แต่เวลาต่อมา เขาทำให้นางแค้นใจ การเสือกท่อนรักที่หว่างขาหนีบ สร้างความเร่าร้อนจนนางร่านหนัก
มือใหญ่ๆ สอดเข้าใต้วงแขน แล้วนวดเฟ้นหน้าอกงดงามที่ไหวสะท้านไปมา
นางมีความซาบซ่าน
โอ้ สวรรค์ ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้น โดยไม่อาจหักห้ามได้
เขายังขยับสะโพกไม่หยุด มือหนึ่งเย้าหยอกถันอวบอัด อีกมือทำลามกกับกลีบเนื้อของนางที่ยามนี้มีน้ำหวานไหลเยิ้ม
“ดูเหมือนเจ้ากำลังสับสน อยากคราง อยากร้อง หรือด่าทอข้าจงทำเถิด ไฉนถึงได้เก็บความเสียวสยิวไว้ในใจเล่า ระวังเถิด ธาตุไฟอาจแตก กลายเป็นคนเสียสติ คราวนี้เจ้าคงเป็นบ้าสมใจ!”
“เหลวไหล สกุลฟ่านเป็นหมอยา มีสำนักการแพทย์ ไฉนข้าจะไม่ล่วงรู้การคุมกำหนัดตน และสิ่งที่ท่านทำเป็นบาปต่อสตรีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฮูหยินของผู้อ่ื่น”
“ฮ่าๆ ๆ ข้าชอบใจที่เจ้ายังกล้าป่าวประกาศอย่างไร้ยางอาย ดูเถิด หากไอ้ลูกแหง่ รู้ว่าฟ่านอวี้เหยา คนงามแสนหยาดเยิ้มตกอยู่ในกำมือข้า มันยังปรารถนาจะยกเจ้าขึ้นเป็นฮูหยินน้อยหรือไม่”
ฟ่านอวี้เหยาไม่ตอบ นางยังถูกอีกฝ่ายเย้าหยอกปลุกอารมณ์ให้ลุกโชนอย่างไม่สิ้นสุด เขาหายใจหอบถี่ๆ มือสัมผัสร่างกายนางอย่างละโมบ
โอ้ ยิ่งเขาเสือกท่อนเอ็นแรงหนักหน่วงที่ขาหนีบ ยามนั้น เนื้อนิ่มนางก็เหมือนจะถูกเผาไหม้
คนบ้าตัณหา และย่ำยีจิตใจผู้อื่นเป็นเช่นนี้ ปู้หว่านถิง ชายสาระเลว
“ข้ารังเกียจท่าน”
“ฺเฮอะ รู้เอาไว้ซั มันยังน้อยกว่าที่ข้าเกลียดเจ้าเสียอีก”
“อย่างท่านมีสิทธิใดกล่าวเช่นนี้ ทั้งที่กำลังทำให้ข้าแปดเปื้อน”
“สตรีขายชาติ คบหากบฏ และยังไม่ทุกข์ร้อนต่อสิ่งที่ตนกระทำ ยังมีหน้าให้คนอื่นชื่นชมหรือ หากอยากเป็นนางฟ้า นางสวรรค์ เจ้าจงตายแล้วเกิดใหม่อีกสักสิบชาติภพเถิด กระทำเช่นนั้น ก็อาจสมหวังสักครา”
ฟ่านอวี้เหยาส่ายหน้า เนื่องจากนางหารู้ไม่ สมุนไพรหลายอย่างที่นางปลูก และปรุงเป็นยาลูกกลอน แล้วขายให้กับร้านของสกุลเซียว ถูกนำไปผสมเป็นยาเสพติด เพื่อใช้ในกองทัพ ทำให้คนติดเกิดอาการประสาทหลอน สุดท้ายตกอยู่ในการควบคุมของผู้อื่น
“แล้วอีกอย่าง ข้าเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และเจ้าจะแปดเปื้อนได้มากกว่านี้ เชื่อข้าเถิดเหยาเหยา”
ฟ่านอวี้เหยาตัวแข็งทื่อทันที บุรุษผู้นี้เรียกนางว่า เหยาเหยา… แม้เป็นชื่อนาง แต่ไม่มีผู้ใดเอ่ยถึง ด้วยนางสั่งห้ามไว้ ในความฝันนางส่องกระจกทองเหลืองบานใหญ่ เห็นสตรีอีกคน ฝ่ายนั้นชื่อเหมือนนาง
ใช่ คนผู้นั้นคือเหยาเหยาในอีกโลก ที่อยู่ห่างกันนับพันปี
และยามนี้ได้เข้ามาสวมบทบาทในนิยาย ที่ได้กลายเป็นความจริง ซึ่งจำเป็นต้องเอาตัวรอดใจจงได้
“หยุด ท่าน อย่าได้ทำให้ข้าชิงชังไปมากกว่านี้เลย”
นางกล่าวจบ ชายหนุ่มทำเสียงหึๆๆ ในลำคอ และจับร่างบอบบางหมุนมาด้านหน้า ซึ่งเขาเห็นว่าน้ำตาของหญิงสาวไหลอาบแก้ม ริมฝีปากสั่นระริก มีสีแดงเข้มแต้มอยู่ คงเป็นเลือดที่ถูกเขากัด
บัดซบ ปู้หว่านถิง ทำสิ่งใดลงไป เขาควบคุมตนเองไม่ได้เช่นนี้ นั่นเพราะนางงามล้ำ อีกทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนชั่ว รายงานต่างๆ แจ้งชัดว่า นางเป็นต้นเหตุให้ทหารครึ่งหมื่นชีวิต ถูกควบคุมด้วยยากล่อมประสาท บางคนกลายเป็นผีดิบ กินเลือด และของสดเป็นอาหาร มิหนำซ้ำยังฆ่าไม่ตาย ยกเว้นว่าต้องจับมาตัดศีรษะทิ้ง
ฟ่านอวี้เหยาสร้างกองทัพปีศาจให้แก่พวกกบฏ เรื่องนี้หากมีผู้อื่นล่วงรู้ เกรงว่า นางคงรักษาหัวของตนไว้ไม่ได้ เขาจึงต้องทำตามคำขอร้องของหมอฟ่าน เพื่อช่วยเหลือนาง แลกเปลี่ยนกับการรักษาอาการของฮ่องเต้ให้หายดี จนสามารถมาจัดการความวุ่นวายระหว่างเหล่าองค์ชายกับรัชทายาท เนื่องจากยามนี้ต่างแย่งชิงกันที่จะขึ้นเป็นใหญ่ โดยการปลอมแปลงราชโองการ
จากนั้น เขาลากหญิงสาวมาที่โต๊ะ ปัดทุกอย่างลงไปกองบนพื้น ด้วยมือสองข้างถูกมัดไพล่หลัง ฟ่านอวี้เหยาจึงทั้งเจ็บ ทั้งตื่นตระหนก
เมื่อนางนอนอยู่ที่พื้นโต๊ะ เขาทำในสิ่งที่นางต้องหวีดร้องหนัก
“เหยาเหยา ตัวเจ้านั้นเป็นเจ้าสาวไม่ใช่หรือ ภาพใต้หีบสินเจ้าสาว และตำราอุ่นเตียง ไม่เคยศึกษาหรืออย่างไร ช่างไร้เดียงสายิ่ง”
ฟ่านอวี้เหยาอับอาย นางได้รับการเตรียมตัวจากแม่สื่อแล้ว เรือนกายบุรุษก็เห็นจากภาพวาด แต่ไฉนมันจะเหมือนของจริงตรงหน้าที่แผ่ซานความอุ่นจัด และชวนให้หัวใจกระโจนออกมาอยู่นอกอกเช่นนี้
“อัปลักษณ์ งะ งูของท่าน ทำให้ขาคอแข็ง และอยากสำรอกที่สุด”
“ฮ่าๆ ๆ ดี ยังไม่ได้กลืนน้ำหวานข้า เจ้าก็แพ้ท้องเสียแล้ว ยอดเยี่ยมยิ่งนัก”
เขากล่าวจบก็ยิ้มย่อง จากนั้นจึงใช้กลางกลายของตนตบแก้มนางเบาๆ สลับข้างซ้ายและขวา
“เหยาเหยา…อยากให้ข้าทำเจ้าแปดเปื้อนที่ปากบนนี้ก่อน หรือปากล่างอวบนูนดี”
เขาถามด้วยเสียงทุ้มๆ ตั้งใจให้นางคลั่งไคล้ ทว่าเป็นตอนนั้นที่ ฟ่านอวี้เหยานิ่งไป และนางนิ่งผิดปกติ ชายหนุ่มจึงหยุดการเคลื่อนไหว
“เฮ้ย เหลวไหล ไม่เคยมีสตรีคนใดตายเพราะเห็นของลับข้าหรอกนะ ลืมตา เจ้าเป็นคณิกาที่ไม่ได้เรื่องที่สุด เหยาเหยา โปรดจงรู้ไง งูตาเดียวของข้า มันคือราชาแห่งอสรพิษ ตื่นมากลืนน้ำหวานเดี๋ยวนี้ นังหญิงโง่!”
เขาเขย่าร่างรุนแรง และฟ่านอวี้เหยาไม่ได้เอ่ยปากประท้วง นางแกล้งหลับตา ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเขาก็เท่านั้น กระทั่งเขาล่วงรู้ว่านางใช้มารยา อีกฝ่ายจึงทำเรื่องบัดซบยิ่งกว่าเดิม
สองขานางถูกจับให้แยกกว้าง ยามนั้นนูนเนื้อสาวประจักษ์ต่อสายตาคู่คมกริบ
นิ้วใหญ่ๆ เปิดทางสวยฉ่ำอมสีชมพู เขากรีดนิ้วช้าๆ แยกสองฝั่งที่เบียดชิดกันให้เผยเกสรอันงดงามซึ่งเต้นไหวยามที่เขาใช้นิ้วสำรวจอย่างย่ามใจ
“งาม สมแล้ว ที่ข้าออกแรงชิงเจ้ามา”
นิ้วใหญ่ๆ นั้นสำรวจไม่พอยังเริ่มบีบบี้เกสร ก่อนจะล้วงลึกเข้าไปในกลีบนุ่มอุ่นๆ ที่บีบรัดนิ้วเขาอย่างไม่เชื่อฟังคนเป็นเจ้าของร่าง
“เหยาเหยา. ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทนอดเก่งสักแค่ไหน” เขาบอกแล้ว มือหนึ่งก็ซอยถี่ๆ ในกลีบสวาท อีกมือเอื้อมสูงขึ้น คลึงเคล้นหน้าอกอวบสวย
ฝ่ายฟ่านอวี้เหยานอกจากต้องอดกลั้นความเสียวสยิว แล้วยังพยายามถอยหนี แต่กลับกลายเป็นว่าถูกเขาออกแรงบังคับให้นางนอนนิ่งๆ บนโต๊ะกว้าง เพื่อรองรับราคะของคนตัวโต
“เลือกเอา เสร็จด้วยนิ้ว ด้วยปากข้า หรืออยากเสร็จด้วยงูยักษ์ตาเดียว”
ฟ่านอวี้เหยากรีดร้องในใจ เขาถาม แต่มือไม่หยุดเร่งเร้าให้นางขึ้นสวรรค์
“อื้อ... นิ้วของท่าน ทำให้ข้าขนลุก เอามันออกไป”
ในที่สุดนางก็ร้องบอกเขา แต่ท่าทางนั้นกลับแสดงให้เห็นว่า มีความพึงพอใจมาก ดวงตากลมโตหวานหยาดเยิ้ม ริมฝีปากสั่นระริก ทั้งเสียงครางก็หลุดออกมาเป็นห้วงๆ
“เสียวมากสินะ”
“มารดาท่านเถอะ ปู้หว่านถิง... ข้าอึดอัด ทั้งอย่างถ่ายเบาใส่หน้าท่านมากกว่า”
หญิงสาวเองก็หยาบคายต่ออีกฝ่ายเช่นกัน และเพิ่มความเถื่อน ทั้งสนองความต้องการของเขามากกว่าเดิม
พอเขาถอนนิ้วยาวใหญ่ออก ฟ่านอวี้เหยาก็หวีดเสียงหลงเลยทีเดียว ด้วยเขาซุกหน้าเข้าหากลีบอวบอูมของนาง
อึดใจต่อมา เรียวลิ้นสากๆ ตวัดและไล้เลียเกสรนาง ก่อนจะดูดมันจนเกิดเสียงชวนสยิวใจ
“ท่าน...อย่านะ อย่าทำเช่นนั้น ขะ ข้าไม่ชอบให้ผู้อื่น ล่วงเกินเช่นนี้ ไม่...เหลวไหลที่สุด ปู้หว่านถิง”
นางประท้วง แต่สองมือขยี้ผมเส้นดำละเอียดของเขา พร้อมกดศีรษะชายหนุ่มเข้าใส่กลีบของตนที่ยามนี้มีน้ำไหลเยิ้ม
ชายหนุ่มคำรามขมขู่ และนั่นยิ่งทำให้ฟ่านอวี้เหยาขยี้ผมเขาแรงกว่าเดิม
ยามนั้นเขาแทงลิ้นเข้าไปกลีบของนาง ปากก็ดูดหนักๆ ติดกันชุดใหญ่
ฟ่านอวี้เหยากำลังจะขาดใจตายด้วยความซาบซ่าน ร่างกายนางกระตุกหลายหน และรู้สึกโล่งไปหมด
“ไม่... ปู้หว่านถิง คนสาระเลว พอเสียที”
ปากปฏิเสธแต่กดศีรษะเขาแนบชิดร่างตนไม่หยุด ฝ่ายชายหนุ่มเลยแก้เผ็ดด้วยการขบเม้มที่เนื้อสาวไปสองหน
ฟ่านอวี้เหยาจึงหยุดมือ นางตกใจจนหน้าซีด กระทั่งเขาเงยหน้าขึ้น นางจึงถลึงตาใส่
ชายหนุ่มยังไม่หยุดสร้างความรัญจวนแก่นาง จากปากเขาก็ใช้มือแทงเข้าออก แทงติดต่อกันจนฟ่านอวี้เหยาตัวงอ และครางไม่หยุด เมื่อนางเสียวจัด ก็ร้องด่าทอเขา ก่อนจะปลดปล่อยน้ำแห่งความสุขจนชุ่มโชกอาบนิ้วและมือของเขา
ปู้หว่านถิงถอนนิ้วออกช้าๆ และยกมันขึ้นอวดนาง
และเขาแลบลิ้น ก่อนเลียนิ้วของตนอย่างเร่าร้อน
“รสชาติใช้ได้ แต่คงไม่ล้ำเลิศเท่ากับน้ำพิสุทธิ์ของข้า”
“อวดอ้างตนเองอย่างน่าไม่อาย และที่ท่านรังแกข้า อย่าหวังว่าจะได้รับการให้อภัย”
“เหยาเหยา ข้ารังแกเจ้าเยี่ยงนั้นหรือ ปากกับใจช่างไม่ตรงกัน ข้าช่วยให้เจ้ามีความสุข อันที่จริงต้องตอบแทนน้ำใจนี้ถึงจะถูก”
“เท่าที่ข้าเห็น ท่านสนุกเพียงคนเดียว และเมื่อครู่ ข้าแทบขาดใจตาย”
ปู้หว่านถิงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย อารมณ์เขาก็เป็นเช่นนี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ยากเกินจะเยียวยา
“ข้าไม่ชอบเอาเปรียบใคร และไม่อยากให้ใครเอาเปรียบ”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็เคลื่อนไหวร่างกาย และเป็นช่วงเวลาต่อจากนั้นที่ฟ่านอวี้เหยา ทั้งตื่นกลัว ทั้งเกร็งไปหมด ทว่าลึกๆ แล้ว นางก็จำยอมใช้ปากของตนกับงูยักษ์ของอีกฝ่าย
“ระวังฟันคมๆ ด้วย ลิ้นกับปากเท่านั้นที่ข้าปรารถนาให้เจ้าใช้มันกับ ของรักของข้า”
ยามนั้น ฟ่านอวี้เหยา มีสองทางเลือก คือ กัดตัวเดียวกันเดียวเขาให้ขาด หรือไม่ก็ทำให้แม่ทัพหนุ่มผู้นี้ ติดใจในบ่วงราคะที่นางจะมอบให้แก่เขา