บทที่ 3 แบบนี้เขาเรียกว่ากรรมลิขิต(2)

1278 คำ
คีย์ตะวันทำงานไปจนถึงเย็นก็ถึงเวลาเลิกงาน เขาลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายก่อนจะปิดอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องทำงานอย่างเช่นทุกครั้ง ทว่ายังไม่ทันจะได้ออกไปประตูห้องก็ถูกเคาะแล้วผลักเข้ามาอย่างเบามือ คนที่มาหาเขาก็คือสร้อยทอง “เธอมาหาฉันในห้องทำงานทำไม” เขาถามเสียงเบาเหมือนกลัวใครจะได้ยิน ก่อนจะเดินไปล็อกห้อง เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าตัวเองคุยกับนักศึกษาฝึกงานสองต่อสอง บอกแล้วไงช่วงที่อยู่ในบริษัทเขาและเธอต้องทำเป็นไม่รู้จักกัน เขาไม่อยากเสียชื่อเสียงเพราะยัยแก้มซาลาเปา “หนูขอโทษค่ะ แต่หนูมีเรื่องจะบอก” ถ้าไม่สำคัญเธอก็ไม่อยากทำตัวลับๆ ล่อๆ เหมือนจะเข้ามาขโมยของในห้องท่านประธานแบบนี้หรอก มันจำเป็นมาก ถ้าไม่บอกเดี๋ยวเขาหาว่าไร้ความรับผิดชอบต่อหน้าที่อีก “บอกผ่านโทรศัพท์ก็ได้ไหม” น้ำเสียงติดดุเล็กน้อย หลังจากมองหน้าสร้อยทอง หญิงสาวจึงเอามือถือเครื่องเก่าขึ้นมาจากกระเป๋าให้ชายหนุ่มดูก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม “โทรศัพท์แบตหมด ก่อนเข้ามาหนูดูแล้วค่ะ ไม่มีใครเห็น บอสสบายใจได้” ไม่มีใครเห็นแน่นอนเพราะห้องของท่านประธานอยู่ห่างจากผู้คนไม่น้อย เธอหันซ้ายหันขวาก่อนจะผลักประตูเข้ามา มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีใครเห็นยกเว้นแดนดิน เพราะเธอถามเขาว่าห้องทำงานคีย์ตะวันอยู่ตรงไหน “เข้าเรื่องเถอะ มาหาฉันมีอะไร” เจ้าของห้องถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ในใจแอบสงสัย “คือวันนี้หนูต้องไปทำงานพาร์ตไทม์หนูกลัวบอสจะรอกินข้าวเย็นค่ะ หนูขออนุญาตไม่ทำข้าวเย็นสักวัน แต่อย่างอื่นหนูกลับไปจัดการให้แน่นอน” “...” เขาหรี่ตามองพลางใช้ความคิด “นะคะบอส หนูจำเป็นต้องไป” “ก็ได้ แล้วจะกลับกี่โมง ไม่ได้อยากรู้นะแค่ถามเฉยๆ ว่าไงกี่โมง” “ห้าทุ่มค่ะ บอสนอนได้เลย หนูจะทำงานไม่ให้มีเสียงดัง” คีย์ตะวันไม่คัดค้าน บอกแล้วไงเธอจะทำอะไรก็ทำแต่อย่าให้กระทบการงานที่เขามอบหมายก็พอ หญิงสาวยกมือขึ้นมาขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะขอตัวออกไปด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ ราวกับเข้ามาขโมยของเหมือนตอนเข้ามาไม่มีผิด สร้อยทองมาทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารในตลาดซึ่งเปิดเฉพาะกลางคืน เธอรู้จักกับเจ้าของร้านเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นร้านยังเล็กมากไม่มีลูกจ้าง สร้อยทองเห็นว่าเจ้าของร้านเก็บโต๊ะไม่ทันจึงอาสาช่วยเหลือ เจ้าของร้านรู้สึกถูกชะตาจึงชวนสร้อยทองมาทำงานด้วยกัน เด็กสาวดีใจมากจึงทำงานกับร้านนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทว่าต่อไปเธอคงต้องลาออกเพราะคีย์ตะวันคงไม่ใจดีแบบนี้บ่อยๆ “สร้อยวันนี้คนเยอะ พี่จะปิดร้านช้าหน่อย เราโอเคไหม แต่เดี๋ยวพี่ให้เงินพิเศษ” “ไม่มีปัญหาค่ะพี่โต้ง วันนี้ขายดีจังเลย วันเงินเดือนออกใช่ไหม” “ใช่ วันศุกร์ เงินเดือนออก เป็นแบบนี้แหละ อีกหน่อยสร้อยไปทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศก็จะเข้าใจความรู้สึก” เด็กสาวพยักหน้าหงึกๆ ขณะนั่งล้างจานเพราะพนักงานลาหนึ่งคนเธอจึงรับหน้าที่ดูแลในส่วนนี้ด้วย วันนี้คีย์ตะวันไม่ได้เข้าไปที่คลับหลังจากเลิกงานก็ตรงดิ่งกลับห้องทันที เขากินข้าวเสร็จก็ทิ้งจานชามเอาไว้บนโต๊ะเพื่อให้สร้อยทองเป็นคนจัดการ ในเมื่อมีทาสรับใช้ทำไมต้องทำเอง ทว่าเมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวรับปากไว้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา “ทำไมยังไม่กลับมาอีกนะ” คนปากร้ายกดโทรศัพท์มองเวลา อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้วแต่ยังไม่ได้ยินเสียงลูกหนี้เลย เขานอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงรู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายทนไม่ไหวจึงกดโทร.หาเธอ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้ กดไปกี่ครั้งก็ได้ยินเสียงข้อความแบบเดิมทำให้คีย์ตะวันเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข “ทำไมติดต่อไม่ได้ จริงสิยัยอ้วนบอกว่าโทรศัพท์แบตหมด” เขาพึมพำยังไม่ทันจะโทร.หาแดนดินหูได้ยินเสียงกุกกักมาจากนอกห้องจึงรีบวาดขาลงจากเตียงแล้วออกไปดู เห็นสร้อยทองนั่งหมดแรงอยู่บนโซฟา ตัวเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำไม่มีผิด “หนูทำให้บอสตื่นเหรอคะ” สร้อยทองสีหน้าอิดโรยไม่น้อยเพราะโดนฝนตั้งแต่ออกจากร้านจนกระทั่งมายืนรอรถเมล์ เหนื่อยสายตัวแทบขาด “ไหนบอกจะกลับห้าทุ่ม นี่มันจะเที่ยงคืนแล้ว” คีย์ตะวันมองด้วยสายตาดุ น้ำเสียงห้วนไม่พอใจอย่างไม่รู้ตัว เมื่อสักครู่ตอนที่ติดต่อเธอไม่ได้เขาแทบจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง “วันนี้ที่ร้านคนเยอะเลยเก็บร้านช้าค่ะ” “แล้วยังไง” “หนูก็เลยกลับมาช้า” “โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ แบตหมดทำไมไม่ชาร์จ” “ชาร์จแล้วแต่แบตมันเสื่อมแป๊บเดียวก็หมด” เธอกลัวเขาจะไม่เชื่อจึงเอาโทรศัพท์ออกมาให้ดูพร้อมกับแบตสำรอง คีย์ตะวันเห็นสภาพโทรศัพท์แล้วได้แต่ถอนหายใจ เห็นทีพรุ่งนี้เขาต้องให้แดนดินไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้สร้อยทอง เขารับไม่ได้มันโบราณเกินไป ตอนนี้ iPhone จะออกรุ่น 15 แต่เธอยังใช้รุ่น 6s สมควรแก่การแบตเสื่อม “เอาเถอะ วันนี้ฉันปล่อยเธอไปก็ได้” สภาพของสร้อยทองตอนนี้ดูไม่ได้เลย ถ้าเขายังดันทุรังจะใช้งานเธอก็ใจร้ายเกินไปแล้ว หากแต่หญิงสาวไม่ยอมจึงเด้งตัวลุกขึ้นมาคัดค้านด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่ได้ค่ะ หนูเป็นคนมีความรับผิดชอบ หนูขอพักแป๊บเดียว รับรองงานที่บอสสั่งต้องเสร็จแน่นอน” คนอย่างสร้อยทองรับปากแล้วก็ต้องทำให้ได้ แม้ว่าตัวเองจะเหนื่อยจนจะหมดแรงแต่ก็ยังใจสู้ แค่ล้างจานกับรีดผ้าทำไมจะทำไม่ได้ “ได้ ฉันให้เวลาเธอพักห้านาที ถ้าไม่ตื่นเจอดีแน่ ยัยอ้วน” สร้อยทองไม่มีแรงจะเถียงกลับอยากทำอย่างเดียวคือหลับตา คีย์ตะวันจึงปล่อยให้เธอหลับตามที่ต้องการ เขานั่งมองเธอไม่นานก็ผล็อยหลับตามไปด้วยคน “แม่จ๋าอย่าทิ้งหนู แม่อย่าไป แม่ แม่” เสียงละเมอของสร้อยทองทำให้คีย์ตะวันรู้สึกตัว เขาเห็นเธอนอนกระสับกระส่ายจึงรีบเข้าไปดูพร้อมกับเขย่าตัวเบาๆ “ยัยอ้วนเป็นอะไร สร้อยทอง สร้อย” เขย่าเบาไปเธอเลยไม่รู้สึกตัวเขาจึงเขย่าแรงขึ้น สร้อยทองลืมตามองคิดว่าเป็นคนร้ายจึงยกขาถีบอย่างรวดเร็ว “กรี๊ดดด ออกไปนะไอ้โจรลามก” เธอถีบเต็มแรงทำให้เขาล้มไปกองอยู่ที่พื้นอย่างน่าสงสาร “ยัยอ้วนมาถีบฉันทำไมเนี่ย โอ๊ยยยหลังฉัน” ชายหนุ่มนอนตัวงออยู่บนพื้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายร่างกายคุณคีย์ตะวันเลยสักคน ขนาดคุณปู่สุดที่รักยังไม่เคยตีเขาเลย แล้วเธอเป็นใคร กล้าดียังไงถึงมาเตะจนหงายหลังแบบนี้ “คุณคีตะ! นะ...หนูขอโทษ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม