chapter 19

1517 คำ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะป้าอิ่ม?” หญิงสาวมีสีหน้าตื่นตระหนกเสียยิ่งกว่าแม่บ้านวัยหกสิบที่กำลังยืนเบิกตาอ้าปากค้าง ทันทีที่มินิคาร์จอดลงสนิทดีในโรงจอดรถ ป้าอิ่มเป็นแม่บ้านคนเก่าแก่ อาศัยอยู่ด้วยกันมานานพอ ๆ กับลุงนิ่ม นายสารถีคนดีของบ้าน            ในเดรสสีดำแขนยาวที่เรียบร้อยแค่ท่อนบนเพราะกระโปรงสั้นเสมอหู! ใครจะไปคิดว่าไม่พบกันแค่ไม่กี่วัน ขณิกาจะเปลี่ยนไปขนาดนี้            “ตกใจสิคะ คุณพายใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้ ป้าคิดว่าคนเข้าบ้านผิด”            “ไม่เห็นจะสั้นเท่าไรนี่คะ” หญิงสาวก้มหน้าลงมองต้นขาขาวๆครั้งหนึ่ง อยากจิกทึ้งหัวตัวเอง กรี๊ดให้ลั่นบ้านเหมือนนางร้ายในละครหลังข่าวด้วยอีกต่างหาก พอพ่อโทรมาบอกให้เธอกลับบ้านเพราะข่าวลือบ้า ๆ เธอจึงโละเสื้อผ้าใหม่ทั้งตู้และถือโอกาสใส่เดรสใหม่มา            “คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายท่านรอคุณพายตั้งแต่เช้าแล้ว ไปพบท่านก่อนดีกว่าค่ะ มีอะไรค่อยๆคุยกันนะคะ” ป้าอิ่มเกรงว่าจะได้มีเรื่องกัน ดึงข้อมือเรียวรีบจับจูงไป บังคับให้อีกคนต้องเร่งฝีเท้าตาม            ห้องรับแขกกว้างขวางโอ่อ่าสมฐานะเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านจัดสรร เจ้าของบ้านทั้งสองคนนั้นนั่งรออยู่อย่างไม่เป็นสุข ถึงลูกสาวจะคอยโทรบอกว่าขับรถถึงไหน เพราะไม่อยากให้เป็นห่วง พ่อแม่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี            กนิษฐาไม่ได้เจอหน้าลูกมาเป็นอาทิตย์ ควรต้องดีใจ เมื่อพบว่าลูกสาวขับรถจากกรุงเทพฯมาถึงโคราชโดยสวัสดิภาพ หล่อนกลับทำหน้าเหวอเหมือนป้าอิ่มเข้าอีกคน            “ทำไมลูก... แต่งตัว...”            “พ่อแม่มีเรื่องอะไรกับพายคะ?” เสียงหวานขัด ร่างบางก้าวไปถึงหน้าโซฟากำมะหยี่ราคาแพง สายตาของทั้งพ่อและแม่จึงพิจารณาแต่หัวจรดเท้า หยุดสายตาลงตรงลิปสติกสีแดงสดรับเครื่องสำอางอ่อนพอดี            “ทำไมแม่โทรไปไม่ค่อยจะรับสายเลยลูก มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? แม่เป็นห่วงเรานะ” คุณผู้หญิงของบ้านเลื่อนมือไปจับกุมมือน้อยตรงหน้าไว้ด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย            “พายทำงาน งานที่บริษัทเยอะมาก ๆ พายคิดถึงแม่อยู่ กำลังจะกลับมาพอดีแหละ”            “กำลังจะกลับ.. บอกพ่อแบบนี้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วได้มั้ง” คุณพ่อทำหน้ายุ่ง เก็บคำถามอื่นไว้ในใจเพราะมีเรื่องสำคัญต้องบอก ก่อนหน้านี้ที่บอกไปรอบหนึ่งผ่านสายแล้วลูกสาวไม่พอใจเป็นอย่างมาก            “อาภพจะมาขอเราวันสองวันนี้แล้วไปเตรียมตัวนะลูก พ่อจะพาไปเลือกชุดสวย ๆ นะ”            ผูกข้อมือกันไปก่อนเขาเป็นพ่อม่ายไม่สะดวกจัดงานใหญ่ นี่คือที่พ่อโทรมาบอกว่าเขาจะแต่งงานเพื่อรับผิดชอบ! ใบหน้าสดสวยฉายแววขุ่นเคืองเต็มที่            “พายไม่แต่งกับอาภพเด็ดขาด” ย้ำชัดหนักแน่น ต่างคนถึงกับนิ่งงัน ขณิกาเป็นลูกสาวที่เรียบร้อยอ่อนหวานเชื่อฟังพ่อแม่มาตลอด อย่าว่าแต่ชุดสั้น ๆ ที่ใส่อยู่กับผมสีน้ำตาลสวยแซมทอง กิริยาดื้อรั้นกับผู้ใหญ่ยังไม่นั่งลงให้เรียบร้อยนั้นเธอไม่เคยทำ            น้ำเสียงของพ่อเริ่มไม่แน่ใจ “อาภพบอกพ่อว่าลูกรักอาภพ... ไม่ใช่หรือลูก?”            “พายรักตัวพายมากกว่า พายรักตัวเอง รักพ่อแม่ เขาทำร้ายความรู้สึกพาย คบอาภพไม่ได้อีกแล้วค่ะ” แววตาคู่สวยประกายมีหยดน้ำใสเอ่อคลอขึ้นบาง ๆ เธอไม่อยากเป็นทาสความรักเหมือนคนโง่อีกต่อไป!            “พ่อจะไปคุยกับไอ้ภพอีกรอบ ลูกควรไปกับพ่อนะ ไม่ใช่หายต๋อมไปแบบนี้”            “แต่เรานัดแขกไปแล้วนะคุณ” คุณผู้หญิงของบ้านคงไม่อยากเสียหน้า แม้บ้านนี้จะไม่มีใครเคยขัดใจลูกสาวเลย ยิ่งพอร่างบางหย่อนก้นนั่งลงข้าง ๆ สอดมือเข้ากอดเอวนุ่มนิ่ม            “นัดก็เลิกนัดได้ค่ะแม่ พายอยากใช้ชีวิตโสดของพาย พายยังสนุกกับงานกับเพื่อนฝูง ข่าวลือเดี๋ยวมันก็เงียบไปเอง เราคนโต ๆ กันแล้วไม่จำเป็นต้องไปสนใจค่ะ นะคะคุณพ่อ คุณแม่ขา...” ปลายเสียงออดอ้อน ยกมือไปจับมือของพ่อเอาไว้ด้วย พอปรีชาขมวดคิ้วนิ่วหน้า เธอก็ส่งสายตาหวานหยดย้อยปานน้ำเชื่อมอย่างที่เคยทำ            “พ่อขา... พายอยากอยู่กับพ่อกับแม่ ไว้ค่อยแต่งตอนอายุสามสิบนะคะพ่อ พายแต่งไปพายมีสามีพายไม่มีเวลาให้พ่อเลยนะ พ่อจะไม่คิดถึงพายเหรอคะ?”            กนิษฐาได้แต่ส่ายหน้าไปมา “นี่ไงล่ะ.. ตามใจกันเข้าไปจนเสียผู้เสียคน”            “เสียคนอะไรกันคะแม่ พายเรียนจบเกียรตินิยมนะ สอบได้ที่หนึ่งตลอดตั้งแเต่เล็ก ๆ ใช่ไหมพ่อ?” เธอหันไปถามพ่อในทางฝั่งซ้าย ด้วยความที่อยู่ตรงกลางแผนการครั้งนี้อย่างไรเสียก็ต้องได้ผล            “คุณภพเขาก็มีใจให้ลูก ทะเลาะกันทำไมไม่ไปคุยกันให้เข้าใจ”            “แม่คะ... ถ้าเขาแคร์พายจริงๆ เขาควรไปหาพายตั้งแต่วันแรกที่หายกลับกรุงเทพฯแล้ว ออฟฟิศพายเขาก็รู้จัก ที่ผ่านมาเขาแค่ให้ความหวังพาย หัวใจของเขาเคยมีพายเหรอ? เขามีแต่เมียเก่ากับลูกสาวของเขานั่นแหละ”            เสียงสั่นเถียงด้วยสีหน้าเจ็บปวดในอ้อมกอดแม่ที่ซุกอยู่ มันให้ความอบอุ่นมั่นใจว่าเธอจะต้องรักตัวเองให้เหมือนที่พ่อแม่เฝ้าฟูมฟักมาด้วยความรัก เธอจะไม่กลับไปรักผู้ชายคนนี้อีกเป็นอันขาด!            “เขายุ่งเพราะลูกสาวเขาหนีไปกับคุณหมอ”            “แปลว่าลูกสาวเขาสำคัญกว่าพาย... ชีวิตคู่มันจะไปรอดไหมคะแม่ แม่อยากเห็นพายเสียใจใช่ไหม? ถ้าแม่โอเค แม่ต้องปลอบพายทุกวันนะ”            ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขณิกาแอบร้องไห้คนเดียวลำพังในห้องจนแม่ต้องเคาะประตูถามด้วยความสนิทสนมกันเหมือนเพื่อนที่คุยได้ทุกเรื่อง แต่กว่าจะได้รู้ความจริงจากปากก็ต้องเข็นกันอยู่นาน กนิษฐาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใจอ่อนจนได้ในคราวนี้            “ไปคุยกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วกัน เราน่ะไปด้วย ปล่อยพ่อกับแม่ไปคุยมันจะได้เรื่องไหมล่ะ”            สีหน้าเศร้าหมองปรากฏรอยยิ้ม ในเสียงอ้อนหวาน “คุณแม่ขา... วันนี้พายอยากพาแม่ไปร้านเสริมสวย ร้านสปา เนี่ยพายทำผมมาใหม่สวยป่ะล่ะ พายจะพาพ่อกับแม่ไปกินของอร่อย ๆ รับรองว่าพ่อไม่เคยกินร้านนี้แน่” ปลายเสียงชายตาไปทางพ่อที่ยืนฉีกยิ้มกว้าง            “ไปสิลูก พ่อไปเปลี่ยนชุดหล่อ ๆ ก่อนนะ”            “ไม่หล่อไม่ให้ออกจากบ้านเลยนะ พายขอโทนเทาดำเข้าเซ็ตพ่อแม่ลูก ทึม ๆ หน่อยวัยรุ่นฮิต เสื้อสกรีนที่พายซื้อให้ตัวนั้นก็สวยนะพ่อ”            เพราะความช่างพูดจาขี้อ้อนไม่เป็นรองใคร ปรีชาและกนิษฐาทั้งรักทั้งหลงลูกสาวคนเดียวจนถึงทุกวันนี้ พอได้กลับมาอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกอีกครั้ง            นายตำรวจหนุ่มใหญ่ตัดสินใจไปเปลี่ยนชุดทำงานเป็นชุดที่ลูกสาวบอก ส่วนคนแม่นั้นใส่เดรสสีขาวอยู่จึงไม่ได้ลุกไปไหน            กนิษฐาลูบศีรษะน้อยเบาๆ มีเรื่องอยากรู้อยู่เรื่องหนึ่ง พอใบหน้าสวยเงยขึ้นมองตามหล่อนก็รีบถาม            “พาย... อย่าหาว่าแม่ละลาบละล้วงเรื่องงานของลูกเลยนะ แม่ได้ยินจากพ่อว่าไอ้เมธพนธ์มันไปหาลูกที่ทำงาน”            “แม่อย่าเรียกคุณเมฆแบบนั้น เขาไม่ได้ทำอะไรผิด พวกที่ก่อเรื่องไปของานเขาทำดันทำเขาเสีย เขาเป็นแค่นักธุรกิจค่ะ ปากคนแถวนี้ก็ช่างพูดกันไป”            สีหน้าของแม่ค่อนข้างแปลกใจ หล่อนรู้สึกเหมือนว่าลูกสาวโดนล้างสมองมา ยังติดใจอยู่ตรงคำว่าธุรกิจ “ไหนไปรู้เรื่องอะไรมาเล่าให้แม่ฟังสิ แม่ไม่รู้นี่ เขาทำอะไร?”            “พายว่าแล้ว... บิสสิเนสวู้แมนอย่างคุณกนิษฐาต้องสนใจแน่ๆ” พอลูกยักคิ้วหลิ่วตาให้แม่ที่สนใจอยู่ทั้งฟาร์มของพิภพและหนุ่มคนล่าสุด กนิษฐาไม่ได้ฉุกใจอะไรกับข่าวลืออีก แต่ไหนแต่ไรมาลูกสาวพูดอะไรหล่อนเป็นตามน้ำไปหมด ถึงจะเป็นฝ่ายปรามเสียมากกว่าตามใจเหมือนสามี            ลูกสาวของเธอนั้นเป็นเด็กดีไม่เคยโกหกพ่อแม่สักครั้ง ยังมีเหตุผลในทางที่ถูกที่ควร            “ตกลงว่าเขาทำธุรกิจอะไร? บอกแม่มาเร็ว” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม