“วันนี้กูมีอะไรต้องทำบ้างวะแดน”
เจ้านายหนุ่มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิท หลังจากเข้ามาในห้องทำงานของบริษัทใหญ่ที่ตนเองเป็นผู้ดูแลแทนเจ้าสัวเฉลิม
วันนี้เขาดูอารมณ์ดีไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะว่าได้กลั่นแกล้งสร้อยทองก่อนออกมาทำงานจึงมีความสุขเป็นพิเศษ
ฮัมเพลงตั้งแต่ออกมาจากห้องจนถึงบริษัท ทำเอาแดนดินกับคนขับรถต้องหันมามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ รู้สึกได้ว่าวันนี้เจ้านายดูเปลี่ยนไป
“ช่วงเช้ามีพบปะกับนักศึกษาฝึกงานครับบอส ส่วนช่วงบ่ายมีประชุมกับฝ่ายต่างๆ ตามแผนงานประจำเดือน”
แดนดินเปิดไอแพดที่จดตารางงานของเจ้านาย ก่อนจะแจกแจงรายละเอียด งานของบริษัทมีประมาณนี้ส่วนงานที่คลับฟ้าครามจะเป็นคนรายงาน
“อืม ฝึกงานเหรอ ยัยอ้วนบอกว่าวันนี้ต้องไปฝึกงานวันแรกด้วยเหมือนกัน” ได้ยินคำว่าฝึกงานเขาก็นึกถึงเธอทันที
ตอนเช้าสร้อยทองทำแก้มพองลมเพราะงอนเจ้านายปากร้ายที่ออกคำสั่งให้เธอทำงานจนหัวหมุน
ดีที่เธอมีความเก่งจึงทำตามคำสั่งเสร็จตามเวลา ไม่อย่างนั้นคงได้ไปฝึกงานสายตั้งแต่วันแรก
“ใช่ครับ สร้อยทองมาฝึกงานที่นี่” แดนดินยิ้มเล็กน้อยเมื่อคิดถึงใบหน้ากลม ตอนเขาเห็นรายชื่อของเด็กฝึกงานก็แทบไม่อยากเชื่อ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้จึงลองให้คนหาข้อมูลมา
สร้อยทองเป็นเด็กทุนของบริษัท เมื่อถึงเวลาก็ต้องเข้ามาฝึกงานที่นี่ตามข้อตกลงที่บอกว่า นักศึกษาทุนต้องเข้าไปฝึกงานที่สำนักงานใหญ่
“อะไรนะ! ทำไมกูไม่รู้ แล้วฝึกแผนกไหน” เจ้านายหน้าใสตกใจไม่น้อย เขารู้เพียงแค่ว่ายัยแก้มซาลาเปาจะไปฝึกงานแต่ไม่รู้ไปฝึกงานที่ไหน
“แผนกการตลาดครับ สร้อยเป็นเด็กทุนของบริษัท”
“ใช่สิ เด็กทุนต้องเข้ามาฝึกงานที่บริษัทของเรานี่”
“ครับ สร้อยทองเป็นหนึ่งในนั้น”
“ยัยนี่เก่งใช้ได้ เป็นเด็กทุนซะด้วย”
คีย์ตะวันเข้ามารับช่วงต่อจากเจ้าสัวเฉลิมจึงสานต่อโครงการต่างๆ ของท่านรวมถึงการให้ทุนแก่นักศึกษาเรียนดีแต่บ้านจน เขาไม่คิดว่าเธอจะเป็นเด็กทุนของบริษัทตัวเอง เพราะหลักเกณฑ์การให้ทุนค่อนข้างมีหลายข้อ นอกเหนือจากการขาดทุนทรัพย์
“สร้อยเป็นเด็กเรียนเก่งครับ ได้ทุนตั้งแต่เข้าเรียนเลย”
“ก็ยังดีนะ ถึงจะไม่สวยแต่ฉลาด เสียอยู่อย่างเดียวยอมคนไปหน่อย”
“แต่ผมว่าสร้อยก็ไม่ได้ขี้เหร่นะครับ ออกแนวน่ารักด้วยซ้ำ”
“เอาอะไรมาน่ารัก ไปหาหมอตาบ้างนะไอ้แดน กูว่ามึงตาไม่ดีแล้ว”
“บอสก็ว่าไป สร้อยนิสัยดีมาก หน้าตาก็น่ารัก ผมว่าถ้าผอมกว่านี้คงสวยไม่น้อย”
เป็นเรื่องเดียวที่แดนดินค้านในใจและไม่เห็นด้วยกับเจ้านาย อันที่จริงสร้อยทองหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่ เพียงแต่ว่าเจ้าเนื้อเลยดูไม่ค่อยสวย หากเธอลดความอ้วนแต่งหน้าแต่งตาก็สวยไม่แพ้ผู้หญิงคนไหนเหมือนกัน
“มาตรฐานความสวยของมึงต่ำเตี้ยมาก”
คนหน้าธรรมดามีอยู่ดาษดื่นแบบนั้นเรียกว่าสวย เขาว่าแดนดินต้องปรับความคิดใหม่
คีย์ตะวันเบะปากมองบน ยามที่คิดถึงแก้มกลมๆ ของผู้หญิงที่เขาชอบเรียกว่า ยัยอ้วน
“ผมพูดความจริง บอสลองมองดีๆ แล้วจะเห็นความน่ารักของสร้อย”
แดนดินค้านหัวชนฝาทำให้คีย์ตะวันต้องหรี่ตามองด้วยความสงสัย ปกติไอ้ลูกน้องคนนี้ไม่ค่อยจะชมผู้หญิงคนไหนเท่าไร แต่กับสร้อยทองมาแปลกหรือว่าแดนดินจะ...
“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง คิดอะไรกับเด็กนั่นใช่ไหม”
“เปล่าๆ ผมไม่นิยมกินเด็ก บอสก็รู้ผมชอบคนแก่กว่า”
“กูก็เหมือนกัน ไม่เอาหรอกเด็ก งี่เง่าง้องแง้ง น่ารำคาญ”
“ผมเห็นด้วยกับบอส”
เจ้านายกับลูกน้องคุยกันสักพัก ก็ถึงเวลาต้องเข้าไปในห้องประชุม ที่มีเด็กฝึกงานจากหลากหลายสถาบันมารอแนะนำตัวและทำความรู้จักกับ CEO ของบริษัท
สร้อยทองนั่งยิ้มให้คนนั้นคนนี้อย่างเป็นมิตร ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อคิดถึงวันที่ตนเองจะได้รับปริญญา และแอบตื่นเต้นไม่น้อยกับการฝึกงานวันแรก
บริษัทนี้นอกจากให้ทุนการศึกษาแล้วยังให้มาฝึกงานด้วย
“เราอยากเจอท่านประธานจังเลยสร้อย เขาว่าหล่อมาก”
เพื่อนในสาขาของสร้อยทองซึ่งเป็นเด็กทุนเหมือนกันกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงสดใส
เธอแอบไปหาข้อมูลมาเกี่ยวกับท่านประธานหนุ่มไฟแรงแถมยังโสด ทว่ากลับไม่ค่อยมีข้อมูลมากนักเพราะท่านค่อนข้างไว้ตัวไม่ค่อยออกงานสังคม
“เราเคยเจอท่านไม่ใช่เหรอ ตอนท่านไปมอบทุนที่มหาลัย”
สร้อยทองเอียงคอถามพร้อมกับขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ทำไมเพื่อนสาวถึงดูเหมือนไม่เคยเจอ ทั้งที่ปีก่อนช่วงรับทุนท่านประธานก็ไปมอบทุนการศึกษาด้วยตัวเอง
“ไม่ใช่คนนั้น คนที่ไปมอบทุนให้เราคือเจ้าสัวเฉลิมเป็นคนก่อตั้งบริษัท แต่ตอนนี้ท่านมอบให้หลานชายเป็นคนดูแลต่อ”
“อ้อ เราตกข่าวเหรอเนี่ย หล่อจริงไหม”
“หล่อมาก เขาว่าเหมือนพระเอกซีรีส์จีน ขาว สูง ตี๋ อยากเห็นตัวจริงแล้วสิ”
“เราก็อยากเห็นเหมือนกัน ไอ้เราก็สวยซะด้วย”
“ทีนี้ก็ลำบากว้าวุ่นเลย”
สองสาวต่อประโยคสุดฮิตที่กำลังเป็นไวรัลในโลกโซเชียลก่อนจะระเบิดหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ทำเอานักศึกษาฝึกงานคนอื่นต้องหันมามอง
ปีนี้แผนกการตลาดรับนักศึกษาฝึกงานทั้งหมดสี่คนคือสร้อยทองกับเพื่อนที่มีชื่อว่า ภูริตา หรือริต้า ส่วนอีกสองคนมาจากมหาวิทยาลัยอื่น ส่วนแผนกอื่นๆ ก็มีจำนวนไม่ต่างจากนี้มากนัก
ทันทีที่ประตูห้องประชุมเปิด เสียงพูดคุยก็เงียบลงราวกับมีปุ่มปิดสวิตช์ นักศึกษาทุกคนลุกขึ้นยืนเพื่อทำความเคารพประธานบริษัทสุดหล่อ
สร้อยทองถึงกับอ้าปากค้างก่อนจะขยี้ตาอีกรอบ ผู้ชายตรงหัวโต๊ะทำไมหน้าตาเหมือนเจ้าหนี้ของตัวเองราวกับแกะ รวมถึงผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังหน้าตาก็เหมือนแดนดิน
ไม่จริงเธอไม่ได้มาฝึกงานที่บริษัทของเขาหรอกใช่ไหม
“ยินดีต้อนรับน้องนักศึกษาฝึกงานทุกคนนะครับ ผมคีย์ตะวันเป็น CEO ของ SC หลายคนคงจะรู้จักแล้ว”
ท่านประธานกล่าวต้อนรับพร้อมกับแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ก่อนจะกวาดตามองนักศึกษาทีละคน จนไปเจอสร้อยทองที่กำลังทำตัวลีบเหมือนตัวเองผอมเพรียว ต่อให้หลบยังไงก็หลบไม่พ้นเพราะเธอตัวใหญ่กว่านักศึกษาที่ยืนข้างกัน
คีย์ตะวันทำเป็นไม่รู้จักสร้อยทอง จากนั้นก็ส่งไม้ต่อให้ลูกน้องจัดการ
“สวัสดีครับทุกคน พี่ชื่อแดนดินเป็นเลขาของท่านประธาน พี่อยากให้ทุกคนแนะนำตัว แต่ละคนมาจากมหาลัยไหน เรียนคณะอะไร มาฝึกงานแผนกไหน จบแล้วอยากไปทำงานอะไร”
แดนดินผายมือให้นักศึกษาที่อยู่สุดขอบโต๊ะเป็นคนเริ่มก่อน จากนั้นก็ตามมาเรื่อยๆ จนมาถึงภูริตากับสร้อยทอง หลังจากเพื่อนสาขาเดียวกันแนะนำตัวจบก็มาถึงเธอ
“สวัสดีค่ะหนูชื่อนางสาวสร้อยทอง ทองอุไร ชื่อเล่นสร้อยค่ะ เรียนคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยXXX มาฝึกงานแผนกการตลาดค่ะ จบไปอยากทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัท SC ค่ะ”
แนะนำตัวด้วยน้ำเสียงฉะฉาน ไม่อายที่จะบอกความฝันของตนเอง เธอคิดว่าหลังจากเรียนจบจะลองมายื่นใบสมัครที่บริษัทนี้ดูเผื่อทางบริษัทรับ เพราะอย่างน้อยเธอก็มีภาษีเรื่องทุนการศึกษา
บริษัท SC กำลังเติบโตทำให้เป็นที่สนใจของนักศึกษาจบใหม่รวมถึงพนักงานที่ต้องการหางานใหม่ และสวัสดิการก็ดีกว่าอีกหลายบริษัท
“เราแนะนำตัวกันครบทุกคนแล้ว ไม่ทราบว่าท่านประธานมีอะไรจะคุยกับน้องๆ อีกไหมครับ”
“ผมขอให้การฝึกงานของทุกคนผ่านไปด้วยดี โลกแห่งการทำงานน่ากลัวกว่าโลกแห่งการเรียนเยอะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจหรือติดขัดตรงไหนก็มาบอกแดนดินได้ เดี๋ยวแดนดินจะบอกผมเอง หรือมาบอกผมได้ตรงๆ ไม่ต้องกลัว ผมไม่กัด ผมใจดี”
คำพูดของท่านประธานทำให้นักศึกษาสาวแทบจะกรี๊ดลั่นห้อง เหลือเพียงสร้อยทองคนเดียวที่ไม่อิน ไม่กัดน้อยสิแต่กัดมาก เธออยากกดไมค์ตรงหน้าแล้วพูดว่า
ทุกคนอย่าไปหลงกลความหล่อของคีย์ตะวันเด็ดขาด รู้ไหมว่าเขาปากหมาแค่ไหน แต่ทำไม่ได้จึงเก็บทุกประโยคที่อยากพูดเอาไว้ในใจ
“เห็นไหม ท่านประธานหล่อมาก ท่านโสดด้วยนะสร้อย”
ภูริตาเอี้ยวตัวมากระซิบข้างหูสร้อยทองด้วยอาการเคลิบเคลิ้ม เมื่อสักครู่เธอเห็นท่านประธานมองมาทางนี้ ไม่รู้ตกหลุมความสวยของเธอไหม
หารู้ไม่คีย์ตะวันไม่ได้มองภูริตาแต่มองสร้อยทองต่างหาก
“เรื่องหล่อเราไม่เถียง โสดไหมอันนี้เราไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ปากหมา”
“สร้อยว่าไงนะ เรามัวแต่มองหน้าท่าน CEO สุดหล่อ เมื่อกี้ได้ยินไม่ชัดอะไรหมาๆ”
“อ้อเราบอกว่า วันนี้เราเอาข้าวมา ตอนเที่ยงไปกินข้าวกับริต้าไม่ได้”
“โธ่นึกว่าอะไร ไม่มีปัญหา เราเข้าใจสร้อย” สองสาวนั่งซุบซิบก่อนจะได้ยินแดนดินบอกให้แยกย้ายกลับไปที่แผนกของตัวเอง
สร้อยทองเดินออกจากห้องประชุมเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับความหนักใจ เมื่อสักครู่คีย์ตะวันส่งข้อความมากำชับว่า ห้ามเล่าเรื่องหนี้สินและการชดใช้หนี้ให้ใครรู้แม้แต่คนเดียว ระหว่างฝึกงานเราสองคนไม่รู้จักกัน ห้ามทำตัวสนิทสนมเด็ดขาด
“เอ็งทำได้สร้อย เอ็งต้องไม่ลืมตัว”
สร้อยทองสะกดจิตตัวเอง ทำไมต้องพูดแบบนี้ก็เพราะเธอมีนิสัยชอบทักทายคนอื่นก่อน กลัวลืมแล้วเผลอพูดเป็นกันเองกับเจ้าหนี้ปากร้าย