ตอนที่ 6 ฉันขี้เกียจค่ะ (1)

1258 คำ
“ทำไมเธอไปที่ร้านเครื่องเขียนแล้วถึงไม่ทักพี่?” เสียงทุ้มต่ำทางด้านหลังพลอยทำให้หญิงสาวชะงักขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันได “เอ๋…” จูเลี่ยงรุ่ยหันหลังกลับมาอย่างช้าๆ เธอไม่รู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่สำคัญ เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกขานด้วย เมื่อก่อนจูเลี่ยงรุ่ยเรียกโหวเจียวซือว่า ‘พี่เจียวซือ’ และเขามักจะแทนตัวเองว่า ‘ผม’ แต่วันนี้กลายเป็น ‘พี่’ ซะงั้น “คุณโหวเจียวซือ เอ่อ ขอโทษค่ะ ร้อยโทโหวเจียวซือ” แหม…เรียกซะเต็มยศ โหวเจียวซือทำสีหน้างุนงงกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวที่ยืนจ้องเขาตรงหน้า หากเป็นเมื่อก่อนทุกครั้งที่เจอกันเธอจะต้องเข้ามากอดแขนและถึงเนื้อถึงตัวเขาแล้ว จนเขาต้องคอยใช้มือปัดป้องให้เธอห่างจากตัวเขาเพราะอายสายตาของบรรดาคนรับใช้ ทว่า…ครั้งนี้… …หนึ่ง สอง สาม จูเลี่ยงรุ่ยก้าวถอยหลังออกห่างจากเขาไปสามก้าวทันทีที่รู้ว่าคนที่เธอสบตาด้วยคือใคร “พี่ถามว่าวันนี้เธอไปร้านขายเครื่องเขียนร้านเดียวกันกับพี่และเธอก็เจอเพื่อนพี่ด้วย ทำไมเธอถึงไม่มาทักทายพี่” เขาพูดเสียงดังขึ้น พยายามเค้นคำตอบจากเธอ จูเลี่ยงรุ่ยมุ่นหัวคิ้ว “เอ๋... คือยังไงคะ คือฉันจะต้องเข้าไปหาคุณเพื่อทักทายทุกครั้งที่เข้าไปในร้านเดียวกันน่ะหรือ?” น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความงุนงง ชายหนุ่มทำท่าฮึดฮัดออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ก็…เธอเคยทำอย่างนั้นทุกครั้ง ทุกครั้งที่เธอเจอพี่เธอจะต้องเข้ามาทัก หรือว่าเธอเจอเพื่อนพี่เธอก็จะทักทายพวกเขาและถามหาพี่ แต่นี่…” พูดมาถึงตรงนี้โหวเจียวซือก็เริ่มงงกับคำพูดของตนเอง …นี่เขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ต้องการให้เธอเข้ามาทัก เข้ามาหา เข้ามาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาเหมือนเมื่อก่อนน่ะหรือ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ “โหวเจียวซือคะ คือ ฉันอาจจะเคยทำอย่างนั้น แต่มันก็ไม่จำเป็นว่าฉันต้องทำทุกครั้ง คือ…จะบอกอย่างไรล่ะค่ะ ความจริงตอนที่ฉันเห็นเพื่อนของคุณฉันก็จำเขาได้ค่ะ และฉันยังเห็นหลังคุณไวๆ ด้วย” จูเลี่ยงรุ่ยพูดด้วยเสียงเรียบเรื่อย ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อน ต่างจากอีกคน “แล้วทำไมเธอถึงไม่มาทักทายพี่?” โหวเจียวซือขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวพร้อมๆ กับทำท่าทางดุดัน แต่คราวนี้จูเลี่ยงรุ่ยไม่ได้ถอยหนี เธอกลับจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง “คือ…ฉันขี้เกียจน่ะค่ะ” คำตอบของเธอทำเอาเขาแทบหงายหลัง ไปต่อไม่เป็น “ฉันขอตัวนะคะ กลับมาเหนื่อยๆ จะไปพักผ่อน” จูเลี่ยงรุ่ยหันหลังกลับทำท่าเหมือนกำลังจะก้าวเดินออกไป ทว่า…โหวเจียวซือที่ไวกว่ากลับคว้าข้อมือของเธอไว้ “เอ๊ะ!คุณโหวเจียวซือ อะไรกันนี่ นี่คุณยังปกติดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าวันนี้กินยาผิดเทียบมาคะ?” หญิงสาวพยายามสลัดข้อมือออกจากพันธนาการของเขา “พี่เอานี่มาคืน ใส่ซะ เรายังเป็นคู่หมั้นกันอยู่ อย่าให้คุณตาของเธอและคุณปู่ของพี่ต้องลำบากใจเลย” โหวเจียวซือหยิบเอากำไลหยกคู่งามอันเป็นมรดกตกทอดของตระกูลโหวมาสวมใส่เข้าไปในข้อมือให้กับหญิงสาว เล่นเอาจูเลี่ยงรุ่ยทำตัวไม่ถูก ไปต่อไม่เป็น นี่คุณพระเอกเขาเต้นเร่าๆ ร่ำร้องอยากจะถอนหมั้นกับเธอ เอ๊ย เจ้าของร่างมานานแล้วไม่ใช่หรือ คราวนี้ไม่จำเป็นต้องหาโอกาสหรือว่าวางแผนอะไรให้เหนื่อยเลยด้วยซ้ำ เธอจัดการถอนหมั้นให้เองทุกอย่าง แล้วนี่เขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาเหมือนกับพ่อของเจ้าของร่างกันล่ะเนี่ย “เอ่อ คุณ โหวเจียวซือ แล้ว…นางเอก เอ๊ย คุณเตียวหนิงฮวาล่ะคะ พวกคุณรักกันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องราวความรักของพวกคุณทำเอาฉันน้ำตาไหลซาบซึ้งใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เมื่อมีโอกาสทำไม่ไม่รีบฉวยโอกาสถอนหมั้นฉัน แล้วคุณจะเอายังไงกับเธอล่ะคะ ฉันงงไปหมดแล้ว” จูเลี่ยงรุ่ยมีสีหน้างุนงงมากขึ้นไปอีก โหวเจียวซือถอนหายใจ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับสองสาวพี่น้องต่างแม่คู่นี้ และไม่รู้ว่าตัวเขาเองนั้นเป็นบ้าอะไร “พี่ไม่รู้” “อ้าว!” “แต่พี่ยังไม่ยอมถอนหมั้นตอนนี้แน่” ชายหนุ่มทำสีหน้าขึงขัง จูเลี่ยงรุ่ยจะหัวเราะก็ไม่ได้ จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก ตั้งแต่แรกที่เธอรู้ตัวว่ามาสวมบทบาทเป็นนางร้ายรุ่นเล็กเธอก็ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะพยายามเปลี่ยนนางร้ายแม่ให้เป็นคนดี และเลิกยุ่งเกี่ยวกับพระเอกพ่อและคุณพระเอกคนนี้ เอาแบบ…น้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลองเลย แต่นึกไม่ถึงว่าพระเอกทั้งสองกลับไม่เล่นตามบทบาท ‘ถ้าในนิยายเรื่องนี้มีตัวละครไม่เล่นตามบทก็ได้ นั่นหมายความว่าคนอื่นๆ ก็อาจจะไม่เล่นตามบทก็ได้เช่นกัน ใช่…มันต้องเป็นอย่างนั้นได้อยู่แล้ว เพราะคนแรกที่เริ่มเล่นไม่ตรงบทก็คือเธอ เธอตั้งใจที่จะเป็นนางร้ายไม่ตรงปก “เอ่อ พอดีว่าจู่ๆ ฉันก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดๆ ขึ้นมา อาจจะเป็นผลมาจากการผ่าสมอง ถ้างั้นฉันขอตัวขึ้นไปพักก่อนนะคะ ลาล่ะค่ะ คุณคู่หมั้น” พูดจบจูเลี่ยงรุ่ยก็ฉวยโอกาสที่ชายหนุ่มเผลอรีบวิ่งแจ้นขึ้นบันไดคฤหาสน์ไป ทำเอาโหวเจียวซือร้องตามแทบไม่ทัน “เอ่อ คุณชายโหว ยัง ยังไม่กลับหรือคะ ดูท่าว่าคุณหนูน่าจะนอนพักผ่อนแล้วล่ะค่ะ” เซี่ยซูเจียว หรือ ป้าเซี่ย มีท่าทางลังเลปนสับสนในขณะที่เข้ามาถาม นางเห็นคู่หมั้นของคุณหนูนั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกร่วม 2 ชั่วโมงแล้ว เซี่ยซูเจียววันนี้ทั้งรู้สึกประหลาดใจและยินดีที่เห็นคุณผู้ชายกลับมาบ้าน อีกทั้งยังถามหานายผู้หญิงทั้งสองของบ้านแทบจะตลอดเวลาว่าไปไหนและจะกลับมากี่โมง โทรกลับมาบ้านบ้างหรือเปล่า วันนี้จูลู่จื้อดูลนลานและร้อนรนผิดปกติ ประหลาดใจแรกผ่านไปไม่ทันไร ประหลาดใจที่สองก็เข้ามา รายนี้ให้เพื่อนขับรถมาส่งที่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์แล้วกดกริ่งให้คนรับใช้เปิดประตูให้ เขาเข้ามานั่งรอคุณหนูของนางตั้งแต่บ่ายแก่ๆ แล้ว จนกระทั่งได้เจอกับจูเลี่ยงรุ่ยแล้วและเธอหนีขึ้นห้องนอนไป เขาก็ยังไม่กลับ ยังเฝ้ารอเธออยู่ นี่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น สองหนุ่มต่างวัยต่างพากันกินยาผิดเทียบหรือว่าเทพเซียนองค์ใดดลใจกันนะ คิดๆ แล้วป้าเซี่ยก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ นางอยากให้นายผู้หญิงทั้งสองนั้นสมหวังในรักเสียที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม