บทที่ 2 รูปร่างหน้าตาอย่างเธอ ให้ฟรีก็ไม่เอา (1)

1522 คำ
ในเมื่อตัดสินใจแล้วเธอก็ต้องทำตามที่พูด สร้อยทองบอกตัวเองหลังจากตกลงกับเจ้านายคนใหม่เรียบร้อย ปัจจุบันเธอย้ายออกมาอยู่หอพักเพียงลำพัง เป็นหอพักราคาถูกซึ่งอยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยเพื่อสะดวกในการไปเรียนและทำงานเสริม ถึงแม้จะเป็นนักเรียนทุนได้เรียนฟรีทุกอย่างแต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เธอก็ต้องหามาเองเนื่องจากบิดาไม่ได้ส่งเสีย เพราะท่านไม่สนับสนุนให้ลูกสาวเรียนหนังสือ “ถึงแล้วค่ะ คุณคีตะนั่งรอแป๊บนึงหนูเก็บของไม่นาน” ทำไมเธอต้องพูดแบบนี้ ก็เพราะเจ้าหนี้หนุ่มเกิดเปลี่ยนใจ ออกคำสั่งให้ลูกหนี้ย้ายไปคืนนี้เลย โดยให้เหตุผลว่ากลัวเธอหนี สร้อยทองเป็นพวกไม่อยากมีปัญหาจึงตอบตกลง ไม่ว่าจะย้ายวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็มีค่าเท่ากัน คีย์ตะวันเดินเข้ามาในห้องอันแสนคับแคบของสร้อยทอง ก่อนจะหันมองรอบตัวด้วยความรู้สึกประหลาดใจ นี่ห้องคนอยู่จริงดิ? “เธอแน่ใจเหรอว่านี่คือห้องนอน ทำไมมันเล็กกว่าห้องน้ำของฉันอีก” ถามไม่ใช่เพราะอยากดูถูกแต่เขาสงสัยจริงๆ ห้องของเธอเล็กมาก ถ้าเป็นเขาคงอยู่ไม่ได้หรอกอึดอัดตายเลย แคบไม่พอร้อนอีกต่างหาก เข้ามาไม่นานเหงื่อก็เริ่มออกเจ้าของห้องจึงเดินไปเปิดพัดลมให้ชายหนุ่ม “ก็หนูไม่ได้รวยเหมือนคุณคีตะ หาเงินมาเช่าห้องแบบนี้ได้ก็หรูแล้วค่ะ” มันคือเรื่องจริงเธอเป็นนักศึกษาทุนต้องหาเงินใช้จ่ายเอง การจะให้ไปเช่าห้องราคาหลายพันต่อเดือนมันแพงเกินไป ได้ห้องแค่นี้ซุกหัวนอนก็ถือว่าเป็นบุญของชีวิตแล้ว “เธออยู่คนเดียวเหรอ ครอบครัวไปไหนหมด” เขานั่งบนเตียงตรงหน้าพัดลมก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย ดูจากสภาพห้องแล้วไม่น่าจะมีคนอื่นอาศัยอยู่ด้วย คำถามของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนตอบตามจริง “พวกเขาก็อยู่ด้วยกัน ส่วนหนูก็อยู่ที่นี่” ครอบครัวเหรอ มีที่ไหนกัน หลังจากพ่อแต่งงานใหม่ลูกจากภรรยาเก่าก็กลายเป็นคนอื่น มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะตัวเองใฝ่ดีและมองโลกในแง่ดี เธอพยายามขวนขวายเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น “...” คีย์ตะวันขมวดคิ้วไม่เข้าใจ สร้อยทองจึงอธิบายเพิ่มเติม “พ่อ แม่แวว สเตฟาน อยู่ด้วยกันที่บ้านของปู่ค่ะ แต่หนูแยกออกมาอยู่คนเดียว หนูจะได้ไม่เป็นส่วนเกินของพวกเขา” ถึงจะพูดเหมือนไม่ใส่ใจ แต่น้ำเสียงของสร้อยทองดูเศร้าไม่น้อยทำให้คีย์ตะวันรู้สึกสงสารจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วแฟนล่ะมีไหม ถ้าให้เดาคงไม่มีหรอก รูปร่างหน้าตาแบบนี้ใครเขาจะเอา” มุมปากกระตุกขึ้นมาด้วยความชอบใจเมื่อเห็นเธอหันมามองตาขวาง เกิดเป็นคนมันต้องแบบนี้สิ ไม่ใช่ใครว่าอะไรก็ยอมหมด ใครฟาดเรามา เราก็ฟาดมันกลับ เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย “ดูถูกกันเกินไปแล้ว เห็นหนูอ้วนๆ แบบนี้ก็มีคนมาจีบเหมือนกันนะคะ แต่หนูไม่เอาเองแหละเพราะหนูเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนหนังสือ” เธอเชิดหน้าทำคอตั้งบอกเขาด้วยรอยยิ้มมั่นใจ ก่อนจะปัดผมออกจากไหล่ประหนึ่งคนสวยที่มีผู้ชายรุมจีบจนหัวกระไดไม่แห้ง สร้อยทองไม่ได้โกหกมันคือเรื่องจริง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเธอเรียนชั้นประถมสมัยที่นมยังไม่ตั้งเต้า ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแต่เธอก็ยังจำได้ดี “อมพระ อมโบสถ์ อมวัดมาพูดฉันก็ไม่เชื่อเธอหรอก หน้าเหมือนซาลาเปาอย่างเธอน่ะเหรอจะมีคนมาจีบ” ชายหนุ่มส่ายหน้าพรืดไม่เชื่อเด็ดขาด ยัยอ้วนตรงหน้าของเขาเนี่ยนะมีคนมาจีบ ถ้าเป็นจริงผู้ชายคนนั้นคงไม่มีทางเลือกหรือไม่ก็ตาบอด “ไม่เชื่อก็ตามใจ” หญิงสาวไม่อยากต่อล้อต่อเถียงจึงตั้งหน้าตั้งตาเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าเดินทาง ส่วนคีย์ตะวันก็เดินไปสำรวจตรงระเบียงหลังห้อง ก่อนจะทำหน้าเบ้ด้วยความไม่ชอบใจ สร้อยทองอยู่ห้องนี้เข้าไปได้ยังไง แออัดฉิบหาย ดูตึกสิอยู่ชิดติดกันไปหมด หายใจแทบไม่ออก เขาคิดในใจพลางส่ายหัวขณะกวาดสายตามองตรงนั้นตรงนี้ “หนูเก็บของเสร็จแล้วค่ะ คุณคีตะเป็นอะไรไหมคะทำไมทำหน้าแบบนั้น” เธอเห็นเขาทำหน้าประหลาดๆ จึงเอ่ยถาม ด้วยความที่เป็นคนประหยัดและมีรูปร่างเจ้าเนื้อ เงินจึงหมดไปกับค่ากินมากกว่าเสื้อผ้าข้าวของทำให้เธอไม่ค่อยมีสมบัติ ใช้เวลาเก็บของไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย “เธอไม่มีปัญญาหาหอที่มันดีกว่านี้อยู่เหรอ” ผู้ชายปากร้ายมองซ้ายมองขวาก่อนจะถอนหายใจแล้วถามด้วยน้ำเสียงใคร่รู้ คำถามของคีย์ตะวันไม่ได้สร้างความขุ่นเคืองใจให้สร้อยทองแม้แต่น้อย เธอเข้าใจเขาจึงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยความสัตย์จริง “ตอบตามตรง ไม่มีค่ะ ที่นี่ค่าเช่าถูก อึดอัดนิดหน่อยแต่หนูอยู่ได้ คุณคีตะคิดดูสิคะ หนูตัวคนเดียวจะเอาอะไรมาก แค่มีที่ซุกหัวนอนแบบปลอดภัยก็บุญแล้วไม่ใช่เหรอ” เพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดี สร้อยทองจึงไม่เคยโทษโชคชะตา เวลาเหนื่อยหรือท้อก็จะเลือกมองคนที่แย่กว่าทำให้เธอมีแรงฮึดสู้ คีย์ตะวันไม่เคยเจอคนแบบนี้ถึงกับไปต่อไม่ถูก ถึงเขาจะปากร้ายแต่เนื้อแท้เป็นคนจิตใจดี เขาทนเห็นสร้อยทองอยู่หอแบบนี้ต่อไปไม่ไหวจริงๆ เมื่อสมองคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงพูดว่า “ช่างมันเถอะ ถ้าเธอทำงานดีหลังจากใช้หนี้หมด ฉันจะหาห้องพักดีๆ ให้ตอบแทนแล้วกัน แบบไม่เอาคืน ให้แล้วให้เลย” ไม่ได้บอกส่งๆ เพื่อเอาหน้าแต่เขาจะทำจริงๆ หลังจากงานใช้หนี้จบลง “ยินดีรับค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ” สร้อยทองยิ้มแป้นดีใจ ไม่รู้เขาจะให้จริงไหมแต่เธอไม่ปฏิเสธความหวังดี อนาคตค่อยว่ากันถ้าเขาให้เธอก็รับ ถ้าเขาไม่ให้เธอก็หาเอง จากนั้นชายหนุ่มก็บอกให้ลูกน้อง ที่ยืนรออยู่ด้านนอกเข้ามาขนกระเป๋าของหญิงสาวที่มีอยู่เพียงสองใบ ทั้งหมดเดินทางออกจากหอพักซอมซ่อไม่นาน ก็มาถึงคอนโดสุดหรูที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับเหล่าบรรดาคนมีเงินเท่านั้น คอนโดราคาแพงแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านกลางเมืองทำเลทอง ติดรถไฟฟ้า ใกล้ห้างสรรพสินค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เป็นคอนโดในฝันของคนเมืองรวมถึงสร้อยทอง ที่แอบคิดอยู่บ่อยๆ สักวันเธอจะทำงานหาเงินแล้วมาผ่อนคอนโดแบบนี้ให้ได้ แต่คงยากหน่อยถ้าจะเอาแบบคีย์ตะวันเป๊ะ เพราะราคาแต่ละห้องคงไม่ต่ำกว่าร้อยล้าน ตายแล้วเกิดใหม่ยังไม่รู้จะมีปัญญาซื้อไหม ชายหนุ่มซื้อห้องชั้นบนสุดซึ่งเป็นเพนต์เฮาส์ให้กับตัวเองและซื้อห้องชั้นล่างให้พวกลูกน้องคนสนิทอาศัย โดยไม่คิดค่าเช่าถือเป็นสวัสดิการอย่างหนึ่งจากเจ้านาย ชั้นนี้ยังมีห้องว่าง เขาจึงให้เธออยู่ในระหว่างทำงานเป็นทาสรับใช้ “เป็นไงห้องของฉัน ดีกว่าห้องของเธอไหมล่ะ” “ดีมากค่ะ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว” “...” ชายหนุ่มยักไหล่ ภูมิใจที่ได้เห็นอาการตื่นเต้นของสร้อยทอง ไม่แน่เขาอาจจะยกห้องนี้ให้เธอก็ได้ แต่ก็ต้องดูผลงานและความประพฤติก่อน “แล้วคุณคีตะจะให้หนูเป็นทาสรับใช้นานแค่ไหนคะ” “จนกว่าหนี้จะหมด” เขานั่งลงบนโซฟาก่อนจะแจกแจงรายละเอียดการทำงาน ถึงจะให้เธอมาเป็นทาสใช่ว่าเขาจะไม่ให้เงินเดือน หลังจากหักหนี้เงินที่เหลือก็จะโอนให้เธอ สร้อยทองรู้สึกชอบห้องนี้จึงขอให้เจ้านายหักหนี้เดือนละไม่เกินสองพัน เธอจะได้อยู่นานๆ อยู่จนฝึกงานเสร็จไปเลย ตอนนี้รู้สึกไม่อยากกลับไปอยู่ห้องเดิมแม้แต่น้อย “อีกไม่กี่วันหนูจะต้องไปฝึกงาน คุณคีตะอนุญาตให้หนูไปไหมคะ” ถามอย่างกล้าหาญถึงเธอจะเพิ่งรู้จักเขาแต่สัมผัสได้ถึงความใจดี เธอคิดว่าคีย์ตะวันคงไม่ใจร้ายถึงขั้นทำให้เธอเรียนไม่จบ “ฉันไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดตัดอนาคตเด็ก เธออยากทำอะไรก็ทำ แต่งานที่ฉันมอบหมายต้องไม่ขาดตกบกพร่อง เข้าใจไหม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม