ร่างอวบอิ่มเริ่มขยับตัวเบียดชิดเข้าหาความอบอุ่น หญิงสาวซุกใบหน้านวลเนียนเข้าหาความอุ่นร้อน เธอสัมผัสมันได้ด้วยความเคยชินยามเมื่อยู่ในห้องนอนบนเตียงกว้างของตัวเองความอุ่นนี้จะเป็นอื่นไปไม่ได้เลยหากไม่ใช่หมอนข้างคู่ใจ ที่เธอมักใช้นอนกอดอยู่ทุกค่ำคืน แต่สิ่งที่ทำให้นาทยสุรีนึกแปลกใจ ทำไมหมอนข้างวันนี้กลับรู้สึกแข็งๆผิดปกติไปได้...
แต่เพราะอาการง่วงงุนบวกกับความเหนื่อยล้าของร่างกาย ทำให้นาทยสุรีหยุดสงสัยกับหมอนข้างคู่ใจ ถึงจะรู้สึกว่ามันแข็งขึ้นกว่าเดิมไปมาก อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ซักมันมานานแล้วก็อาจเป็นได้ รอยยิ้มหวานจึงผุดขึ้นตรงมุมปาก เมื่อย้อนคิดไปถึงที่มาที่ไปของหมอนข้างใบโปรดปรานใบนี้...
“อ่ะ...ให้” เด็กหญิงผมเปียมองของขวัญในมือของเด็กชายผิวสีแทน เขายื่นส่งมาให้เธอตรงหน้า เด็กหญิงกระพริบตามองด้วยนึกแปลกใจ แต่ยังไม่ยอมยื่นแขนกลมป้อมออกไปรับเสียทีเดียว เพราะยังฉงนกับของขวัญที่หนูน้อยได้รับอยู่ไม่หาย มันหมายความว่าอะไร คนอย่างพี่เสือนะเหรอ จะให้ของขวัญแก่เธอได้...
“รีบๆเอาไปสิ ฉันหนักไม่เห็นหรือไง...” เมื่อเกิดอาการกระดากอาย เสียงที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มจึงเร่งเร้าให้เด็กหญิงผมเปียรีบๆรับมันไปซะ ก่อนใบหน้าของเขาจะเกิดสีแดงไปมากกว่าที่เป็นอยู่...
นาทยสุรีมองหมอนข้างในมือพี่ชายสุดหล่ออย่างช่างใจเล็กน้อย...
“หมอนข้างหรือคะ! “ รอยยิ้มเล็กจึงผุดขึ้นอย่างดีใจ
“นี่พี่เสือให้หนูนิ่มจริงๆหรือคะ...” ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองหมอนข้างสลับกับคนที่ยื่นมันมาให้ด้านหน้าตาใสแจ๋ว
เด็กชายไม่ตอบคำถามหากเปลี่ยนเป็นพยักหน้ารับแทน แต่มิวายยังคงใบหน้าติดจะบึ้งตึงเสียมากกว่า แถมยังเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาตงิดๆ เมื่อเด็กหญิงไม่ยอมยื่นมือออกมารับของขวัญ จากมือเขาเสียที ไม่รู้บ้างหรือไงกว่าเขาจะตัดใจกล้าเอาของขวัญออกมามอบให้ เขาต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน
“เอ้าแล้วตกลง...จะเอาไหม ถ้าไม่เอาจะได้เอาไปทิ้ง” เมื่อไม่เห็นว่าเด็กหญิงนิ่มยื่นมือออกมารับเสียที เจ้าหมอนข้างสีชมพูลายเสือน้อยก็ถูกกระแทกลงบนมือป้อมอย่างกระแทกกระทั้น
“ถ้าไม่ชอบก็ทิ้งไป ไม่ได้อยากให้นักหรอกนะ” เด็กชายเสือเอ่ยขึ้นเสียงแข็งกระด้างกระเง้ากระงอดใส่ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีอย่างอายๆ แสร้งทำมองเมินไปทางอื่นแทนใบหน้าเล็กกลมขาวจั๊วะของเด็กหญิงที่เขารู้สึกหมั่นไส้ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า
ส่วนเด็กหญิงนิ่มเมื่อได้รับของขวัญแล้วก็เอาแต่ยืนยิ้มเปิดปากกว้างด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าพี่ชายที่เป็นลูกของเพื่อนคุณแม่ จะมีน้ำใจให้ของขวัญกับเธอเป็นที่ระลึกก่อนเธอจะกลับกรุงเทพฯ แทนการดึงหางเปียของเธออย่างทุกครั้ง ก่อนเธอจะขึ้นรถกลับ...
“ขอบคุณค่ะพี่เสือ...สวยจังเลย หนูนิ่มชอบค่ะ” มือเล็กป้อมขาวอวบยกขึ้นไหว้ขอบคุณ ก่อนจะยืนกอดหมอนข้างใบนั้นไว้ด้วยความห่วงแหน ใบหน้าเล็กกลมยิ้มจนเห็นฟันขาวซี่เล็กๆ ยืนบิดไปบิดมาด้วยความเขินอาย
“ขึ้นรถได้แล้วค่ะหนูนิ่ม...ขอบใจมากนะจ๊ะลูกเสือ โธ่...ยังมีแก่ใจให้ของขวัญกับน้อง ดูสิหน้ารักเชียวเด็กคนนี้ เอาไว้วันหลังป้าจะพาน้องมาเล่นด้วยใหม่นะจ๊ะ...” คุณหญิงละไมย่อตัวลงตรงหน้าเด็กชาย ลูบแก้มขาวด้วยความเอ็นดู เด็กชายเสือยิ้มรับเก้อๆ ก่อนที่คุณหญิงละไมจะยืดตัวขึ้นแล้วจับจูงบุตรสาวตรงไปยังรถตู้
“ฉันกลับแล้วนะดาว เอาไว้ถ้ามีเวลาว่างอีก จะขึ้นมาเที่ยวใหม่ ขอบใจเธอจริงๆนะ มารบกวนเธอเสียหลายวันเลยคราวนี้ ถ้ายังไง...ถ้าเธอขึ้นไปกรุงเทพฯอีกเมื่อไหร่ก็อย่าลืมโทรหาฉันด้วยล่ะ ฉันจะไปหาเธอ”
“ได้สิละไม...ฉันเห็นเธอแข็งแรงขึ้นมากแบบนี้ ฉันก็อดดีใจด้วยไม่ได้ ถ้าอากาศในกรุงเทพฯมันแย่นัก ก็มาหาที่หาทางปลูกบ้านที่นี่ก็ได้นะ เราจะได้เจอกันบ่อยๆไง คุณประภพก็เอาแต่ทำงาน อยู่คนเดียวในบ้านมันเลยอดเหงาๆไม่ได้ มีเธอมาอยู่เป็นเพื่อนคุย ฉันเสียอีกที่ต้องขอบคุณเธอที่ยังไปมาหาสู่กันเสมอ...” สองเพื่อนสนิทยิ้มส่งให้กันเป็นการบอกลา
“เอาไว้ฉันจะลองปรึษากับท่านเจ้าสัวดูอีกทีก็แล้วกันนะดาว...ป้าไปก่อนนะจ๊ะลูกเสือ เอาไว้เที่ยวหน้าป้าจะพาตานนท์ลงมาด้วย เป็นเพื่อนรักกันไม่ใช่หรือไง นี่ถ้าพ่อเขาไม่ติดว่าจะพาไปสมัครเรียนพิเศษ ก็คงไม่พลาดจะตามลงมาเที่ยวด้วยเหมือนกัน รายนั้นเขาชอบธรรมชาติ แต่ก็ติดสบายจนเคยตัว”
“ครับคุณป้า...เสือจะรอนนท์นะครับ”
เมื่อคุณหญิงละไมกล่าวล่ำลากับเพื่อนรักเสร็จ นางจึงจูงมือบุตรสาวเลี้ยงขึ้นรถลับกรุงเทพฯ ด้วยความรู้สึกสดชื่นมากขึ้น มันปลอดโปร่งด้วยความสบายใจทุกครั้ง การมาเที่ยวเชียงใหม่ก็เท่ากับการมาพักฟื้นให้กับร่างกายไปในตัวด้วยเหมือนกัน...
**************************
ร่างใหญ่โตนอนหลับสบายมาตลอดทั้งคืน เริ่มรู้สึกตัวตื่นเมื่อร่างกายถูกเบียดด้วยร่างหอมๆของแม่เมียเนื้อหวาน หญิงสาวที่เขาพึ่งได้มาเป็นเมียหมาดๆ ดวงตาคู่คมจับจ้องลงยังใบหน้าสวยหวานด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ แต่เมื่อสติย้ำเตือนบางเรื่องขึ้นมา สายตาคมกริบไม่ต่างจากเสือร้ายกลับแปรเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ขึ้นจนดูน่ากลัว...
เราจะมามัวหลงใหลเพียงแค่ได้เห็นหน้าสวยงามนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด อย่าลืมสิ เราจับนาทยสุรีมาเพื่อเหตุผลอะไร?...ความคิดหนึ่งผุดขึ้นย้ำเตือนให้ปวีณได้ตระหนัก เขาต้องทำให้ไอ้นนท์ไอ้เพื่อนนิสัยเลวทราม มันเจ็บจนกระอักเป็นสายเลือด เหมือนอย่างที่มันทำไว้กับลูกหว้าไม่ต่างกัน และคนเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้แผนการทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี นั่นก็คือ...นาทยสุรีนั่นเอง
เขาจะทำให้เธอท้อง พอเธอท้องเขาก็จะทิ้งเธออย่างไม่ดูดำดูดี เขาจะทำเหมือยอย่างที่ไอ้นนท์มันทำกับน้องสาวของเขาไม่ผิดเพี้ยน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มันถึงจะสาแก่ใจของเขา...
เมื่อคิดได้ดังนั้น ร่างใหญ่จึงขยับออกห่างร่างงามเพียงเล็กน้อย ก่อนจะพลิกร่างงามให้นอนหงายราบไปกับพื้นเตียง ชายหนุ่มใช้สายตากวาดมองร่างเปลือยเปล่าขาวละออด้วยความพึงพอใจ ร่างสวยสมส่วนนี้ไม่เพียงแค่ขาวสะอาดแต่ยังไร้จุดตำหนิใดๆให้สะดุดตาอีกด้วย ตั้งแต่เขาเกิดมาแล้วรู้จักเรื่องเซ็กส์ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนจะสวยสมบูรณ์แบบได้เท่าผู้หญิงตรงหน้าของเขาเลยสักคนเดียว...
เมื่อปวีณใช้สายตาสำรวจร่างงามทุกซอกทุกมุมอย่างพอใจเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงขยับร่างใหญ่ของตัวเองขึ้นค่อมอยู่เหนือร่างหอมกรุ่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้เขาได้ตักตวงความหอมหวานจากปากอิ่มรสเลิศได้อย่างถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น คนกำลังนอนหลับสบายไม่อาจปัดป้องช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อความรู้สึกเลือนรางเหมือนอยู่ในความฝันแสนรัญจวนนั้นทำให้นาทยสุรีเคลิบเคลิ้ม จนริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลิ้นร้อนชอนไชเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กแต่หวานล้ำได้อย่างสะดวกสบายจนปวีณพอใจร้องฮึมๆขึ้นในใจ ชายหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาตักตวงสิ่งที่ตัวเองโหยหาอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะดึงใบหน้าหล่อเหลาขึ้นมามองใบหน้างามแล้วก็ส่ายหน้าอย่างระอากับความขี้เซาของหญิงสาว...
เขาทำเธอถึงขนาดนี้แล้ว หากเจ้าหล่อนยังไม่คิดจะลืมตาขึ้นมาดูเลยด้วยซ้ำ...
“ตื่นได้แล้วแม่คุณจ๋า นี่กะจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนกัน สายโด่งจนตะวันเลียก้น ยังไม่คิดจะตื่นขึ้นมาอีกหรือไง...” เสียงห้าวทุ่มดังขึ้นแถวๆขมับของหญิงสาว ทำให้แพขนตางอนงามกระพือขึ้นเล็กน้อย แต่เปลือกตายังคงปิดสนิทอยู่เนื่องจากความอ่อนเพลียของร่างกาย ทำให้นาทยสุรีไม่อาจลืมตาขึ้นมามองได้อย่างใจต้องการ
“อืม...” เสียงอืออ้าดังขึ้นด้วยความหงุดหงิดรำคาญใจ เมื่อเธอถูกรบกวนในเวลานอนเช่นนี้
“เอ้า...นี่ไม่คิดจะตื่นขึ้นมาจริงๆใช่ไหม...ได้ ฉันมีวิธีปลุกเธอแบบใหม่ก็แล้วกัน...”
ปวีณทำหน้าเจ้าเล่ห์เมื่อคิดหาวิธีปลุกหญิงสาว ชายหนุ่มระบายยิ้มพึ่งใจ กลับวิธีการปลุกแบบใหม่สดๆร้อนๆเมื่อครู่ที่เขาคิดขึ้นมาได้ เล่นเอาร่างขาวอวบถึงกับสะดุ้งจนต้องรีบลืมตาโพลงขึ้นมาด้วยอาการเจ็บจี๊ดตรงส่วนของความไวต่อความรู้สึก เมื่อมันถูกทักทายทีเดียวเสียทั้งลำใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว
“กรี๊ดๆๆๆๆๆ!เจ็บ...เอามันออกไปนะไอ้เลว...ไอ้ชั่วช้า...”
ร่างเล็กรีบเบิกตาโพลงส่งเสียงร้องพร้อมกับก่นด่าออกมาด้วยความเจ็บปวดปนเจ็บแค้น แต่คนคิดแผนการปลุกไม่ได้อนาทรร้อนใจแต่อย่างใด เมื่อความอ่อนนิ่มภายในโพรงแสนงามกำลังบีบรัดเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ชายหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มยั่วให้คนใต้ล่าง แม้ตอนนี้ใบหน้าของเขาจะดูบิดเบ้เพราะความเสียวซ่านเข้าเล่นงานก็ตามที
“ซี้ดส์...เธอนี่มันแน่นเป็นบ้าเลยวะ...แถมยังเอามันฉิบหาย...” ปวีณสบทคำพูดหยาบคายออกมาเมื่อเขาส่งแรงกระแทกเข้าไปจนมิดทั้งลำอวบ ก่อนจะหมุนวนอยู่ภายในผนังถ้ำให้หญิงสาวได้ปรับตัวเอง นิ้วยาวเรียวบดบี้เม็ดเล็กสีชมพูกลางกายสาว เพื่อช่วยเร่งเร้าให้นาทยสุรีขับน้ำหวานเพื่อช่วยในการไหลลื่นลดความเจ็บปวดลงได้บ้าง ไม่ใช่เขาจะใจจืดใจดำต้องการมีความสุขอยู่เพียงฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ยิ่งเมื่อเห็นอาการดิ้นรนเอาเป็นเอาตาย ปวีณก็ยิ่งต้องข่มความปรารถนาร้อนแรงของตัวเอง แล้วรอคอยให้หญิงสาวขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับตนเองให้ได้
“อ้าขากว้างๆออกสิคนสวย ฉันจะได้กระแทกเธอให้หายเจ็บไง...” ปวีณกัดฟันสั่งร่างเปลือยเปล่าขาวละออตา เธอกำลังแอ่นสะโพกเข้าหานิ้วมือของเขาอย่างลืมตัว
“เสียวไหมหึ เมียจ๋า...” ริมฝีปากหยักได้รูปขยับถาม แต่คนเสียวแทบขาดใจกลับปฏิเสธส่ายหน้าจนผมดำขลับกระจายเต็มหมอนใบโต
“ดื้อ...แล้วแบบนี้ล่ะ...เสียวหรือเปล่า...” ปวีณจงใจระแรงปลายนิ้วโป่งกับนิ้วชี้ลงบนเม็ดเล็กสีชมพู มันสร้างความกระสันซ่านให้กับหญิงสาวหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
“แก!...อือ...ไม่...อย่านะ...โอ้ย...” เสียงเล็กพูดออกมาตะกุกตะกักดิ้นรนร่างงามออกห่าง “ก็ผัวถามดีๆ เมียก็ตอบมาสิจ๊ะ เสียวหรือไม่เสียว”
“เสียวค่ะ...ฉันเสียวหรือเกิน...” เมื่อหญิงสาวทนต่อแรงบีบบี้ไม่ไหวอีกต่อไปจึงจำต้องกัดฟันตอบเขาออกไป เพียงหวังให้เขาหยุดทรมานร่างกายของเธอเสียที
“อาร์...ซี้ดส์...ช่วยนิ่มด้วย นิ่มจะไม่ไหวอยู่แล้ว...” เมื่อเธอไม่เพียงแต่ถูกเขากระแทกกระทั้นจนต้องยอมทำตามโดยการอ้าขาออกให้กว้าง แต่เขายังฉกใบหน้าคมเข้าหาสองเต้าทรวงของเธอแล้วดูดดึงมันไม่ต่างจากทารกน้อยยามดูดนมมารดาเพราะความหิวโซ ปลายลิ้นของเขานั้นก็ร้ายกาจ ทั้งสะบัดและไล้เลียเม็ดเชอร์รี่สลับไปมาจนนาทยสุรีแทบขาดใจ
“โอ้ย!!!ซีดส์...ได้โปรด...ช่วยฉันด้วยค่ะ ฉันขอร้องล่ะ ทำอะไรก็ได้ ช่วยพาฉันให้ออกไปจากความทรมานี้สักทีเถอะนะ...” เธอร้องขอเมื่อทนต่อแรงเสียดเสียวนี้ จากกระทำของเขาไม่ไหวอีกต่อไป
“ร้องขอฉันดังๆสิ แม่ยอดยาหยี ร้องขอให้ฉันเอาเธอแรงๆยังไงล่ะ...”
“ไม่...ไอ้คนบ้า”
“แล้วถ้ายังนี้ล่ะ...” อย่างนี้ของเขาคือการจับเธอหันหลังนอนคว่ำหน้า มือหนายกสะโพกผายขาวล้อตาขึ้นตั้งคลุกเข่า เขายกฝ่ามือฝาดไปบนก้นงอนสองทีติดกันด้วยความหมั่นเขี้ยว
“โอ้ย!ไอ้โรคจิต แกมาตีก้นฉันทำไม” นาทยสุรีส่งเสียงสั่นประท้วงหลับตาลงแน่น เมื่อกลีบผกาช่อใหญ่แบะออกกว้างเพื่อรองรับแท่งสวรรค์อวบใหญ่ของเขา
“ไม่ตีก็ได้ ทำแบบนี้มันกว่าเป็นไหนๆ เพราะฉันอยากได้ยินเสียงเธอร้องดังๆ”
“โอ๊ะ!!!อย่าแรงนักสิ ฉันเจ็บนะ”
“เดี๋ยวก็หายเจ็บน่า อย่าทำเป็นดัดจริตไปหน่อยเลย ขี้ครานเธอจะบอกให้ฉันอึบเธอแรงขึ้น หนักขึ้น...”
“ไม่มีทาง ไอ้บ้า ไอ้หื่น ปล่อยฉันนะ...” นาทยสุรีส่ายสะโพกหนีการรุกราน หากปวีณคว้ารวบเอวจับไว้ทั้งสองมือเพื่อให้เธอหยุดดิ้นหนีไปไหน ก่อนจะส่งแรงกระแทกผลุบเข้าผลุบออกจนนาทยสุรีกำข้อมือจิกผ้าปูเอาไว้แน่น เมื่อมันทั้งเสียวปนเจ็บจุกจนเธอแทบแยกไม่ออก อะไรคืออาการเจ็บอะไรคืออาการเสียวกันแน่...
“อืม! ซีดส์!” ความพยายามของนาทยสุรีมีอันสิ้นสุดลง ต่อให้เธอเม้มริมฝีปากป้องกันไม่ให้หลุดเสียงร้องอันน่าอับอายออกไปมากขึ้นเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเธอต้องยอมพ่ายแพ้ให้กับความเสียวซ่านทั้งจากด้านบนและด้านล่างจนหมดท่า แม้ต้องฝืนใจร้องขอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่ แต่ตอนนี้ความรู้สึกทรมานมันเล่นงานเธอจนไม่อยากมีลมหายใจ เธออยากจะให้เขาช่วยปลดปล่อยเธอออกไปจากความทรมานตรงนี้เสียก่อนที่เธอจะสิ้นใจตายเพราะความเสียวสุดยอดเสียก่อน...
“ได้โปรด ช่วยฉันที...”
“ฉันจะโปรดเธอแน่นอนแม่เมียจอมร่าน...” ปวีณให้คำหมั่นก่อนจะดึงความอลังการออกมาแล้วสวนกระแทกเน้นๆเข้าไปใหม่ เขาทำอย่างนั้นอยู่หลายทีก่อนจะกระแทกอัดเข้าและดึงออกถี่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อได้รับการตอบสนองจากหญิงสาวใต้ร่าง ปวีณก็ยิ่งได้ใจ ชายหนุ่มจึงห่มสะโพกแกร่งของตัวเองกระแทกเข้าหาความอ่อนนุ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
“เธอมันนางมารร้ายจริงๆนะแม่หนูน้อย...”
ปวีณเปลี่ยนท่าโดยจับนาทยสุรีนอนหงายอีกครั้ง เขาสวมใส่แท่งอวบสวนทันทีเมื่อแยกขาเรียวเสลาออกกว้าง นาทยสุรีอดใจไม่ไหว เธอยกฝ่ามือนุ่มนิ่มขึ้นลูบไล้ร่างงดงามมันมะเลื่อมของชายหนุ่ม จึงส่งผลให้คนถูกลูบไล้ด้วยความไร้เดียงสาหลับตาลงหลุดเสียงคำรามลั่นห้องเพราะความเสียวสะท้านกาย สะโพกหนาขยับหมุนวนสลับกันไปเรื่อยๆกับโยกโยนเข้าใส่ นาทยสุรีแหงนเงยใบหน้างามขึ้นมองสำรวจร่างกายของผู้ชายใจทรามด้วยความเผลอไผล เมื่อผิวกายของเขาสร้างความรู้สึกแปลกประหลาดจนทำให้เธอรู้สึกดีเหลือเกิน อีกทั้งรูปร่างของเขานั้นก็ช่างใหญ่โตแถมยังหนันแน่นเต็มไปด้วยมัดกร้ามน่าลูบไล้และสัมผัสยิ่งนัก
“อย่าดึงตรงนั้นสิ...โอ๊ะ!!!” ปวีณสูดปากซีดซาด
เมื่อลำนิ้วเรียวสะดุดเข้ากับกลุ่มขนสีดำเส้นหยิกหนา ทำให้บังเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา หญิงสาวจึงลองดึงสิ่งนั้นเล่นเพื่อต้องการเอาคืนไอ้ผู้ชายใจทรามบ้างเล็กๆน้อยๆ เป็นผลให้ใบหน้าคมฉกเข้าหาก้อนเนื้อเต่งตึง ครอบริมฝีปากร้ายกัดกินเนื้ออวบขาวถือเป็นการเอาคืนส่วนด้านล่างก็ส่งแรงกระแทกเข้าใส่จนร่างแน่งน้อยสะเทือนไปทั้งสรรพางค์กายก็ว่าได้
“กรี๊ด....อาร์...ซี๊ดส์ๆๆๆ” นาทยสุรีต้องส่งเสียงร้องลั่นแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองเพดานตาเบิกกว้าง เมื่อถูกเขาเอาคืนอย่างเน้นหนักทั้งด้านบนและด้านล่างจนสองกลีบผกาปลิ้นเข้าปลิ้นออกมาพร้อมกับน้ำรักสีขุ่นขาว
“แน่นฉิบ...อาร์...” ปวีณห่มสะโพกแกร่งของตัวเองเพื่ออัดเข้าช่องหลืบคับแน่นอย่างถี่ยิบ ส่วนนาทยสุรีก็ไม่ยอมแพ้เช่นกันเมื่อหญิงสาวยกสะโพกงอนงามขึ้นรับแรงกระแทกทุกๆครั้งยามเมื่อเขาโยกกายเข้าหา
สองเต้างามกระพรืมขึ้นลงตามแรงโยกย้ายของร่างงาม จนปวีณเห็นแล้วก็เกิดอาการหมั่นเขี้ยวไม่ไหว ต้องฉกริมฝีปากลงไปดูดดึงเม็ดเชอร์รี่พร้อมกับขบเม้มเบาๆสร้างความเสียวซ่านให้บังเกิดกับเจ้าของสองเม็ดเชอร์รี่ยิ่งนัก
“เสียวค่ะ...นิ่มจะไม่ไหวแล้วนะ...ได้โปรดช่วยแรงกว่านี้อีก...กระแทกเข้ามาแรงๆเลยค่ะ” นาทยสุรีร้องขออย่างลืมอาย ก่อนจะปล่อยเสียงครวญครางดังหนักขึ้นเมื่อคำร้องขอของเธอได้รับการตอบสนองอย่างทันท่วงที ร่างหนาโซมไปด้วยเหงือกัดฟันตัวเองกรอดๆเมื่อลำเอ็นใหญ่ถูกด้านในบีบรัดจนหายใจติดขัด
“ฉันก็เสียว...เสียวไปทั้งลำเลยล่ะแม่เนื้อหวานเอ่ย...เราไปพร้อมกันนะคนดี...” เมื่อปวีณเพิ่มแรงกระแทกและแรงโยกเข้าออกรุนแรงมากขึ้นตามคำร้องขอ ใบหน้าของทั้งสองคนจึงบิดเบ้ไม่เป็นรูป
“กรี๊ด/โอ๊ะ!...”
เสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงคำรามดังลั่นห้องพร้อมๆกัน เมื่อปวีณปลดปล่อยน้ำเชื้อสีขาวขุ่นออกมาจนล้นโพรงสวาทก่อนจะไหล่ย้อยเปรอะเปื้อนเต็มง้ามขาขาว ร่างหนากระตุกอยู่สามถึงสี่ทีก่อนจะฟุบกายทาบทับลงบนร่างอรชร
“เธอนี้มันสะเด็ดสะเดาใช่เล่นเลยนะหนูนิ่ม ยิ่งกว่าพวกมืออาชีพเวลาฉันไปปลดปล่อยเขาบริการฉันเสียอีก ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ย ว่าเธอนะมันใหม่สดซิงๆ...” เมื่อลมหายใจถี่เริ่มกลับมาคงที่ ปวีณจึงเอ่ยวาจาดูหมิ่นหญิงสาวออกไป แต่ทางเชื่อมของสองร่างยังคงแนบสนิท เมื่อปวีณยังคงไม่อิ่มเอม เช้าๆอย่างนี้เขามีพลังงานเหลือเฟือเชียวแหละ จะให้เขาฟัดแม่นี้ต่ออีกสักสองยกก็ยังไหว
“แกเป็นใครกันแน่ แล้วจับตัวฉันมาทำไม...” หญิงสาวใต้ร่างเริ่มดิ้นรนผลักไสร่างหนาให้พ้นกาย แต่ยิ่งผลักไสเขาออกห่างมากแค่ไหน เขาก็ยิ่งบดเบียดสิ่งที่ยังคั่งค้างในร่างกายเธอมากขึ้นเท่านั้น
“ไอ้เลวเอาของแกออกไปจากร่างของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ...”
“ไม่ล่ะ...ฉันชอบเข้าไปในร่างกายเธอแบบนี้นี่นา มันให้ความรู้สึกกระสันดีเชียวล่ะ หรือเธอไม่เสียวเวลาฉันอึบเธอแรงๆ”
ปวีณหัวเราะในลำคอหึๆเมื่อเห็นลูกหนูตัวน้อยๆเริ่มแผงฤทธิ์ใส่ แต่เพราะความขาวละออตาไปทุกสัดส่วนยามไล้สายตามองบวกกับความนุ่มลื่นยามเมื่อสัมผัสกันเลยทำให้กระแสไฟที่มอดดับเริ่มจุดประทุขึ้นมา จนนาทยสุรีต้องนิ่วหน้าอ้าปากมองใบหน้าคมคายตาเบิกโพลง...
“จะโทษฉันไม่ได้นะแม่หนูตัวน้อย ต้องโทษที่เธอมันหวานแล้วก็หอมไปทั้งตัว ขอฉันเอาเธออีกสักรอบนะเช้านี้ แล้วฉันจะปล่อยให้เธอพัก...” นั่นไม่ใช่คำขอ แต่เป็นแค่เพียงคำบอกกล่าวต่างหาก เมื่อจบคำปวีณก็ตั้งหน้าตั้งตาดื่มกินร่างงามจนตัวเองอิ่มเอมสำราญใจ ก่อนเขาจะปล่อยให้ร่างเปล่าเปลือยสลบไสลไปเพราะชายหนุ่มบ้าพลังไปนิดได้นอนพักเอาแรง ส่วนตัวเขาเองก็จัดแจงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะออกไปดูไร่สวนตามปกติ ก่อนออกไปชายหนุ่มไม่ลืมจะจัดการใส่กุญแจล็อคห้องขังเชลยสาวเอาไว้อย่างแน่นหนา รอเวลาให้ถึงอาหารเที่ยงเสียก่อน เขาถึงจะย้อนกลับเข้ามาดูเจ้าหล่อนอีกที...
***************************************