บทที่ 13

1215 คำ
ห้องทรงอักษร "โอวววว ซี๊ดดด ได้ยินว่าราษฏรแถบชนบทขาดแคลนอาหาร เจ้าจัดการหรือยังรัชทายาท!" "อ๊าาา เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ!!' "หงลี่ เจ้าอย่าให้มันพุ่งมาทางนี้โอววว มันจะเปื้อนฏีฏาของข้า!!!" "ไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ มันจะพุ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ อ๊าาาา!!" "บัดซบ!!ฏีฏาข้า!!!ซี๊ดดด!!!" หลี่รั่วหานที่กำลังเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทรงอักษร เมื่อได้ยินเสียงโหยหวนจากด้านในก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย รีดพิษกันอีกแล้วสินะ!!! เสด็จลุงมีรับสั่งเรียกเขาเข้าวังเพื่อหารือเรื่องภัยแล้ง เพราะได้รับความโปรดปราณเข้าจึงสามารถเข้าออกห้องทรงอักษรได้อย่างตามใจชอบ "ครื้นเครงกันแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ" "อารั่ว!!" "พี่รั่ว!!" ฮ่องเต้หงหยวนและองค์รัชทายาทหงลี่หันมาส่งยิ้มทักทายให้หลี่รั่วหาน หลี่รั่วหานมองภาพตรงหน้าก่อนจะเผลอขบขันออกมา ให้ตายเถิด!! ยุคสมัยของเสด็จลุง ยามหารือราชกิจต้องแก้ผ้าไปด้วยเช่นนี้หรือ? เห้อ!!คงไม่ดีเท่าใดกระมัง เขาต้องร่วมแก้ด้วยจึงจะถูก! เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่รั่วหานจึงปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนออกก่อนจะสาวชักลำแท่งเอ็นร้อนอย่างเมามันเช่นเดียวกัน ฮ่องเต้หงหยวนและองค์รัชทายาทหงลี่เบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะร่วมกันชักเช่นกัน ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ ภารกิจชักสะท้านฟ้าก็สิ้นสุดลง ฮ่องเต้หงหยวนมองฏีฏาฉบับหนึ่งที่เปรอะเปื้อนก่อนจะถอนหายใจออกมา เห้อ!!บอกว่ามันโดนแป้งข้าวเหนียวหกใส่ก็แล้วกัน เมื่อจัดการสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์กันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามจึงหารือกันทันที "อารั่ว ข้าจะส่งเจ้ากับหงลี่เดินทางออกนอกเมืองหลวงไปยังหมู่บ้านชนบทแถบชานเมืองเพื่อจัดการปัญหาภัยแล้งในครานี้ น่าแปลกสภาพอากาศเหตุใดจึงแปรปรวนเช่นนี้ไปได้" "อาจเพราะมีการถากถางที่ดินทำกิน ทำให้ต้นไม้ลดน้อยลงพ่ะย่ะค่ะเสด็จลุง" "ลูกเห็นด้วยกับพี่รั่วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ" "ดี เช่นนั้นเจ้าจงรีบกลับจวน เร่งเตรียมการ ออกเดินทางโดยเร็วเถิด ไปแจ้งบิดาเจ้าด้วย ยามนี้ข้าเห็นบิดาเจ้าวุ่นวายอยู่แต่ในค่ายทหาร ยามว่างให้มาพบข้าบ้าง" "รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ" ด้านฮองเฮาในยามนี้นั้น นางกำลังนั่งดื่มนมแพะเพื่อบำรุงผิวพรรณ เมื่อได้ยินว่าภายในห้องทรงอักษรเกิดสิ่งใดขึ้น ก็ลอบถอนหายใจออกมาทันที สงสัยบ้านเมืองจะสงบสุขมากเกินไป นับวันพระสวามีและพระโอรสของนางจึงมีกิจกรรมพิศดารขึ้นทุกวัน จ้างโจรมาปล้นวังหลวงดีหรือไม่? ไม่ดีสิ!! หรือจะหาสนมมาเพิ่ม ก็ไม่ดีอีก!!ทุกวันนี้เหล่าสนมก็แทบจะวิ่งหนีฝ่าบาทแล้ว เขาเล่นทั้งชักทั้งกระแทกใครจะไปทนไหวกัน!! ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว!! นางกำนัลอาวุโสที่เห็นว่าฮองเฮาทรงมีพระอาการไม่สู้ดีเท่าใดนัก จึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย "เหนียงเหนียงทรงมิสบายหรือเพคะ" "ข้าอยากถูกกระแทก อุ๊ย!!" "เอ๋!!" เมื่อรู้ว่าตนเองเอ่ยวาจามิน่าฟังออกไป ฮองเฮาจึงมีท่าทีกระอักกระอ่วนยิ่งนัก นางกำนัลอาวุโสจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที "เช่นนั้นหม่อมฉันจะไปกราบทูลฝ่าบาทดีหรือไม่เพคะ" "เอ่อ ไม่ต้อง!!" "จะดีหรือเพคะ หากไม่ถูกกระแทกพระอาการคงจะมิดีขึ้นนะเพคะ!!" "ข้าบอกว่าไม่ต้อง!!" "ได้ยินว่าฮองเฮาอยากถูกกระแทกหรือ?" เสียงทรงอำนาจเอ่ยขึ้นมาที่ด้านหน้าตำหนัก ทำให้ฮองเฮาต้องหันขวับไปมองทันที "ฝ่าบาท" "ฮองเฮา ยอดรัก ข้ามาหระแทกเจ้าแล้ว" ฮองเฮา "......" จวนโหวตระกูลหลี่ หลี่รั่วหานรีบเร่งกลับมาที่จวน เขานำคำสั่งของฮ่องเต้หงหยวนมาบอกผู้เป็นบิดาว่าการเดินทางไปนอกเมืองหลวงในครานี้ ต้องนำเหล่าทหารติดตามไปด้วย เพื่อช่วยกันขนเสบียงไปให้เหล่าชาวบ้าน แม่ทัพใหญ่หลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบสั่งการเหล่าทหารใต้บังคับบัญชาทันที เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หลี่รั่วหานจึงไปหาองค์หญิงหงลี่ผู้เป็นมารดาที่เรือนใหญ่ เมื่อไปถึงก็พบกับจ้าวไป๋ลู่ที่กำลังนั่งปักหมอนลายนกยวนยางอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับพูดคุยกับมารดาเขาและส่งเสียงหัวเราะกังวานใส "ท่านแม่" "อารั่ว เหตุใดจึงกลับมารวดเร็วนักเล่า" "วันพรุ่งลูกจะต้องออกนอกเมืองหลวงโดยด่วน จึงจะมาแจ้งให้ท่านแม่ทราบก่อนขอรับ" "มีเรื่องใดหรือ?" "ชาวบ้านชนบทเกิดภัยแล้งขอรับ" "อ้อ การเดินทางย่อมใช้เวลาไม่น้อย เจ้าเองก็มีแต่เหล่าบุรษร่วมเดินทาง แม่ว่าให้ไป๋ไป๋ติดตามไปช่วยดูแลเจ้าดีหรือไม่ สามีภรรยาเพิ่งแต่งงานมิควรเหินห่างกันเช่นนี้" "ไม่ขอรับ หนทางยาวไกล นางเป็นสตรีจะลำบากเอาได้" หึ!!จะไปเป็นภาระข้าน่ะสิไม่ว่า ข้าไม่มีทางให้เจ้าติดตามไปด้วยเด็ดขาด "อารั่ว!!นางเพิ่งตบแต่งเข้ามาย่อมมิอยากห่างเหินสามี เจ้าพานางไปด้วยเถิด" "ท่านแม่!!" "ท่านแม่เจ้าคะ ไป๋ไป๋อยู่รอท่านพี่ที่จวนดีกว่าเจ้าค่ะ" นางเองมิอยากจะทะเลาะกับเขาเช่นกัน จึงหาทางบ่ายเบี่ยงเสีย หลี่รั่วหานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ลอบพยักหน้าในใจ นับว่าไม่โง่!! "ไม่ได้!!หากเจ้าไม่ให้นางไปด้วย แม่ไม่วางใจ แม่เพียงเป็นห่วงเจ้า เจ้าทำเพื่อแม่มิได้หรืออารั่ว" เมื่อนึกถึงภาพที่มารดาวิ่งชนเสาใจเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก แม้จะอยากเอ่ยโต้แย้งเพียงใดก็ตาม เมื่อกลับมาถึงเรือน เขาจึงหันมามองจ้าวไป๋ลู่ตาขวาง "อย่าคิดสร้างปัญหาให้ข้า!!!!" "เจ้าค่ะ" เดิมทีเขาคิดจะแอบพาหนิงเสวี่ยไปด้วยกัน แต่เพราะมีจ้าวไป๋ลู่คอยขัดขวาง อีกทั้งท่านแม่ยังจับตามอง ท้ายที่สุดเขาจึงมิอาจพาหนิงเสวี่ยไปด้วย เขาทำผิดต่อนางอีกแล้ว!!! จ้าวไป๋ลู่เองก็มิได้อยากติดตามเขาไปเท่าใดนัก ดูท่าทางที่เขาจะกินหัวนางสิ นี่น่ะหรือเจรจาสงบศึก ท้ายที่สุดเขาก็เกลียดหน้านางอยู่ดี เช้าวันรุ่งขึ้น จ้าวไป๋ลู่ก็ออกเดินทางไปพร้อมกับหลี่รั่วหาน ด้านหนิงเสวี่ยในยามนี้นั้น นางขยำจดหมายที่หลี่รั่วหานส่งมาให้ด้วยความเกลียดชัง เดิมทีเขาบอกกับนาง ว่าจะลอบพานางติดตามไปด้วย แล้วหลังจากนั้นก็จะแต่งนางเข้าจวน แต่เพราะมารดาของเขาเจ้ากี้เจ้าการไปเสียทุกเรื่อง เรื่องราวจึงกลับแปรเปลี่ยนไปเช่นนี้ เห็นที หากนางได้แต่งเข้าจวนโหวเมื่อใด คงจะเก็บแม่สามีผู้นี้เอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว!!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม