พอฉันบอกออแดอร์นี้กับยัยเชอร์ ผลคือโดนสวดซะหูชา
“แกนะแก สองร้อยชิ้นกับเค้กแบบนั้น แกจะทรมานฉันเหรอ หา!”
ฉันรีบบีบนวดไหล่บางอย่างเอาใจ
“น่านะเชอร์รี่คนสวย งานนี้หมอดวินรีเควสท์เองแถมยังจำขนมที่ฉันเคยทำให้ตอนสมัยเรียนได้ด้วย” ยิ้มแล้วยกมือกุมแก้มด้วยความฟิน
“เฮ้อ ปกติก็ไม่เคยจะบ้าผู้ชายที่มีชีวิตจริงๆ สักคนแต่พอเป็นคุณหมอคนนี้นี่แกทำตัวเหมือนโดนเขาสาดยาเสน่ห์ใส่สักโอ่ง”
เชอร์รี่พูดไปส่ายหน้าเอือมไป แต่สุดท้ายก็ยอม
เราตกลงกันว่าจะขอเพื่อนมาช่วยอีกสักคนงานจะได้เบาไปอีกหน่อย
คืนก่อนงานเลี้ยงของโรงพยาบาล
ฉันถูกเสริมสวยด้วยฝีมือของเพื่อนรัก สภาพตอนนี้คือเปลือยแล้วนอนในอ่างน้ำ เรียกได้ว่าอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ก่อนหน้านี้ยังมีขัดตัวแบบสครับละเอียดบลาๆ ระหว่างที่นอนอืดอยู่นี่ ใบหน้าของฉันถูกพอกโคลนหลังจากสครับเบาๆ ฟีลเหนียวหน้าเว่อร์ ยังดีที่ตลอดการบำรุงผิวในห้องน้ำมีการเอาแท่นบางอย่างวางพาดอ่างแช่แล้วเปิดหนังในแทบเลตดูไปด้วย ไม่งั้นคงเปื่อยแบบทรมานกายใจ
“แก ล้างออกได้ยัง เหนียวหน้า” ฉันโอดครวญ
“ยัง อีกสองนาที เสร็จแล้วมาส์กเพิ่มความชุ่มชื้นอีกตัวก่อนจะออกห้องน้ำ”
คนที่นั่งเลือกมาส์กกระปุกต่อไปหน้าห้องน้ำตะโกนเข้ามา
“ทำไมฉันต้องเสริมสวยด้วยอ่า~”
“แกเป็นคนเอาขนมไปส่งก็ต้องสวยหน่อย งานเลี้ยงโรงพยาบาลงานนี้เป็นงานเลี้ยงการกุศลซะด้วยคนเยอะแยะ เผื่อจะมีใครสักคนสอยแกลงคาน”
ฉันส่ายหน้าที่เหนียวหนัก
“ไม่เอาอะ ฉันใส่แมสก์”
“พรุ่งนี้ฉันจะเอาแมสก์แกไปทิ้ง ห้ามใส่! แล้วห้ามเถียงด้วย”
ฉันเบ้ปาก ยัยเชอร์พูดต่อ
“แกน่ะปีนี้ยี่สิบแปดแล้วนะ ยี่ สิบ แปด ชีวิตนี้แกจะเลือกคลั่งผู้ชายที่เป็นไปไม่ได้คนเดียวแล้วปฏิเสธผู้ชายทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาไม่ได้นะกุ๊ก”
“มันก็แค่ยังไม่เจอรึเปล่า..” เสียงอ่อยเลยฉัน
“ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้แกห้ามใส่ผ้าปิดหน้าปิดตา มา ล้างหน้าได้แล้ว”
ฉันนั่งพับเพียบในอ่างยื่นหน้าออกขอบอ่างมาแล้วล้างหน้ากับฝักบัว
เสร็จแล้วเชอร์รี่ก็ยื่นทิชชูมาให้ซับหน้าให้หมาด ก่อนที่หล่อนจะละเลงน้องมาส์กกระปุกสีขาวฝาสีชมพูที่หอมกลิ่นกุหลาบลงบนหน้าฉันเบาๆ
ฉันเอนไปกับอ่างอีกครั้งรอเวลายี่สิบนาที ยัยเชอร์ไปดูเนตฟลิกในห้องต่อ
ในหัวฉันคือบทสนทนาของเราเมื่อกี้ บางทีการที่เราชื่นชมใครสักคนที่สมบูรณ์แบบมากๆ คงจะทำให้มาตรฐานเราสูงขึ้นด้วยรึเปล่า
ฉันไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อนเลย ปกติก็แค่คิดว่า เราไม่ได้ชอบเขา แค่นั้น
แต่ฉันคงไม่ได้ให้โอกาสใครมาทำให้ชอบ รึเปล่า ไม่ใช่ว่าคนที่เข้ามาไม่ดี
เพียงแค่ฉันรู้สึกว่า ...มันไม่ใช่ อีกอย่าง ฉันเองก็ไม่ได้สวยเลิศสักหน่อย
แล้วไม่รู้ว่าฉันหวังบ้าอะไรอยู่ทั้งที่บอกตัวเองเสมอว่าฉันอยู่ได้เท่านี้
ขีดเส้นไว้เท่านี้ ขอแค่ดูแลห่างๆ ก็พอใจ
.....แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาเห็นคนที่เหมาะสมยืนเคียงข้างกันมันเจ็บมากๆ ฉันต้องควบคุมใจให้ดีกว่านี้แล้ว
เพราะอย่าว่าแต่เขาจะมามีใจเลย หน้าฉันเขายังแทบจะไม่ได้เห็นเลย
.....ความหวังที่มองไม่เห็นนั้นไม่มีวันเป็นจริงอยู่แล้วล่ะ
พอครบเวลาก็อาบน้ำล้างตัวซับให้แห้ง ยัยเชอร์บังคับให้ฉันแปะมาส์กหน้าอีกแผ่น แถมละเลงน้ำมันทาตัวให้ฉันซะหอมฟุ้ง
“เดี๋ยวๆ แก ฉันไปพรุ่งนี้ปะ ต้องทำขนมก่อนด้วย เท่ากับต้องอาบน้ำอีกรอบ แกจะทาอะไรเยอะแยะ” ฉันว่าแล้วใส่เสื้อผ้า
“มันต้องทำบ่อยๆ สม่ำเสมอ ผิวจะได้สวยๆ แกน่ะผิวก็สวยดีอยู่หรอกแต่ไม่ค่อยดูแลเลย ฉันเห็นแล้วอดไม่ได้ ฉะนั้นจงรับการดูแลซะ”
ฉันอมยิ้มพยักหน้ารับ
ถ้าเราสองคนมีเวลาว่างยัยคนสวยนี่ก็มักจะลากฉันไปชอปพวกสกินแคร์ เครื่องสำอางในห้างบ่อยๆ ฉันที่ไม่ค่อยแต่งหน้าแต่ต้องทาสกินแคร์ตามที่คุณเพื่อนได้บัญชามา ฉันก็ไม่ขัดหรอก ชอบนะแต่ไปบ่อยก็เปลือง
“กระปุกนี้จะหมดแล้ว ไว้วันหยุดหน้าเราไปห้างกัน” เชอร์ยิ้มหวาน
ฉันหัวเราะแล้วรับคำ
“ได้สิ ขอกันแดดด้วยนะ”
เชอร์รี่ยิ้มหมั่นไส้
“อยู่ก็แต่ร้าน ออกไปไกลก็แค่ร้านพ่อกับแม่ หน้าก็ปิดแมสก์ ยังจะละเลงกันแดดอย่างกับไปทะเล”
“แกสอนฉันเองนี่ว่ากันแดดคือสกินแคร์ที่ดีที่สุดน่ะ” ถือโอกาสย้อนซะเลย
“เออน่า แต่มันก็ได้ผล ดูสิ ผิวแกอย่างกับสาวยี่สิบต้นๆ”
พอลอกมาส์กออกตบเข้าผิวแล้วยัยเชอร์ก้มลงฟัดแก้มฉันเล่นซะงั้น
“แก้มนิ่มจังยัยลูกไก่น้อย ตาคุณหมอนั่นต้องเสียดายแน่ที่ไม่ได้หอมแก”
“แกพูดอะไร~” แค่คิดแก้มฉันก็แดงก่ำ
“เฮอะ พูดถึงไม่ได้เลยนะ ไปๆ นอนพักพรุ่งนี้ไปทำขนมเช้า”
“อือ” ฉันยิ้มรับ แล้วเดินไปปิดไฟห้อง มุดเข้าผ้าห่มกอดคนสวยนอนหลับ
เช้าตื่นมา
ฉันกับเชอร์ตื่นมาทำขนมตั้งแต่เช้า งานของโรงพยาบาลมีช่วงหัวค่ำ
ต้องเอาขนมไปก่อนจะได้จัดวางในงานให้สวยงามทันก่อนแขกจะเข้า
วันนี้ที่ร้านมีเพื่อนจากที่มหาวิทยาลัยที่ทำร้านขนมอยู่ไม่ไกลนักมาช่วยอีกคน ชื่อ ฟ้า ฟ้าน่ารักนะ นิสัยน่ารักมากๆ ตอนเรียนอยู่เราสามคนอยู่หอพักห้องเดียวกันเลยค่อนข้างสนิทกัน วันเกิดปีแรกของฉันที่อยู่ห่างครอบครัวก็มีเพื่อนสองคนนี้แหละที่ถือเค้กมาเซอร์ไพรส์ วันนี้ก็เหมือนกัน พอขอความช่วยเหลือไปฟ้าก็ตกลงมาช่วยทันที แน่นอนว่าฉันมีส่วนแบ่งให้อยู่แล้ว
ไม่เอาเปรียบเพื่อนหรอก อีกเรื่อง เมื่อวันก่อนที่คุณเกรย์มาตกลงเรื่องขนาดกับแบบขนมก็ได้ให้เช็คค่าขนมในงานมาแล้ว
ฉันกะพริบตามองตัวเลขในกระดาษใบนั้นอีกครั้งแล้วถามไป
‘เอ่อ คุณเกรย์คะ ราคามัน..’
‘น้อยไปเหรอครับ’
‘ตรงข้ามเลยค่ะ เค้กสองร้อยชิ้นกับราคาสามแสนบาท มันเกินไปนะคะ’
‘ดวินยืนยันจะให้ราคานี้ครับ’
นั่นแหละ ใครจะไปขัดใจได้ ฉัน เชอร์รี่แล้วก็ฟ้า ตกลงกันว่าจะเปิดบัญชีแยกเอาเงินจำนวนนี้ไว้ด้วยกัน แล้วรับมาสามส่วนของเราเท่าๆ กันแค่จำนวนเงินเรทปกติที่ร้านขนมปกติเขาทำกัน
พอทำขนมเสร็จฉันก็ถูกสองสาวจับไปประทินโฉม เลือกชุด แล้วแต่งหน้าบางๆ ให้ อย่างที่เคยบอกไว้ ยัยเชอร์ยึดแมสก์ของฉันไปแล้ว
“ให้โลกได้เห็นหน้าแกบ้างเถอะกุ๊กไก่” ยัยฟ้ายิ้มขำ
“ก็ได้.. วันนี้ขอบใจแกมากนะฟ้า พวกแกสั่งมื้อเย็นมารอเลยเดี๋ยวฉันกลับมาแล้วจะมาเสริม อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกนะ ฉันไปละ”
ฉันขับรถบรรทุกขนมเต็มโครงหลังที่ต่อเพิ่มกระบะมุ่งสู่โรงแรมที่จัดงาน