่งเค่อก็เกิดบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปกติกับจ้าวไป๋ลู่และหลี่รั่วหาน
แววตาที่นางมองเขาดูหวานเยิ้มกว่าปกติ
ยามที่เขามองนางก็รู้สึกร้อนรุ่มอย่างแปลกประหลาดเช่นกัน
ช่างงามยิ่งนัก
ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน