ตอนที่ 4 : เกือบล้ำเส้น

3239 คำ
“กูบอกว่าให้พอ! พอแล้วไปนอน!” “ไม่เอาไม่นอน กูจะกินเหล้า มึงอย่ามาห้ามกูได้ไหมล่ะฟลินต์!” ร่างบางร้องโวยวายออกมาตามประสาคนเมาไม่ได้สติ มือเรียวพยายามยื้อแย่งแก้วเหล้าจากมือของชายหนุ่มกลับมา แต่ฟลินต์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้หญิงสาวได้แก้วเหล้าไปง่ายๆ “กูบอกให้พอไงน่าน ตัวมึงแดงหมดแล้ว!” ฟลินต์ตะคอกน่านฟ้าอย่างเหลือทน นัยน์ตาคู่คมไล่สายตาสบมองร่างบางตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ตอนนี้ร่างกายของเธอมันแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เธอนั้นดื่มมันเข้าไปมากซะจนร่างกายเริ่มแสดงอาการเตือนว่าให้พอได้แล้ว แต่หญิงสาวก็ยังดื้อรั้นพยายามจะกินมันอยู่อย่างนั้น ใบหน้าสวยที่แดงก่ำไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ช้อนสายตามองใบหน้าเพื่อนสนิทอย่างฟลินต์ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เริ่มฟังไม่รู้เรื่อง “ม่ายยย กูยังอยากกินอยู่เลยอ่า กูยังไม่เมาเลยสักนิดดด~” “มึงเลิกดื้อซะที! อย่าให้กูต้องหมดความอดทนกับมึงน่าน!” “กูพยายามใจดีกับมึงแบบสุด ๆ แล้วน่านฟ้า!” ฟลินต์กัดฟันเอ่ยออกไปด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล อารมณ์โมโหของเขาค่อย ๆ ปะทุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากน่านฟ้ายังไม่หยุดดื้อรั้นใส่เขาแบบนี้ เขาอาจจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จนทำอะไรที่ไม่ควรทำลงไป “มึงไม่เคยใจดีกับกูเลย! ใจร้าย! ชอบห้ามชอบว่า..” “เอาแต่ว่าแล้วก็ว่า ไม่เคยจะพูดอะไรดี ๆ กับกูเลย!!” “ทำไมมึงไม่ใจดีให้เหมือนพี่ครามเขาบ้างล่ะ! หัดใจดีให้เหมือนพี่ครามเขาบ้าง!” ร่างบางตะโกนบอกร่างสูงอย่างคนไร้สติและเธอไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอนั้นเป็นชนวนที่ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าหมดความอดทนในทันที เพราะการที่เธอเอาเขาไปเปรียบเทียบกับผู้ชายที่เธอรักมันเหมือนกับว่าเขากำลังถูกสะกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่ภายในหัวใจของเขาตลอดมา “เพราะกูไม่ใช่ไอ้เหี้ยนั้นไง เพราะกูไม่ใช่มัน!” มึงถึงไม่เคยรักกูเลย ประโยคสุดท้ายฟลินต์ได้แต่พูดอยู่ภายในใจ เพราะมันคือสิ่งที่ค้างคาอยู่ภายในใจเขาตลอดมา เพราะเขาไม่ใช่ครามเธอถึงไม่เคยรักเขา และที่หนักไปกว่านั้นเธอไม่เคยมีเขาอยู่ในหัวใจเลยต่างหาก มีแต่เขาที่เป็นบ้าคิดกับเธอเกินคำว่าเพื่อนอยู่ฝ่ายเดียว “อย่ามาเรียกพี่ครามของกูว่าไอ้เหี้ยนั้นนะฟลินต์! นิสัยไม่ดีเลยไอ้เพื่อนบ้า!!” ร่างบางพยายามปรือตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นพลางชี้นิ้วไปตรงหน้าชายหนุ่ม ฟลินต์ขบกรามตัวแน่นจนขึ้นเป็นสันนูนพลางเอื้อมมือไปกระชากเรียวแขนของน่านฟ้าเอาไว้ “โอ๊ยย! เจ็บ!” น่านฟ้าร้องอุทานออกมาใบหน้าสวยนั้นเหยเกไปด้วยความเจ็บระบมที่เรียวแขนของตัวเองหลังจากที่ถูกกระชากและบีบเอาไว้อย่างแรง “อยากกินมากใช่ไหมเหล้าเนี้ย” “ถ้ามึงอยากกินมากเดี๋ยวกูจัดให้!!” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกไปอย่างเหลือทน เขาเลื่อนมือไปจับเอวของหญิงสาวเอาไว้พร้อมกับยกตัวเธอให้ขึ้นมานั่งคร่อมที่ตักของเขา น่านฟ้าที่อยู่ในอาการเมามายพยายามประคองสติของตัวเองที่เหลืออยู่น้อยนิดพร้อมกับขยับตัวดิ้นรนให้ตัวเองหลุดพ้นออกไปจากตักแกร่งแต่ความพยายามของเธอก็ไร้ประโยชน์เพราะฟลินต์ในตอนนี้เขาไม่มีทางปล่อยให้หญิงสาวหลุดออกไปจากตักของเขาได้ง่ายๆ …ฟลินต์คว้าขวดเหล้าอีกขวดขึ้นมาพร้อมกับกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปรั้งใบหน้าของหญิงสาวเอาไว้แล้วประกบปากจูบริมฝีปากบางอย่างจงใจในทันที “อื้อ!! O_O!” น่านฟ้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจมือเรียวพยายามผลักไสอกแกร่งกำยำหลายต่อหลายที แต่ฉับพลันเธอก็รับรู้ได้ถึงรสชาติของแอลกอฮอล์ที่กำลังไหลรินเข้าไปภายในริมฝีปากของเธอ ร่างบางพยายามเรียกสติอันน้อยนิดของตัวเองกลับมา แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ง่ายแบบนั้นเพราะความวาบหวิวค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาเล่นงานเธอทีละนิดทีละนิด จนทำให้เธอนั้นเผลอไผลปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสที่ฟลินต์กำลังมอบให้ด้วยความเร่าร้อน “อ๊ะ...” เสียงหวานหลุดครางในลำคอ ริมฝีปากอมชมพูกำลังถูกบดเคล้าอย่างหนักหน่วงจากชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอ มือเรียวที่พยายามดันแผงอกกำยำในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเลื่อนขึ้นไปโอบต้นคอแกร่งเอาไว้พร้อมกับเบียดเต้านมอวบใหญ่แนบชิดกับแผงอกของชายหนุ่มอย่างลืมตัว..จากที่แค่ตั้งใจจะลงโทษหญิงสาวที่กำลังดื้อรั้นใส่เขากลายเป็นฟลินต์ไม่อาจหักห้ามใจของตัวเองเอาไว้ได้ ชายหนุ่มบดเคล้าริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงสลับกับดูดดึงและขบเม้มกลีบปากหวาน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีคูณความเร่าร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก น่านฟ้าที่ไม่หลงเหลือสติใดเธอเผยอริมฝีปากออกน้อย ๆ เพื่อรอรับสัมผัสจากปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่ม ไม่รอช้า ฟลินต์ส่งเรียวลิ้นเข้าไปภายในโพลงปากหวานพร้อมกับตวัดเลียเก็บเกี่ยวความหวานล้ำจากริมฝีปากบางอย่างโหยหา สองเรียวลิ้นตวัดเลียและโฉบเฉี่ยวกันไปมา ทั้งคู่ต่างมอบจูบที่เร่าร้อนให้กันและประกอบกับแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม แต่ในขณะเดียวกันมือหนาก็ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายที่สุดแสนจะเย้ายวนของน่านฟ้า ริมฝีปากร้อนถอนจูบออกเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวนั้นได้สูดอากาศหายใจเข้าปอดเพื่อรอรับรสจูบที่ร้อนแรงของเขา ฟลินต์ครอบครองเรียวปากหวานอีกครั้งและอีกครั้ง ลิ้นร้อนตวัดเลียไปรอบ ๆ ริมฝีปากบางก่อนที่เขาจะขบเม้มริมฝีปากล่างของเธออย่างหยอกเย้า… “อื้อ…” ร่างบางครางกระเส่าเมื่อมือหนาเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นเต้าอวบใหญ่ของเธอ เขาเคล้นคลึงเต้าอวบใหญ่อยู่อย่างนั้น ในขณะที่ริมฝีปากหยักก็ยังคงบดเคล้าเรียวปากของเธออย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้ง่าย ๆ เพราะแค่คิดว่าเขาเป็นชายคนแรกที่ได้ครอบครองริมฝีปากจิ้มลิ้มนี้ของเธอ หัวใจของเขาก็อิ่มเอมไปด้วยความสุขล้นแล้ว ฟลินต์ค่อย ๆ ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอขาวของหญิงสาว น่านฟ้าสะท้านเสียวไปทั่วกายยามที่ริมฝีปากร้อนจรดจูบไปทั่วลำคอระหง ขนอ่อนบนกายสาวตั้งชัน สัมผัสวาบหวิวที่กำลังเล่นงานท้องน้อยของเธอเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเธอมากไม่น้อย ฟลินต์ใช้ปลายลิ้นของตัวเองโลมเลียไปตามลำคอระหงของหญิงสาวก่อนจะขบเม้มเบา ๆ อย่างต้องการที่จะสร้างความสยิวให้แก่เธอ มือหนาที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างขาวอมชมพูของหญิงสาวจัดการดึงเดรสเกาะอกสีดำลงมากองไว้ที่เอวคอดกิ่ว ก่อนที่ความใหญ่โตของเต้าอวบที่ประดับด้วยยอดถันสีชมพูจะดีดเด้งปรากฏแก่สายตาของเขา… ลมหายใจอุ่นร้อนของชายหนุ่มนั้นเริ่มติดขัดขึ้นมาในทันทีเมื่อเขาได้เห็นเต้านมอวบใหญ่ตรงหน้าปรากฏแก่สายตา เขารู้มาตลอดว่าน่านฟ้าเป็นผู้หญิงที่มีหน้าอกค่อนข้างใหญ่ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะใหญ่และสวยงามได้ขนาดนี้ นัยน์ตาคมคายจ้องมองเต้าอวบตรงหน้าที่ตอนนี้ยอดถันของเธอกำลังชูชันเชิญชวนให้ลิ้นของเขานั้นได้สัมผัส “โคตรสวย…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกไปราวกับโดนมนต์สะกด ในขณะที่นัยน์ตาคู่คมยังคงจ้องมองเต้าอวบใหญ่ตรงหน้าด้วยความหื่นกระหาย "นมสวยฉิบ.." พูดจบริมฝีปากหยักก็ครอบครองยอดถันสีสวยนั้นอย่างอดใจไม่ไหว ความต้องการของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวมันพวยพุ่งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ และเขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะหยุดความต้องการที่อยากจะครอบครองหญิงสาวเอาไว้ได้อีกแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับน่านฟ้าที่ไม่หลงเหลือสติที่จะหักห้ามใจของตัวเอง เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสสวาทที่ฟลินต์กำลังมอบให้อย่างไร้สติ ร่างบางแอ่นเต้าอวบเข้าหาริมฝีปากร้อนอย่างเต็มอกเต็มใจพลางเชิดหน้าหลับตาพริ้มด้วยความสุขสม มือเรียวโอบประคองศีรษะของฟลินต์เอาไว้แน่นพลางส่งเสียงครางออกมาด้วยความรัญจวนใจที่เต้าอวบของเธอนั้นกำลังถูกโลมเลียและบีบขย้ำ “อ๊ะ..อื้ออ” ฟลินต์ดูดดึงยอดถันสีสวย สลับกับใช้ลิ้นตวัดเลียไปมาจนยอดถันของหญิงสาวแข็งสู้ปลายลิ้นร้อนของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ มืออีกข้างก็เคล้าคลึงเต้านมอีกข้างเพราะเกรงว่ามันจะน้อยใจกันหากไม่ทำให้เท่าเทียบ น่านฟ้าสะท้านเสียวไปด้วยฤทธิ์ของแรงสวาทที่ยอดถันของเธอนั้นกำลังถูกลิ้นร้อนละเลงเลียอย่างหื่นกระหาย มิหนำซ้ำยังถูกเขาดูดดึงยอดถันให้หยืดหยุ่นออกมาเล็กน้อยตามแรงอารมณ์ของชายหนุ่ม..ฟลินต์ยังคงมัวเมากับเต้านมอวบใหญ่ตรงหน้า เขาทั้งบีบ ทั้งขบกัดสร้างรอยอย่างลืมตัวก่อนที่เขาจะสอดมือไปใต้กระโปรงชุดเดรสของน่านฟ้าเพื่อสัมผัสไปที่ใจกลางสาว เขาใช้ปลายนิ้วกลางลากยาวไปตามรอยแยกของกลีบกุหลาบที่ยังมีกางเกงชั้นในขวางกั้นอยู่แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความฉ่ำแฉะของใจกลางสาวว่ามีน้ำหล่อลื่นไหลออกมามากมายจนมันเปียกชุ่มกางเกงชั้นใน... ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจเมื่อเห็นว่าหญิงสาวบนตักมีอารมณ์ร่วมกับเขาเต็มที่แล้ว หากวันนี้การที่เขาได้ครอบครองน่านฟ้าแล้วความเป็นเพื่อนของเธอและเขาต้องจบลง เขาก็ยอม เพราะเขาไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ฟลินต์ค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วของตัวเองแหวกกางเกงชั้นในเข้าไปสัมผัสความฉ่ำเยิ้มของกลีบกุหลาบงามที่ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัสมัน และตอนนี้เขาคือคนแรกที่กำลังจะได้สัมผัสความงดงามนั้น “น้ำโคตรเยอะเลยน่าน..” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกไปพลางเลื่อนสายตาขึ้นไปมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาวที่ยังคงเชิ่ดหน้าหลับตาพริ้มส่งเสียงครางยามที่เขาใช้ปลายนิ้วเขี่ยไปมาที่ร่องสาวของเธอ “อื้ออ...เสียว...” น่านฟ้าเกร็งหน้าท้องไปด้วยความเสียว เธอหลงลืมทุกอย่างไปชั่วขณะปล่อยให้กายกับใจของตัวเองถลำลึกไปกับสัมผัสสวาทของฟลินต์อย่างยากที่จะถอนตัวแล้วในตอนนี้ มือเรียวโอบกอดต้นคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่น ก่อนจะเป็นหญิงสาวที่เป็นฝ่ายโน้มใบหน้าของตัวเองจรดริมฝีปากบดเคล้าริมฝีปากหนา.. ฟลินต์รู้สึกพึงพอใจไม่น้อยที่หญิงสาวเริ่มปล่อยตัวไปใจให้กับเขา ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง ในขณะที่ปลายนิ้วยาวของฟลินต์ก็เลื่อนขึ้นไปสะกดเขี่ยติ่งเม็ดเสียวของหญิงสาวที่กำลังบวมเป่งจนได้ที ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ลากปลายนิ้วไปอยู่ที่รูรักของหญิงสาวหมายจะสอดนิ้วเข้าไปยังด้านใน “อุ๊บ! อุ๊บ!…” แต่แล้วร่างบางที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกำลังสัมผัสสวาทในตอนแรก ก็มีอาการพะอืดพะอมคล้ายกับอยากจะอาเจียนออกมา นัยน์ตาคู่คมตวัดมองอาการของหญิงสาวบนตักก่อนจะรับรู้ได้ในทันทีว่าหญิงสาวกำลังจะอาเจียนของมึนเมาที่ตัวเองกินเข้าไปออกมา…และไม่ทันที่ชายหนุ่มจะยกตัวร่างบอบบางออกไปจากตักสิ่งที่เขาคิดเอาไว้เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้น หญิงสาวอาเจียนของเหลวออกมาใส่แผงอกกำยำของเขาเต็มๆ " ให้ตายดิน่าน!!" ฟลินต์สบถออกมาอย่างหัวเสียพลางมองของเหลวที่เปรอะเปื้อนอยู่ที่แผงอกของเขาและมันกำลังจะไหลย้อยลงไปตามหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม อีกนิดแมร่งก็จะไหลลงไปที่เป้ากางเกงแล้ว! ชายหนุ่มทั้งหัวเสียและรู้สึกหงุดหงิดเพราะอารมณ์สวาทก่อนหน้ามลายหายไปจนหมดสิ้น แล้วดูแม่สาวตัวดีที่เป็นต้นเหตุให้เนื้อตัวของเขาต้องเปรอะเปื้อนไปด้วยอ้วกดันชิงหลับทิ้งตัวฟุบใบหน้าลงมาที่ไหล่ของเขาแล้ว “จะเอาแบบนี้จริงดิน่าน…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกไปอย่างคนที่ถูกขัดใจ วันนี้มันคือวันบ้าวันบออะไรของเขากัน มันเหมือนว่าเขากำลังถูกกลั้นแกล้งไม่ให้เสร็จสมตามอารมณ์ที่ต้องการได้แต่ปล่อยให้ท่อนเอ็นนั้นปวดหนึบอยู่อย่างนั้น และก็คงไม่พ้นมือของเขาที่จะช่วยปลดปล่อยให้ความอึดอัดในวันนี้ โลกสวยด้วยมือเขา คำนี้คงไม่เกินจริง... ฟลินต์ถอนหายใจออกมาก่อนจะช้อนแม่สาวตัวดีขึ้นมาอุ้มเอาไว้พร้อมกับพาเธอไปวางบนเตียงนอนคิงไซส์ แล้วจัดแจงเช็ดเนื้อเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ และขั้นตอนการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หญิงสาวนั้นเป็นอะไรที่สุดแสนจะวัดความอดทนของเขาที่จะไม่ทำอะไรคนที่นอนหลับไม่ได้สติ คิดดูว่าเขาต้องอดทนอดกลั้นขนาดไหนที่จะไม่ทำอะไรหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเปลื่อยเปล่าต่อหน้าเขา “ถ้าเธอไม่อ้วก วันนี้เราคงได้เปลี่ยนสถานะกันแล้วจริงๆ ...” ร่างสูงเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพลางพินิจดวงหน้าสวยของหญิงสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ถ้าน่านฟ้าไม่อ้วกและหมดสติหลับไป เขาบอกได้เลยว่าเขาคงไม่ได้หยุดตัวเองและความสัมพันธ์ของเขาและเธอคงเปลี่ยนไปตลอดกาล แต่ตอนนี้พอสติกลับคืนความรู้สึกลังเลและสับสนก็วิ่งแล่นวนเวียนอยู่ภายในความคิดของเขาอีกครั้ง ตอนอารมณ์อย่างว่ามันครอบง่ำจิตใจ เขาคิดแต่เพียงว่าเขาต้องการครอบครองหญิงสาวตอนนั้นและเดี๋ยวนั้น เขาต้องการเธอมาเป็นสมบัติส่วนตัวที่ห้ามใครแตะต้อง แต่ตอนนี้เขากลับคิดว่า ถ้าเกิดว่าเขากับน่านฟ้าเลยเถิดมีอะไรกันจริงๆ เขาอาจจะไม่ได้เสียแค่ความเป็นเพื่อน แต่เขาอาจจะเสียน่านฟ้าไปเลยก็ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ใจนึงก็อยากครอบครอง อีกใจก็กลัวว่าต้องเสียเธอที่รักไป “หลับสบายใจเลยนะยัยตัวแสบ…” ฟลินต์เอ่ยออกไปด้วยความรู้สึกที่สิ้นหวัง พร้อมกับก้มลงมองที่เป้ากางเกงนอนของตัวเองที่แท่งร้อนกำลังดุดดันกางเกงนอนออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงได้ง่ายๆ “กูคงต้องกลับมาใช้มือจริงๆ แล้วสินะ…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาใช้มือช่วยตัวเองนี่มันนานมากจนเขาแทบจำไม่ได้เลยจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เขามีอารมณ์ทางเพศ เขาก็แค่โทรตามหญิงสาวสวยๆ ขึ้นมาบริการถึงบนห้อง แต่วันนี้ทุกอย่างกับไม่เป็นใจเขาเลยสักอย่าง เช้าวันต่อมา ภายในห้องนอนโทนสีทึบ สองหนุ่มสาวนอนอิงซบตระกองกอดกันไว้ตลอดทั้งคืน ในขณะที่เจ้าของใบหน้าที่งดงามยังคงหลับตาพริ้มอยู่ในห้วงนิทรา แต่ทว่าเพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น หญิงสาวก็สะดุ้งตัวตื่นหลุดออกมาจากภวังค์ของความฝัน นัยน์ตาคู่สวยนั้นเบิกกว้างและสั่นไหวไปด้วยความรู้สึกมากมาย อารมณ์ของเธอยังคงคั่งค้างอยู่กับเรื่องราวในความฝันที่ทำให้เธอนั้นนอนหลับใหลไม่ยอมตื่น… “ฝะ ฝันบ้าอะไรเนี้ยน่าน…” หญิงสาวพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก แก้มนวลนั้นเห่อแดงออกมาราวกับถูกอังด้วยของร้อน… และความฝันนั้นของหญิงสาวยิ่งทำให้เธอ รู้สึกวาบหวามอยู่ภายในใจ… ยิ่งคิดก็ยิ่งอายตัวเองเพราะในห้วงความฝันของเธอนั้น เธอฝันว่าเธอกำลังมีอะไรกับเพื่อนสนิทของเธออย่างฟลินต์ด้วยความเร่าร้อน… มันเร่าร้อนซะจนสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นของเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามใบหน้าของหญิงสาว และที่น่าอับอายไปกว่านั้นเธอรับรู้ได้ถึงของเหลวบางอย่างที่กำลังฉ่ำเยิ้มอยู่ภายใต้กางเกงชั้นใน “บ้า บ้าไปแล้ว…” เสียงหวานเอ่ยออกไปอย่างตะกุกตะกัก นัยน์ตาคู่สวยสั่นระริกไปด้วยความรู้สึกมากมายที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก “ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ถึงฝันแบบนั้นกับฟลินต์…” “โอ๊ยย! ทำไมแกถึงฝันทะลึ่งแบบนี้เนี้ย…” หญิงสาวโอดครวญออกมาอย่างรู้สึกกระดากอายกับความฝันของตัวเอง… แต่ให้ตายเถอะ เธอไม่สามารถหยุดคิดได้เลย ภาพในฝันยังคงชัดเจนเหมือนเกิดขึ้นจริง ภาพที่ฟลินต์กำลังขยับเขยื้อนสะโพกหนากระแทกกระทั้นตรงส่วนนั้นใส่เธอ ภาพมันแจ่มชัดเหมือนกับว่าเกิดขึ้นจริงๆ " ฮื่ออ ทำไมหยุดคิดไม่ได้เลยนะ " มือเรียวเลื่อนขึ้นมาขยุ้มเรือนผมสวยของตัวเองอย่างคนที่กำลังเขินอายกับสิ่งที่ตัวเองฝันถึง “ บ่นอะไรแต่เช้า…” แต่ทว่าเสียงทุ้มต่ำของฟลินต์ก็เอ่ยดังขึ้น น่านฟ้าเบิกตากว้างขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะหันขวับไปมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างกายด้วยความรวดเร็ว… และทันทีที่เธอได้เห็นใบหน้าของฟลินต์ แก้มนวลก็เห่อร้อนขึ้นเม็ดสีชมพูระเรื่อในทันทีบ่งบอกถึงความเขินอายของเธออีกครั้ง… ยิ่งเห็นหน้าเขา ภาพในฝันก็ยิ่งลอยเข้ามาและหัวใจของเธอก็กำลังเต้นรัวไม่ต่างอะไรกับกลองชุดเลย “ฟะ ฟลินต์…” เสียงหวานเอ่ยออกไปด้วยความตะกุกตะกัก นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลสั่นไหวไปด้วยความรู้สึกมากมาย พลางคิดไปว่าสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอตอนนี้มันเป็นแค่เพียงความฝัน แค่ความฝันเท่านั้น โลกสวยด้วยมือของเราาาาา ~~?? ตื่นมาก็เลิ่กลั่กกันเลยทีเดียว อีกคนก็ฝัน อีกคนก็ทำไว้จริง ๆ เมื่อคืน ?? เจอกันตอนต่อไปนะคะทุกคนนน ขอกำลังใจให้ไรท์กับคู่นี้หน่อยน้าาา ???
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม