5

1548 คำ
แน่นอนปิ่นทองดังกล่าวไม่ได้เฉียดใกล้ร่างกายของคนผู้นั้นสักนิด แต่ทำให้เขารู้ว่า นางเป็นสตรีที่กล้าหาญพอตัว กระนั้น ถึงกล้าหาญอย่างไร ก็ยังเป็นคนโง่เขลาและสิ้นคิด การแต่งเข้าสกุลคหบดียามนี้ หากไม่ใช่พ่อค้าชั่วก็ดีไป แต่ถ้าทำผิดรังแต่จะถูกยึดทรัพย์ โดนไล่ต้อนไปใช้แรงงานที่เหมืองทางใต้ ไร้โอกาสลืมตาอ้าปากได้อีกตลอดชาติ “อย่าลืม หากถูกเจ้าบ่าวของเจ้าเขี่ยทิ้ง ไร้ที่ซุกหัวนอน แล้วอยากรอดตาย จงไปแขวนป้ายห้อยคอในค่ายทหารของข้า เพื่อปรนนิบัติชายชาตินักรบ ลูกน้องข้าพร้อมต้อนรับเจ้าเสมอ รับแขกไม่หนักหนา มากสุดคืนละยี่สิบคน!” เขากล่าวจบ ก็สั่งให้ผู้ติดตามถอนกำลังที่มีออกไปจนหมด ปล่อยให้ฟ่านอวี้เหยาโกรธจนตัวสั่น ทั้งอับอาย กระทั่งเสียงฝีเท้าม้าเงียบลง นางจึงได้ยินพ่อค้า แม่ค้าในละแวกนั้น พูดว่า “เฮ้อ ต่อไป พวกเราคงลำบากเป็นแน่ หากแม่ทัพปู้ผู้นั้น เข้ามาประจำการในเมืองโยว ได้ข่าวว่าเขาให้คนคัดเลือกสตรี ไปใช้แรงงานในค่ายทหารอย่างเหี้ยมโหด ไม่ใช่แค่หุงหาอาหาร ทำความสะอาดหรือซักผ้า แต่พวกนางยังต้องแขวนป้ายรับแขกในกระโจมด้านหลังค่ายทหาร เพื่อแลกกับเศษเงินไม่กี่เหวิน!” ฟ่านอวี้เหยายิ่งได้ยิน นางยิ่งขยะแขยงอีกฝ่าย “ท่านน้า เมื่อครู่ ท่านบอกว่าคนผู้นั้นคือแม่ทัพปู้” สตรีคนดังกล่าวพยักหน้ารับ พูดอย่างตรงไปตรงมา “ปู้หว่านถิง แต่เดิมเขาเคยอาศัยอยู่เมืองนี้ เมื่อครั้งเยาว์วัย เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนมารดาแท้ๆ จะสิ้นใจ” ฟ่านอวี้เหยาไม่ได้ฟังเรื่องราวของแม่ทัพปู้ต่อจากนั้น ด้วยนางเจ็บแผล ทั้งรู้สึกคล้ายจะเป็นลม ถึงอย่างนั้นก็ก่นด่าปู้หว่านถิงไม่เลิก “เสี่ยวหรู หากข้าได้พบเขาอีกครั้ง จงเตือนข้าด้วยว่า ปู้หว่านถิงต้องได้รับบทเรียนจากข้า เลือดต้องล้างด้วยเลือด และเลือดของเขา ข้าจะใช้มันล้างเท้า!” เมื่อฟ่านอวี้เหยากล่าวเช่นนั้นออกมา จิ่งหรูจึงครั่นคร้ามใจ ยิ่งไปกว่านั้นนางสำเหนียกได้ว่า ผู้เป็นนายตนมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป ฟ่านอวี้เหยาไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ลงเรือ หรืออาจกล่าวได้ว่านับแต่ก้าวออกจากเรือนสกุลฟ่าน สตรีผู้นี้มีนิสัยผิดแผกไปจากเดิม !? ทว่าสาวใช้ ไม่ได้กล่าวคำใดอีก นางได้แต่สงบปากสงบคำ และลอบมองฟ่านอวี้เหยา ซึ่งดูเหมือนว่าจะฉุนเฉียวง่าย ทั้งมีความแค้นคิดอยากจัดการปู้หว่านถิงจนน่ากลัว ในที่สุดฟ่านอวี้เหยาก็มาถึงคฤหาสน์สกุลเซียว ทว่ามันแปลกอยู่มาก ด้วยพิธีการใดๆ ทำอย่างลวกๆ แสนเร่งรีบและไม่มีใครปล่อยให้นางซักถามเพื่อไขความจริงทั้งหมดให้กระจ่าง อีกทั้งฟ่านอวี้เหยาไม่ทันได้เข้าเรือนหอด้วยซ้ำ ไม่ได้พบหน้าเจ้าบ่าวของตน ฝ่ายสกุลเซียวใช้ลูกหมูตัวหนึ่งเข้าพิธีแทน จากนั้น นางถูกไล่ต้อนขึ้นรถม้าคันหนึ่งพร้อมกับสาวใช้คนสนิท เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นภาพความที่ฟ่านอวี้เหยายังจดจำได้ และนับจากนี้นางต้องระวังตัวให้มาก “คุณหนูเจ้าคะ บ่าวกลัวเหลือเกิน เหตุใดต้องมีเรื่องเช่นนี้ อีกอย่างเรือนต่างๆ ปิดเงียบ ผู้คนบางตา ปกติบ้านคหบดีเช่นนี้ ย่อมต้องมีคนเป็นร้อย” จิ่งหรูถาม และพยายามชะโงกหน้ามองออกไปทางหน้าต่างรถม้า แต่แม่บ้านที่นั่งมาด้วย ถลึงตาปรามเอาไว้ “อย่าได้แส่หาเรื่องเชียว อีกอย่างต้องรีบออกจากที่นี่โดยด่วน คุณชายรองรออยู่เรือนรับรองนอก จากนั้นก็ต้องย้ายลงทางใต้ทันที” “แต่ คุณหนูเราแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินน้อย มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไฉนถึงจะต้องพาไปอยู่ที่อื่นด้วย” “พวกเจ้าอย่าวุ่นวาย ยามนี้ข้ามีหน้าที่เพียงแค่ส่งฮูหยินน้อยให้ถึงเรือนนอก จงรักษาชีวิตเอาไว้เถิด อย่าคิดหาภัยให้ตนเดือดร้อน อีกอย่างพวกเจ้าก็ได้เห็นแล้ว กองทัพแม่ทัพปู้กำลังย้ายเข้ามาควบคุมทุกอย่างในเมืองโยว ฝ่ายนั้นมีกำลังล้นเหลือ และยังบ้าอำนาจ ใครขวางทาง ย่อมถูกจัดการให้พ้นหูพ้นตา” จิ่งหรูไม่ชอบคำพูดของแม่บ้านผู้นี้ อย่างไรเสียคุณหนูนางเป็นลูกสาวหมอหลวงที่ฮ่องเต้ไว้วางใจ แม้ไม่ใช่องค์หญิงสูงศักดิ์ แต่ลดตัวลงมาแต่งเข้าสกุลเซียวที่ให้ดีก็แค่ร่ำรวยเงินทอง “แม่บ้านผู้นี้ ปากเจ้ายังอยากมีไว้กินข้าว และดื่มน้ำอีกหรือไม่” ถานลู่ได้ยินอย่างนั้นพลันลมออกหู นางไม่น่ารับงานนี้เลย อันที่จริงสมควรหนีเอาตัวรอดเสีย ทว่าคุณชายรองกำชับนักหนา อย่างไรต้องส่งฮูหยินของเขาไปในที่ปลอดภัยที่สุด ยามนี้อีกฝ่ายคงซ่อนตัวอยู่ หากกล่าวไปแล้ว การแต่งงานครั้งนี้ฤกษ์ไม่ดีนัก ด้วยประจวบเหมาะกับเวลาที่สกุลเซียวถูกข้อกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนขุนนางกังฉิน ค้าขายสินค้ากับต่างแคว้น พร้อมสนับสนุนทั้งเสบียงและอาวุธสงคราม จึงเป็นเหตุให้คฤหาสน์ทั้งหลังแทบจะร้างผู้คน ซึ่งกล่าวไปแล้ว สตรีที่เพิ่งแต่งเข้าเรือน เป็นตัวอัปมงคลโดยแท้ รถม้าพาฟ่านอวี้เหยาเดินทางไกลตั้งแต่หัวค่ำเมื่อวาน และพักที่โรงเตี้ยมเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีทหารที่ออกมาสืบข่าวต่างๆ ทั้งหาความสุขกับนางโลมที่อยู่ซ่องในละแวกนั้นบ้าง ฟ่านอวี้เหยาไม่ใคร่ชอบใจที่นี่ นางรำคาญความวุ่นวาย อีกทั้งยังเห็นว่า มีการทำผิดกฎหมายหลายอย่าง โดยเฉพาะนางโลมเหล่าอายุยังน้อย ซึ่งนอกจากเป็นสตรี ยังมีเด็กชายด้วย บริเวณโถงที่มีไว้รับรองผู้คนและขายอาหาร ฟ่านอวี้เหยายังสวมชุดเจ้าสาว มีเสื้อคลุมตัวหน้าทับไว้อีกชั้น กวาดตามองภาพต่างๆ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว “ทหารพวกนั้น อยู่ในกองทัพจริงๆ หรือเจ้าคะ” “คงอยู่ในช่วงกลียุคจริงๆ เรื่องเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น” ฟ่่านอวี้เหยาว่า มองไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อีกฝ่ายกำลังจะถูกหิ้วออกไปสร้างความสำราญให้แก่ทหารถึงสามคนด้วยกัน “น่ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ ถ้าหากทหารพวกนี้ เข้ามาควบคุมทุกอย่างในบ้านเมือง จะมีเรื่องเลวร้ายเพียงใด” จิ่งหรูถาม และหัวใจของฟ่านอวี้เหยาหดเกร็ง… “ข้าก็หวังว่า จะมีคนที่มีอำนาจมากกว่าปู้หว่านถิง สามารถกำราบความเหิมเกริมของเขาได้” “โอ้ คุณหนู อย่าเอ่ยชื่อเขาแบบนั้นสิเจ้าคะ บ่าวแค่ได้ยินก็ตัวสั่น ฉี่แทบราด ยังจำได้เลยว่า เขานั่งบนหลังม้าตัวใหญ่ และฟาดแส้ใส่คุณหนูจนบาดเจ็บ” “บางทีข้ากับเขา คงเคยสร้างกรรมเวรไว้ร่วมกัน” หญิงสาวเอ่ยแล้ว ภาพบางอย่างก็หมุนสลับไปมา หลายหนนางรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง นอกจากนั้นยังมองเห็นเรื่องราวในภายภาคหน้า และก็อดสังหรณ์ใจไม่ได้ว่า อีกไม่นานนับจากนี้ นางอาจต้องประสบหายนะครั้งใหญ่ จนแทบเอาชีวิตไม่รอด “เรารีบเข้านอนเถิด ข้าคิดว่าพักผ่อนเอาแรงให้มากๆ พรุ่งนี้เช้าการเดินทางคงลำบากมิน้อย” และทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่ฟ่านอวี้เหยากล่าว เรือนนอกสกุลเซียวห่างจากเมืองโยวมากพอสมควร เส้นทางนั้นก็ซับซ้อน เป็นทั้งป่า ต้องผ่านช่องเขา อีกทั้งเมื่อใกล้ถึงที่หมายก็เกิดเรื่องชวนให้น่าหวาดหวั่น “มิใช่่ทหารเป็นแน่ ดูอย่างไรก็เหมือนพวกที่ปลอมตัวมา พวกมันต้องการตรวจค้น รถม้าที่ผ่านจุดนี้ทุกคัน…แม่บ้านถาน ทางที่ดี เราเปลี่ยนเส้นทางเถิด” เด็กหนุ่มที่บังคับรถม้าแจ้งเรื่องที่เขาประเมินแล้วก็เห็นว่าไม่ปลอดภัยกับถานลู่ ด้วยมีการแอบอ้าง และปลอมตัวเป็นทหารของปู้หว่านถิง ทั้งหมดเป็นฝีมือของพวกก่อกบฏนั่นเอง ถานลู่ได้ยินแล้วกลับชักหน้า และส่งเสียงโต้ตอบเขาผ่านช่องระหว่างคนขับ และห้องโดยสารด้านใน “เหลวไหล อย่างไรฮูหยินน้อยนางนี้ ต้องไปถึงเรือนนอก และใครหน้าไหนก็ตรวจค้นรถสกุลเซียวไม่ได้” เมื่อถานลู่กล่าวอย่างนั้น แต่ชายชราที่เป็นคนงานดูแลทั้งม้า และรถคันนี้ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มตะโกนบอกว่า “แม่บ้านถาน เราเลือกใช้เส้นทางอื่นได้ ข้าบอกตั้งแต่ต้นแล้ว หากเลี่ยงการเข้าใกล้หุบเขา และป่าทึบย่อมดีที่สุด แต่เจ้าดึงดันจะมาให้ได้ บอกว่าเป็นทางลัด แต่ดูเอาเถิดอันตรายรออยู่ข้างหน้าแล้ว หรือว่าแท้จริง เจ้ารับเงินคนอื่น และมีแผนร้ายต่อฮูหยินน้อยผู้นี้!” พอชายสูงวัยกล่าวจบ จู่ๆ ลูกธนูก็พุ่งมาแล้วปักทะลุหัวไหล่เขา!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม