7

1387 คำ
ฟ่านอวี้เหยาบีบขมับตนเอง ยามนี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ นางมาอยู่ในกระโจมแห่งหนึ่ง กระโจมที่มีกลิ่นอับๆ อยู่สักหน่อย นอกจากนั้นเสื้อผ้านางฉีกขาด บางส่วนเปรอะเปื้อนแลดูคล้ายกับเกิดเรื่องไม่ดี โอ้ อวี้ฟ่านเหยาหลับไปนานเท่่าใด ความครั่นคร้ามใจทำให้นาง เหงื่อแตกพลั่ก หน้าอกอวบสวยของนาง รู้สึกว่าเจ็บที่ยอดของมันจี๊ดๆ ราวกับก่อนหน้านี้ ถูกรุกรานอย่างหนัก หัวสมองหญิงสาวพยายามจับต้นชนปลายเข้าด้วยกัน โอ้ สวรรค์โปรดเมตตาเถิด ภาพที่นางอยู่บนเรือนร่างของบุรุษชั่วช้า ทั้งบดเบียดบั้นท้ายทาบทับกายแกร่ง และยอมให้เขาแทงท่อนเนื้อร้อนเข้าสู่เรือนกายนี้ มันไม่ใช่ความฝัน หากเป็นนางที่เคยกระทำมาแล้ว คือเหตุการณ์ซึ่งเคยเกิดขึ้น ในชาติภพก่อน ยามนี้ นางย้อนเวลามาอีกหน ในช่วงเวลาหลังจากได้รับการช่วยเหลือจากคนที่พรากความบริสุทธิ์นางไป ก่อนที่เขาจะพานางเดินทางไกลเพื่อกลับเมืองหลวง แต่อนิจจา ฟ่านอวี้เหยาคนเก่า เป็นสตรีที่เมื่อถูกหยามศักดิ์ นางก็มีแต่ความเคียดแค้น หากไร้ซึ่งความฉลาดเฉลียว ทั้งยังดื้อรั้น ไม่มองให้รอบด้าน ดังนั้นระหว่างเดินทางไกลนางจึงสิ้นลมหายใจ ด้วยการหลงกลผู้อื่นครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายคมดาบของปู้หว่านถิงก็ปักเข้าร่างงดงาม เพื่อยุติความทรมานของนางจากพิษแมลงคู่รัก ที่ถูกศัตรูฝังเข้าไปในร่าง อึดใจต่อมา กระโจมถูกเปิดเข้ามาอย่างแรง นางได้เห็นใบหน้าคร้ามคม และดวงตาเหยี่ยวคู่สีดำสนิท ซึ่งจ้องนางราวกับเป็นเหยื่อที่มีไว้เล่นสนุกด้วย บุรุษผู้นั้นมีผมสีปีกอีกา ร่างกายสูงใหญ่ เขาไม่ได้สวมเสื้อ ดูเหมือนเพิ่งฝึกดาบ หรืออาวุธแล้วเสร็จ และกำลังอยากกินอาหารเช้า หรือของหวานที่มีเลือดเนื้อ! ยิ่งเขาสืบเท้าเข้ามาใกล้ๆ นางก็อยากเบือนหน้านี้ ชิงชัง รังเกียจ อยากฆ่าเขาให้ตาย ความรู้สึกดังกล่าวผุดขึ้นมาในแวบแรก แต่หลังจากนั้น ความบัดซบก็ตามมา ร่างกายนางผะผ่าวร้อน ลำคอแห้งผาก และส่วนหวานฉ่ำเต้นตุบๆ กลีบงามๆ ของฟ่านอวี้เหยาร่ำร้องถึงบุรุษผู้นั้น นางอยากหนีเขาไปให้พ้น ทว่าพอขยับขา จึงพบว่ามีโซ่ล่ามนางเอาไว้กับลูกเหล็ก ทำให้นางเดินไม่สะดวก ส่วนหากคิดหลบหนีก็เป็นเรื่องยากยิ่ง “อาบน้ำให้ข้า และจงเตรียมตัวให้ดี คืนนี้เจ้าต้องไปรับแขก…” ฟ่านอวี้เหยาส่ายหน้า นางไม่ต้องการสัมผัสเนื้อตัวคนผู้นี้ “ข้าสั่งให้ปรนนิบัติ กล้าขัดขืนหรือ…” หญิงสาวส่ายหน้าอีกครั้ง ยามนั้น เหมือนว่าท่าทางของนางกวนโทสะเขาให้ขุ่นมัวอย่างหนัก ชายหนุ่มเลยคำรามเสียงดัง พร้อมพ่นลมหายใจร้อนๆ แล้วตวาดลั่น จนนางตกยกมือกุมหน้าอก “อาฮั่ว… เอาของเข้ามา” เพียงประเดี๋ยว ร่างของเด็กหนุ่มก็มายืนด้านข้างของแม่ทัพปู้ และเขาก้มหน้าต่ำ ด้วยไม่ได้รับอนุญาติให้มองสตรีผู้นี้ “เอาป้ายให้นาง และส่งถุงเงินมานี่” ติงฮั่ว บ่าวรับใช้ส่งป้ายให้แก่หญิงสาวด้วยมือสั่นๆ พอหมดหน้าที่เขาก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว และไม่ทันที่ฟ่านอวี้เหยาจะได้ถามสิ่งใด หรือทำความเข้าใจกับป้ายไม้ที่มีโซ่คล้องไว้ ดวงหน้างามล้ำก็ถูกถุงผ้าที่มีตำลึงเงินโยนเข้าใส่! “ข้าลืมไป คณิกาชั้นสูงอย่างเจ้า ย่อมต้องการเงินทองยามรับแขก และนั่นสิบตำลึงเงิน เป็นค่าจ้างตั้งแต่เมื่อวาน รวมถึงเช้านี้ด้วย หากทำดี ไม่ขัดใจ ข้าจะมอบให้อีก” ฟ่านอวี้เหยาส่ายหน้า พร้อมลูบแก้มของตน ซึ่งไม่ใช่อยากขัดใจเขา แต่นางรู้สึกเจ็บ ด้วยการกระทำของเขาเมื่อครู่ มันคือการทำร้ายนาง ฝ่ายปู้หว่านถิงแยกเขี้ยว จากนั้นชุดผ้าเนื้อหยาบของนางก็ถูกกระชากขาด ตามด้วยมือใหญ่ๆ ที่จับนางให้ลุกขึ้น พร้อมบังคับให้แขวนป้ายอันอัปยศ ด้วยสภาพกึ่งเปลือย หญิงสาวไม่ได้เอ่ยปากร้องขอให้เขาปล่อย หรือหยุดใช้กำลัง นางเพียงเคลื่อนไหวตามแรงของอีกฝ่าย เขาโถมกายเข้ามา นางก็ตอบรับด้วยเรือนกายนุ่มนิ่ม แน่นอนฟ่านอวี้เหยาคนใหม่ไม่ได้โง่ หรือปัญญาทึบ นางรู้ดี การรับมือแม่ทัพวิปลาส คือต้องควบคุมหัวใจเขาให้ได้ แล้วค่อยควักมันออกมา จากนั้นก็เหยียบให้แหลกเหลวด้วยสองเท้าสวยๆ คู่นี้ ปู้หว่านอี้สูดกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของหญิงสาว นางเป็นสตรีแสนเย้ายั่ว แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด สายตาของนางในขณะที่สานสบกัน มันแตกต่างจากเดิม! ความรู้สึกนี้ทำให้เขา อดสังหรณ์ใจในบางสิ่งไม่ได้ หวังว่านางคงไม่ถอดจิตออกจากร่าง แล้วให้ปีศาจเข้าสิงหรอกนะ ก่อนเดินทางมายังค่ายทหารนี้ เขาย้อนคิดถึงภาพครั้งที่ยื่นมือช่วยชีวิตนางไว้ ดวงหน้าคร้ามคม มีรอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปาก ฟ่านอวี้เหยา เป็นสตรที่ชอบทำให้เขาหงุดหงิด และหัวเสีย หลังจากฟื้นจากการที่รถม้าก็ถูกมือสังหารมุ่งร้าย ฝ่ายนางออกแรงตบตี และกัดเขา สตรีบ้าและปัญญาทึบย่อมเป็นเช่นลูกสาวของหมอหลวงฟ่าน “รู้หรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด” ฟ่่านอวี้เหยาที่เขาเห็นว่านางเหมือนสตรีอ่อนแอ ในยามนั้นกลับเป็นคนบ้า “ผีจากขุมนรก ไม่ก็มูลสุนัขที่มีกลิ่นเหม็น หรือเป็นอาจม จากร่างกายผู้คนที่เขาถ่ายทิ้งอย่างเรี่ยราด” “ฮึ เจ้าสาวของไอ้ขี้แพ้แซ่เซียวปากเยี่ยงแม่ค้าตลาดเช่นนี้” “ท่านไม่มีสิทธิ์พูดถึงสามีข้า” “สามีเจ้า ฮ่าๆ ๆ คิดเห็นเช่นไร ถึงเรียกผู้อื่นที่ยังไม่ได้เข้าหอด้วยว่าเป็นสามี ข้าต่างหากที่จะครอบครองเจ้าเป็นคนแรก จากนั้นพี่น้องทั้งค่ายทหารจะได้เชยชมเจ้าด้วย” เจตนาเขาร้ายกาจต่อนางเช่นนั้นหรือ ชายหนุ่มเอ่ยออกไปแล้วก็ยังนึกชังตัวเอง ทว่านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการข่มขู่นาง ด้วยมีข่าวแจ้งว่า สตรีผู้นี้ส่งจดหมายลับหลายฉบับ ทั้งยังเป็นหูเป็นตาให้สกุลเซียว นอกจากนั้นยังหักหลังบิดาตน ร่วมมือกับกลุ่มกบฏ แน่นอนเขาไม่อยากเชื่อ ทว่าพอได้พบนางด้วยตนเอง ใจเริ่มเอนเอียง นางเป็นคนที่ยากจะเชื่อถือได้ง่ายๆ “ให้ข้าตายเสียยังดีกว่า และถ้าปรารถนาร่างกายนี้ไว้เล่นสนุก พวกท่านก็ไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน” “คุณหนูฟ่าน ปากของเจ้าช่างเก่งกล้ายิ่งนัก สมแล้วที่วิ่งมาหาผู้ชายถึงเมืองโยว และยังถูกเขาหลอกใช้ จนยามนี้บิดาตกที่นั่งลำบาก” ฟ่านอวี้เหยาฉงนในคำพูดนั้น พักหลังนางไม่ลงรอยกับบิดาสักเท่าใด การหมั้นหมายกับเซียวเจี้ยนอี้ เป็นเรื่องที่หมอเซียวปฏิเสธตั้งแต่แรก ถึงอย่างนั้นบิดาก็ส่งคนตามอารักขานาง “หากข้าทำผิดก็เป็นตัวข้า อย่าลากผู้อื่นมาเกี่ยวข้อง” “ดี ความผิดเจ้าคือ หนึ่งเป็นลูกของฟ่านซุ่นซี สองสร้างโรงสมุนไพรที่ปรุงยาพิษ เพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ และที่เลวร้ายยิ่งกว่า ร่วมมือกับสกุลเซียวเพื่อขายชาติ” หญิงสาวตกใจต่อสิ่งที่เขากล่าว ทุกอย่างล้วนไม่เป็นความจริง และปู้หว่านถิงเป็นแม่ทัพ ไม่ใช่ศาลหรือเจ้าหน้าที่ตุลาการ ไฉนจะมาตัดสินเรื่องต่างๆ และโยนความผิดให้นางได้ “เหตุใด ถึงคิดว่าตนทำสิ่งถูกต้อง ท่านกำลังใส่ร้ายข้า” “หึๆ ๆ สำหรับบุรุษแซ่ปู้ ถือคติที่ว่า ฆ่าแล้วค่อยรายงาน และเจ้าก็ทำผิดจริง โดยเฉพาะหนังสือลับ และบันทึกโอสถที่ใช้รักษาอาการของฮ่องเต้ที่ถูกเปิดเผย ซึ่งคนในเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้ ฟ่านซุนซี ให้เจ้าเก็บไว้เป็นความลับ แต่เจ้าเปิดโปงมันแก่ขุนนางกังฉิน จนสืบรู้ว่าฮ่องเต้ป่วยหนัก ไร้ยารักษา… รอวันนอนเป็นผัก และสิ้นลมหายใจ โทษประหารทั้งตระกูลฟ่านยังน้อยไป”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม