ชัชวาลขับบิ๊กไบค์คู่ใจวนหากรวลัยด้วยความเป็นห่วง เมื่อแอบทราบมาว่ามือปืนที่แอบดักยิงยังไม่เจอเธอ
แล้วเธออยู่ไหน?
เขาจะต้องรีบหากำไลให้เจอก่อนพวกนั้น
ชัชวาลขับรถแข่งกับสายฝนไปเรื่อยๆ แต่แล้วโชคชะตาก็เข้าข้าง เมื่อพบหญิงสาวร่างบางกำลังเดินเท้าเปล่าผ่าสายฝนเหมือนกับคนบ้า และแน่นอน เขาจำเธอได้ดี
“กำไล!!"
ร่างสูงโปร่งรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหาเธอ
“ยะ อย่าเข้ามานะ อย่า อย่า”
“กำไล นี่ผมเอง”
“ไม่ อย่าเข้ามา อย่ามายุ่งกับฉัน” กำไลปัดมือที่วางบนหัวไหล่เธอออก
“โอเคๆ ผมไม่แตะคุณก็ได้ แต่ไปหลบฝนก่อน”
“ไม่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือๆ ฉันกลัวแล้ว”
“ตั้งสติหน่อยเซ่! กำไล ฉันไม่ได้มาทำร้ายเธอ รีบไปหลบฝนเดี๋ยวนี้”ชัชวาลตะคอกเสียงดังเพื่อดึงสติจนหล่อนจำยอมขึ้นรถไปกับเขาด้วยท่าทางไม่ไว้ใจในที
เมื่อพาเธอเข้ามาหลบฝนที่ศาลาข้างทาง ร่างสูงโปร่งยืนกอดอกมองหญิงสาวนั่งร้องไห้ตัวสั่นเทาเสื้อผ้าผมเผ้าเปียกลู่ ดวงตาบวมเป่งเพราะคงร้องไห้มาอย่างหนักเหมือนไปเจอกับอะไรมาสักอย่าง มันคงจะหนักหนามากจนออกอากการถึงขั้นนี้
“รอให้ฝนซากว่านี้ ผมจะไปซื้อเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนนะ”
ชายหนุ่มกลัวว่าหากออกไปหาเสื้อผ้ามาให้เธอตอนนี้ หล่อนจะรีบหนีเตลิดไปไกล
“กำไล มีอะไรให้ผมช่วย บอกได้นะ”
“......”
“คุณเป็นอะไร ไปเจออะไรมา บอกผม ผมจะช่วยคุณ อย่าเงียบแบบนี้”
“.....”
“เห้อ” ชัชวาลยืนพิงเสาศาลาอย่างเหนื่อยใจ
“ช่วยโทรหาสายป่านได้ไหมคะ?” เธอขอความช่วยเหลือเสียงแผ่วแต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเขา
..........................
สายป่านรีบวิ่งเข้าไปโอบกอดเพื่อนรักจากด้านหลัง ยิ่งทำให้กรวลัยร้องไห้โฮออกมาสุดจะกลั้น ภูผาและชัชวาลยืนมองสองสาวนั่งกอดกันร้องไห้ด้วยความรู้สึกหดหู่ สักพักชัชวาลขอตัวกลับก่อนด้วยความเข้าใจดีว่ากำไลอาจจะไม่สะดวกเล่าเรื่องราวให้สายป่านฟังได้เต็มที่หากมีเขายืนอยู่
“กำไล ฉันขอโทษ ฮือๆ ฉันขอโทษ”
“ฮือๆ ไม่เป็นไรหรอกป่าน แกไม่ได้ทำอะไรผิด ฮึก ป่าน ฉันขออะไรสักอย่างได้ไหม ..แกอย่าเพิ่งบอกใครๆว่าฉันออกมาจากคุกแล้ว หรือแม้แต่พ่อแม่ฉันก็เถอะ”
“โธ่ นังกำไล”
“นะป่านนะ ขอร้อง ..ฮึกๆ”
เรื่องที่เธอถูกเจ้าของไร่เลอสรรข่มขืน จะมีเพียงแค่สายป่านกับภูผาเท่านั้นที่รู้ พ่อแม่ของเธอจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด สู้ให้พวกท่านคิดว่าเธอยังอยู่ในคุกยังดีกว่าทราบข่าวว่าลูกสาวถูกกระทำย่ำยี
.......................
ปึงง
“บ้าจริง พวกมึงทำงานกันยังไงวะ”
เสี่ยชัชชายทุบโต๊ะระบายความโกรธที่ลูกน้องทำงานพลาด
“เอ่อ คือ คุณเลอสรรชิงตัวนังเด็กนั่นไปก่อนครับ”
“ห่ะ ว่าไงนะ ไอ้เลอสรรน่ะเหรอ?"
“ครับนาย พวกเราตัดสินใจขับรถวนวนหาอีกที ก็พบว่ามันอยู่กับนายภูผาและภรรยาแล้วครับ”
“โธ่เว้ยยย งั้น ถ้าตามตัวลูกมันยากนัก ก็ไปจัดการตัวพ่อตัวแม่มันแทนแล้วกัน”
ใบหน้าเหี่ยวย่นออกคำสั่งใหม่ โดยใช้พ่อแม่กรวลัยเป็นตัวล่อให้ลูกสาวพวกมันออกมา แต่เมื่อลูกชายตัวดีเดินผ่านเคาท์เตอร์ดื่มเหล้า ผู้เป็นพ่อต้องรีบหันขวับมองตาม
“นี่ ไอ้ชัช นั่นทำไมแกเปียกยังกับหมาแบบนั้น”
“ช่างผมเหอะพ่อ”
“นี่ ไอ้ลูกไร้สาระ พ่อถามแกต้องหยุดคุยโว้ย”
“ผมเปียกครับ ไม่สะดวกคุย ว่าแต่พ่อเถอะ คุยอะไรกันอยู่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม ท่าทางจะมีเรื่องสำคัญนะครับ” ชัชวาลหรี่สายตามองผู้เป็นพ่อรู้สึกสะใจในทีที่แผนการการกำจัดกรวลัยไม่สำเร็จ
“ไปๆ จะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไป” เสี่ยใหญ่โบกมือไล่ลูกชายทีไม่เอาอ่าว เขาอดคิดถึงน้ำชาลูกสาวคนเก่งไม่ได้ ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่คิดถึงเลยจริงๆ ลูกสาวสุดที่รักเสียชีวิตด้วยสภาพที่เละจนแทบจะจำไม่ได้ยังติดตาเขา
“นังกรวลัย มันต้องตายสถานเดียว” ชัชชายยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดด้วยสายตาอาฆาตแค้น
.....................................
สายป่านเดินจูงมือเพื่อนสาวเข้าไปในสถานีตำรวจด้วยความมุ่งมั่น และเอกสารมากมายเต็มมือ เมื่อวานเธอนำยาคุมฉุกเฉินให้กำไลทานพร้อมพาเพื่อนรักไปตรวจภายในเพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวเลอสรรมาลงโทษเสียให้เข็ด รู้ว่าคงยากที่จะทำให้นายนั่นเข้าคุกจึงต้องเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ทั้งผลตรวจร่างกาย หรือแม้แต่เชื้ออสุจิของเขาตรงช่องคลอดของกรวลัยก็เช่นกัน
“ป่ะ กำไล”
“แก ฉัน ฉันไม่กล้า” ใบหน้าเรียวสวยซีดเผือดเอาแต่ก้มหน้างุด สวมแว่นดำปกปิดแววตาที่เศร้าหมอง มือดึงรั้งแขนสายป่านอย่างหวาดหวั่น
“ไม่ต้องกลัวว่านายเลอสรรนั่นจะทำร้ายแกหรอกกำไล อย่าลืมสิ ว่าสามีฉันก็ไม่ได้ไก่กา ไม่ต้องกลัว เชื่อฉัน เพื่อป้องกันเหตุการณ์จะเกิดซ้ำ เราต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด รับรองนายเลอสรรนั่นจะไม่มาตอแยแกอีกแน่”
“ออ งั้นหรือครับ”
สองสาวสะดุ้งโหยงราวกับเจอผี เมื่อจู่ๆเลอสรรปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของพวกหล่อน กรวลัยก้มหน้างุดมือสั่นเทาแค่มองเห็นรองเท้าของเขาเธอก็กลัวจนขนลุก สายป่านบีบมือเพื่อนสาวแน่นแล้วเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้าคนผิดอย่างไม่เกรงกลัว
“ก็ดี ฉันกำลังจะพาหล่อนไปแจ้งความเอาผิดคนที่มันข่มขืนผู้หญิงไม่มีทางสู้ มีหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ นายเลอสรร”
เลอสรรหันหลังขวับไปมองผู้มาใหม่ที่ชื่อว่าภูผา แล้วแค่นยิ้มออกมา
“ผมว่าคงจะเป็นการเข้าใจผิดกันนะครับ คุณไม่คิดบ้างเลยเหรอ ว่าผมอาจจะรักเธอจริงๆก็ได้ ผมก็ไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้จักร้านขายถุงยาง หรือไม่ได้บ้าพอจะเอาขืนใจสาวใช้ของคุณ เว้นเสียแต่ว่า รัก..” เลอสรรอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่มีความจริงใจต่อหล่อนเอาเสียเลย
“ไอ้นี่!!”
“หยุดค่ะคุณผา ใจเย็นๆนะคะ” สายป่านรีบกุมกำปั้นห้ามสามีเอาไว้ ไม่มีใครโง่จะเชื่อคำพูดนายเลอสรรหรอกนะ ทุกคนดูออกว่าเลอสรรกำลังหาช่องทางเอาตัวรอดจากคดีที่กำลังจะทำลายชื่อเสียงตัวเองอยู่
“กำไลจ๋า เมื่อวานรีบวิ่งหนีผัวไปทำไม ผัวขับรถวนหาจนทั่วเมืองก็ไม่เจอแน่ะ ผมว่า เรามาคุยกันก่อนนะ”
“ไม่มีทางที่ฉันจะยอมปล่อยให้กำไลคุยกับคุณหรอกค่ะคุณเลอสรร”
“ผมว่า ให้เธอตัดสินใจเองจะดีกว่าไหมครับ คุณนายสายป่าน ... กำไล ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับเธอ มันสำคัญถึงขั้นที่เธอจะเสียใจตลอดชีวิต หากไม่ยอมไปคุยกันดีๆ” เลอสรรเปล่งน้ำเสียงเย็นเฉียบด้วยคำขู่กลายๆสายตาของเขาเพ่งมองมองเธอน่ากลัว อดเป็นห่วงพ่อแม่ไม่ได้จนกำไลจำต้องเดินตามเขาไปคุยกันในรถอย่างเลี่ยงไม่ได้
.....
“เราคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่คะ ที่ปล่อยให้กำไลคุยกับนายนั่น ดูร้ายกาจน่ากลัวจริงๆ ป่านเป็นห่วงเพื่อนเหลือเกินค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มันคงไม่กล้าทำอะไรในที่แบบนี้หรอก เชื่อผม”
ภูผายืนกอดอกมองดูเลอสรรและกรวลัยที่นั่งคุยกันในรถระยะไม่ถึงร้อยเมตร
....................
“ไง นังตัวดี จะแจ้งความจับฉัน คิดดีแล้วหรือ”
“.........”
“หึ เงียบ ทีแบบนี้แสร้งตีหน้าซื่อ ทำเป็นกลัวฉัน รู้มั้ยกำไล ว่าตอนนี้ พ่อแม่เธอทำอะไรอยู่?
“หมายความว่ายังไง อย่านะคะ พวกท่านไม่เกี่ยว หนูขอล่ะ อย่าเอาพ่อแม่หนูมาต่อรอง”
“เห็นทีว่าจะไม่ทันซะแล้วสิ”
กรวลัยอ้าปากหวอเมื่อมองดูภาพในมือถือเขา พ่อแม่เธอกำลังโดนจับปิดตามัดมือมัดเท้าเอาไว้กับยางรถยนต์ แถมมีเสี่ยชัชชวาลย์กำลังยืนอยู่ๆข้าง
“ไม่ ยะอย่า อย่าทำพ่อแม่หนู ฮือๆ”
“ชู่ววว ใจเย็นๆ สาวน้อย นั่นไม่ใช่ฝีมือฉัน เธอก็เห็นเสี่ยชัชชายอยู่ทนโท่ รีบๆตัดสินใจมา ว่าจะขอความช่วยเหลือจากฉัน หรือยังคงจะเดินหน้าไปแจ้งความจับฉัน เลือกเอา กำไล”
“ฮึก.. คุณมันเลว”
“ดูสิกรวลัย เห็นนายภูผาเจ้านายเธอมั้ย ตอนนี้มันกำลังเดินเลี่ยงออกมารับสาย ฟังข่าวร้ายจากคนงานในไร่ เรื่องที่มีคนบังอาจมาจับตัวพ่อแม่เธอถึงที่ หนำซ้ำยังเผาโรงม้าจะวอด หึ ไม่เชื่อก็ดูสีหน้าไอ้ภูผาสิ”
“เลว สารเลว”
“จุๆๆๆ ฉันรู้ ว่าไอ้ภูผามันก็เก่งใช่ย่อย แต่เธอจะทำให้คนรอบข้างต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอคนเดียวไม่ได้ และอีกอย่าง ไม่รู้ว่าเสี่ยชัชชายจะลั่นไกใส่หัวบุพการีเธอตอนไหนนี่สิ ฟิ่ววว” เลอสรรเป่าลมเข้าหูเธอเบาๆ
“คุณ ..ฮึก คุณต้องการอะไร”
“แค่เธอล้มเลิกการแจ้งความบ้าๆนั่น แล้วไปอยู่ที่ไร่เลอสรรซะ