หลาน (นอกไส้) อาวิณเป็นเด็กดี1

1075 คำ
หลาน (นอกไส้) อาวิณเป็นเด็กดี “อะไรนะ เอิงรังแกเพื่อนร่วมชั้น ไม่มีทางหรอก เอิงไม่ใช่คนที่จะไปรังแกใคร ตรงกันข้ามชอบช่วยเหลือคนที่ถูกรังแกมากกว่า ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ เอิงเป็นเด็กดี ไม่รังแกใครก่อนแน่นอน” ภูวิณที่เพิ่งรับสายจากอินทุอรว่าครูฝ่ายปกครองแจ้งมาว่า อรองค์รังแกเพื่อนจนคางแตก และทางโรงเรียนจะไล่อรองค์ออก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้ “ใช่แล้ว เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยืนยันว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายเอิงก่อน เอิงแค่ป้องกันตัว แต่ทางครูฝ่ายปกครองก็ยังยืนยันว่าเอิงผิด เด็กที่ถูกชกก็โกหกหาว่าเอิงทำก่อน” “ก็ในเมื่อมีคนในเหตุการณ์ยืนยัน ทำไมครูยังดึงดันว่าเอิงทำก่อน” ภูวิณเริ่มมีโมโห เพราะอรองค์นั้นเขารู้จักมาตั้งแต่วันลืมตาดูโลก รู้จักนิสัยใจคอดีว่า ไม่มีทางรังแกคนอื่นก่อนแน่นอน เอาหัว ภูวิณเป็นประกันได้ “ตอนแรกพี่ก็สงสัยว่าครูทำไมไม่ฟังคนที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ยัยอิ้งกระซิบบอก เพราะเด็กที่เอิงมีเรื่อง พ่อแม่บริจาคให้โรงเรียนมากที่สุดในบรรดาผู้ปกครอง เขาเลยเอาใจเด็ก” “อ๋อ แบบนี้นี่เอง งั้นผมจะบริจาคให้มากกว่านั้น” “วิณ เอาจริงเหรอ” “เอาจริงครับ พี่อินช่วยส่งเบอร์โทร. ของโรงเรียนมา หรือเบอร์ผอออมาที่ไลน์ผมด้วยนะครับ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจัดการเอง” เมื่อวางสายแล้วอินทุอรก็ส่งเบอร์โทร. ผู้อำนวยการโรงเรียนให้ภูวิณ จากนั้นก็มานั่งขำอีกฝ่าย คิดว่าอีกฝ่ายจะโมโหที่อรองค์ไปมีเรื่องกับเพื่อนร่วมชั้นจนจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน ที่ไหนได้ภูวิณกลับโมโหทางโรงเรียนแทน แถมปกป้อง และใช้เงินในการแก้ปัญหาอีก เมื่ออินทุอรบอกกับอรองค์และลูกสาว อารียาถึงกับประหลาดใจ แต่ก็ทึ่งในการแก้ปัญหาของภูวิณ “อิ้งคิดว่าอาวิณจะโมโหเอิงเสียอีก” “เขาโมโหเอิงแค่เรื่องเดียวในชีวิต คือแกล้งผู้หญิงของเขาอะ” อรองค์บอกด้วยสีหน้าเรียบๆ เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน เธอไม่ชอบเห็นใครถูกรังแกมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเห็นก็ช่วยตลอด ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง และภูวิณก็เชื่อใจเธอในเรื่องนี้ ในวันรุ่งขึ้นหลังโรงเรียนเลิก นอกจากอรองค์จะไม่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ยังได้รับกระเช้าขอโทษจากน้อยหน่าพร้อมผู้ปกครอง ต่อหน้าผู้อำนวยการโรงเรียนและคุณครูฝ่ายปกครอง ซึ่งอินทุอรในฐานะผู้ปกครองของอรองค์ก็รับกระเช้าพร้อมรอยยิ้ม “นิรชารับปากแล้วว่าจะไม่กลั่นแกล้งอรองค์อีก” ผู้อำนวยการโรงเรียนบอกด้วยรอยยิ้ม “และไม่ควรกลั่นแกล้งเด็กนักเรียนคนอื่นด้วยค่ะ” อรองค์เสริม “โอ้ แน่นอน ใช่ไหมนิรชา เธอจะไม่แกล้งเพื่อนหรือนักเรียนคนอื่นอีก!” ผู้อำนวยการโรงเรียนหันไปเอ่ยเสียงดุดันกับน้อยหน่าที่เอาแต่ก้มหน้างุด ฝ่ายพ่อแม่ก็ทำหน้าบึ้งตึงใส่ทุกคน คงไม่พอใจ เพราะนี่เหมือนเป็นครั้งแรกที่ถูกเชิญมาโรงเรียนเพื่อรับทราบว่าลูกสาวตัวเองเป็นฝ่ายก่อเรื่อง “ค่ะ ต่อไปหนูจะไม่แกล้งใครอีก” “ดีมาก” แล้วทุกคนก็แยกย้ายออกจากห้องรับรองแขกของโรงเรียน หลังจากนั้นชีวิตในรั้วโรงเรียนของอรองค์ก็เป็นไปอย่างสงบสุข กับน้อยหน่าและลูกน้องของเจ้าหล่อนก็ต่างคนต่างอยู่ และ อรองค์ก็มีเพื่อนมากขึ้น แม้แต่มัชกรที่แทบไม่คุยกับใคร ก็ยังพูดคุยกับอรองค์มากขึ้น จนอารียาแซวว่ามัชกรอาจชอบอรองค์ “ที่ผ่านมาไม้ไม่กล้าคุยกับเพื่อนผู้หญิง เพราะกลัวยัยน้อยหน่าไปแกล้งไง แต่ตอนนี้ไม้ไม่กลัวแล้ว เลยกล้ามาคุยกับแกไงเอิง” ทั้งสองเพิ่งทำการบ้านเสร็จในห้องนอนของอรองค์ “ไม้ก็คุยกับแกด้วยไม่ใช่เหรอ” อรองค์ย้อน “ก็ปกติ เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ” “กับฉันไม้ก็คุยปกติ เออ ลืมบอก ไม้บอกว่าบ้านเกิดเขาอยู่ที่กาญจน์ด้วยนะ และเชื่อไหมตำบลเดียวกันกับฉันด้วย” “ว้าว พรหมลิขิตแน่ๆ” “โอ๊ย แกก็โยงไปเรื่อย” “ก็มันเข้าล็อกไปหมดนี่” “ไม้บอก แค่แม่เขาเป็นคนบ้านเดียวกับฉัน แต่แม่เขาเสียตั้งแต่วันคลอดเขา ไม้เลยมาอยู่กรุงเทพฯ กับครอบครัวลุง ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงบาลเลย” “น่าสงสารจัง แม่ตั้งแต่ไม้เกิดเลยเหรอ” “อือ น่าสงสารจริง” “มิน่า เขาถึงดูไม่เหมือนใคร” “แค่เขาเงียบๆ ขรึมๆ เลยไม่เหมือนใครเหรอ” อรองค์สงสัย “ไม่รู้สิ เขาดูมีอะไรให้ต้องคิดตลอด บางครั้งก็เหม่อ บางครั้งก็ดูเศร้า” “นี่แกไปสังเกตเขาขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า...” “โอ๊ย ไม่ได้ชอบเลยนะ” อารียารีบปฏิเสธพัลวัน “ฉันก็ยังไม่ได้พูดเลยนะว่าแกชอบไม้” อรองค์พูดแล้วยิ้มล้อๆ “โอ๊ย ไม่คุยด้วยแล้ว” แล้วอารียาก็ทำงอน เดินสะบัดตูดออกจากห้องนอนของอรองค์ไปเลย อรองค์รีบวิ่งตามไป แล้วเอ่ยปากชวน “ไปที่สวนผักด้วยกันเถอะ วันนี้ฉันจะย้ายต้นกล้าพริกกับมะเขือเทศลงกระถาง” “ไม่ไปแล้ว” “เถอะ ไปนะ ต่อไปฉันจะไม่ล้อว่าแกชอบไม้แล้ว ฮ่าๆ” แล้วอรองค์ก็รีบวิ่งออกไปยังสวนผัก โดยมีอารียาวิ่งตามหลังไปติดๆ พร้อมตะโกนเสียงดังลั่น “ไอ้เอิง แกจะต้องโดนฉันเตะก้น!” อรองค์หยุดวิ่ง แล้วเต้นกระดกก้นใส่ในท่าทเวิร์ก แต่พอ อารียาวิ่งมาใกล้ ก็วิ่งปรูดไปอย่างเร็ว เสียงหัวเราะของทั้งสองดังก้องไปทั่วบริเวณบ้านอันกว้างขวางนั้น คนที่เพิ่งลงจากรถถึงกับยิ้มออกมา เพราะจดจำเสียงหัวเราะของเด็กทั้งสองได้ ที่อีกคนเป็นหลานสาวในไส้ อีกคนเป็นหลานนอกไส้ ก็ดูมีความสุขดีนี่ """"""""""""""""" 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม