ไม่มีพ่อ

1516 คำ
โรงเรียนของมาเรียม เมื่อลัลนามาส่งมาเรียมเข้าห้องเรียบร้อย เธอก็รีบออกมาทันที เพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขมิกา คุณครูให้เด็กๆ เล่นอิสระก่อนจะเข้าแถวเคารพธงชาติ ทำให้มีเด็กหลายคนที่ชอบแกล้งมาเรียมเดินเข้ามาใกล้และเริ่มปฏิบัติการแกล้งเธอขึ้นมาอีกครั้ง "มาเรียมไม่มีพ่อ ยัยเด็กไม่มีพ่อ!" เด็กชายก๋ากั่นประจำห้องที่ชอบเป็นแกนนำให้กับเพื่อนๆ ล้อมาเรียมบ่อยๆ แม้ว่าคุณครูจะดุและกล่าวตักเตือนหลายครั้งแต่เด็กพวกนี้กลับไม่เคยจำ "มาเรียมเธอไม่มีพ่อเหรอ ฮ่า! ฮ่า! ยัยเด็กไม่มีพ่อ" ชนัญผู้ที่เป็นกองทัพเสริมให้กับเด็กชายก๋ากั่นมาแต่ไหนแต่ไรได้เริ่มพูดพร้อมกับหัวเราะขึ้น ก่อนที่เพื่อนหลายๆ คนจะเข้ามาแจมด้วย "นี่พวกเธอหยุดล้อมาเรียมได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเราจะไปฟ้องคุณครูนะ!" เด็กชายเมฆผู้พิทักษ์และคอยปกป้องเด็กหญิงมาเรียม เขาเป็นเพียงเพื่อนคนเดียวที่คอยอยู่ข้างๆ เธอมาโดยตลอด ในระหว่างที่เด็กๆ กำลังชุลมุนกันอยู่นั้น เมฆกับเพื่อนได้ถกเถียงกันขึ้น มาเรียมได้เดินออกมาแล้วไปนั่งตรงชิงช้าที่นั่งประจำของเธอ เมื่อโดนรังแกมาเรียมมักจะมาที่นี่เสมอ "ฮึก ฮือ ฮื้อ!" เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กน้อยดังขึ้น เธอมักจะมาแอบร้องไห้อยู่ที่นี่บ่อยๆ เพราะไม่ค่อยมีคนผ่านมา ส่วนมากเพื่อนๆ จะเล่นอยู่แต่ในห้อง ชายร่างสูงใหญ่กำลังจะเดินผ่าน เขารู้สึกแปลกใจกับเสียงร้องไห้ที่ดังมาใกล้ ชายหนุ่มค่อยๆ เดินเข้าไป ก่อนจะพบว่ามีเด็กผู้หญิงนั่งก้มหน้าก้มตาร้องไห้ที่ชิงช้า เขาย่อตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะเอามือวางลงบนหัวเด็กหญิง แล้วลูบไปมาเบาๆ สัมผัสของฝ่ามือหนาทำให้มาเรียมรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของอุ้งมือนี้ เมื่อมันเป็นสัมผัสที่แปลกใหม่สำหรับเธอ ส่วนตัวเขาเองก็รู้สึกถูกชะตากับเด็กหญิงคนนี้น้ำตาใสไที่ไหลหยดออกมาจากดวงตาแป๋วคู่นี้มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก..เขารู้สึกผูกพันกับเธอตั้งแต่แรกเจอมีความอยากปกป้องอยากดูแลเอาใจใส่เขาไม่ชอบเลยที่เด็กคนนี้ร้องไห้ “หนูร้องไห้ทำไมคะใครทำอะไรหนูไหนบอกลุงมาซิ” เขาพูดพร้อมกับอุ้มเด็กหญิงเข้ามาในอ้อมกอดดวงตาคู่สวยของเธอมันทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน มันคล้ายดวงตาของใครบางคนที่เขารอคอยและเหมือนมันจะซ่อนเรื่องราวอะไรไว้มากมายภายใต้ดวงตาคู่นั้น “คือหนู...” เด็กหญิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่เมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นภายใต้อ้อมกอดนี้มันเหมือนกับว่าเธอโหยหามานาน แม้ผู้เป็นมารดาจะเคยบอกเอาไว้ให้หลีกเลี่ยงชายแปลกหน้า แต่เมื่อเด็กหญิงได้อยู่ใกล้กับชายผู้นี้แล้วเธอกลับรู้สึกปลอดภัย เธอไม่กลัวเขาสักนิดแถมยังยอมพูดด้วย ทั้งที่ปกติมาเรียมจะเข้ากับคนได้ยากและไม่ชอบพูดกับคนแปลกหน้าด้วยซ้ำ "ไหนจะบอกลุงได้หรือยังว่าเป็นอะไร” "เพื่อนชอบล้อว่าหนูไม่พ่อค่ะ" คำบอกกล่าวของเด็กหญิงเหมือนมีใครเอามีดมาปักที่อกข้างซ้ายของเขา ชยันต์รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสิ่งที่เด็กคนนี้พูดมันทำให้เขานึกถึงลูกที่เขมิกาให้กำเนิด ป่านนี้หากเป็นผู้หญิงคงจะโตเท่าเด็กคนนี้แน่ "แล้วพ่อของหนูไปไหนล่ะคะ" เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมกับก้มลงลูบที่หัวของเด็กน้อยไปมาเบาๆ อีกครั้ง เพื่อสร้างความไว้วางใจและคุ้นเคยกับเธอ "แม่บอกว่าพ่อเป็นเทวดาอยู่บนท้องฟ้าค่ะ กลางวันไม่มีดาวพ่อมาหาหนูไม่ได้ พ่อจะมาตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะว่าพ่ออยู่ที่ดวงดาวดวงใดสักดวง พ่อมักจะมองมาที่หนูเสมอ แต่หนูไม่เคยมองเห็นพ่อเลยสักครั้ง"เมื่อชยันต์ได้ยินคำบอกเล่าของเด็กน้อย น้ำตาของเขาก็ไหลออกมาราวกับว่ากำลังฟังเรื่องราวของลูกสาวที่เล่าสู่บิดาฟัง เด็กหญิงมาเรียมใช้มือเล็กๆ ปาดน้ำตาออกจากแก้มให้กับผู้ชายวัยสามสิบต้นๆ ที่ยังแลดูสมาร์ตและหล่อเหลายังกับโอปปา สัมผัสจากมือเล็กมันกลับทำให้เขารู้สึกได้ถึงสายใยบางๆ ที่มีให้แก่กัน "ไม่ร้องนะคะคุณลุง คุณแม่บอกว่าคนที่ร้องไห้คือคนอ่อนแอและไม่เก่ง แต่เวลาที่มาเรียมร้องไห้ มาเรียมจะแอบคุณแม่ค่ะ" ชื่อของเด็กน้อยทำให้เขาถึงกับตาโตเลยทีเดียว มาเรียมเป็นชื่อที่มารดาของเขาเคยบอกกับเขมิกาเอาไว้หากมีลูกสาวให้ชื่อมาเรียม “หนูชื่อมาเรียมเหรอคะ แล้วแม่ของหนูชื่ออะไรเอ่ย” "หนูชื่อมาเรียมค่ะแม่หนูชื่อเข...อ๋อ...ชื่อลัลนาค่ะ" ชายหนุ่มหุบยิ้มลงทันทีเมื่อรู้ว่ามารดาของเธอไม่ใช่เขมิกาอย่างที่หวัง ลัลนาและเขมิกาเคยสั่งมาเรียมเอาไว้ หากใครถามว่ามารดาชื่ออะไรให้ตอบไปว่าชื่อลัลนาห้ามบอกเขมิกาเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเธอจะเป็นอันตราย แม้ว่าจะรู้สึกดีและอบอุ่นกับชายตรงหน้า มาเรียมก็เป็นเด็กฉลาดมีไหวพริบดี จึงไม่ลืมคำบอกที่มารดาเคยสั่งเอาไว้ “มาเรียมอยู่ไหน มาเรียมได้เวลาเข้าแถวแล้วนะ” เสียงของคุณครูดังแว่วมา ทำให้มาเรียมลุกขึ้นจากตักของชยันต์ ที่เธอแสนจะเสียดายกับความอบอุ่นที่ได้สัมผัส "คุณครูเรียกแล้ว หนูไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณลุง" มาเรียมพูดพร้อมทั้งยกมือขึ้นไหว้ชายตรงหน้าอย่างอ่อนน้อมงดงาม สมกับเป็นลูกหลานของตระกูลรชนิศภานุพงษ์ "เราจะเจอกันอีกไหม ลุงอยากเป็นเพื่อนกับหนูจัง" "ได้ค่ะ แต่ต้องเป็นความลับนะคะ แม่ไม่ชอบให้มาเรียมคุยกับผู้ชายโดยเฉพาะคนแปลกหน้าค่ะ" "หนูชอบกินอะไรพรุ่งนี้ลุงจะซื้อมาฝาก" "ขนมจีบไม่ใส่ซอสโรยแค่กระเทียมเจียวนะคะ ของโปรดมาเรียม" คำตอบของเด็กหญิงมันยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง นั่นมันของโปรดของเขาขนมจีบไม่ใส่ซอสใส่แค่กระเทียมเจียว จะมีสักกี่คนในโลกใบนี้ที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ชยันต์ยิ้มกว้างให้กับเด็กหญิงที่เดินเข้าไปในห้องจนลับตา ก่อนจะหันกลับมาแล้วเดินตรงที่รถสตาร์ตขับออกไป ภายในห้องของเขมิกา ลัลนารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนเพื่อส่งข่าวเรื่องพิพัฒน์ชายที่เขมิกาเคยไปนอนด้วยเขาปรารถนาในตัวของเขมิกาและต้องการให้เธอดูแลเทคแคร์เขาเพียงคนเดียวในระยะเวลาหนึ่งปี "ข้อเสนอก็โอเคนะดีกว่านอนกับแขกเดือนละหลายคน” "อย่างน้อยก็ปีละคน กว่ามาเรียมจะเรียนจบก็เป็นโหลเชียวนะ เขมไหวเหรอ” เวลานี้ลัลนาไม่ต้องเก๊กคำพูดให้ดูเรียบร้อยอีกต่อไป เพราะเพื่อนของเธอได้กลายเป็นคนละคนไปแล้ว หญิงที่เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ได้ตายไปแล้วจริงๆ เหลือเพียงแค่คนที่สู้หลังชนฝาไม่ยอมอะไรง่ายๆ “สรุปตามนั้นตอบตกลงเขาไปเลย เขมรับงานนี้” ลัลนาพยายามช่วยเพื่อนทุกวิถีทาง เมื่อเพื่อนเลือกทางเดินทางนี้แล้ว เธอก็จะทำให้เพื่อนเดินอย่างไม่สะดุด ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แม้ว่ามันจะเป็นการช่วยที่ดูแย่ก็ตาม แต่เธอก็จะไม่ทำให้มันแย่ลงกว่าที่เป็นอยู่ ตลอดระยะเวลาที่เขมิกาทำงานที่นี่ เธอรับงานนอกเท่านั้น งานในผับในบาร์หรือว่างานด้านหลังร้านเธอจะไม่รับเพราะไม่อยากให้มาเรียมมารับรู้ในสิ่งที่เธอทำ การเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกนั้นมันต้องทำให้ลูกเห็นและเป็นสิ่งที่ดี เพื่อให้ลูกทำตาม แต่สำหรับเธอแล้วแม่คนนี้คงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกไม่ได้ เธอเป็นมารดาที่แย่มากไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการถูกตราหน้าว่าเป็นโสเภณี ซึ่งตราบาปที่เกิดขึ้นคงโทษใครไม่ได้ นอกเวรกรรมที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าเคยไปทำอะไรไว้ ชาตินี้ถึงต้องชดใช้ไม่จบสิ้นสักที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม