ในร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นลอฟท์บ้านสวนดูหรูหราไฮโซเปิดทำการเหมือนทุกวัน ร่างบางหมุนกายเดินไปหาพนักงานสามคนฝ่ายตัดต่อโฆษณา และตากล้องกำลังยืนปรึกษากันหน้าตาเคร่งเครียดหน้าประตูกระจกบานใหญ่ก่อนเดินวกกลับไปบอก
“แสงดีมากเลยค่ะ วิวสวยมาก เดี๋ยวฉันขออนุญาตเก็บรายละเอียดสถานที่ ข้อมูลขององุ่นในไร่ คุณเมฆอยากจะให้ออกมาแบบไหน ส่งให้ทางไลน์นะคะ”
“ครับ ส่งมาที่ผม... ไม่ต้องผ่านเลขาฯ ผมจะดูเอง” เขาพูดพลันโบกมือเรียกลูกน้องในครัวให้นำของว่างมาเสริ์ฟ รับรองพนักงานจากบริษัทโฆษณาเป็นอย่างดี รวมไปถึงอาหารเที่ยงวันนี้
ในทีแรกขณิกาก็พยายามจะปฏิเสธเขาด้วยความที่เธอจะพาพนักงานไปเลี้ยงต่างหาก แต่ก็ค่อนข้างเป็นการเสียมารยาท เมื่อเจ้าของฟาร์มองุ่นดึงความสนิทสนมในวันวานกลับมาด้วยการเรียกเธอว่าน้องพาย!
“น้องพาย... ผมอยากให้ใส่ตรงนี้เข้าไปด้วยนะ วิธีการทำไวน์โฮมเมดแบบคร่าว ๆ ไม่ต้องถึงกับละเอียด ผมอยากให้คนเห็นเสน่ห์ของมัน...”
“ค่ะ...”
หญิงสาวพยักหน้า มือจดขยุกขยิกลงแท็บเล็ตแทบทุกคำพยางค์ของเขาอย่างแน่ใจว่าไม่ได้หลงลืมอะไร บางครั้งยังเผลอมองตามริมฝีปากหนาหยักได้รูปอมแดงชมพูขยับเกือบเป็นสีเดียวกับคำว่า ‘องุ่น’
“องุ่น... กลิ่นหอม ๆ เวลาที่คุณดมไวน์แล้วค่อยจิบ... อื้ม... ชิมดูดีไหม? ไวน์ที่ฟาร์มผมรับประกันว่าอร่อย ไม่เมาถ้าไม่ดื่มเยอะนะครับ”
“ค่ะ... ฉันต้องเก็บข้อมูลเยอะเลย ไม่เจนจัดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปรกติไม่ได้แตะเลยจริง ๆ”
“ยิ่งต้องลองทานดู...” พูดจบ ร่างสูงในเชิ้ตสีดำอย่างเคยหมุนตัวเดินไปกวักมือเรียกเด็กหนุ่มให้เปิดตู้แช่ไวน์ประจำของเจ้าของ ที่แบ่งส่วนไว้เพื่อไม่ให้สับสนในระบบการใช้จ่ายในส่วนของฟาร์ม และในส่วนของเงินส่วนตัว
“ไวน์แดงที่หมักมาไม่นานจะเป็นสีแดงสด แต่ถ้านานจะเริ่มออกแดงเข้มอมน้ำตาล ตัวนี้เป็นแบบเบา ๆ เหมาะสำหรับสุภาพสตรี”
แก้วสองใบได้รับการเทอย่างมืออาชีพจากคนชวน มือดึงเก้าอี้ทรงสูงหน้าบาร์เครื่องดื่มให้เธอนั่งยังยื่นแขนคอยให้ความช่วยเหลือ
มันทำให้รู้สึกประทับใจเล็ก ๆ โดยอีกฝ่ายไม่เคยรู้ ทุกอิริยาบถของเขาดูเล่ห์ร้าย เต็มไปด้วยเสน่ห์แพรวพราว เป็นสุภาพบุรุษแต่เขาก็ชอบหยอกแกล้งเธออยู่บ่อย ๆ
ดวงตาคู่สว่างใสเผยรอยยิ้ม แม้กระทั่งว่าละสายตาวงหน้าหล่อเหลาไปที่แก้วซึ่งมือหนาจรดปลายนิ้วไว้ที่ก้านของมัน ยกขึ้นหาแสงที่สาดทอมาจากภายนอกในช่วงบ่ายคล้อย เขาสะบัดข้อมือครั้งหนึ่งให้น้ำภายในแก้วหมุนวนไปตามทิศทาง
“ดูขาไวน์[1]นะครับ... น้องพาย มีนิดเดียวเอง แก้วนี้เบา ๆ อย่างเด็กอนุบาลหัดกินเหล้าเลย”
“ฉันไม่เด็กแล้วนะคะ คุณเมฆ” เธอเถียงอย่างขุ่นเคืองใจ มองตามมือหนาที่ยกก้านแก้วทรงสวยขึ้นสูง
เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการพิจารณาดูการระเหยของไวน์ เขาคิดว่าไฮโซอย่างขณิกาน่าจะรู้พื้นฐานการทานไวน์จากแม่เธอมาบ้าง
“พี่ก็ไม่ได้ว่าน้องเด็กนะครับ ไม่ได้พูดสักคำ... เอ้า... ค่อย ๆ จิบนะคนสวย” ตอบอย่างชอบพอกับท่าทีเง้างอนเมื่อครู่ ยื่นแก้วให้ด้วยความที่เขาอยากนำเสนอสินค้าเต็มที่
หญิงสาวรับจากก้านแก้วที่เขาส่งให้อย่างเชื้อเชิญ เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำในแก้วก็ยังใช้ความระมัดระวังในการจับ จากนั้นก็แตะริมฝีปากเบา ๆ กลืนน้ำสีแดงหอม อมไว้ที่ปลายลิ้นค่อยกลืนมันช้า ๆ
“อืม... อร่อยดีนะ หอมจัง” วูบหนึ่งในคำชม เธอหลุบตามองน้ำสีแดงในแก้วทรงสวย อดที่จะนึกถึงความพิถีพิถันของเจ้าของฟาร์มองุ่นไม่ลง
“คุณเมฆเอาใจใส่ทุกรายละเอียดดีนะคะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะปลูกองุ่นเอง ทำองุ่น ทำสวนเองด้วย”
“แน่นอนครับ ผมเป็นคนละเอียดมาตั้งนานแล้วนะ” เขาตอบรับคำชม เท้าแขนวางบนโต๊ะสูง มองเธออย่างนึกขันในใจค่อยพูดต่อ
“ไวน์เด่นของฟาร์มผมเน้นระดับแอลกอฮอล์มากกว่าเน้นน้ำตาล เพราะว่าผมรักษาสุขภาพ แต่แบบเบา ๆ ก็มี นาน ๆ จะมีคนมาจิบชิมกับผมสักครั้ง ถ้าจะมีก็สาว ๆ ไม่มีเด็กอนุบาล...” แล้วเขาก็ย้ำอีกครั้งให้เธอมีสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันขอที่แรง ๆ กว่านี้ได้ไหม? ไม่อยากเป็นเด็กอนุบาล...”
“ได้... แต่ว่าต้องหมดแก้วนี้ก่อนนะครับน้องพาย พี่ยักษ์ไม่อยากให้น้องเมา”
“เดี๋ยวเหอะ...” เสียงเข่นเขี้ยวขู่คำพูดไม่น่าฟังของเขา แน่ว่าเธอยังเหม็นขี้หน้าไอ้พี่ยักษ์! สีหน้าชื่นบานจึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ทำไมครับ? ไวน์อร่อย คนทานไวน์ก็สวย ควรจะยิ้มไม่ใช่แยกเขี้ยวทำตาเขียวเป็นเมียยักษ์...”
ชายหนุ่มซ่อนความร้ายกาจไว้ใต้รอยแย้มยิ้ม ไม่เป็นที่พอใจของอีกคนเสียเลย ยิ่งได้ยินเขาย้ำชัดทีละคำ “หรือว่าอยากเป็น...?”
“ไม่อยากเป็น เพราะฉันอยากเป็นเมียแจ๊ค... ผู้ฆ่ายักษ์”
คราวนี้เสียงหัวเราะของชายหนุ่มดัง ด้วยความหัวไวของคนที่บอกว่าจะฆ่าเขาแต่ตัวกะเปี๊ยกหนึ่ง! ใบหน้าชื่นบานเปลี่ยนเป็นนิ่งขึ้ง เลื่อนมือขึ้นลากผ่านแผ่นหลังเย็นวาบ หยุดจับปกคอเสื้อด้านหลังไว้พร้อมกับเส้นผม
“ขอระลึกความหลังสมัยอยู่โรงโขนหน่อยได้ไหม? ผมล่ะอยากจับเจ้าเด็กแสบนั่นห้อยไว้กับเสื้อให้ขาลอยเต่ออีกจริง ๆ”
คิ้วเข้มหนาโก่งเข้าหาดวงตาเหมือนว่าเขากำลังจะเล่นอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างปากพูด พอเห็นว่าหญิงสาววางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะด้วยท่าทีเอาเรื่อง
“ลองดูสิ...”
ชายหนุ่มหัวเราะ สะบัดหน้าไปมาแรง ๆ ด้วยแววตาเป็นประกายท้าทาย “โตแล้ว... คงทำไม่ได้ สวยขนาดนี้ใครจะไปทำลง ใช่ไหมครับ?”
แต่ถ้าทำอย่างอื่นล่ะก็... ไม่แน่
ความคิดของเขาหยุดลงที่ปลายนิ้ว ลูบไล้ไปตามเส้นผมนุ่มสลวยสีน้ำตาลเข้มแซมสีทองประกาย จรดแววตาหลงใหลไว้บนความลื่นไหล กำเส้นผมไว้ในอุ้งมือลูบผ่านมาจนถึงปลายซึ่งหญิงสาวดูแลมันเป็นอย่างดีจนยาวได้ถึงเหนือสะโพกกลมกลึง
ตึกตัก... เป็นอีกครั้งที่เธอได้ยินเสียงจากอกของตัวเอง มันดัง... ดังขึ้นเรื่อย ๆ
ราวต้องมนต์ให้จับตามองทุกการกระทำของเขา ที่ยกเส้นผมของเธอขึ้นแตะปลายจมูก พริ้มตาปิดลงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“หอม... กว่าองุ่นที่ฟาร์มคงเป็นน้องพาย เอ... ใช้ยาสระผมยี่ห้ออะไรกัน?” ถามพลันลืมตาพรึบมองวงหน้าหวานงาม เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย สำหรับเธอแล้วมันเป็นการกลบเกลื่อน!
“ยาสระผมเซเว่น... เยอะแยะไป” ตอบอึกอัก ก่อนจะเลื่อนสายตาไปอีกทาง แต่เขาก็ยังไม่หยุดคุกคามเธอที่ไม่ได้ว่าอะไร ในเมื่อสัมผัสอย่างสุภาพชนนั้นหยุดอยู่แค่เส้นผม
“อืม... ยาสระผมเซเว่น แล้วครีมอาบน้ำล่ะ ผมขอดมได้หรือเปล่า?”
เสียงทุ้มเย้ายวนอย่างรื่นหูพาให้ต้องกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่เธอจะยกแก้วกระดกพรวด! ยกปลายนิ้วขึ้นปาดรอบขอบปากลวก ๆ พอสบเข้ากับตาคมก็รีบบอก
“เอ้อ! ฉัน... ไปก่อนนะคะ ฉันมีงานต่อ”
“เชิญครับ” เขาตอบด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ขณะหญิงสาวลุกหนีจากเก้าอี้อย่างตกใจจนเกือบล้มหน้าคะมำ เพราะสะดุดกับที่เหยียบของเก้าอี้ทรงสูงหน้าบาร์ เป็นโชคดีที่มือของเขาคว้าไว้ในทันแต่เป็นปกเสื้อด้านหลัง
“ระวังหน่อยครับ... น้องพาย”
ใบหน้าสวยแดงก่ำพลันปะทะเข้ากับรอยแย้มยิ้ม เสื้อของเธอลอยขึ้นจนเห็นหน้าท้องแบนราบ ริมฝีปากงามเม้มเข้าหากันจนเหยียดตรงเพราะเขาทำเหมือนเมื่อเธอเป็นเด็กน้อย และก็พยายามจะแก้ตัว
“ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจับแบบนี้เลยจริง ๆ คราวหน้าจะอุ้มแบบเจ้าหญิงนะครับ”
“คุณเมฆ... คุณนี่มัน...!” แล้วเธอก็ทนไม่ไหวต้องด่าลูกค้าจนได้ พอได้รับอิสรภาพก็ยกมือขึ้นจับชายเสื้อตัวเองให้เรียบร้อย กระแทกเท้าปึงปังหนีไปดื้อ ๆ
เมธพนธ์มองตามคนที่คงจะงอนเขาแล้วหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
[1] คราบไวน์ติดอยู่เป็นน้ำตาเยิ้มลงมาบนผิวแก้ว , หยดน้ำของไวน์ที่อยู่บริเวณรอบแก้วไวน์ด้านใน เกิดจากการระเหยแอลกอฮอล์บนพื้นผิวแก้วไวน์