เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว หลี่รั่วหานจึงเดินออกมาจากด้านหลังต้นสาลี่ แล้วจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างเอาเรื่อง
"เจ้านี่มารยาเยอะเสียจริง ทำทีมาบอกว่าจะดูต้นทางให้ข้า แต่แท้จริงแล้ว เจ้าคงอยากดูของข้าจนตัวสั่นสินะ!!!"
จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองเขาด้วยความตกใจ ให้ตายเถิด!!นางแค่แวะผ่านมาเองนะ
"ซื่อจื่อคงเข้าใจผิดแล้วกระมังเจ้าคะ เดิมทีข้าเพียงรู้สึกเบื่อหน่ายจึงอยากจะออกมาเดินเล่นเพื้อผ่อนคลายอารมณ์เพียงเท่านั้น แต่กลับ ได้ยิน เอ่อ... ชักขึ้นชักลง ชักลงชักขึ้น ฮ่าๆๆๆ"
"หุบปาก เดี๋ยวนี้นะ!!!"
"ซื่อจื่อ ข้าอุตส่าห์มีน้ำใจดูต้นทางให้ท่านนะเจ้าคะ"
"ใครขอร้องเจ้ากัน!!!"
"ไม่มีนะเจ้าค่ะ"
"จำไว้!!อย่าเสนอหน้ามายุ่งเรื่องของข้าอีก!!!"
"เจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ อุ๊ย ชักขึ้นชักลง ชักลงชักขึ้น ฮ่าๆๆๆ"
จ้าวไป๋ลู่หัวเราะจนตัวงอ สร้างความโมโหให้แก่หลี่รั่วหานเป็นอย่างมาก เขากระชากแขนนางเข้าหาตัวอย่างสุดแรง ก่อนจะจ้องนางเขม็ง
"ท้าทายข้าหรือ!!!"
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น จ้าวไป๋ลู่จึงพยายามดันตนเองออกจากการเกาะกุมของเขา
"ข้าเจ็บนะเจ้าคะ!!"
"เจ็บหรือ!!หึ!! เมื่อครู่ยังหัวร่อต่อกระซิกอย่างร่าเริงใจอยู่เลยมิใช่หรือ ครานี้มาทำสำออยเสียแล้ว วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับข้าหรอก!!"
"คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วย กลับมาด่าทอต่อว่า นิสัยไม่ดี!!"
"หากเจ้าไม่หุบปากข้าจะโยนเจ้าลงน้ำเดี๋ยวนี้!!!!"
"ซื่อจื่อ!!"
"มานี่!!"
"ว๊าย!!"
"โอะ!!!"
เพราะฉุดกระชากกันไปมา ทำให้คนทั้งสองเซล้มลงไปบนพื้นหญ้า จ้าวไป๋ลู่ล้มลงไปนอนทับบนกายของหลี่รั่วหาน ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบทาบทับกันในทันที
ความตื่นตระหนกฉายผ่านแววตาของคนทั้งสอง จ้าวไป๋ลู่และหลี่รั่วหานค้างนิ่งอยู่ท่าเดิมเช่นนี้โดยไม่มีผู้ใดขยับ
เป็นหลี่รั่วหานที่ตั้งสติได้ก่อน เขาจึงผลักนางออกทันที
"เด็กผี!!เจ้ากล้าล่วงเกินข้าหรือ!!!"
"ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะเป็นท่านที่ดึงข้าล้มลงไปเอง!!!"
"น่าขยะแขยงที่สุดข้าเกลียดเจ้า!!!"
เขารีบเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะพยุงนางที่ล้มอยู่กับพื้นขึ้นมาแม้แต่น้อย จ้าวไป๋ลู่ถลึงตามองเขาคราหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นมาช้าๆ และพาตนเองเดินกลับเรือนทันที
สำรับยามเย็นในวันนี้มีเพียงจ้าวไป๋ลู่ที่นั่งกินอยู่เพียงลำพัง แต่นางเองก็มิได้สนใจสิ่งใดแม้แต่น้อย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาลิ้มรสชาติอาหารตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี
ด้านหลี่รั่วหานในยามนี้นั้น เขากำลังนั่งดื่มสุราเริศรสและอาหารรสชาติเยี่ยมยอดกับหนิงเสวี่ยที่ภัตตาคารชิงชาง ภัตตาคารอันดับหนึ่งในเมืองหลวง ที่มีทั้งสุราและอาหารมากมายสำหรับชนชั้นสูง
"เสวี่ยเอ๋อร์ นี่เป็นปิ่นปักผมที่ทำจากหยกเนื้อดี ข้ามอบมันให้เจ้า มีเพียงเจ้าที่คู่ควรกับหยกล้ำค่าเช่นนี้"
"พี่รั่วช่างดีต่อเสวี่ยเอ๋อร์ยิ่งนัก"
"เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าน่ะงดงามบริสุทธิ์ราวกับดวงจันทร์บนฟากฟ้า สตรีอื่นย่อมเป็นได้เพียงเงาเลือนรางอยู่ใต้จันทร์ทราเช่นเจ้า มิอาจเทียบเคียงเจ้าได้เลยแม้แต่น้อย"
เมื่อได้ยินถ้วยคำเกี้ยวพาเช่นนี้จากปากของหลี่รั่วหาน หนิงเสวี่ยก็รู้สึกเขินอายไม่น้อย ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ ทำให้หลี่รั่วหานใจอ่อนยวบ
เมื่อหนึ่งปีก่อนเขาได้พบนาง ยามนั้นนางกำลังเดินเที่ยวเล่นอยู่ในตลาด แต่กลับถูกอันธพาลรังแก เขาจึงช่วนเหลือนางเอาไว้ นับแต่นั้นเขากับนางก็มีใจตรงกันเรื่อยมา
"เสวี่ยเอ๋อร์ข้าทำผิดต่อเจ้ายิ่งนัก"
"พี่รั่ว อย่ากล่าวโทษตนเองเลยเจ้าค่ะ หากไร้หนทางได้เป็นภรรยาเอก เสวี่ยเอ๋อร์ยินยอมเป็นภรรยารองของท่านอย่างเต็มใจเจ้าค่ะ"
"เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าจะต้องทำทุกทางให้เจ้าได้เป็นภรรยาเอกในสักวัน"
"ข้าจะรอพี่รั่วนะเจ้าค่ะ"
สองสายตาสบประสานกันอย่างหวานซึ้ง หลี่รั่วหานยกจอกสุรามอบให้นาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"สุราจอกนี้แทนคำสัญญา ว่าข้าจะรักเจ้าตลอดไป"
จวนโหวตระกูลหลี่
เมื่อส่งหนิงเสวี่ยที่จวนตระกูลหนิงเรียบร้อยแล้ว หลี่รั่วหานจึงกลับมาที่จวนของตนในทันที ในขณะที่เขากำลังก้าวเข้าจวน ก็มีแส้เส้นหนึ่งฟาดเข้ามาที่กลางหน้าผากของเขาอย่างเต็มแรง
"อ๊าา!!ใครตีข้า!!!"
"ข้าเอง!!แม่เจ้า!!"
"ท่านแม่!!!!"
"ใช่!ข้าเอง ลูกชั่ว เจ้าทำได้เช่นไร!!! เจ้าปล่อยไป๋ไป๋ให้นางกินข้าวเพียงลำพังผู้เดียว แต่เจ้ากลับไปเสวยสุขกับนางจิ้งจอกผู้นั้น เจ้าแต่งงานมีภรรยาแล้ว ไป๋ไป๋คือภรรยาของเจ้า เจ้าอย่าได้ลืมเรื่องนี้!!"
"ท่านแม่ ลูกแต่งนางเข้าจวนมาเป็นภรรยาเอกก็มากพอแล้ว ยังจะให้ลูกเอาใจนางอีกหรือ!! ลูกไม่สน ลูกจะต้องแต่งเสวี่ยเอ๋อร์เข้ามาเป็นภรรยารองให้ได้!!"
เพี้ยะ!!
"ท่านแม่!!!!"
"ขืนเจ้าพูดอีก ข้าจะฟาดเจ้าให้ตาย!!!"
หลี่รั่วหานอับจนหนทางแล้ว เขาจึงต้องยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นมารดา ก่อนจะมุ่งหน้าไปหาจ้าวไป๋ลู่ที่เรือนทันที เมื่อเห็นว่านางกำลังจิบชาอย่างสบายอารมณ์ เขาก็ตรงไปปัดถ้วยชาในมือนางทิ้งทันที จ้าวไป๋ลู่ขมวมคิ้วมุ่นก่อนจะมองเขาด้วยความสงสัย
โรคประสาทกำเริบหรืออย่างไรกัน!!!
"เป็นเจ้าที่ไปฟ้องท่านแม่ใช่หรือไม่!!!!"
"ฟ้องเรื่องใดเจ้าคะ?"
"ก็เรื่องที่ข้าไปหาหนิงเสวี่ย ปากมากนักนะ!!วันนี้ข้าจะอุดปากเจ้าเสีย!!"
"ซื่อจื่อ ท่าน!!อื้ออ!!"
หลี่รั่วหานกระชากตัวจ้าวไป๋ลู่ขึ้นมา ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากนางอย่างรุนแรง จ้าวไป๋ลู่ผลักไสเขาอย่างสุดกำลัง หลี่รั่วหานที่เห็นเช่นนั่นจึงผละออกจากนาง ก่อนจะเอ่ยวาจาถากถางนางอย่างดูแคลน
"เจ้าอยากเป็นภรรยาของข้ามากไม่ใช่หรือ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะสนองเจ้าให้ถึงใจดีหรือไม่!!!"
"อย่าเข้ามานะเจ้าคะ!!"
"กลัวหรือ!!หึ คืนนี้ข้าจะตอบสนองเจ้าให้สาแก่ใจ เรื่องสตรีข้าย่อมเก่งกาจอยู่แล้ว เจ้าก็เป็นเพียงดอกไม้รายทางที่ข้าจะเขี่ยทิ้งเมื่อใดก็ย่อมได้!!"
"ข้าบอกว่าอย่าเข้ามา!!!"
"หึ!!กลัว หรือ ฮ่าๆๆๆ โอ๊ย!!!"
พลั่ก!!
"ก็บอกแล้วว่าอย่าเข้ามา!!!!!หึ!!!!"
จ้าวไป๋ลู่ยกเข่ากระทุ้งเข้าไปที่หว่างขาของหลี่รั่วหานอย่างเต็มแรงจนเขาหน้าดำเขียวคล้ำเพราะความจุก ไม่พอแค่นั้นนางยังกระทุ้งซ้ำเข้าไปอีกเป็นรอบที่สองจนเขาทรุดลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้น
"ขออภัยนะเจ้าคะซื่อจื่อ ข้าจำเป็นต้องทำ มิเช่นนั้นท่านจะล่วงเกินข้าเอาได้ แม้เราจะแต่งงานกันแล้ว แต่ก็มิได้มีใจรักใคร่ต่อกัน ข้าเองไม่มีวันยินยอมให้ท่านดูหมิ่นข้าเป็นแน่!!"
นางเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป และมุ่งหน้าไปที่ห้องตำราพร้อมกับผ้าห่มและหมอน ก่อนจะผล็อยหลับในห้องตำราจนถึงรุ่งสาง
หลี่รั่วหานกัดฟันกรอด สตรีนางนี้ร้ายกาจไม่เบา
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะคิดแผนการณ์หนึ่งออกมาได้
หากเขายอมตบตาท่านแม่สักครา รอจนท่านแม่วางใจ เขาก็จะสามารถตบแต่งหนิงเสวี่ยเข้ามาเป็นภรรยารองได้เป็นแน่