เนื่องจากฟ่านอวี้เหยาเป็นผู้ช่วยบิดาในเรื่องยาสำคัญๆ แต่นางไม่รู้ว่า ผู้ป่วยเป็นใคร เพราะบิดาปกปิดข้อมูล นางแค่จัดยา เตรียมสมุนไพรในโรงเพาะบ่มเท่านั้น แล้วสิ่งเหล่านั้นจะรั่วไหลได้อย่างไร เมื่อนางไม่เคยเอ่ยปากบอกผู้ใด
“ข้าถูกกล่าวหา และต้องการร้องทุกข์ ขะ ข้าจะไปตีกลองที่ศาลของเมืองโยว”
“โอ้ ได้ยินคำนี้ เห็นทีว่าความฉลาดของเจ้าจะคืนกลับมาบ้างแล้ว ฮูหยินน้อยเซียว เอ ไม่ใช่สิ… ยามนี้ตกอยู่ในกำมือข้า เจ้าเป็นได้แค่…สตรีอุ่นเตียง ที่คนทั่วไปเรียกติดปากว่า คณิกา”
ในขณะที่นางกำลังขวัญเสีย ทั้งตกใจ เสื้อผ้าก็ถูกอีกฝ่ายถอดจับฉีกกระชาก ก่อนที่เขาจะโยนผ้าขนแกะให้นางคลุมร่างไว้
“เฮ้อ อุจาดตา คลุมตัวเจ้าไว้เสีย ข้าจะพากลับค่ายทหาร”
“ไม่ ข้าเป็นคนของสกุลเซียว ไม่ร่วมทางไปไหนกับท่านทั้งนั้น” นางบอกเขา ไม่ใช่ดื้อด้าน แต่นางออกมาจากจวนของบิดาแล้ว ชีวิตนี้เลือกเซียวเจี้ยนอี้เป็นคู่ครอง ไฉนจะพลิกชีวิตเป็นอย่างอื่นได้
“บัดซบ เมื่อเจ้าเป็นเมียข้า และคนทั้งกองทัพแล้ว คงเปลี่ยนใจ และหูตาสว่างขึ้น”
เขาบอก และยามนี้แม้ไม่ต้องการข่มเหงนาง แต่ไฟราคะกลับลุกโชน
ชายหนุ่มรั้งร่างบางมาแนบชิดกัน เป็นตอนนั้นที่นิ้วเขาแทรกเข้าไปในกลีบของฟ่านอวี้เหยา ที่ท้าทายสายตาเขา
นางผู้บริสุทธิ์และไม่เคยต้องมือใครมาก่อน จึงสะดุ้งเฮือกสุดแรง
เจ็บ… อึดอัด และต้องอดกลั้นอารมณ์รุนแรงที่ถาโถมขึ้น
“ไอ้ไก่อ่อนแซ่เซียว มันคงเป็นหมัน เลยไม่รู้จักการเอาใจสตรี”
สติิของฟ่านอวี้เหยาเหมือนจะกลับมา นางเลยเงื้อมือ แล้วตบเขาไปหนึ่งฉาด ทว่าเป็นการกระทำที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย นางหารู้ไม่ว่า เป็นการตนกระตุ้นให้เขาเดือดหนักกว่าเดิม
อึดใจต่อมา ฟ่านอวี้เหยาถูกกระชากอย่างแรง ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงนางไปชนผนังกระท่อมของนายพราน ซึ่งเป็นที่รักษาไข้ของนางในยามนั้น
แผ่นไม้เย็นๆ ทำให้นางสะดุ้งเฮือก และเขาจู่โจมรุนแรงมาก
คนชั่ว โน้มริมฝีปากเข้ามาใกล้ๆ และไม่ใช่การจูบ เขาใช้ปากบางๆ ดึงริมฝีปากล่างนางเอาไว้ และเม้มอย่างแรง
ขบ เม้ม แล้วดึงรั้ง ก่อนลงเขี้ยวจนนางเจ็บ และทำให้เสียเลือด!
“อื้อ… อ๊ะ… ฮื่อๆ ๆ ปะ ปล่อย”
นางร้องประท้วงเสียงอู้อี้ กลัวจับใจ และไม่ใช่แค่ปาก ยามนี้เขาแยกขานางให้กว้าง แล้วใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสเนินเนื้ออวบอิ่ม ปลุกเร้าให้ฟ่านอวี้เหยาตอบรับสัมผัสหยาบคายที่เขาจะส่งเข้าไปในร่างกายบริสุทธิ์
นิ้วเขาสัมผัสเกสรนุ่มนิ่มบีบบี้เพื่อให้นางหวีดร้องไม่เป็นภาษา ร่างกายสาวสั่น น้ำตาเอ่อคลอหน่วย
ฟ่านอวี้เหยาอยากเก่งกว่านี้ กล้าหาญกว่านี้ แต่ในความจริงนางอ่อนแอเหลือเกิน จึงไม่อาจขัดขืนคนตัวโต
อึดใจต่อมา นิ้วยาวๆ แทงลึกย้ำๆ สลับการเข้าออกรัวแรง จนฟ่านอวี้เหยาเกือบทรงตัวไม่ไหว
“อี้ๆ ๆ ท่านไม่ใช่แม่ทัพ แต่เป็นไอ้ลูกหมา เป็นคนไร้ยางอาย ข่มเหงผู้อื่นที่ไร้ทางสู้”
“เหลวไหล ของซื้อของขาย ข้าซื้อเจ้ามาจากพวกนั้น เป็นเงินเกือบห้าพันตำลึง และทุกครั้งที่หลับนอนด้วย ข้าจะจ่ายให้อย่างงาม คิดดูสิ ชีวิตเจ้ามีค่าไม่น้อยเลย สมควรดีใจเสียด้วยซ้ำ ที่มีบุรุษโยนเงินให้”
“ซะ ซื้อข้า!”
“ใช่ เจ้าไม่ได้หูหนวกหรอก ห้าพันตำลึง… สำหรับสตรีที่เป็นนางนกต่อ นับว่าแพงเกินไปด้วยซ้ำ และข้าจะเก็บเจ้าเอาไว้ เพื่อเป็นหมากสำคัญในการเปิดโปงกบฏที่ทำให้บ้านเมืองเกิดกลียุค อ่อ ระหว่างอยู่ด้วยกัน ตำแหน่งคณิกา ย่อมเหมาะสมสำหรับเจ้าอย่างที่สุด”
ฟ่านอวี้เหยาไม่อยากรับรู้สิ่งใดจากคนที่มีปากอมอาจม นางเชื่อว่าตนไม่เคยทำความผิด ผู้ชายคนนี้กำลังกล่าวหานางอย่างไม่มีมูล
“ข้าไม่ใช่สตรีที่ผู้ใดจะซื้อหาได้ด้วยเงิน และข้าคือฮูหยินน้อยแซ่เซียว”
“ฮ่าๆ ๆ เจ้าล้อข้าเล่นไม่หยุด อารมณ์ขันดีแท้ ดูเอาเถิด เมื่อเจ้ากลืนน้ำวิสุทธิ์ข้า ทั้งปากบน และปากล่างจนล้นทะลัก ยังจะหน้าด้าน เรียกหาผู้อื่นว่าเป็นสามีหรือไม่”
และชายหนุ่มไม่ได้ขู่แล้ว มือใหญ่่จับพลิกตัวของฟ่านอวี้เหยา ให้นางหันหน้าเข้าผนังไม้ที่เย็นจัด และไม่ถึงครึ่งอึดใจ สายรัดเอวก็มัดข้อมือนางไพล่หลังไว้
เขายกสะโพกนางสูงขึ้น บั้นท้ายงอนหนั่นแน่น ถูกเขาให้มือหยาบหนาฟาดไปสามสี่ครั้ง จนเป็นรอยปื้นแดง
นางเจ็บ รู้สึกอดสู และอยากไปให้พ้นๆ สถานการณ์นี้
ทว่าทำได้เพียงแค่คิด เนื่องจากช่วงเวลาต่อมา
ความอุ่นจัดของท่อนเนื้อร้อนๆ กำลังทาบลงสู่ปากทางกลีบสีชมพูซึ่งยามนี้มีน้ำใสๆ เกาะพราวเต็มไปหมด
ฟ่านอวี้เหยารู้สึกถึงการบุกรุกของคนตัวสูงใหญ่ แรกเริ่มเขาป่าเถื่อนและดุดัน ทว่าทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่การส่งเสียงดังๆ สลับคำรามขู่ หากเมื่อถึงบทร่วมรักกันจริงๆ อีกฝ่ายออมแรงเอาไว้ เรียกได้ว่ายั้งมือก็คงไม่ผิด
ช่างน่าประหลาดใจ แต่ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่ยินยอมให้เขาล่วงเกินอยู่ดี ซึ่งบุรุษผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกหมา หรือ เสือร้าย ฟ่านอวี้เหยาก็ไม่อยากสนใจ
ยามนั้นท่อนเนื้ออุ่นๆ ไม่ได้จ้วงแทงเข้าสู่กลีบสวาท เขาเสือกมันเข้าหว่างขาหนีบนาง และสั่งฟ่านอวี้เหยาออกแรงบีบชิดสองขาเข้าหากัน
ถึงอย่างนั้น สตรีที่ไม่เคยพบคนป่าเถื่อนและดูโรคจิตเช่นนี้ ก็ตัวสั่นไปหมด
“อย่าอ่อนแอ ออกแรงให้มากกว่านี้ จงบีบให้งูยักษ์ข้าให้แหลกเหลว เจ้าทำได้หรือไม่”
งูยักษ์… ฮึ
นางไม่ได้เห็นมันด้วยซ้ำ แต่รู้สึกว่า ท่อนเนื้อเขาเป็นสัตว์เลือดร้อน และขนาดลำของมันยาวใหญ่ คงมีเส้นเลือดขึ้นปูดโปนตลอดความแข็งแกร่ง!
“ข้าไม่ใช่คนไร้ยางอาย ที่จะทำเรื่องน่าเกลียดเช่นนั้น”
“เด็กน้อย ข้ากำลังสอนวิธีรับแขกให้เจ้า เร็วเข้าอย่าทำตัวน่าเบื่อไปหน่อยเลย นางโลมต่ำต้อย เลือกแขกได้หรือ!”
“ปู้หว่านถิง ท่านเป็นเจ้าชีวิตข้าหรืออย่างไร”
“ฮ่าๆ ๆ เป็นชายรูปงาม ที่กล้าแกร่ง และชิงตัวเจ้ามาจากเจ้าบ่าวไร้น้ำยา”
“บัดซบ ไสหัวไปตายซะ คนต่ำทราม”
“พูดได้ดี และจงจำไว้ ยามนี้ข้าเพียงแต่จะเอาขาหนีบเจ้า ด้วยไม่อยากให้นางโลมเนื้อนุ่มนิ่มเสียความบริสุทธิ์ที่นี่ เพราะสมควรเก็บความหอมหวานไว้สำราญที่ค่ายทหาร ข้าจะเย่อเจ้าให้ทุกคนได้ดูกันอย่างถ้วนหน้า ทำเช่นนั้นย่อมคุ้มค่ากับการที่ต้องตามหาเจ้าอยู่นาน และเสียหลายสิ่งเพื่อให้ได้ตัวมา”
ฟ่านอวี้เหยาไม่อยากฟังคนชั่วช้าพูดพล่ามสิ่งใด นางหลับตา กลั้นก้อนสะอื้น ไม่ต้องการร้องไห้ให้เขาเห็น เสียงนางก็จะไม่เล็ดลอดออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม