Chapter 4 กรงสวาท (2)

2286 คำ
Chapter 4 กรงสวาท (2) มุมพักผ่อนที่อยู่ชั้นสองของตัวบ้าน​ เป็นมุมหนังสือที่ภารดีชอบพาตัวเองมาหลบอยู่ตรงนี้เมื่อยามเคร่งเครียด...และเช่นเคย​ วิสกี้เหลือก้นแก้วถูกกรอกลงคอ​ ก่อนที่มันจะ ถูกเติมลงไปในแก้วใบเดิมอีกครั้ง คคนางค์ยืนมองอยู่นานแล้ว​ หล่อนเดินเข้าไปอย่างเงียบ​ ๆ​ ไปหยุดยืนอยู่ข้าง​ ๆ​ มารดา "ดื่มอีกแล้วนะคะคุณแม่​ รักเห็นนั่งดื่มมานานแล้ว" "เรื่องของฉัน​ ก็คนมันเครียดจะให้นั่งจิบกาแฟรึไง" ภารดีไม่สนใจ​ ยกแก้วใบเดิมมาจิบน้ำสีอำพันลงคออีกครั้ง "พอเถอะค่ะ​ ไปนอนได้แล้ว" คคนางค์ยื่นมือไปคว้าแก้วเหล้า​ หากแต่กลับถูกอีกฝ่ายกระชากกลับ​ ตวัดมองด้วยแววตาขุ่นขวาง "ไม่ให้ฉันดื่มแล้วแกจะช่วยยังไงฮึ! ​ทำอะไรเข้าสิเพื่อไม่ให้บริษัทต้องเจ๊ง​ หรือว่าคิดจะหายใจทิ้งไปวัน​ ๆ​ โดยไม่ช่วยอะไร" "คุณแม่..." "แกลอยตัวแล้วนี่​ ได้ผัวรวย​ ในขณะที่แกมีเงินใช้อย่างสุขสบาย​ แต่คนทางบ้านกำลังจะอดตาย!" คคนางค์นิ่งอึ้ง​เถียงไม่ออก​ เพราะตั้งแต่แต่งงานกับจอมทัพหล่อนก็ยังไม่คิดถึงเรื่องทำงาน...ได้เงินจากเขาแล้วเหตุใดต้องไปทำงานให้เหนื่อย​ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าสถานะการเงินทางบ้านกำลังรอมร่อ​ จวนเจียนจะถูกยึดทรัพย์จากธนาคาร​ ลืมตระหนักไปว่าที่อาการป่วยของบิดาเป็น​ ๆ​ หาย​ ๆ​ ก็เพราะความเครียดที่ประเดประดัง "แล้วคุณแม่จะให้รักช่วยยังไงคะ" ภารดีเหลือบตามองลูกสาว​ ถอนหายใจหน่วงหนัก​ หล่อนกำลังกลุ้มใจ​ มีลูกสาวสองคนแต่ก็ไม่มีใครได้เรื่องเลยสักคน "เป็นผัวเมียกัน​ จะไม่ลองคุยกับเขาเลยเหรอ​ เคยมั้ยที่จะพูดกับเขาว่าจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลยหรือไง​" "แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา​ เงินของเขา​ รักไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น" "เวรกรรมของฉัน​ มีลูกแต่ก็ไม่ได้เรื่อง​ ทั้งแก​ แล้วก็ยายดาว!" "หยุดเลยนะคะ​ อย่าเอารักไปเปรียบกับยายดาว!" อยู่ดี​ ๆ​ ก็อารมณ์เสีย​ คคนางค์เดินหนีไปเสียดื้อ​ ๆ​ หล่อนเก็บคำมารดามาคิด แต่ยอมรับว่าไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก​ ขนาดเจ้าตัวยังไม่ยอมเอ่ยปากเรื่องนี้​ มีหรือที่จะกล้าออดอ้อนให้เขาเอาเงินมาใช้หนี้ธนาคารแทนทางบ้านพ่อตาแม่ยาย ยังมีความจริงอีกเรื่องที่มารดาไม่รู้​ หล่อนต้องอยู่อย่างขื่นขม​ เมื่อสัมพันธ์ทางกายที่ควรจะเกิดขึ้น​ ที่ผ่านมามันก็แค่การนอนร่วมเตียงกันเท่านั้น มันคือสาเหตุที่ทำให้ยิ่งเกลียดชัง​บุษบากร​ จุดเริ่มต้นนั้นมาจากความอิจฉาในวัยเด็ก​ อิจฉาที่จอมทัพมักพาอีกฝ่ายไปเที่ยวอยู่เสมอ​ นั่นทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ​ และหล่อนจะต้องชนะ​ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นชัยชนะแบบขาดลอย​ เชื่อว่าหากมีโซ่สวาทคล้องใจสักคน​ ลูกจะช่วยรั้งใจให้เขาอยู่กับหล่อนตลอดไป​ หมดโอกาสที่ใครจะมาแทรกกลางได้ +++++ ที่ชั้นล่างตรงบาร์เครื่องดื่ม...จอมทัพฝังตัวเองอยู่ตรงนี้มานานแล้วตั้งแต่กลับมาถึง​ เขาช่างทำตัวเป็นผัวที่แปลกประหลาด​ แทนที่จะรีบกลับขึ้นห้องไปนอนกอดเมีย​ แต่กลับมานั่งดื่มอย่างเอาเป็นเอาตายเพียงเพื่อให้ลืมใครบางคน 'เพียงดาว​ เกลียดเธอจริง​ ๆ' เกลียดยิ่งนัก...เขาระบายความเกลียดชังด้วยการกลืนน้ำขม​ ๆ ลงคอราวมันเป็นน้ำเปล่า​ อึกแล้วอึกเล่าที่ดื่ม ลงไป​ จนร่างกายเริ่มฟ้อง​ เขาดื่มหนักเกินไปแล้ว คคนางค์เห็นแล้วกับภาพนั้น​ หล่อนเดินลงมาข้าง ล่างหวังจะมานั่งรอเมื่อเห็นว่าเขายังไม่กลับบ้าน​ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับนานแล้ว​ เดาเอาจากวิสกี้ในขวดที่พร่องลงไปไม่น้อย โทร.ไปไม่รับ​ โทร.กลับไม่เคย​ ที่แท้ก็แอบมานั่งดื่มราวกับกลุ้มใจจนต้องใช้น้ำเมาช่วยบรรเทา หล่อนเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง​ ๆ​ คนที่ทำราวกับกลุ้ม ใจนักหนา มือนุ่มแตะลงบนบ่ากว้าง​ อยากให้เขาเลิกดื่มเพราะอากาศกลางคืนนั้นหนาวเข้ากระดูก​ ดื่มเหล้าหน้าหนาวให้ระวังหลับไม่ตื่น​ ไม่อยากให้เขากลายเป็นคนในข่าว​ ยังไม่อยากเป็นม่ายก่อนวัยอันควร "พอเถอะค่ะ​ พรุ่งนี้ต้องทำงานไม่ใช่เหรอคะ" หล่อนถือวิสาสะ​ หยิบขวดเหล้าไปเก็บใส่ตู้...ท่ามกลางแววตาปรือฉ่ำที่มองตาม "อะ...อะไรคะ?" หล่อนก้มลงมองตัวเอง...แววตาของเขาแปลก​ ๆ​ เมื่อยามถูกจับจ้อง​ มันทำให้หล่อนร้อนวูบวาบอย่างประหลาด "ทำไม...เธอยังไม่นอน" "รอพี่จอมค่ะ​ นึกว่ายังไม่กลับก็เลยลงมา" เหล้าที่เหลือถูกกรอกลงคอ​ เขามองคนตรงหน้าที่ไม่เคยเหลียวแล...ไม่อาจปฏิเสธ​ คือความเหมือนที่แทบแยกไม่ออก​ หากแต่เป็นความเหมือนที่แตกต่าง​ ทำให้คน​ ๆ​ หนึ่งเลือกที่จะรัก​ มันมีบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน​ บุษบากรมีแต่คคนางค์ไม่มี สติที่ไม่เต็มร้อยทำให้เกิดภาพซ้อน​ เหมือนเงาสะท้อนใครบางคนซ่อนอยู่ในนั้น...คคนางค์ตกใจ​ เมื่อจู่​ ๆ​ เขาก็ลุกพรวดขึ้นแล้วดันร่างของหล่อนจนชนเข้ากับเคาน์เตอร์บาร์​ อุ้งมือแกร่งขยุ้มลงบนปลายคางเรียว "จองหอง​ อวดดี!" ไม่รู้เขาหมายถึงใคร​ แววตาคู่สวยกรอกไปมากับท่า ทีดุดัน​กราดเกรี้ยว หากแต่ผู้ชายตรงหน้าคือคนที่นอนร่วมเตียงกันทุกวัน​ หล่อนจึงรู้สึกตื่นเต้นมากกว่ากลัวจนต้องหนีอย่างลนลาน "ถามอีกครั้ง...เธอรักพี่หรือเปล่า" ฝ่ามือร้อนทาบลงบนสองข้างแก้ม​ สัมผัสลูบไล้นั้นมาพร้อมแววตากรุ่นกระแสปรารถนา...เขาจะถามใครได้นอกจากตัวเธอ​ นั่นคือความคิดของคคนางค์ "ระ​ รักค่ะ​ รักมานานแล้วด้วย" "พี่ก็รักเธอ..." “พี่จอม..." ความร้อนรุ่มบดขยี้ลงบนกลีบปากนุ่มราวโหยหา​ แรงบดเคล้ายั่วเย้าดุดัน​ สัมผัสร้อนเร่าหวามหวานพาให้สองแขนเรียวเคลื่อนคล้องเกี่ยวลำคอแกร่ง​ เขย่งปลายเท้าแหงนเงยหน้ารอรับสัมผัสที่ใจปรารถนา...จูบ...ที่พาโลดแล่นไปบนเส้นทางแห่งรักที่ถวิลหาทุกลมหายใจ เขาทำเหมือนตรงนี้คือห้องนอนแสนอบอุ่น...ร่างอิ่มถูกโยนลงบนเดย์เบดราวกับมันคือเตียงนอนในห้องกว้าง...หัวใจสาวเต้นเร่าเมื่อร่างหนักโถมกายทาบทับ​ กระแสปรารถนาแรงกล้า​ ยามสองมือร้อนฟอนเฟ้นเคล้นคลึงสองเต้าอวบอิ่มเต่งตึง​สู้มือ​ อา...มันคือสัมผัสหวามหวานที่ทำให้หล่อนทอดกายอย่างยอมจำนน​ ลิ้นร้อนที่รุกรานลากไล้เนื้อนุ่ม​ หล่อนไม่อาจทานไหว​ เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอ​ ปล่อยกายและใจดำดิ่ง​ ให้เขาพาโลดแล่นไปบนเส้นทางสายพิศวาสที่พร่างพรมด้วยกลีบดอกไม้หอมละมุน​ ตื่นเต้นเหลือเกินกับทุกวินาทีที่เคลื่อนผ่าน​...เมื่อยามหลอมรวมเป็นหนึ่ง​ ท่ามกลางความสุขล้ำกับสัมผัสแนบเนื้อลึกซึ้ง​ คล้ายกับได้ยินเสียงครางเบา​ ๆ​ อยู่ในลำคอ​ เขาพร่ำเพ้อหาใครบางคน "โอววว...เพียงดาว..." กรงอุ้งมือขยุ้มลงบนแผ่นหลังกว้าง​ กดปลายเล็บฝังลงหนัก​ ๆ​ หวังดึงสติคนที่กำลังดื่มด่ำกับความสุขล้ำจากกายสาว​ หากแต่นั่นไม่อาจหยุดเขาได้​ แรงขยับหน่วงหนักที่สร้างสัมผัสรัญจวนใจ​ ในห้วงอารมณ์แห่งรัก​ ​ใจของหล่อนกลับเจ็บปวดไปพร้อมกัน เหมือนที่ระบาย...เขาเห็นหล่อนเป็นแค่ตัวแทนของใครอีกคน​ เป็นดังเงา...ตอกย้ำความจริงที่ว่าเขายังไม่ลืม... ++++++ ในห้องพักผ่อนที่อยู่ติดกับสวนเขียวรื่นข้างบ้าน... วรพลมักพาตัวเองมานอนอยู่ในนี้​ เมื่อยามที่อาการป่วยกำเริบขึ้นมา​ เขาเชื่อว่าสีเขียวรื่นของเหล่าพรรณไม้จะช่วยบำบัดอาการเครียดให้ทุเลาลง ยามเช้าที่อากาศหนาวเย็น​ บุษบากรตื่นแต่เช้าตรู่เมื่อรู้ข่าวจากแม่บ้านว่าบิดาไม่สบาย​ หล่อนเข้าไปช่วยแม่บ้านในครัว​ ด้วยสภาพเศรษฐกิจในบ้านเลยเหลืออุไรไว้แค่คนเดียว​ ส่วนงานทำความสะอาดใหญ่​ ๆ​ นั้นจ้างเป็นรายวัน​ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเซฟค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด ข้าวต้มปลาหอมฉุยกรุ่นไอควันลอยวนเหนือปากถ้วยไซส์กลาง​ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวในถ้วยใบน้อยวางเคียงกันมาในถาด​ แถมด้วยน้ำผักผลไม้คั้นแบบแยกกากสีแดงอมชมพูในแก้วทรงสูง...บุษบากรถือเดินตรงไปยังมุมโปรดของบิดา​ และก่อนจะเข้าห้องที่มีแผ่นกระจกใสกางกั้น​ หล่อนต้องปั้นหน้ายิ้มสดใสเพื่อให้กำลังใจคนป่วย "ทานข้าวเช้านะคะคุณพ่อ​ จะได้ทานยา" "อ้าว​ ตื่นแล้วเหรอเพียงดาว" วรพลลดหนังสือพิมพ์ในมือลง เขาอยู่ในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง​ มือขยับจับแว่นสายตาให้เข้าที่ "วันนี้มีข้าวต้มปลาค่ะ​ ขิงมีประโยชน์ช่วยขับลม​ น้ำผักผลไม้คั้นสด​ ๆ​ คุณพ่อควรดื่มให้หมดภายในครึ่งชั่วโมงนะคะ" หล่อนลากเก้าอี้ไปข้างเดย์เบด สองมือประคองถ้วยข้าวต้มมาถือไว้​ ใช้ช้อนคนไปมาเพื่อไล่ความร้อน​ ก่อนตักเพื่อที่จะป้อนให้คนป่วยอย่างเอาใจ "ดาวป้อนให้นะคะ" หญิงสาวคลี่ยิ้มอ่อนแววตาทอประกาย​ วรพลมองลูกสาวคนเล็กอย่างเอ็นดู​ คือนิสัยที่ไม่เคยเปลี่ยนกับความอ่อนโยนที่หล่อนมี...หล่อนคือคนที่เขารักและห่วงมากกว่าใคร​ และบุษบากรก็สนิทกับเขามากกว่าคคนางค์ เช้านี้ดูเหมือนอาหารจะอร่อยเป็นพิเศษ​ เมื่อวรพลนั้นยอมให้ลูกสาวป้อนข้าวต้มจนหมดถ้วย​ ตามมาด้วยน้ำผักผลไม้อีกหนึ่งแก้ว...สองพ่อลูกนั่งคุยเรื่องทั่วไปท่ามกลางเสียงหัวเราะ​ จนกระทั่งวกมาเรื่องงาน บุษบากรคว้ามือหยาบกร้านจากการผ่านประสบ การณ์อย่างโชกโชนมากุมเอาไว้​ ก่อนบีบกระชับเบา​ ๆ​ เพื่อสร้างกำลังใจ "ปล่อยวางนะคะคุณพ่อ​ ยื้อเอาไว้ไม่ไหวก็ปล่อย​ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามทาง​ ดาวจะทำงานหาเลี้ยงคุณพ่อเอง" "พ่ออาจถูกฟ้องล้มละลาย​ เราจะไม่เหลืออะไรเลย​ แล้วจะไม่ให้เครียดได้อย่างไร​ มันหมายถึงว่าพ่อไม่ได้เรื่อง​ พาครอบครัวมาร่วมลำบากด้วยกัน" "อย่าคิดแบบนั้นสิคะ​ คุณพ่อลำบากเพื่อพวกเรามาตั้งเท่าไหร่​ เงินทองเป็นของนอกกาย​ หากยังมีลมหายใจก็ยังไม่หมดหวัง​ เงินน่ะหาใหม่ได้ ​ แต่ถ้าคุณพ่อเป็นอะไรขึ้น มา​ ดาวคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณพ่อ" "ดาว..." "ปล่อยวางนะคะ​ รักษาสุขภาพเอาไว้ก่อน​ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ​ ตอนนี้ดาวได้งานทำแล้ว​ ดาวจะรับผิดชอบตรงส่วนนี้เองค่ะ" หล่อนฝืนยิ้มทั้งที่ใจแสนทุกข์ระทม...จริงอยู่ที่มารดาของชัยกรให้หล่อนไปทำงานด้วย​ แต่ทางนั้นก็สามารถจ้างได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้น​ นั่นหมายถึงหล่อนจะมีรายได้เข้ามาไม่ถึงหมื่นบาทต่อเดือน​ แล้วจะไปพอได้อย่างไร​ แต่ก็ไม่อยากให้ปัญหาไปสุมอยู่ที่บิดาเพียงคนเดียว คงจะต้องหารายได้เสริม​ แล้วจะทำอะไรที่ได้เงินเพิ่ม​ ยามนี้หล่อนคิดไม่ตก​ รู้สึกสับสนอับจนหนทางเหลือเกิน หล่อนนึกไปถึงงานร้านอาหาร​ ไปเป็นเด็กเสิร์ฟเด็กล้างจาน​ หรืองานแม่บ้าน​ บางทีอาจไม่เคร่งเรื่องตรวจสุขภาพ​ หากมีที่ไหนรับนั่นเท่ากับว่าหล่อนจะมีรายได้เสริมเข้ามาอีกทาง ยามถือถาดอาหารเดินออกมาจากห้องนั้นหยาดน้ำตาที่เอ่อท้นก็รินไหลอาบร่องแก้ม​ เมื่อนึกไปถึงอีกหนึ่งชีวิตที่ค่อย​ ๆ​ เติบโตอยู่ในกาย​ เมื่อคิดไปถึงค่าใช้จ่ายที่รออยู่ข้างหน้าความท้อก็เข้ามากัดกินใจ​ เงินในบัญชีก็มีแต่จะร่อยหรอลงไปทุกวัน ".....!" หล่อนต้องชะงักปาดน้ำตาทิ้งด้วยหลังมือ​ เมื่อสองคนที่เดินเคียงคู่กันลงมา​จากชั้นบน​ เดินมาเผชิญหน้ากับหล่อนเข้าพอดี จอมทัพ...เขากำลังจะออกไปทำงาน​ ส่วนคคนางค์นั้นมีหน้าที่เพียงแค่ใช้เงิน​ ดูไม่เดือดร้อนอะไรกับการที่ทางบ้านกำลังจะล้มละลาย​ ต่างจากหล่อนที่วิ่งวุ่นหางานหัวซุกหัวซุน แววตาคู่สวยสั่นสะริก​ กับการที่เห็นคนสองคนเดินหัวร่อต่อกระซิกกันมา​ ราวกับรักกันนักหนา..อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล​ เหม็นกลิ่นความรักเหลือเกิน เขาทำเมินไม่มอง​ เดินคล้องแขนกันไปยังทางที่พาไปสู่ห้องอาหาร...มันไม่ง่ายเลยกับการตัดใจ​ แม้ปากจะบอกว่าไม่ แต่แท้จริงหล่อนอ่อนไหวกว่าที่คิด ความผูกพันฆ่าคนได้...และหล่อนกำลังจะตายเพราะมัน อยากออกไปจากที่นี่เหลือเกิน​ แต่เพราะสถานะการ เงินไม่เอื้ออำนวย จำต้องกล้ำกลืนฝืนทนหน้าด้านให้เขาเหยียบย่ำ ทนมองเขาครองรักกันด้วยใจที่แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี​ ไม่รู้ว่าใจจะทานทนได้อีกนานแค่ไหน​ และก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ถึงจะลืมพ่อของลูกได้ลง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม