“รับทราบค่ะ หนูจะไม่ทำให้คุณคีตะผิดหวังแน่นอน”
“ไปข้างบน ไปดูห้องฉัน เธอจะได้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง”
ชายหนุ่มเดินนำหญิงสาวขึ้นมายังห้องของตนเองที่มีขนาดใหญ่มากเพราะทั้งชั้นเป็นของเขาคนเดียว
สร้อยทองมองรอบๆ ตัวด้วยอาการตื่นตะลึง ห้องที่เขาให้เธอเข้าไปอยู่ก็ว่าใหญ่แล้วพอมาเจอห้องนี้ถึงกับต้องอุทาน Omg กันเลยทีเดียว
คุณพระคุณเจ้าทำไมมันถึงกว้างขวางขนาดนี้ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูมีรสนิยมและราคาคงแพงหูฉี่ ถ้าเธอทำพังสักชิ้นมีหวังคงต้องหาเงินชดใช้ทั้งชีวิตแน่
“วิวโคตรสวยเลย สวยมาก”
สร้อยทองเอ่ยราวกับคนละเมอเมื่อหันไปเห็นบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองหลวง แสงไฟของแต่ละตึกให้ความรู้สึกน่าค้นหาจนเธอละสายตาไปไม่ได้
ไม่ต่างจากคีย์ตะวันที่ซื้อห้องนี้ก็เพราะชอบมองวิวยามค่ำคืน คนทั้งสองต่างตกอยู่ในโลกของตัวเองก่อนจะสะดุ้งตกใจกับเสียงเครื่องดูดฝุ่นที่เอ่ยทักทายเจ้านายราวกับเป็นหุ่นยนต์
เออก็ใช่น่ะสิมันคือหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ล่าสุดที่บริษัท SC ผลิตและวางจำหน่ายไปทั่วโลก ราคาต่อเครื่องแพงกว่า iPhone Pro Max ความจุ 1TB หลายเท่าจึงมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่ซื้อ
“เธอไปพักเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาเริ่มงานตอนเช้า เดี๋ยวฉันจะให้แดนทำเรื่องสแกนหน้า เข้าออกลิฟต์ที่นี่ต้องสแกนหน้าเท่านั้น”
นอกจากวิวสวยแล้วระบบความปลอดภัยยังดีเยี่ยมทำให้เขายอมควักเงินซื้อห้องนี้
“รับทราบค่ะ”
สร้อยทองพยักหน้ารับทว่ายังมองภาพแสงไฟตรงหน้าไม่วางตา น่าแปลกไหมที่เธอชอบมองแสงไฟตอนกลางคืน
ใจดวงน้อยเจ็บแปลบยามคิดถึงครอบครัว มีแต่ก็เหมือนไม่มี ก่อนจะขอกลับห้องของตัวเอง
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”
“อืม พรุ่งนี้ห้ามสายล่ะ”
“ไม่สายแน่นอน”
ใช่จะมีแค่เธอเพียงคนเดียวที่คิดถึงครอบครัวแล้วรู้สึกเจ็บปวด เขาเองก็ไม่ต่างกัน
คีย์ตะวันยืนมองความมืดของท้องฟ้า พลางหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต จวบจนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่แดนดินก็เข้ามารายงานเรื่องที่เจ้านายให้ไปจัดการ
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับบอส”
“พรุ่งนี้กูไม่ไปทำงาน มึงเข้าไปจัดการทุกอย่างแทนกูด้วย”
“บอสจะไปไหนครับ”
“กูจะอยู่แกล้งยัยอ้วน ดูสิจะทำตามที่กูสั่งได้ไหม”
“ดูบอสจะชอบสร้อยทองไม่น้อยนะครับ”
“ไม่ได้ชอบโว้ย แค่ถูกชะตา เด็กนี่ดูซื่อบื้อดี อีกอย่างกูอยากรู้ว่าเป็นคนดีจริงหรือมีจุดประสงค์อย่างอื่นแอบแฝง”
“แล้วคืนนี้บอสจะให้ผมนัดใครไหมครับ”
“ไม่ต้อง กูเบื่อ มึงกลับไปนอนเถอะ”
“ครับบอส” ลูกน้องค้อมตัวลงเล็กน้อยก่อนจะหายออกไปจากห้องสุดหรูของเจ้านาย
คีย์ตะวันยิ้มมุมปากยามที่คิดถึงประโยคคำพูดของสร้อยทอง
หนูทำเป็นทุกอย่างค่ะ
มันคือประโยคเอาตัวรอดหรือเรื่องจริงพรุ่งนี้คงได้รู้กัน
เช้าวันใหม่สร้อยทองตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใสหลังจากได้นอนเต็มอิ่มบนเตียงหนานุ่ม แถมห้องนอนยังเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ
เธอเคยคิดว่า ถ้าได้นอนห้องแบบนี้จะนอนไม่ยอมตื่น แต่ไม่ตื่นก็ไม่ได้เพราะเจ้านายปากร้ายกำลังรออยู่ข้างบน ถ้าไปสายคงโดนด่าอีก วันนี้เธอไม่อยากโดนด่าตั้งแต่เริ่มงานวันแรก
“คุณแดนสวัสดีค่ะ ตื่นเช้าจัง”
คนอายุน้อยกว่าออกมาจากห้องไม่กี่ก้าว กำลังจะกดลิฟต์ขึ้นไปบนห้องเจ้านาย แต่เจอแดนดินเสียก่อนจึงทักทายอย่างผูกมิตร
“วันหลังไม่ต้องไหว้หรอก เรียกพี่แดนก็ได้” ลูกน้องหน้าหล่อตอบกลับอย่างมีไมตรี เขาไม่ใช่พวกเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกคุณโดยเฉพาะคนใกล้ตัว
“โอเคค่ะ พี่แดนตื่นเช้ามากนี่เพิ่งจะหกโมงเอง” เธอถามต่อหลังจากก้มมองนาฬิกาข้อมือ
“พี่ชอบตื่นมาออกกำลังกาย แล้วเราจะไปไหน ขึ้นไปหาบอสเหรอ”
“ค่ะ หนูขึ้นไปหาคุณคีตะได้เลยใช่ไหม”
“ได้สิ เมื่อวานบอสให้พี่สแกนหน้าสร้อยเพื่อใช้เข้าออกห้องเรียบร้อยแล้ว แต่ระวังหน่อยนะเช้าๆ แบบนี้บอสน่าจะยังไม่ตื่น อย่าทำเสียงดัง”
“ขอบคุณที่เตือน หนูจะจำเอาไว้”
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะหายเข้าไปในลิฟต์ ไม่นานก็เข้ามาอยู่ในห้องของคีย์ตะวัน แต่เธอไม่รู้จะทำอะไรดีจึงยืนเก้ๆ กังๆ อยู่กลางห้อง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงแหบห้าวดังมาจากด้านหลัง
“จะยืนงงอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมยัยอ้วน”
“โอ๊ยแม่ร่วง ตกใจหมดเลย”
“ทำเป็นขวัญอ่อนไปได้ เป็นฉันมากกว่าไหมที่ต้องตกใจ ดูสภาพเธอสิเหมือนกับศพเดินได้ไม่มีผิด”
วันนี้เจ้านายหนุ่มตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะมีเรื่องสนุกให้ทำ เขามองเธอตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยสายตาดูแคลน
ยัยลูกหนี้ตัวกลมไม่คิดจะทาหน้าประแป้ง หรือเติมลิปสติกสักนิดเลยเหรอ ดูผ่านๆ นึกว่าศพซีดไปทั้งตัวอืดอีกต่างหาก
“บอสตื่นแล้วเหรอคะ เห็นพี่แดนบอกว่าบอสน่าจะยังไม่ตื่น”
“ถ้าไม่ตื่นเธอจะเห็นฉันไหมล่ะ”
“...” คำตอบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยิ้มแห้งแต่ในใจกำลังด่าเจ้านายสารพัด ปากแบบนี้ไม่รู้เขารอดมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง ปากร้ายได้โล่ไม่สมกับหน้าตาเลย
“ฉันหิว ทำอะไรให้กินหน่อยสิ”
“แล้วบอสอยากกินอะไรคะ หนูจะได้ทำให้ถูก”
“อะไรก็ได้ ฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อืม เอากาแฟดำใส่น้ำตาลสองก้อน ไข่ดาวหนึ่งฟอง เอาแบบไข่แดงไม่สุกแต่กรอบนอก ไม่อมน้ำมัน ไส้กรอกอบในหม้อทอดเอาพองๆ แค่นี้แหละ ฉันอาบน้ำเสร็จ อาหารต้องเรียบร้อย”
“รับทราบค่ะ”
สร้อยทองตอบรับพลางบ่นในใจ คนบ้าอะไรบอกไม่เรื่องมาก แต่สั่งมาเป็นชุดจะเอาแบบนั้นจะเอาแบบนี้
โชคดีนะที่เธอเป็นคนมีความอดทนสูงและเจอคนประเภทนี้มาไม่น้อยจึงไม่ซีเรียส ในเมื่อคุณบอสอยากได้เดี๋ยวคุณทาสจัดให้ค่ะ รับรองประทับใจแน่นอน
สร้อยทองเดินไปเปิดตู้เย็นเห็นอาหารสดถูกแช่เอาไว้แต่ไม่มาก จากนั้นก็สำรวจอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนจะทำการใช้งาน
เธอถอนหายใจเล็กน้อยหลังจากยืนมองเตาไฟฟ้ามาได้สักพัก ปกติใช้ถังแก๊สจึงไม่รู้วิธีใช้งาน
“ไหนล่ะ อาหารเช้าของฉัน”
เสียงของคีย์ตะวันทำให้ลูกหนี้หันมองคอแทบเคล็ด ไหนเขาว่าจะไปอาบน้ำไง ยังไม่ถึงสิบนาทีเลยนะอาบเสร็จแล้ว?
“เอ่อ บอสอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ เร็วจัง” ใจจริงเธออยากถามว่า เขาอาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำกันแน่ ทำไมไวยิ่งกว่าตอนเธอนั่งเบ่งขี้อีกแต่ยั้งปากเอาไว้ได้ทัน
“ถามโง่ๆ อีกแล้ว ไม่เสร็จจะมาอยู่ตรงนี้ไหม” ตอบหน้าตายแต่คำพูดคมกริบยิ่งกว่ามีด ดีนะคนฟังคือสร้อยทองผู้มองโลกในแง่บวกเสมอ
“หนูใช้ครัวแบบนี้ไม่เป็น ปกติใช้แต่เตาแก๊สปิกนิก”
“พูดจริง? บ้านนอกมาก”
โดนด่าไปหนึ่งกรุบทำให้สร้อยทองหน้าชาไม่น้อย เออก็จริงของคีย์ตะวัน อุปกรณ์ทันสมัยแต่เธอกลับใช้ไม่เป็นก็สมควรแก่การต่อว่า
ชายหนุ่มจัดการสอนวิธีการใช้งานเสร็จก็เดินไปนั่งรอบนโซฟา เวลาผ่านไปครู่ใหญ่อาหารตามที่เขาต้องการก็ยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ หน้าตาน่ากินใช้ได้แต่รสชาติเป็นยังไงต้องว่ากันอีกที
หลังจากอาหารเข้าปากเขาก็แสดงสีหน้าพึงพอใจ
“เก่งนี่ ทำตามที่ฉันสั่งได้ รสชาติดีไม่น้อย”
“ขอบคุณที่ชมค่ะ นึกว่าจะปากร้ายอย่างเดียว” ประโยคหลังเธอพูดเบาทำให้เขาได้ยินไม่ถนัดจึงเอียงคอถาม
“เธอว่าไงนะ เมื่อกี้ฉันไม่ค่อยได้ยิน”
“อ้อ เอ่อคือหลังจากข้าวเช้าเสร็จ หนูต้องไปทำอะไรต่อคะ”
“ทำทุกอย่างตามที่ฉันสั่ง”
เขายิ้มร้ายหลังจากให้คำตอบ แล้วเธอก็ต้องทำทุกอย่างจริงๆ รวมถึงพับกางเกงในให้เป็นระเบียบ
สร้อยทองมีเหรอจะทำไม่ได้ สั่งมาเถอะเธอทำได้ทุกอย่าง แต่นั่งพับเพียบได้ไม่ถึงห้านาที โทรศัพท์ก็มีสายเข้าเป็นเบอร์ของแม่เลี้ยง เธอจึงกดรับแล้วเปิดลำโพงคุยเพราะมือไม่ว่าง
“แม่แววโทร.หาหนูมีอะไร”
“มึงได้นอนกับคุณคีตะหรือยัง”
“เรื่องของหนู แค่นี้นะ”
คีย์ตะวันเดินเข้ามาในห้องจึงได้ยินบทสนทนาพอดี
อะไรนะยัยแม่เลี้ยงถามว่า สร้อยทองได้ขึ้นเตียงกับเขาหรือยัง ถามจริงเอาสมองตรงไหนคิด รูปร่างหน้าตาอย่างสร้อยทองให้ฟรีเขาก็ไม่คิดจะเอาเด็ดขาด
เจ้าหนี้สุดหล่อยืนมองลูกหนี้ขี้เหร่อยู่ตรงประตูห้องก่อนจะส่ายหน้าทำเหมือนเธอคือตัวเชื้อโรคน่ารังเกียจ หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่วันต่อจากนี้เขาจะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง