หลาน นอกไส้ อาวิณเป็นเด็กดี2

953 คำ
“คุณวิณจะไปไหนคะ” เสียงทักจากคนที่เพิ่งลงจากรถมา ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปตามเสียงหัวเราะชะงัก แล้วหันไปส่งยิ้มให้หญิงสาว “เปล่าครับ” แล้วเขาก็เปิดกระโปรงรถ เพื่อหยิบกระเป๋าใบใหญ่ของมะลิออกมา รวมทั้งกระเป๋าใบเล็ก สำหรับใส่ของใช้ส่วนตัวของเขาด้วย เพราะเสื้อผ้านั้นมีอยู่ที่นี่แล้ว กำลังจะเดินเข้าบ้านเด็กรับใช้ก็เดินมาจะช่วยหิ้วกระเป๋า แต่ภูวิณบอกว่าจะถือเอง เพราะเด็กรับใช้เป็นผู้หญิง แถมกระเป๋ามะลิก็ใบใหญ่มาก เขาพามะลิมาเที่ยวแค่สองสามวัน บอกอินทุอรแล้ว แต่ไม่ให้บอกอรองค์ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายใจจดจ่อที่จะเจอเขา จริงๆ แล้วเขาก็ยังไม่พร้อมเจออรองค์ด้วยซ้ำ แต่ทนเสียงคะยั้นคะยอของมะลิไม่ได้ เพราะถ้าไม่จำเป็นเขาก็ไม่อยากขัดใจเธอ เดินรับใช้ในบ้านเมื่อเห็นเขาก็ต่างเข้ามาทักทาย โดยเฉพาะป้าชื่น คุณแม่บ้าน ซึ่งทำงานที่บ้านมานานหลายปี เขาจึงแนะนำมะลิให้ทุกคนรู้จัก ในฐานะ ‘แฟน’ “คุณอินบอกป้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ห้องของคุณวิณ ป้าให้เด็กจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ” “ขอบคุณครับ ขอตัวก่อนนะ” “ตามสบายค่ะ เดี๋ยวป้าจะทำอาหารจานโปรดให้คุณวิณนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อขึ้นมาถึงห้องพัก มะลิก็เดินชมห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราเป็นที่พอใจแก่เธอมาก แล้วเดินไปยังระเบียงห้อง เห็นบริเวณอันกว้างขวาง ที่มีทั้งสวนดอกไม้ และสวนผัก เห็นเด็กผู้หญิงสองคนกำลังก้มหน้าก้มตากับแปลงผัก “นั่นน้องเอิงนี่คะ” เวลาอยู่ต่อหน้าภูวิณนั้นมะลิจะเรียกเด็กสาวในความปกครองของชายหนุ่มด้วยคำนำหน้าว่า ‘น้อง’ เพราะรู้ว่าอรองค์นั้นสำคัญกับภูวิณมาก เพราะเขาบอกเธอว่าตอนนี้ครอบครัวของเขาก็เหลือเพียงอินทุอรกับอารียา และหลานสาวนอกไส้อย่างอรองค์เท่านั้น การที่ภูวิณลงโทษอรองค์ที่กลั่นแกล้งเธอให้ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ถือว่าเป็นเรื่องเกินคาดเช่นกัน แต่มันทำให้มะลิรู้ว่าถึงอรองค์จะสำคัญกับภูวิณแค่ไหนแต่เธอก็สำคัญกว่าอยู่ดี เมื่อได้ยินชื่อของคนที่มะลิเอ่ยถึง ภูวิณก็ลุกเดินมายังระเบียงห้อง ก็ได้เห็นเด็กสองคนกำลังช่วยกันปลูกผัก เขายิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นแปลงผักของอรองค์ ที่มีหลายแปลง ระยะเวลาที่อรองค์มาอยู่ที่นี่แค่เดือนเดียว คงเพาะต้นกล้าผักไว้จนงอกเงยแล้ว ไม่เสียแรงที่เติบโตมาในไร่ภูวิณ “ทำไมต้องมาปลูกผักในบริเวณบ้านที่จัดสวนไว้อย่างสวยงาม มันดูไม่เข้ากันเลย” มะลิพูดอย่างลืมตัว แต่เพียงครู่เดียวก็คิดขึ้นได้ “แต่ดูอีกที ก็ไปกันได้นะคะ น้องเอิงนี่ช่างเป็นเด็กที่ขยันจริงๆ เลยนะคะ” “อือ” ภูวิณขานรับแค่นั้น แล้วบอกกับมะลิว่า “มะลิจัดของได้ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวผมลงไปทักเด็กๆ ก่อน” “อ๋อค่ะ” รับคำพร้อมยิ้มหวาน แต่ในใจคิด น่าจะให้เด็กรับใช้มาช่วยจัดเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้ ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ออกจากตัวบ้าน เดินออกไปยังสวนหลังบ้านทันที เขาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เมื่อเห็นเด็กสาวในปกครองกำลังช้อนต้นกล้าอะไรสักอย่างลงกระถางอย่างตั้งใจ โดยมีเด็กสาวอีกคนกำลังช่วยตักดินปลูกลงกระถางใบอื่น เพื่อเตรียมลงต้นกล้าที่ยังเหลือ ดวงตาคมเป็นประกายด้วยความเอ็นดูขณะมองดูภาพนั้น ก่อนจะเดินออกไปหาทั้งสอง “ปลูกอะไรกันอยู่” “อาวิณ!” เด็กสาวทั้งสองหันขวับมาเจอภูวิณก็ร้องเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะทิ้งทุกอย่างในมือ วิ่งมาหาชายหนุ่ม ภูวิณกางแขนออก เพื่อรับร่างของทั้งสองที่พุ่งมาหาตนเอง ไม่ต่างจากสมัยที่อรองค์กับอารียายังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ กอดรัดทั้งสองร่างไว้ด้วยความรักและเอ็นดู “อาวิณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” อรองค์เป็นคนถามสีหน้ายังระบายยิ้มกว้างอย่างดีใจ หลังจากผละจากอ้อมกอดอีกฝ่ายแล้ว “เมื่อครู่เอง” “ไม่เห็นแม่บอกเลยค่ะว่าอาวิณจะมา” อารียาพูด สีหน้างงๆ “ก็อยากเซอร์ไพรส์ไงล่ะ” “เซอร์ไพรส์มากๆ เลยค่ะ ไม่คิดว่าอาวิณจะมาหา” อรองค์พูด เหมือนความรู้สึกโกรธก่อนหน้านั้นมันไม่เคยเกิดขึ้น “แล้วปลูกอะไรกันอยู่” ภูวิณถาม เพราะเลี่ยงที่จะตอบเหตุผลของการมาที่นี่ “ย้ายต้นกล้ามะเขือเทศกับพริกลงกระถางค่ะ” “งั้นอาช่วย” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อาวิณเพิ่งขับรถมาเหนื่อยๆ” “ไม่เป็นไรหรอก อาอยากเห็นต้นกล้าที่เอิงเพาะ” ชายหนุ่มพูดจบก็เดินไปยังแปลงผัก เขาถึงกับหัวเราะเบาๆ เหมือนเห็นพืชผักสวนครัวที่อารียาเพาะไว้ ที่ผักบางอย่างต้นกล้าโตแล้ว บางอย่างก็ยังเล็กๆ อยู่ เด็กหญิงอรองค์ที่วันๆ ซุกซนในไร่วันนั้น ก็ไม่ทิ้งลายเด็กบ้านไร่ ทั้งสามคนช่วยกันเอาต้นกล้าลงกระถางจนหมดเรียบร้อย “แยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วเจอกันที่ห้องกินข้าวนะเด็กๆ ห้ามเลทนะ อาหิวมากๆ แล้ว” “โอเคค่ะ” """"""""""""
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม