จากนั้น ช่องระหว่างห้องโดยสารและขับควบคุมรถม้าถูกปิดอย่างเร็ว และถานลู่ก็รีบเอ่ยขึ้น
“ชุดเจ้าสาว ของท่านควรถอดออกเสีย หากไม่อยากตาย” ถานลู่บอกฟ่านอวี้เหยา แต่คนที่ตั้งใจมาเป็นเจ้าสาวของเซียวเจี้ยนอี้ ไฉนจะยอมทำได้ นางมาถึงเมืองโยว ไม่ได้เข้าห้องหอ ยังต้องมาอยู่เรือนนอก ตอนนี้ถูกคำสั่งจากแม่บ้านบอกให้นางเปลี่ยนชุด
“แม่บ้านถาน ข้าจะบอกอีกหน ข้าแต่งเข้าสกุลเซียว ยามนี้แม้ยังไม่ได้เข้าหอ แต่ข้าเป็นคนของเซียวเจี้ยนอี้แล้ว อีกอย่างเจ้าเป็นเพียงแม่บ้าน ไฉนถึงได้พูดจาไม่เคารพข้า”
ฟ่านอวี้เหยา ดูเหมือนนุ่มนิ่ม แต่นางได้รับการศึกษาดี ไม่ได้ปัญญาทึบ อาจบอบบางไปบ้าง หากอย่างไรนางนั้นสู้คน
ในขณะที่มีหลายสิ่งให้ต้องขบคิดหนัก ฟ่านอวี้เหยาก็ปวดที่แผลขึ้นมาอีก และนางเหมือนจะสลบไปในยามนั้น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่รถม้าจอดลงเสียดื้อๆ ฝ่ายคนขับรถม้า ไม่พูดพล่ามหรือบอกกล่าวอัดใด พอกระโดดลงรถม้าได้ เด็กหนุ่มวิ่งหนีเข้าป่าเสียอย่างนั้น
ถานลู่ ฉุนเฉียวอย่างหนัก นางต้องรับผิดชอบสิ่งใดที่มากเกินตัวเยี่ยงนี้หนอ
จากนั้นนางก็ออกจากรถม้า คิดหาทางรอดบ้าง ด้วยนางรู้ว่าฟ่านอวี้เหยา มิใช่มีเพียงแค่ฐานะฮูหยินน้อยสกุลเซียว ทว่ายังเป็นลูกสาวของหมอฟ่าน ที่ถูกขุนนางกังฉินหลอกยืมมือ และใส่ร้ายว่าลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ (ฉางอ๋อง) ซึ่งนางก็ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง เพื่อส่งตัวฟ่านอวี้เหยาให้อีกฝ่าย
“คุณหนู ฟื้นสิเจ้าคะ”
เสียงของจิ่งหรูฟังแล้วก็ตื่นตระหนก ยามนี้รถม้าจอดสนิท ทั้งแม่บ้านถู คนขับรถม้าต่างหายหัวไปหมด
สาวใช้เปิดหน้าต่าง มองไปด้านนอก เห็นทหารหลายสิบนายอยู่ไม่ห่างนัก ซึ่งนางมีไหวพริบอยู่บ้าง ทหารหลายนายแต่งตัวไม่ถูกต้อง ทั้งมีหนวดเครารุงรัง ประเมินด้วยสายตาก็คิดว่าอาจเป็นโจรสวมรอย
“มือสังหารหรือ…”
นางแค่คาดการณ์ไปเท่านั้นเอง
“คุณหนู ฟื้นเถอะเจ้าค่ะ ภัยมาถึงตัวแล้ว”
จิ่งหรูเขย่าร่างเจ้านายของตน ทว่าบาดแผลที่หญิงสาวได้รับจากแส้ ทำให้นางเป็นไข้ แม้จะได้ยาลดการติดเชื้อ และสมานแผลพร้อมกับห้ามเลือด ทว่านางที่เดินทางไกลมาจากเมืองหลวงทั้งยังแพ้อาหาร พักผ่อนก็น้อย สุขภาพจึงไม่สู้ดี
กระทั่งจิ่งหรูแน่ใจว่า หากปล่อยไว้เช่นนี้ คงไม่มีทางรอดกันทั้งสองคน สาวใช้จึงตัดสินใจแน่วแน่ นางถอดชุดเจ้าสาวซึ่งเป็นเสื้อคลุมตัวนอกของฟ่านอวี้เหยาออก แล้วเปลี่ยนให้ตน ส่วนเสื้อผ้านางสวมให้ฟ่านอวี้เหยา แต่ใส่ได้เพียงลวกๆ เท่านั้น ด้วยมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ
จิ่งหรูตัดสินใจเด็ดเดี่ยวกระโดดลงไปพื้นเบื้องล่าง แล้วเปิดขวดยาอันเป็นสารกระตุ้นให้ม้าตื่นตัว ม้าร้องอยู่สามสี่ครั้ง ก็เตรียมโผนทะยานไปข้างหน้า
“ทะ ท่านลุง ช่วยส่งคุณหนูของข้าไปยังที่ปลอดภัยได้หรือไม่” ชายสูงวัยที่เป็นผู้ช่วยคนควบคุมรถม้า เขายังพอมีแรงเฮือกสุดท้าย จึงยิ้มให้จิ่งหรู
“คุณชายรอง ให้ข้าพาฮูหยินน้อย ไปให้ถึงเรือนนอก… นี่คือคำสั่งที่ข้าได้รับ”
“ฝากท่านลุงด้วย คุณหนูเป็นคนดี จะต้องไม่เป็นอันตราย ส่วนท่านลุง…” จิ่งหรูมองที่ธนูที่ปักอยู่หัวไหล่อีกฝ่าย บาดแผลฉกรรจ์ทีเดียว เลือดก็ไหลไม่หยุด
“ไว้ใจได้ แม้ตายเป็นผี ฮูหยินน้อยก็จะถึงเรือนนอก”
ชายชรากล่าวจบรถม้าก็เปลี่ยนเส้นทาง และเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
“คุณหนู… อย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่ในมือคนพวกนั้น บ่าวโง่เขลาทำได้เพียงเท่านี้” จิ่งหรูว่าแล้ว นางซึ่งสวมชุดเจ้าสาวก็มองไปยังกลุ่มทหารที่บ่ายหน้าเข้ามา ก่อนรีบออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
ฟ่านอวี้เหยารู้สึกว่ายามนี้ หลายสิ่งไม่เหมือนเดิม เหตุการณ์ต่างๆ หลั่งไหลเข้ามาหัว นางสับสน หวาดกลัว หวีดร้องอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งรู้สึกว่าตนตกอยู่ในห้วงเหวลึก ก่อนจะเผชิญกับหลายสิ่งที่ไม่ค้นตา ทว่าทั้งหมดนั้นนางกับเข้าใจได้ ราวกับว่ามันเคยเกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดนางก็มาอยู่ในโลกคู่ขนาน ไม่ผลุบเข้าผลุบออกในร่างกายนี้ เหมือนแต่ก่อน อีกอย่างได้ย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง เพื่อแก้ไขหลายสิ่งให้ถูกต้อง และนางจะไม่สิ้นชีพด้วยน้ำมือศัตรู ต้องมีชีวิตยืนยาวมากกว่าชาติภพก่อน
เมื่อนางสะดุ้งตื่นจากการหลับที่ยาวนาน ก็พบว่านางเป็นเจ้าสาวที่ไม่ได้เข้าห้องหอ ถึงอย่างนั้นก็มีฝันแสนเลวร้าย ที่หญิงสาวนึกขยาดและรังเกียจตน นางเผลอใจและร่างกายให้บุรุษอื่นที่ไม่ได้หมั้นหมาย
คราแรก ฟ่านอวี้เหยาคิดอยากกัดลิ้นตนเองตาย ไม่ก็โม่งกำแพงใจจบชีวิตเสีย แต่กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้น และย้ำเตือนสติ นางต้องอยู่ต่อไป
“พี่อี้…” ฟ่านอวี้เหยาผวา และเรียกอีกฝ่ายเช่นนั้น
ซึ่งก่อนสลบไปเป็นเวลายาวนาน นางรับรู้ได้ว่า มีเสียงอึกทึกรอบตัว เมื่อศีรษะกระแทกรุนแรงกับของแข็งสติก็หลุดหาย
และนางได้ท่องโลกผ่านยุคนสมัยต่างๆ ใช้ชีวิตอยู่ในห้วงเวลาซึ่งแตกต่างกัน ถึงอย่างนั้น ก็เป็นชาติภพนี้ที่มีหลายสิ่งติดค้าง เรียกว่าตายตาไม่หลับก็ไม่ผิด
จึงเป็นเหตุให้ เหยาเหยา นักแสดงเจ้าบทบาท ที่มักรับบทนางร้ายในคราบนางเอก ย้อนเวลามาเกิดใหม่ในร่างฟ่านอวี้เหยา… ซึ่งกล่าวกันให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ เหยาเหยาคือฟ่่านอวี้เหยาในอีกชาติภพนั่นเอง
ดวงตากลมโตลืมช้าๆ มองแขนเรียวซึ่งถูกคนชั่วช้าใช้แส้ฟาด จำได้ว่ามีเลือดไหลซึมออกมา แต่ยามนี้ บาดแผลได้รับการรักษาอย่างดี ไม่ได้มีแผลเป็นอย่างที่นางหวาดกลัว