เมล็ดพันธุ์ที่ดีต่อให้เกิดในดินที่แห้งแล้งหากเราหมั่นรดน้ำพรวนดิน มันก็พร้อมจะเติบโตงอกงามขึ้นได้เสมอ ในเวลานี้เขมิกากำลังง่วนอยู่กับการลบรอยที่ถูกทำเอาไว้ เธอพยายามขัดถูจนหนังแทบถลอกเวลาเนิ่นนานกับการอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่มีมลทินติดตัวตราบจนลมหายใจจะสิ้น ต่อให้เธอใช้แอลกอฮอล์มาล้างมันก็ไม่สามารถสะอาดได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะตราบาปครั้งนี้มันจะเป็นเงาตามหลอกหลอนติดตัวเธอตราบนานเท่านาน
เมื่อสำรวจร่างกายเสร็จแล้วเขมิกาเอื้อมมือไปดึงเอาชุดเดิมที่แขวนไว้ขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินออกมาหยิบเอาเช็คที่หัวเตียง โดยที่ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้ว เขมิกาเดินออกมาจากห้องของชายแปลกหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตอนนี้คำถามมากมายมันได้เกิดขึ้นมาในหัวของเธอ ทั้งดีและไม่ดีมันตีกันรวนไปหมด
เธอเดินออกมาจากคอนโด เพื่อคอยรถแท็กซี่ สักพักคันที่เธอต้องการก็ผ่านมาจอดรับ หญิงสาวก้าวเท้าขึ้นไป เมื่อนั่งอยู่บนรถเขมิกาถอนใจออกอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงเบาๆ นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมากับสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำมันลงไป
มือเรียวเล็กค่อยๆ หยิบเช็คใบนั้นออกมาจากกระเป๋าสะพาย เพื่อดูจำนวนตัวเลขที่ชายแปลกหน้าใส่มันลงไป สองแสนบาทถ้วน เงินจำนวนนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อน สมัยที่บิดามารดายังอยู่ ธุรกิจยังไม่ล้มละลาย มันไม่พอสำหรับค่ากระเป๋าแบรนด์เนมบางใบของเธอด้วยซ้ำ แต่ในเวลานี้เงินจำนวนสองแสนบาทกลับมากโขสำหรับเธอ ในการใช้สร้างอนาคตให้กับลูกน้อยมาเรียม
เมื่อรถแล่นเข้ามาจอดยังจุดหมายปลายทางเขมิกาควักเงินให้กับแท็กซี่ เธอไม่รอช้ารีบเดินขึ้นไปยังห้องทันที เพราะเวลานี้เธอคิดถึงเด็กหญิงมาเรียมเหลือเกิน แต่พอเข้ามาก็พบว่าห้องนี้ไม่มีใครเธอก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ เวลาเจ็ดโมงกว่าแสดงว่าลัลนาคงไปส่งมาเรียมเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระล้างร่างกายอีกครั้ง
เขมิกาใช้เวลาในห้องน้ำเนิ่นนาน ก่อนจะเดินออกมานั่งลงที่เตียงแล้วทำให้นึกถึงใบหน้าของบิดามารดาที่เคยชุบเลี้ยงเธอมา วันนี้เธอได้ทำในสิ่งที่ดูไร้ค่าไร้ศักดิ์ศรี เพื่อแลกกับเงินตราด้วยเรือนร่างที่บุพการีเคยทะนุถนอมดังไข่ในหิน เวลานี้มันได้หมดค่าสิ้นลงแล้วและอีกไม่นานร่างกายนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเกลือกกลั้วกับราคีคาวอีกกี่ครั้งกี่คราถึงจะสิ้นสุดลง
เมื่อมีครั้งที่หนึ่งก็ต้องมีครั้งที่สอง ครั้งที่สามตามมา และครั้งแล้วครั้งเล่า จนนับไม่ถ้วนอีกต่อๆไป หญิงสาวค่อยๆ เอนตัวลงนอนอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าต้องใช้ประโยชน์จากร่างกายที่ให้บิดามารดาให้กำเนิดมา เพื่อไว้ใช้แรงในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ส่วนสมองไว้ใช้งานในการคิด แต่เวลานี้มันกลับไร้ประโยชน์ สมองที่ดีความรู้ที่ได้มา มันไม่สามารถทำให้เธอหนีพ้นกับสิ่งที่เป็นอยู่ในเวลานี้ แน่นอนความรู้ที่มีเธอไม่สามารถเอามาใช้บนเตียงได้ ไม่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ในการคำนวณเลขในเช็คได้ สิ่งที่ทำได้คือทำให้ร่างกายนี้บริหารเงินและเลขในเช็คนั่นที่ผู้ชายเหล่านั้นจะเติมใส่มันลงไป
บ้านรชนิศภานุนิพงษ์
ชายหนุ่มที่ทำงานอย่างหนักเพื่อครอบครัวแต่เขาก็ยังเจียดเวลามาเอาใจใส่ลูกสาวอย่างชนัญ ที่ทุกคนก็คิดว่าเด็กคนนี้คือลูกสาวคนเดียวของเขา ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่มีเลือดของชยันต์ปนอยู่แม้แต่หยดเดียว มีเพียงเขาที่เก็บงำเรื่องนี้เอาไว้ภายในใจเพียงคนเดียว ปล่อยให้มันตายไปกับใจ ในเมื่อเรื่องมันผ่านเลยมาแล้วเขาก็จะปล่อยให้มันผ่านไป จะไม่รื้อฟื้นจะไม่ถามความจริงอะไรจากแชมเปญทั้งนั้น
แม้คนละสายเลือด แต่ความผูกพันที่ทั้งสองมีให้กันมันก็มากล้น เมื่อมารดาของเธอไม่เคยใส่ใจกับลูกในอุทรเลยสักนิด ทำให้บิดาอย่างชยันต์คอยโอบอุ้มปลอบโยน สายใยบางๆ จึงก่อเกิดขึ้นดังพ่อกับลูกแท้ๆ ก็ไม่ปาน เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายปีความรู้สึกเดิมๆ ซ้ำๆ มันก็คอยย้ำเตือนให้ชยันต์เฝ้ารอข่าวคราวของเขมิกากับลูก แต่รอแล้วรอเล่าไม่ว่านักสืบที่ส่งไปทุกครั้งก็สูญเปล่า ข่าวคราวของเขมิกาที่ได้มาคือหาไม่เจอ เขาไม่รู้จะทำเช่นไรได้แต่หวังจะได้พบเธออีกสักครั้ง ก่อนจะตายจากกัน ป่านนี้ลูกของเขาคงจะเข้าอนุบาลแล้ว อายุคงจะไล่เลี่ยกับชนัญ แต่เขาก็ไม่อาจรับรู้ได้ว่าสองแม่ลูกอยู่ที่ใด เพราะเขมิกาได้เปลี่ยนข้อมูลทั้งหมด เพื่อไม่ให้ชยันต์ตามหาเธอกับลูกเจอ
"วันนี้ดูลูกด้วยนะ ความจริงฉันไม่ต้องบอกเพราะมันเป็นหน้าที่ของคุณอยู่แล้ว แต่เผอิญฉันจะไปค้างคืน ไม่กลับบ้านหลายวัน"
"เชิญตามสบาย คุณจะไปลงนรกหรือว่าขึ้นสวรรค์ที่ไหนก็ตาม ถ้าสิ่งที่คุณทำคุณคิดว่ามันถูกต้อง ผมก็จะไม่ห้ามเพราะว่ามันไม่มีประโยชน์"
"เรื่องลงนรกน่าจะเป็นคุณมากกว่า ส่วนนางฟ้าอย่างฉันน่าจะได้ขึ้นสวรรค์"
"หน้าไม่อาย! ผมลืมไปผู้หญิงอย่างคุณไม่มียางอาย"
"ใช่ฉันไม่มียางอาย แต่ความเลวของฉันยังน้อยกว่าคุณ ฉันรู้นะว่าคุณทำอะไรไว้บ้างกับเขมิกา ขอโทษด้วยฉันไม่ใช่เมียเก่าของคุณ นิสัยของฉันมันก็บ้าระห่ำ ไม่ต่างจากคุณหรอก"
"เธอจะไปไหนก็ไปรีบไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!"
"คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันฉันจะอยู่หรือจะไปฉันเป็นคนตัดสินใจเอง"
"ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันนางแพศยาชัดๆ"
"แล้วผู้ชายอย่างคุณมันดีตรงไหน พาผู้หญิงเข้าบ้านไม่ซ้ำหน้า โอบกอดกับหญิงอื่นให้เมียตัวเองดู! มิหนำซ้ำยังสั่งฆ่าแม้กระทั่งลูกของตัวเอง!"
"แชมเปญ!!" ชยันต์ร้องตะโกนใส่หน้าแชมเปญอย่างแรง พร้อมกับง้างมือขึ้นเขาตั้งใจจะตบลงตรงที่ใบหน้าของเธอ แต่ก็ยั้งเอาไว้ ก่อนจะตบลงที่โต๊ะอย่างแรง..
ปึงงง!! แชมเปญถึงกับสะดุ้งยืนสั่นไปทั้งตัว เธอไม่เคยเห็นเขาโกรธอะไรแบบนี้มาก่อน..แล้วทำไมเขาต้องโกรธ ในเมื่อสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงเวลานี้แชมเปญไม่สนใจว่าชยันต์จะรู้สึกยังไง เธอเดินออกมาจากบ้าน ขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที..
ชยันต์มองตามร่างอรชรที่เดินออกไปพ้นบ้าน ก่อนที่เธอจะขึ้นรถแล้วขับออกไปจนลับตาเขาไม่ได้สนใจสักนิดว่าเธอจะไปไหน เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา ความสัมพันธ์ของเขาและเธอแทบจะไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้ว หลายปีมานี้ชยันต์แทบจะไม่ได้นอนกับเธอเลย เขายอมรับว่าเขาอาจจะบกพร่องในหน้าที่ของสามี แต่ถ้าหากภรรยาคนนี้คือเขมิกา ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้
ซึ่งเขาอาจจะเป็นสามีที่ทำหน้าที่ดีจนล้นเหลือ ถ้าหากเวลานี้ภรรยาของเขาคือเขมิกา ผู้หญิงที่ยอมทำงานบ้าน ยอมทำอาหารหวานคาวยอมทำทุกอย่างให้กับเขาโดยที่ไม่ต้องร้องขอ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งที่เขาจะทำก็คือพาเธอไปฝากท้อง แล้วหาของมาบำรุงลูกน้อยในครรภ์ จะไม่ทำอะไรแย่ๆ แบบที่ผ่านมา ด้วยการสั่งให้เธอไปฆ่าลูกที่เป็นสายเลือดของตัวเอง แล้วต้องมานั่งเจ็บปวดเจียนตายจวบจนทุกวันนี้ ต่อให้เขาชดเชยให้เขมิกามากมาย มันก็คงทดแทนไม่ได้กับสิ่งที่เขาได้ทำ ที่สำคัญถ้าเธอรู้ถึงการตายของบิดามารดาของเธอ เขาไม่รู้เลยว่าชีวิตของเขาจะมีค่าพอ ที่จะแลกกับชีวิตบิดามารดาของเธอที่เขาได้ทำร้ายลงไปทางอ้อมได้หรือไม่
ชยันต์มองภาพไม่ออกเลย ความสุขในครอบครัวมันเป็นยังไง พ่อแม่ลูกมันคืออะไร นิยามของคำว่าครอบครัวมันอยู่ตรงไหน ทำไมเขาหาคำตอบเหล่านั้นไม่เจอ นั่นคงเป็นเพราะว่าคำตอบของเขา ไม่ใช่แชมเปญ แต่คือเขมิกาต่างหาก แล้วชีวิตนี้ทั้งชีวิตเขาคงไม่มีทางได้สัมผัสกับคำว่าครอบครัว เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ ที่เขาจะได้เขมิกากลับคืนมา เมื่อเขาเองเป็นคนผลักไสให้เธอออกไป แม้คืนวันที่ผันผ่านไม่ว่ากี่ราตรีกาลใจของเขาก็ยังยึดมั่นยืนหยัดว่ามันจะเป็นของเขมิกา แต่เพียงผู้เดียว