บทที่ 14

1769 คำ
หนทางจากเมืองหลวงไปยังหมู่บ้านชนบทใช้เวลาเดินทางร่วมสิบวัน ระหว่างทางที่พัก จ้าวไป๋ลู่และหมิงอวี้สาวใช้ข้างกาย จะช่วยกันจัดเตรียมอาหารอย่างใส่ใจเสมอ การเดินทางครานี้มีท่านพ่อและพี่ชายของนางติดตามมาด้วย อีกทั้งยังมีเซียวถงตามมาด้วยเช่นเดียวกัน "ฮูหยินน้อยเจ้าคะ พักก่อนเถิดเจ้าค่ะ ท่านเพิ่งจะ เดินทางมาถึง คงจะเหนื่อยล้ามิใช่น้อย" จ้าวไป๋ลู่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางมองดูบรรยากาศโดยรอบของหมู่บ้านชนบทก่อนจะถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง เดิมทีนางมิอยากติดตามหลี่รั่วหานมา แต่เมื่อได้มาเห็นสภาพตรงหน้าความคิดของนางก็พลันเปลี่ยนไป ช่างน่าเวทนายิ่งนัก ต้นไม้ใบหญ้าแห้งเฉาเหี่ยวตาย เด็กและคนชราผอมโซเสียจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก "ข้าติดตามมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือซื่อจื่อ มิได้มาพักผ่อนสบายใจ เจ้าจงเร่งรีบไปที่โรงครัว ข้าจะทำอาหารให้มากเสียหน่อย" "เจ้าค่ะ ฮูหยินน้อย" หมิงอวี้รับคำก่อนจะรีบเร่งไปที่โรงครัว เพื่อให้เหล่าทหารช่วยตระเตรียมโรงครัวให้พร้อม เมื่อจ้าวไป๋ลู่มาถึง นางก็จัดการปรุงอาหารทันทีอย่างไม่รอช้า โชคดีที่ระหว่างการเดินทางมีการหยุดพัก ทำให้นางเก็บผักป่ามาได้จำนวนไม่น้อย แม้มันจะไม่สดใหม่เท่าใดนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีสิ่งใดทำอาหาร นางเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบไม่น้อย ก่อนเดินทางจึงนำเสบียงติดตัวมาด้วย "ไป๋ไป๋ของพ่อ เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ" "ท่านพ่อ พี่ใหญ่" จ้าวไป๋ลู่หันไปส่งยิ้มให้ท่านพ่อและพี่ชายของนาง ก่อนจะเอ่ยตอบ "ข้าทำโจ๊กข้าว และซุปผักเต้าหู้ กับมันฝรั่งผัดเจ้าค่ะ วัตถุดิบที่นี่ค่อนข้างน้อย โชคดีที่ข้าเตรียมมาจากจวนโหวด้วย จึงพอมีวัตถุดิบให้ได้ปรุงอาหารมากหน่อย" "หากขาดเหลือสิ่งใดมาแจ้งพ่อกับพี่ใหญ่เจ้าได้นะ โธ่ ไป๋ไป๋ของพ่อ เจ้าต้องมาลำบากแท้ๆ" "ลำบากที่ใดกันเจ้าคะ ข้าเต็มใจ ท่านพ่อดูชาวบ้านเหล่านั้นสิเจ้าคะ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก" "ไป๋ไป๋ของพ่อจิตใจดีที่สุด" "คิกคิก อาหารใกล้เสร็จแล้ว ท่านพ่อช่วยหาคนมาตักอาหารแจกจ่ายเหล่าชาวบ้านทีนะเจ้าคะ ข้าจะนำอาหารไปให้ซื่อจื่อที่กระโจมก่อน" "ได้เลย เอ่อ ไป๋ไป๋ช้าก่อน พ่อมีบางเรื่องจะบอกเจ้า" "เอ๋ เรื่องใดหรือเจ้าคะ" จ้าวเยียนยกยิ้มกริ่มก่อนจะกวักมือเรียกบุตรสาวและบุตรชายของตนเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับเอ่ยขึ้นมา "เพราะน้ำแกงสะท้านฟ้าของเจ้า ยามนี้ท่านแม่ของเจ้าร้องหาพ่อทั้งวัน ฮ่า ๆๆ ฮี่ๆๆโฮ่ๆๆๆ!!" "จริงหรือ เจ้าคะ ฮ่าๆๆๆ!!" "เรื่องจริง พี่ใหญ่เห็นกับตา ฮ่าๆๆโห่ๆๆหิๆๆฮิ้วๆๆ" ภาพที่สามพ่อลูกพาสุมหัวกันหัวเราะขบขันทำให้เหล่าทหารที่ได้เห็นต่างมองหน้ากันอย่างงวยงง หรือจะประสาทไม่ดีทั้งครอบครัว? ไม่ไกลมากนัก ภาพรอยยิ้มกระจ่างใสราวดอกไม้แรกแย้มของจ้าวไป๋ลู่ ได้ประทับอยู่ในจิตใจของบุรุษหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งเข้าเสียแล้ว หลัวเทียนเฉิน เขาเป็นบุตรชายของท่านเสนาบดีกรมขุนนาง บิดาของเขามีอำนาจในการสั่งย้ายหรือปลดขุนนางผู้กระทำความผิด ความเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ของบิดาเป็นที่เคารพนับถือในเหล่าขุนนางด้วยกันเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเขาเป็นหัวหน้าองค์รักษ์มังกรพยัคฆ์ สังกัดขึ้นตรงกับฮ่องเต้ คอยสอดส่องความเป็นไปของเหล่าขุนนางทุกระดับชนชั้น อีกทั้งยังสามารถลงโทษหรือสังหารผู้ที่เป็นภัยต่อราชวงศ์ได้ในทันทีอีกด้วย หน่วยมังกรพยัคฆ์แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่าย แรกคือฝ่ายทหารสามกองพลใหญ่ซึ่งมีหน้าที่รักษาบ้านเมือง โดยมีบิดาของหลี่รั่วหานเป็นแม่ทัพใหญ่คุมทหารเจ็ดแสนนายเอาไว้ในมือ ส่วนหน่วยองค์รักษ์มังกรพยัคฒ์ของเขา มีหน้าที่สืบสวนสอบสวน จับคนร้ายผู้กระทำความผิดมาเข้าคุกหลวง และลงโทษนักโทษได้ อีกทั้งยังเป็นสายลับคอยทำงานใหญ่ให้ฮ่องเต้อีกด้วย หลัวเทียนเฉินจ้องมองรอยยิ้มของนางเนิ่นนาน ก่อนจะครุ่นคิดในใจ ได้ยินมาว่าการเดินทางครานี้มีฮูหยินน้อยจวนโหวติดตามมาด้วย เห็นทีคงจะเป็นนางกระมัง ภรรยาของหลี่รั่วหาน? ไม่ใช่หนิงเสวี่ยหรอกหรือ? เขาเคยพบกับหนิงเสวี่ยหลายครา นางเป็นคนรักของหลี่รั่วหาน อีกทั้งยังเคยติดตามบิดาเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังอยู่บ่อยครั้ง ด้านจ้าวไป๋ลู่ที่ตระเตรียมอาหารให้หลี่รั่วหานเรียบร้อยแล้ว จึงสั่งให้หมิงอวี้ยกอาหารตามนางมาที่กระโจม ระหว่างทางนางได้พบกับหลัวเทียนเฉินพอดี ด้วยไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ใด แต่ดูจากการแต่งกายแล้ว คงจะมีตำแหน่งสูงไม่น้อย นางจึงทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อม "แม่นางไม่ต้องมากพิธี ข้ามีนามว่าหลัวเทียนเฉิน เป็นหัวหน้าองค์รักษ์มังกรพยัคฆ์ เพียงผ่านมาตรวจงานเท่านั้น" "อ้อ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ไม่รบกวนเวลาของใต้เท้าแล้ว" "ไม่รบกวนเลยแม้แต่น้อย สำหรับข้าย่อมมีเวลาให้สตรีที่งดงามเช่นฮูหยินน้อยเสมอ" วาจาของหลัวเทียนเฉินทำให้จ้าวไป๋ลู่ถึงกับเลิ่กลั่ก นางหันไปมองหมิงอวี้คราหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ให้ตายเถิด!!ความสวยของข้านี่มัน!!! ใจเย็นๆ ไป๋ไป๋ เจ้ามีสามีแล้ว แม้สามีของเจ้าจะมีสุนัขอยู่เต็มปาก แต่เจ้าก็ต้องให้เกลียดเขา ให้เกลียดนะมิใช่ให้เกียรติ ฮ่าๆๆๆๆ "ใต้เท้าหลัวกล่าวเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงสตรีที่แต่งงานแล้ว จะงดงามที่ใดกัน ข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ" "เชิญแม่นางคนงาม" "เจ้าค่ะ" "ช้าก่อนแม่นาง" "เอ๋?" "หากอยากหย่าสามี ให้นึกถึงข้าเป็นคนแรก ข้ายังไร้ภรรยา" เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะยิ้มตาหยีและเดินจากไป ภาพทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของหลี่รั่วหาน เขาหิวจนตาลาย รอแล้วรอเล่านางก็ยังไม่มาเสียที จึงคิดจะเดินออกมาดูที่หน้ากระโจม แต่ภาพที่เห็นเสียงที่เขาได้ยินกลับเป็น.... หากอยากหย่าสามี...... บัดซบเจ้าหลัวเทียนเฉินสารเลวนั่น!!! เขากับหลัวเทียนเฉินเป็นคู่แข่งกันมาโดยตลอด ข้าชนะเจ้าแพ้ ข้าไม่แพ้เจ้าต้องแพ้ เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด จ้าวไป๋ลู่เดินเข้ามาในกระโจมก่อนจะสะดุ้งตัวโยนเมื่อเห็นว่าหลี่รั่วหานยืนจ้องนางเขม็ง นางรีบให้หมิงอวี้วางสำรับลงบนโต๊ะก่อนจะให้นางรีบออกไปกระโจมเสีย "สำรับยามเย็นเจ้าค่ะซื่อจื่อ" "หึ!!!เจ้านี่ระริกระรี้จริงนะ!!" "เอ๋?" "เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้าสนทนากับหลัวเทียนเฉิน หน้านี่ยิ้มบานเชียว ทำไมหรือ!!อยากเป็นฮูหยินหัวหน้าองค์รักษ์มังกรพยัคฆ์หรือ!!!" จ้าวไป๋ลู่เริ่มหมดความอดทนแล้ว นางทำอาหารมาเหนื่อยๆตั้งใจรีบยกมาให้เขากิน แต่กลับมาถูกเขาต่อว่าเช่นนี้ นางโมโหแล้วนะ!!! "ก็ดีนะเจ้าคะ มีสามีเป็นองค์รักษ์ตำแหน่งสูง ผู้ใดบ้างจะไม่ชอบ เขาทั้งเอ่ยวาจาไพเราะ อีกทั้งยังรอข้าหย่ากับท่านอีกด้วย!! อ้อ เขาจับคนร้ายได้ด้วยนี่ หากได้เขาเป็นสามีข้าก็จะได้ให้เขาจับสุนัขในปากท่านออกมาสับเป็นชิ้นๆเสีย!!!" "จ้าวไป๋ลู่เจ้าช่างกล้า!!!ได้!!ข้าหย่ากับเจ้าแน่!!" "อย่าเลยสิเจ้าคะ!!ข้าจะได้ไปหาสามีใหม่ ข้า ไม่สนหรอก ข้ากับท่านมิได้เป็นอันใดกันเสียหน่อย!!!" "อย่ายั่วโทสะข้า" "ท่านสิยั่วโทสะข้า!!!!" "ข้าโมโหแล้วนะ!!!" "นี่ท่านปล่อยข้านะ!!!" หลี่รั่วหานกระชากเอวบางของจ้าวไป๋ลู่มากอดเอาไว้ ก่อนจะแสยะยิ้มจ้องมองนางคราหนึ่ง "หากเจ้าอยากมากเหตุใดจึงไม่บอกข้าเล่า ข้าน่ะยินดีสนองเจ้าเสมอ" "ปากท่านนี่มัน!!เหอะ ท่านฝันไปเถิด ต่อให้ข้าเป็นม่ายแก่ตายไร้สามี ข้าก็ไม่มีวันหลับนอนกับท่าน!!!" "ปากดีนักนะ!!!" "หลี่..... อื้ออออออ!!!" เขาจูบนางอีกแล้ว!!คนบ้า!! หลี่รั่วหานจูบนางอย่างบ้าคลั่ง จ้าวไป๋ลู่ร่างกายอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงต่อต้านเขา หลี่รั่วหานผละริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของนาง ก่อนจะจ้องมองนางด้วยแววตาที่สับสน เหตุใดยามที่ได้ยินวาจาถากถางของนางและริมฝีปากบางสวยของนางเขาจึงรู้สึกแปลกประหลาดเช่นนี้ เขากับหนิงเสวี่ยมิเคยใกล้ชิดกันเช่นนี้เลยสักครั้ง! แต่ กับนาง.. เขาค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปหานางอีกคราเพื่อหวังจะช่วงชิงความหวานหอมจากริมฝีปากของนางอีกสักครั้ง แต่ทว่า โป๊ก!! นางกระแทกศีรษะของนางมาที่หน้าผากของเขาอย่างเต็มแรง "อ๊าาาา!!!!จ้าวไป๋ลู่!!!" "สมน้ำหน้า บ้ากามดีนัก คนเจ้าชู้มากรัก!!!" "ด่าข้าหรือ!!เหอะ ข้าจะไม่กินอาหารที่เจ้าเด็ดขาด" "ไม่กินก็ไม่ต้องกิน!!" นางเดินสะบัดสะโพกออกไปจากกระโจมด้วยความโมโห ก่อนจะหยุดยืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ แล้วยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าอกข้างซ้ายของตนคราหนึ่ง เหตุใดใจข้าจึงเต้นแรงถึงเพียงนี้เล่า เหอะ!!ผู้ใดจะไปชอบจามมารหลี่กัน!!! ด้านหลี่รั่วหานที่หิวจนตาลาย กว่าจะรู้ตัวอาหารตรงหน้าก็ถูกเขากินหมดเกลี้ยงไปเสียแล้ว บัดซบ!!หากนางมาเห็นต้องเยาะเย้ยเขาแน่ หลี่รั่วหาน ฮ่าๆๆๆ เจ้ากินของข้าๆๆๆๆๆๆ ภาพที่จ้าวไป๋ลู่หัวเราะเยาะลอยมาในสมองของหลี่รั่วหานจนเขาขนลุกขนชัน บัดซบ!!หน้าเหมือนผีเลย เอาเถิด!!บอกว่าหมากินไปก็แล้วกัน แต่แถวนี้ไม่มีหมา? บัดซบ!!ข้ากินก็คือข้าเป็นหมาหรือ โว๊ยยย!!!เพราะเด็กผีนั่นคนเดียวทำใหัข้าสับสนเช่นนี้!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม