“ก็กูบอกแล้วว่ากูจะไม่ไปดูตัวบ้าบออะไรทั้งนั้น กูไม่ได้เหมือนมึงที่ทำตามคำสั่งแม่กับย่าทุกอย่าง” ฟลินต์เอ่ยพลางมองหน้าพี่ชายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย ลมหายใจอุ่นร้อนถูกส่งออกมาจากปลายจมูกโด่งบ่งบอกถึงความขุ่นเคืองภายในใจ ที่เขาไม่อยากกลับบ้านก็เพราะแบบนี้ ทุกครั้งที่กลับไปแม่กับย่าคอยแต่จะจับเขาไปดูตัวลูกคนนั้นดูตัวลูกคนนี้ และเขายิ่งเป็นประเภทพวกนอกคอกแปลกแยกจากคนในตระกูล พอโดนบังคับให้ทำอะไรแบบนี้มาก ๆ เข้า เขาก็ยิ่งหนีหายออกไปจากตระกูล
“แม่ก็แค่อยากให้เราเจอคนที่เหมาะสม ท่านเลยอยากเลือกผู้หญิงที่ดีที่สุดให้”
“เหมาะสมกับเรา หรือเหมาะสมกับแม่ ประเภทที่หาลูกสะใภ้เพื่อให้มาคอยปรนิบัติแม่กับย่า คอยรายงานว่ากูไปไหนทำอะไรกูไม่เอา อยากมีเมียไม่ได้อยากมีสายสืบคอยจับผิด” แค่คิดว่าถ้าเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่หามาให้ก็ปวดหัวรอแล้ว ชีวิตของเขาคงไม่มีทางสงบสุขแน่
“งั้นมึงก็รีบหาเมียเป็นตัวเป็นตนถ้าไม่อยากโดนบังคับแต่งงาน” ฟาร์โรเอ่ยพลางยิ้มขำ จะว่าไปชะตากรรมของเขาและน้องชายไม่ได้ต่างกันเลยสักนิด เพราะเขาทั้งคู่ต่างก็โดนบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบเหมือนกัน
“กูไม่เคยคิดจะแต่งงาน และกูก็ให้มึงแต่งนำหน้ากูไปก่อนเลยพี่ชาย” ฟลินต์เอ่ยพลางขยับตัวลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวไปมหาลัย ฟาร์โรมองตามน้องชายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขบขันก่อนจะลุกขึ้นยืนตาม
“ถ้าว่าที่เจ้าสาวของกูเป็นน้องน่าน กูจะแต่งทันทีเลย” เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความสุขุมเอ่ยออกไปอย่างไม่ได้คิดอะไรมากมายอันที่จริงฟาร์โรเองก็ไม่ได้ชอบน่านฟ้ามากมายขนาดนั้น ถ้าจะพูดให้ถูกเขาเพียงแค่ถูกตาต้องใจเหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆ ที่พอเห็นน่านฟ้าก็ต้องหลงใหลในความสวยเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทว่าเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอย่างฟลินต์กลับตวัดสายตามองพี่ชายตัวเองอย่างลืมตัว ความไม่พอใจซ่อนเร้นอยู่ภายในดวงตาคู่คมเขาพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ทำเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของพี่ชายเพราะฉุกคิดได้ว่าเดิมทีฟาร์โรเป็นคนที่ชอบพูดอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
“มึงทำกูเสียเวลามากเลยนะไอ้ฟาร์...” เสียงทุ้มเอ่ยออกไปพลางส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา “เดี๋ยวกูไปก่อนแล้วกัน ถ้ามึงอยากจะนั่งเล่นทำห่าอะไรในห้องกูก็ทำไป” ฟลินต์เอ่ยพลางก้มมองเวลาที่ข้อมือตัวเองว่าเขาต้องรีบไปมหาลัยแล้วในเวลานี้
“เดี๋ยวกูก็ต้องเข้าบริษัทฯ แล้วเหมือนกัน แวะมาหามึงเพื่อบอกให้มึงเตรียมตัวหูชาเย็นนี้เฉยๆ ..”
“มึงคิดว่าบทสวดแม่จะทำอะไรกูได้เหรอไง? ” ฟลินต์เอ่ยพลางไหวไหล่ตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้หันกลับมาสนใจพี่ชายคนโตเลยสักนิด
ฟาร์โรมองตามน้องชายไปเพียงนิดก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ให้กับความเย็นชาของน้องชายที่มีมากพอ ๆ กับเขานั่นแหละ
ตกเย็น
คฤหาสน์ ตระกูลหอรัตนกุล
เจ้านัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความวางเปล่า พักหลังมานี้เธอมักจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อมากเป็นพิเศษ และมันก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้เป็นพ่อนั้นย่ำแย่ลง..จุดเริ่มต้นรอยร้าวในความสัมพันธ์ของเธอกับผู้เป็นพ่อ ดูเหมือนจะเกิดจากการที่เธอเลือกคบแฟนหนุ่มอย่างคราม โดยที่มีแม่เลี้ยงใจมารคอยเป่าหูพ่อเธอเช้าเย็นว่าเธอกำลังจะใฝ่ต่ำไปคว้าเอาผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาในตระกูล
“พี่น่านนน ~” นัยน์ตาคู่สวยที่เหม่อลอยในตอนแรก เหลือบไปมองเจ้าของเสียงหวานที่เต็มไปด้วยความสดใสของน้องสาวต่างแม่... ปลายฝน รีบเดินมาหาพี่สาวเพียงคนเดียวของเธอก่อนจะเอื้อมมือไปคล้องแขนพร้อมกับระบายยิ้มกว้างพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแง่งอนนิดๆ
“ปลายรอพี่น่านตั้งนานแหนะ ทำไมเมื่อวานพี่น่านไม่กลับมานอนบ้านล่ะค่ะ คุณพ่อนั่งรอที่ห้องรับแขกถึงตี 2 เลยนะ”
“รอทำไม? พ่อมีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่เหรอ? ” น่านฟ้าเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เพราะปกติผู้เป็นพ่อไม่เคยมานั่งรอเธอแบบนั้น ...ปลายฝนยิ้มเจื่อนน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ย
“ก็มีเรื่องคุยด้วยค่ะ แล้วก็น่าจะเป็นห่วงพี่น่าน...”
“ห่วงพี่ทำไม? ” ยิ่งฟังน้องสาวต่างแม่พูดก็ยิ่งแปลกใจ
“คุณพ่อรู้เรื่องที่พี่น่านเลิกกับพี่ครามแล้วนะคะ เมื่อวานคุณพ่อเป็นห่วงพี่น่านมากเลย พยายามติดต่อพี่น่านเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้..” ปลายฝนเอ่ยออกไปอย่างไม่คิดจะโกหกหรือปิดบังอะไรพี่สาวคนสวยของเธอ น่านฟ้าที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งแปลกใจหนักยิ่งกว่าเก่า ว่าพ่อของเธอนั้นรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกันในเมื่อเธอยังไม่ได้บอกใคร
“แล้วพ่อรู้ได้ยังไง? ใครบอกพ่อว่าพี่เลิกกับพี่ครามแล้ว ปลายรู้หรอว่าพี่เลิกกับพี่คราม..” หญิงสาวเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ในคำตอบ นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องไปที่ใบหน้าของน้องสาวโดยไม่คิดจะละสายตาไปไหน
“คือคุณพ่อให้คนคอยตามพี่น่านอยู่ห่างๆ น่ะค่ะ คุณพ่อก็เลยรู้เรื่องพี่เพราะลูกน้องมารายงาน...” ปลายฝนอ้อมแอ้มตอบออกไป พลางคิดไปว่าเธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทว่าผู้เป็นพ่อสั่งเอาไว้ว่าห้ามให้น่านฟ้ารู้ว่าท่านส่งคนคอยตาม...
แล้ววันนี้เธอดันโป๊ะแตกซะนี่
“พ่อคอยส่งคนตามพี่งั้นเหรอปลาย!..”
“คะ คือพี่น่าน คุณพ่อเขาเป็นห่วงพี่น่านมากก็เลยทำแบบนั้นค่ะ...” นัยน์ตาคู่สวยแสดงออกถึงความไม่ชอบใจที่ผู้เป็นพ่อส่งคนคอยตามเธอทั้ง ๆ ที่เธอเคยขอร้องเอาไว้หลายต่อหลายครั้งว่าเธอขอมีชีวิตและเวลาส่วนตัวโดยที่ไม่ต้องมีคนคอยสอดส่อง มือเรียวกำเข้าหากันแน่นพลางตวัดสายตาขึ้นไปมองชั้นสองของตัวบ้าน
“พ่ออยู่ที่ห้องหนังสือใช่ไหมปลาย?!..”
“ชะ ใช่ค่ะ...แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อมีขะ...” ยังไม่ทันที่ปลายฝนจะได้พูดจนจบประโยคน่านฟ้าก็เดินตรงดิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ทันทีปลายฝนมองตามพี่สาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเลิ่กลั่กลนลานพลางคิดว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะก่อตัวภายในห้องผู้เป็นพ่อ
“แย่แล้วไง แกจะมาโป๊ะอะไรเรื่องนี้วะปลาย…” เมื่อคิดว่าตัวเองคือตัวต้นเหตุให้พี่สาวนั้นโมโห สาวน้อยก็เริ่มอยู่ไม่ติดที่ เธอไม่ได้อยากให้พี่สาวกับผู้เป็นพ่อต้องมีเรื่องอะไรที่ทำให้ทะเลาะหรือผิดใจกันอีก ยิ่งพักหลังมานี่เขาทั้งสองก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และต่อให้เธอกับน่านฟ้าจะเป็นพี่น้องต่างแม่กันแต่เธอก็รักน่านฟ้าและยกให้น่านฟ้าเป็นแบบอย่างของทุกๆ เรื่อง เธออยากสวยแล้วก็อยากเก่งให้ได้เหมือนพี่สาวของเธอคนนี้
น่านฟ้าที่เดินขึ้นมาถึงชั้นสอง เธอเดินตรงไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปเคาะประตูดังๆ สองสามทีพร้อมกับเปิดออกโดยไม่รอผู้เป็นพ่ออนุญาต แต่ทันทีที่หญิงสาวเดินเข้าไปภายในห้องเท้าเรียวก็ต้องหยุดชะงัก คำพูดมากมายที่อยากจะพูดในตอนแรกก็ต้องกลืนมันลงคอไปก่อน
“อ้าวหนูน่าน...” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขุมนุ่มลึกถูกส่งออกมาจากริมฝีปากชายวัยกลางคนตรงหน้า
“สวัสดีค่ะคุณลุง..” น่านฟ้าเอ่ยออกไปพร้อมกับยกมือไหว้ โรฮาน อย่างมีมารยาท พร้อมกับพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติ
“ลุงกำลังพูดถึงหนูกับพ่อของหนูอยู่เลยว่าอยากเจอ นี่ลุงก็กำลังจะกลับพอดี” โรฮานเอ่ยออกไปอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้เจอลูกสาวของเพื่อนสนิทที่เขาหมายปองไว้ในใจว่าอยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
“งั้นเดี๋ยวกูกลับก่อนดีกว่า วันนี้เมียสั่งเอาไว้ให้รีบกลับบ้าน”
“เออไว้เดี๋ยวเจอกัน ถ้าวันไหนกูว่างเดี๋ยวเข้าไปหาที่บริษัทฯ...” เหนือเมฆ เอ่ยออกไปพลางขยับตัวลุกขึ้นยืนไปตบบ่าเพื่อนสนิทอย่างโรฮานเบาๆ ...
“ฟลินต์มันสร้างเรื่องเอาไว้ให้เมียกับแม่กูโมโห กูเลยต้องรีบกลับไม่งั้นก็จะนั่งเล่นหมากรุกกับมึงต่อ..” โรฮานเอ่ยออกไปอย่างไม่จริงจังอะไรนัก อันที่จริงเขาไม่ค่อยสนใจที่ลูกชายคนเล็กที่มักจะสร้างเรื่องทำให้ภรรยาคนสวยของเขาต้องปวดหัว เพราะนิสัยของฟลินต์มันก็ถอดแบบมาจากเขานั่นแหละ
“เออรีบกลับเถอะก่อนที่ริบบิ้นจะทุบหัวมึง”
“เออ ลุงไปก่อนนะหนูน่านแล้วเจอกันนะลูกนะ..” โรฮานเอ่ยพร้อมกับระบายยิ้มให้น่านฟ้าด้วยความเอ็นดู พลางเดินมาลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบาแล้วเดินจากไป
โรฮานเป็นทั้งเพื่อนสนิทของพ่อเธอ และยังเป็นพ่อของเพื่อนสนิทเธออย่างฟลินต์ด้วย
ทันทีที่บานประตูห้องหนังสือปิดลงบรรยากาศระหว่างสองพ่อลูกก็ดูเหมือนจะอึมครึมขึ้นมาทันที เหนือเมฆเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าลูกสาวที่มีใบหน้าที่ถอดแบบความงดงามมาจากผู้เป็นแม่ แถมยังได้นิสัยที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้นมาด้วยอีก...
“เมื่อคืนไปค้างที่ไหนมา?! ทำไมถึงไม่กลับบ้าน” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดุดันน่าเกรงขามถูกส่งออกมาจากริมฝีปากหยักของผู้เป็นพ่อ เหนือเมฆสบมองใบหน้าของลูกสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและเป็นห่วง มันผสมปนเปอยู่ภายในความรู้สึกของเขา “น่านไปค้างที่ห้องฟลินต์มา แล้วน่านก็มีเรื่องจะถามพ่อเหมือนกัน
“พ่อส่งคนคอยตามน่านเหรอคะ?!..” หญิงสาวเอ่ยถามออกไปพร้อมกับสบตาผู้เป็นพ่ออย่างไม่คิดกลัว เธอไม่ชอบเอามาก ๆ ที่ผู้เป็นพ่อผิดคำพูดกับเธอแบบนี้...เหนือเมฆนิ่งเงียบพลางสบตาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน
“ใช่ พ่อส่งคนคอยตามแก...แต่เพราะพ่อเป็นห่วงพ่อถึงทำแบบนั้น”
“แต่น่านขอแล้วไงว่าอย่าส่งคนตามน่านแบบนี้...น่านอยากมีชีวิตส่วนตัวเวลาส่วนตัวที่ไม่ใช่ต้องมีคนมาคอยตามคอยเฝ้าแบบนี้”
“ก็ถ้าแกทำตัวดีเชื่อฟังพ่อ พ่อจะต้องส่งคนตามแกแบบนี้ทำไม? แล้วยังไงกับไอ้ครามน่ะ เห็นว่ารักกันนักรักกันหนา สุดท้ายมันก็ทิ้งแกเหมือนที่พ่อเคยบอกแกไหม?!..”
“เขาทิ้งน่านเพราะพ่อสั่งต่างหาก! พ่อไปบีบพี่เขา เขาถึงมาเลิกกับน่าน!” หญิงสาวยังคนยึดมั่นในความคิดของตัวเองโดยไม่คิดจะฟังอะไรผู้เป็นพ่อสักนิด
“แกคิดว่าพ่อไปบังคับให้ไอ้เวรนั้นมันมาเลิกกับแกหรือไงน่านฟ้า!” เหนือเมฆกัดฟันข่มอารมณ์พยายามพูดอย่างมีเหตุมีผลกับลูกสาวสุดที่รัก ใจเขาอยากจะบอกความลับของครามที่เขาพึ่งรู้มาจากลูกน้องให้น่านฟ้ารับรู้ แต่เขาคิดว่าถ้าพูดยังไงลูกสาวก็คงไม่มีทางเชื่อ เพราะผู้ชายอย่างครามมันมีวิธีพูดที่ทำให้ลูกสาวของเขานั้นหลงเชื่อในคำพูดได้ง่ายๆ
“ใช่ เพราะที่ผ่านมาพ่อก็ทำแบบนั้นมาตลอด ส่งคนไปขู่พี่เขา ไปทำร้ายพี่เขากับเพื่อนจนบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน”
“เมื่อไหร่แกจะเชื่อว่าเรื่องที่ส่งคนไปกระทืบไอ้ครามพ่อไม่ได้!! นี่มันพูดอะไรแกก็เชื่อมันเหรอไงน่าน”
“น่านไม่คิดจะเชื่ออะไรพ่อ หลังจากที่พ่อผิดสัญญาว่าจะรักแค่แม่คนเดียวแล้ว..” น่านฟ้าเอ่ยออกไปถึงความรู้สึกที่มันเก็บซ่อนอยู่ภายในหัวใจมาเนิ่นนาน เธอยังจำได้ดีวันที่แม่จากเธอกับพ่อไป พ่อให้คำมั่นว่าพ่อจะรักแม่เพียงคนเดียวตลอดไปต่อให้อยู่กันคนละโลกไปแล้ว
แต่พอเธออายุได้ 6 ขวบ พ่อก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้าบ้านพร้อมกับมีน้องสาวให้เธอเพิ่มอีกหนึ่งคน มันเป็นความเจ็บปวดที่เธอต้องจำยอม มันอาจจะดูเหมือนว่าเธอนั้นเอาแต่ใจเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากให้พ่อนั้นเริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงคนไหน เธอไม่อยากให้พ่อลืมความรักที่แสนบริสุทธิ์ของแม่เธอไป แต่สุดท้ายพ่อของเธอก็ลืมไปจนหมดสิ้นเมื่อเขาแต่งงานใหม่กับแม่เลี้ยงที่เธอไม่เคยจะถูกชะตาเลยตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอกัน เธอไม่เคยคิดจะพูดออกไปจนวันนี้ วันที่เธอหมดความอดทนกับทุกสิ่งทุกอย่าง
เหนือเมฆนิ่งอึ้งสบตามองลูกสาวที่เขารักนิ่งงัน ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวอยู่ภายในหัวใจของเขา คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่ของน่านฟ้าเขายังจำมันได้ดี ความรักที่มีให้เธอยังคงอยู่มาเสมอ แต่จะให้เขาทำอย่างไรเมื่อชีวิตของทุกคนต้องเดินต่อ และเขาจำเป็นต้องแต่งงานใหม่ทุกอย่างมันมีเหตุผลที่ต้องเป็นเช่นนี้
“พ่อไม่เคยลืมแม่ ไม่เคยลืมความรักของแม่สักวินาทีเดียวน่านฟ้า...”
“พ่ออยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะค่ะ แต่น่านไม่คิดจะเชื่ออีกแล้ว...” น่านฟ้ายิ้มเยาะออกมาด้วยความเสียใจที่ไม่คิดจะเก็บซ่อน เหนือเมฆยอมที่จะเงียบเพราะรู้ดีว่าหากเขาพูดอะไรไปตอนนี้ลูกสาวที่เขารักก็คงไม่คิดจะฟัง
“แต่มีอีกเรื่องที่พ่อต้องบอกแก และแกต้องฟังแล้วทำตาม”
“ พ่อจะบังคับอะไรน่านอีก? ”
" ทันทีที่แกเรียนจบพ่อจะส่งแกไปเรียนต่อที่อังกฤษทันที "
" พ่อให้คนทำเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว รอเวลาที่แกจะบินไปก็เท่านั้น " เรื่องนี้เขาคิดและตั้งใจมาสักพักแล้วว่าต้องการให้น่านฟ้าไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ เพื่อที่จะได้กลับมาเป็นผู้บริหารต่อจากเขา...เพราะเขาคิดว่า เขาไม่สามารถหวังพึ่งลูกชายคนโตอย่างภูผา ที่วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเล่นใช้เงินไปกับการพนันและเรื่องราวไร้สาระได้
เขาวางแผนทุกอย่างเพื่อปูทางให้น่านฟ้าได้ขึ้นมาเป็นตัวแทนของเขาต่อไปในอนาคต...น่านฟ้าที่ได้ยินดังนั้นก็นิ่งอึ้งเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
" น่านไม่ไปนะพ่อ อย่ามาบังคับกันแบบนี้! " หญิงสาวเอ่ยออกไปอย่างไม่ยอม เรื่องไปเรียนต่อที่อังกฤษเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าเธอจะต้องไป มันก็ควรเป็นความสมัครใจของเธอไม่ใช่ถูกบังคับส่งตัวไปแบบนี้
“ครั้งนี้ต่อให้แกจะพยายามต่อต้านหรือดื้อด้านใส่พ่อมากแค่ไหน แกก็ไม่มีทางขัดคำสั่งของพ่อได้น่านฟ้า!!”
“แต่พ่อคะ!!..”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ที่ผ่านมาพ่อใจดีและตามใจแกมาตลอดแล้วน่านฟ้า! เพราะงั้นหลังจากนี้พ่อจะไม่ใจดีกับแกอีก!” เหนือเมฆเอ่ยเสียงดังกึ่งก้องไปทั่วห้องหนังสือ และนี่แทบจะเป็นครั้งแรกที่น่านฟ้าสะดุ้งตัวด้วยความตกใจในน้ำเสียงและท่าทางที่เกรี้ยวกราดของผู้เป็นพ่อ