ตอนที่ 7

1389 คำ
“ .. คุณต้องการอะไร” “แค่เธอล้มเลิกการแจ้งความบ้าๆนั่น แล้วไปอยู่ที่ไร่เลอสรรกับฉัน รับรองว่าทุกอย่างจะเป็นปกติสุข ทั้งไร่ภูผา หรือแม้แต่ชีวิตพ่อแม่เธอ ท่านจะปลอดภัยที่สุด” เลอสรรกระซิบข้างๆใบหูเธออย่างเจ้าเล่ห์ “.............” “ฉันจะนับหนึ่ง ถึงสาม ถ้าต้องการก็บอก ถ้าไม่ล่ะก็ เตรียมซื้อโลงศพคู่ได้เลย กรวลัย” “หนูต้องการค่ะ” เธอรีบชิงตอบก่อนที่เขาจะนับด้วยซ้ำ “หึ.. ดี” ความใจดำในการเอาชีวิตคนเป็นเครื่องมือต่อรองตนเอง ช่างเลวเหลือคณานับ เลอสรรเป็นคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกเกลียดและกลัวได้ในเวลาเดียวกัน เลอสรรต่อสายหาลูกน้องเปิดลำโพงเสียงดังให้หล่อนได้ยินด้วย 'สแตนด์บายรอคำสั่งครับนาย' “ดี” 'ตอนนี้ผมแอบซุ่มอยู่ที่ท้ายไร่ชัชวาลย์ นายจะให้ผมช่วยสองคนนั่น หรือถอยครับ' “งานนี้ห้ามพลาด” 'แน่นอน เอาหัวเป็นประกันครับนาย' “ รีบไปช่วยชีวิตสองผัวเมียนั่นให้เร็วที่สุด กูมีรางวัลให้อย่างงามเลย” กรวลัยเดินตามหลังเลอสรรต้อยๆแลดูสูญเสียความเป็นตัวเอง สายป่านและสามียืนมองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ในใจว่ากรวลัยจะตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ “เอาล่ะ เราสองคนปรับความเข้าใจกันได้แล้ว เอาเป็นว่า เราแยกกันตรงนี้เลยนะครับ” “ไม่ ไม่จริง กำไล ทำไมแกตัดสินใจแบบนั้น” “ฮึก ป่าน ฉันขอโทษ” “กำไล เธอโดนบังคับใช่มั้ย บอกฉันมา” “โถๆ ไม่เอาสิครับคุณภูผา อย่าทำเกรี้ยวกราดแบบนั้น เดี๋ยวคนอื่นพาลคิดไปไกลว่าคุณน่ะ คิดอะไรเกินเลยไปกว่าเจ้านาย .. กับสาวใช้” “ไอ้#%...!!” “อย่าๆค่ะคุณภูผา ไม่เอา อายเค้า” สายป่านดึงรั้งชายเสื้อสามีเอาไว้เมื่อบริเวณโดยรอบเริ่มมีผู้คนหันมาสนใจ “เป็นอันว่าจบๆกันแล้วนะครับ ผมกับกำไล ขอตัวก่อน” เลอสรรขยิบตาส่งรอยยิ้มเหี้ยมเย็นแล้วกระชากแขนกรวลัยจนตัวปลิว “มันจะมากไปแล้วนะคุณเลอสรร ฉันรู้ว่านังกำไลเพื่อนฉันมันไม่ได้เต็มใจสักนิด ไม่ว่าคุณจะขู่อะไรกำไลอยู่ หัวเด็ดตีนขาดยังไงกำไลก็ต้องกลับไร่ภูผาค่ะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ปล่อยเรื่องข่มขืนนี้ให้คุณลอยนวลแน่ ต่อให้ต้องเทียวขึ้นศาลกี่ปี ฉันก็ไม่ถอย” แววตากลมโตเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของสายป่านนั้นทำให้กำไลซาบซึ้งเหลือเกิน แต่จะทำอย่างไรได้เล่า แปะๆๆ "ทั้งสวย และเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ สมแล้ว ที่ได้เป็นเมียนายภูผา ...ดี งั้นรบกวนคุณสองผัวเมียช่วยไปเป็นพยานให้เราด้วยนะครับ” “เดี๋ยวๆ นั่นคุณจะพาเพื่อนฉันไปไหน” ร่างกำยำลากหญิงสาวชาวไร่ร่างเล็กจนตัวปลิวเดินหายเข้าไปในสำนักงานเขตซึ่งอยู่ข้างๆสถานีตำรวจ สายป่านรีบวิ่งตามเพื่อนสาวเข้าไปด้วยความเป็นห่วงแต่สามีเธอนั้นเดินอมยิ้มตามเชื่องช้าอย่างคาดเดาในความคิดของเลอสรรออก สายป่านยืนอึ้ง อ้าปากค้างชะงักงันเมื่อเลอสรรพากำไลไปจดทะเบียนสมรส เธอรีบเปิดซองเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวของกรวลัยให้เจ้าหน้าที่โดยไว ทุกอย่างมันรวดเร็วเกินจะตั้งตัวทัน จำต้องเออออห่อหมกไปด้วย ส่วนกรวลัยนั้นเอาแต่นั่งนิ่งคาดเดาความคิดของเลอสรรไม่ออกเอาเสียเลย แต่เมื่อเสียงเข้มตวาดเธอเบาๆมือบีบแขนเธอแน่นเชิงบังคับให้เซ็นชื่อ หล่อนจำต้องก้มหน้าเซ็นชื่อกลายเป็นภรรยาของเลอสรรไปโดยปริยาย เมื่อทุกอย่างเสร็จสรรพ เลอสรรลากแขนพากรวลัยขึ้นรถเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้สายป่านยืนโบกมือค้างด้วยความงุนงง “ทำไมเรื่องมันกลับกลายเป็นแบบนี้คะ” “หึ ไอ้เลอสรรมันเจ้าเล่ห์จะตาย มันไม่ยอมเสียชื่อเสียงเรื่องข่มขืนหรอก” “ป่านไม่ยอม คุณต้องช่วยเพื่อนป่านนะคะภูผา” “ไม่เอาน่าที่รัก ถึงยังไง มันก็ยอมจดทะเบียนสมรสกับเพื่อนคุณแล้ว นั่นก็แสดงว่า เราไม่ไม่สิทธิ์ไปก้าวก่าย” ผู้ชายด้วยกันพอเดาความคิดออกหรอก แต่สถานการณ์จะผันแปรไปในรูปแบบใด ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับคนทั้งสองและก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อเป็นตัวแปรสำคัญให้ทุกอย่างจบแบบสวยงาม ……………………………. เลอสรรขับรถรวดเร็วน่าหวาดเสียวทำเอาเจ้าหล่อนที่นั่งข้างๆหัวใจแทบวาย เธออยากจะเอ่ยปากถามว่าเขาจะพาไปไหนแต่เมื่อมองดูแววตาน่ากลัวแล้วก็ไม่กล้าปริปากใดๆ ทำได้แค่นั่งตัวสั่นยอมให้เขาขับรถไปตามอำเภอใจนานหลายชั่วโมงจวนเจียนจะค่ำจึงขับเข้ามาในเขตไร่เลอสรร รถแล่นผ่านขับฝ่าคนงานในไร่ที่เดินถือเครื่องไม้เครื่อมือกลับไปยังที่พัก สายตาหวานปนเศร้ากระพริบตาปริบๆมองคฤหาสน์หลังใหญ่ผ่านเลยไปพบไร่ข้าวโพดไกลสุดลูกหูลูกตาเรื่อยผ่านมาจนถึงคอกม้าและสนามแข่ง เลอสรรยังคงขับรถผ่านไปเรื่อยๆกระทั่งเข้าเขตป่ารกทึบมีต้นไม้ใหญ่แน่นหนา “คะ คุณจะพาหนูไปไหนคะ” ที่สุดเธอก็ต้องเอ่ยถาม เมื่อบรรยากาศเริ่มครึ้มมีเมฆปกคลุมหนาแน่น ลมด้านนอกพัดแรงต้นไม้น้อยใหญ่ไหวเอน เลอสรรหักเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆตรงป่าละเมาะท้ายไร่ เอี๊ยดดด “โอ๊ยย” หน้าผากนูนโขกกับคอนโซลรถไม่ทันตั้งตัว “ถามทำไม ออ หรือเธอคิดว่าฉันจะพาเธอไปอยู่ที่เรือนใหญ่น่ะหรือ?หึ ฝันสูงเกินไปแล้วกรวลัย เพราะฆาตรกรอย่างเธอ เหมาะกับป่าแบบนี้มากกว่า” สายตาคมดุส่อแววหื่นกระหายโลมเลียกระโปรงสั้นถกขึ้นมองเห็นต้นขาขาว กำไลรีบดึงชายกระโปรงลมหายใจเริ่มติดขัดสายตาสอส่องมองหาทางหนีทีไล่ “คิดจะหนีฉันเหรอ” “ปะ ปล่อยหนูเถอะนะคุณเลอสรร" “ฉันอุตส่าห์ลงทุนจดทะเบียนสมรสแล้ว มันต้องมีค่าตอบแทนสิ” มือใหญ่นาบเข้าที่เนินเนื้อบดคลึงผ่านเนื้อผ้าทำให้จนเจ้าของร่างบางเจ็บแปลบ “ไม่ ไม่ อื้อ อย่าค่ะ หนูกลัวแล้ว หนูเจ็บ” “คงจะบอบช้ำมากสินะ ไหนขอดูหน่อยสิ” เธอไม่อาจจะขัดขืนเขาได้ จึงยอมให้ซาตานร้ายทำตามแต่ใจ เลอสรรถอดแพนตี้ตัวจิ๋วออกแล้วยกขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นวางเบาะนั่งเป็นรูปตัวเอ็ม ปลายนิ้วลากแตะผ่านรอยแยกไม่อาจอดใจไหวจึงก้มหน้าลงต่ำถกกระโปรงขึ้นถึงสะโพกมองเห็นภาพกลีบกุหลาบสีสวยบวมเป่งมีรอยฉีกขาดด้วยน้ำมือเขา “จุๆๆ สวยมาก” เขาครางเสียงแผ่วภายในลำคอ ปลายนิ้วกดบี้เม็ดดิ่งเบามือสุด “อ๊าส์” กรวลัยสะดุ้งโหยงยกสะโพกหนีมือร้ายไม่พ้นทำได้แค่หลับตาปี๋แล้วเผลอครางเสียงดัง เลอสรรยกยิ้มพอใจเมื่อน้ำใสๆไหลเยิ้มออกมา ครื้นนนนนนน...เปรี้ยงงงง เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วไร่ ตามด้วยเสียงฟ้าผ่าปนแสงแปลบปลาบ ไม่นานฝนเทกระหน่ำลงมา เลอสรรถอยมือออกจากกึ่งกลางกายสาวหันมาจับพวงมาลัยเคลื่อนตัวรถออกไปเส้นทางใหญ่ มีผู้คนพลุกพล่านวิ่งหลบฝนกันจ้าระหวั่น ส่วนเจ้าของไร่หนุ่มผู้หื่นกระหายนั้นยังคงตามไปลูบไล้เนินเนื้อสาวเจ้าที่เอาแต่นั่งขดตัวด้วยความกลัว กลัวทั้งฟ้าร้องและเขานั่นแหละ “แบะขาออก” “อื้อ” “ฉันสั่งให้แบะขาออก!!” เลอสรรลอบยิ้มเมื่อเธอยอมทำตาม มือขวาบขังคับพวงมาลัย หากแต่มือซ้ายสาละวนลูบไล้จ้วงแทงกุหลาบงามจนเปียกลื่นจังเจาะแจะ “อื้อส์ ซี้ดดด ยะ อย่าคะ” แจ๊ะๆๆ "อ๊าส์ อู้ยยยส์ซีดดดส์" “อ่าส์ เอาแม่งตรงนี้เลยมั้ยวะ” เลอสรรเริ่มอดใจไม่ไหว มองดูผู้คนตามถนนมองหาที่หลบมุมเพื่อปลดปล่อยความกระสัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม