ห้องทรงอักษร
"โอวววว ซี๊ดดด ได้ยินว่าราษฏรแถบชนบทขาดแคลนอาหาร เจ้าจัดการหรือยังรัชทายาท!"
"อ๊าาา เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ!!'
"หงลี่ เจ้าอย่าให้มันพุ่งมาทางนี้โอววว มันจะเปื้อนฏีฏาของข้า!!!"
"ไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ มันจะพุ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ อ๊าาาา!!"
"บัดซบ!!ฏีฏาข้า!!!ซี๊ดดด!!!"
หลี่รั่วหานที่กำลังเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทรงอักษร เมื่อได้ยินเสียงโหยหวนจากด้านในก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
รีดพิษกันอีกแล้วสินะ!!!
เสด็จลุงมีรับสั่งเรียกเขาเข้าวังเพื่อหารือเรื่องภัยแล้ง เพราะได้รับความโปรดปราณเข้าจึงสามารถเข้าออกห้องทรงอักษรได้อย่างตามใจชอบ
"ครื้นเครงกันแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"
"อารั่ว!!"
"พี่รั่ว!!"
ฮ่องเต้หงหยวนและองค์รัชทายาทหงลี่หันมาส่งยิ้มทักทายให้หลี่รั่วหาน หลี่รั่วหานมองภาพตรงหน้าก่อนจะเผลอขบขันออกมา
ให้ตายเถิด!! ยุคสมัยของเสด็จลุง ยามหารือราชกิจต้องแก้ผ้าไปด้วยเช่นนี้หรือ?
เห้อ!!คงไม่ดีเท่าใดกระมัง
เขาต้องร่วมแก้ด้วยจึงจะถูก!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่รั่วหานจึงปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนออกก่อนจะสาวชักลำแท่งเอ็นร้อนอย่างเมามันเช่นเดียวกัน ฮ่องเต้หงหยวนและองค์รัชทายาทหงลี่เบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะร่วมกันชักเช่นกัน
ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ ภารกิจชักสะท้านฟ้าก็สิ้นสุดลง
ฮ่องเต้หงหยวนมองฏีฏาฉบับหนึ่งที่เปรอะเปื้อนก่อนจะถอนหายใจออกมา
เห้อ!!บอกว่ามันโดนแป้งข้าวเหนียวหกใส่ก็แล้วกัน
เมื่อจัดการสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์กันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามจึงหารือกันทันที
"อารั่ว ข้าจะส่งเจ้ากับหงลี่เดินทางออกนอกเมืองหลวงไปยังหมู่บ้านชนบทแถบชานเมืองเพื่อจัดการปัญหาภัยแล้งในครานี้ น่าแปลกสภาพอากาศเหตุใดจึงแปรปรวนเช่นนี้ไปได้"
"อาจเพราะมีการถากถางที่ดินทำกิน ทำให้ต้นไม้ลดน้อยลงพ่ะย่ะค่ะเสด็จลุง"
"ลูกเห็นด้วยกับพี่รั่วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ"
"ดี เช่นนั้นเจ้าจงรีบกลับจวน เร่งเตรียมการ ออกเดินทางโดยเร็วเถิด ไปแจ้งบิดาเจ้าด้วย ยามนี้ข้าเห็นบิดาเจ้าวุ่นวายอยู่แต่ในค่ายทหาร ยามว่างให้มาพบข้าบ้าง"
"รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ"
ด้านฮองเฮาในยามนี้นั้น นางกำลังนั่งดื่มนมแพะเพื่อบำรุงผิวพรรณ เมื่อได้ยินว่าภายในห้องทรงอักษรเกิดสิ่งใดขึ้น ก็ลอบถอนหายใจออกมาทันที
สงสัยบ้านเมืองจะสงบสุขมากเกินไป นับวันพระสวามีและพระโอรสของนางจึงมีกิจกรรมพิศดารขึ้นทุกวัน
จ้างโจรมาปล้นวังหลวงดีหรือไม่?
ไม่ดีสิ!!
หรือจะหาสนมมาเพิ่ม
ก็ไม่ดีอีก!!ทุกวันนี้เหล่าสนมก็แทบจะวิ่งหนีฝ่าบาทแล้ว เขาเล่นทั้งชักทั้งกระแทกใครจะไปทนไหวกัน!!
ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว!!
นางกำนัลอาวุโสที่เห็นว่าฮองเฮาทรงมีพระอาการไม่สู้ดีเท่าใดนัก จึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
"เหนียงเหนียงทรงมิสบายหรือเพคะ"
"ข้าอยากถูกกระแทก อุ๊ย!!"
"เอ๋!!"
เมื่อรู้ว่าตนเองเอ่ยวาจามิน่าฟังออกไป ฮองเฮาจึงมีท่าทีกระอักกระอ่วนยิ่งนัก นางกำนัลอาวุโสจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"เช่นนั้นหม่อมฉันจะไปกราบทูลฝ่าบาทดีหรือไม่เพคะ"
"เอ่อ ไม่ต้อง!!"
"จะดีหรือเพคะ หากไม่ถูกกระแทกพระอาการคงจะมิดีขึ้นนะเพคะ!!"
"ข้าบอกว่าไม่ต้อง!!"
"ได้ยินว่าฮองเฮาอยากถูกกระแทกหรือ?"
เสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้นมาที่ด้านหน้าตำหนัก ทำให้ฮองเฮาต้องหันขวับไปมองทันที
"ฝ่าบาท"
"ฮองเฮา ยอดรัก ข้ามาหระแทกเจ้าแล้ว"
ฮองเฮา "......"
จวนโหวตระกูลหลี่
หลี่รั่วหานรีบเร่งกลับมาที่จวน เขานำคำสั่งของฮ่องเต้หงหยวนมาบอกผู้เป็นบิดาว่าการเดินทางไปนอกเมืองหลวงในครานี้ ต้องนำเหล่าทหารติดตามไปด้วย เพื่อช่วยกันขนเสบียงไปให้เหล่าชาวบ้าน แม่ทัพใหญ่หลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบสั่งการเหล่าทหารใต้บังคับบัญชาทันที เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลี่รั่วหานจึงไปหาองค์หญิงหงลี่ผู้เป็นมารดาที่เรือนใหญ่ เมื่อไปถึงก็พบกับจ้าวไป๋ลู่ที่กำลังนั่งปักหมอนลายนกยวนยางอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับพูดคุยกับมารดาเขาและส่งเสียงหัวเราะกังวานใส
"ท่านแม่"
"อารั่ว เหตุใดจึงกลับมารวดเร็วนักเล่า"
"วันพรุ่งลูกจะต้องออกนอกเมืองหลวงโดยด่วน จึงจะมาแจ้งให้ท่านแม่ทราบก่อนขอรับ"
"มีเรื่องใดหรือ?"
"ชาวบ้านชนบทเกิดภัยแล้งขอรับ"
"อ้อ การเดินทางย่อมใช้เวลาไม่น้อย เจ้าเองก็มีแต่เหล่าบุรษร่วมเดินทาง แม่ว่าให้ไป๋ไป๋ติดตามไปช่วยดูแลเจ้าดีหรือไม่ สามีภรรยาเพิ่งแต่งงานมิควรเหินห่างกันเช่นนี้"
"ไม่ขอรับ หนทางยาวไกล นางเป็นสตรีจะลำบากเอาได้"
หึ!!จะไปเป็นภาระข้าน่ะสิไม่ว่า ข้าไม่มีทางให้เจ้าติดตามไปด้วยเด็ดขาด
"อารั่ว!!นางเพิ่งตบแต่งเข้ามาย่อมมิอยากห่างเหินสามี เจ้าพานางไปด้วยเถิด"
"ท่านแม่!!"
"ท่านแม่เจ้าคะ ไป๋ไป๋อยู่รอท่านพี่ที่จวนดีกว่าเจ้าค่ะ"
นางเองมิอยากจะทะเลาะกับเขาเช่นกัน จึงหาทางบ่ายเบี่ยงเสีย หลี่รั่วหานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ลอบพยักหน้าในใจ
นับว่าไม่โง่!!
"ไม่ได้!!หากเจ้าไม่ให้นางไปด้วย แม่ไม่วางใจ แม่เพียงเป็นห่วงเจ้า เจ้าทำเพื่อแม่มิได้หรืออารั่ว"
เมื่อนึกถึงภาพที่มารดาวิ่งชนเสาใจเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก แม้จะอยากเอ่ยโต้แย้งเพียงใดก็ตาม
เมื่อกลับมาถึงเรือน เขาจึงหันมามองจ้าวไป๋ลู่ตาขวาง
"อย่าคิดสร้างปัญหาให้ข้า!!!!"
"เจ้าค่ะ"
เดิมทีเขาคิดจะแอบพาหนิงเสวี่ยไปด้วยกัน แต่เพราะมีจ้าวไป๋ลู่คอยขัดขวาง อีกทั้งท่านแม่ยังจับตามอง ท้ายที่สุดเขาจึงมิอาจพาหนิงเสวี่ยไปด้วย
เขาทำผิดต่อนางอีกแล้ว!!!
จ้าวไป๋ลู่เองก็มิได้อยากติดตามเขาไปเท่าใดนัก ดูท่าทางที่เขาจะกินหัวนางสิ นี่น่ะหรือเจรจาสงบศึก ท้ายที่สุดเขาก็เกลียดหน้านางอยู่ดี
เช้าวันรุ่งขึ้น จ้าวไป๋ลู่ก็ออกเดินทางไปพร้อมกับหลี่รั่วหาน
ด้านหนิงเสวี่ยในยามนี้นั้น นางขยำจดหมายที่หลี่รั่วหานส่งมาให้ด้วยความเกลียดชัง เดิมทีเขาบอกกับนาง ว่าจะลอบพานางติดตามไปด้วย แล้วหลังจากนั้นก็จะแต่งนางเข้าจวน แต่เพราะมารดาของเขาเจ้ากี้เจ้าการไปเสียทุกเรื่อง เรื่องราวจึงกลับแปรเปลี่ยนไปเช่นนี้
เห็นที หากนางได้แต่งเข้าจวนโหวเมื่อใด คงจะเก็บแม่สามีผู้นี้เอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว!!!