“เมื่อวานตอนเช้า คุณเดินชนผมไงครับ คุณจำได้ยัง ตอนนั้นแหละครับที่คุณบอกชื่อคุณให้ผมรู้ก่อนที่คุณจะเดินจากไป” เขาเล่าให้หญิงสาวฟังเพียงสั้น ๆ จับใจความได้ง่าย ๆ ให้ฟัง
ศิริยากำลังคิดตามคำพูดพร้อมกับสังเกตหน้าตาของเขาใหม่อีกครั้งว่าใช่ผู้ชายคนที่เดินชนเมื่อวานนี้ไหม เมื่อมองชัด ๆ แล้วว่าใช่จริง ๆ หญิงสาวก็ยิ้มหวานออกมาทันที
“จำได้แล้วค่ะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะที่จำคุณไม่ได้ เพราะวัน ๆ ฉันเจอคนเยอะค่ะ ขอโทษจริง ๆ นะคะ” เมื่อจำได้แล้วว่าเป็นเขาจริง ๆ ผู้ชายนัยน์ตาสีฟ้าที่ทำให้เจ้าตัวใจเต้นแรงคนนั้นจริง ๆ ก็รีบขอโทษเป็นใหญ่
“ไม่เป็นไรครับคุณศิ” เขายิ้มหน้าบานทันทีที่หญิงสาวจำได้แล้ว
“ว่าแต่คุณเรียกฉันมาพบทำไมคะ?” ยังไม่เข้าใจว่าเขาเรียกเธอมาพบทำไม ถึงจะตกใจอยู่บ้างที่เขาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนใหม่ที่ใคร ๆ ต่างลือกันว่าหล่อพิฆาตและมันก็เป็นอย่างทุกคนลือกันจริง
“คือผมอยากจะจ้างคุณมาเป็นพยาบาลพิเศษ ดูแลแม่ผมที่ป่วยเป็นโรคหัวใจครับ” เขาไม่รอให้เสียเวลาอะไรมากมาย ยิ่งทำให้ศิริยาตกลงได้เร็วเท่าไร เขาก็ยิ่งได้กลับไปนิวยอร์กเร็วขึ้นเท่านั้น
“ทำไมคุณถึงเลือกฉันคะ?” เธอยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“ก็เพราะคุณเป็นคนไทยเหมือนกับแม่ของผมไงครับ ผมถึงต้องเลือกคุณ” เขายกเหตุผลเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง
“พยาบาลคนอื่นก็มี ทำไมคุณไม่ไปจ้างเขาคะ” หญิงสาวยังไม่เลิกสงสัยอยู่ดี เป็นใครจะไม่สงสัยล่ะ พยาบาลมีตั้งเยอะตั้งแยะในโรงพยาบาลกลับไม่เลือก มาเลือกเธอ
“ก็เพราะผมอ่านประวัติของทุกคนแล้ว ไม่มีใครเหมาะเท่าคุณ ไหนจะเรื่องภาษาสากลคุณก็เก่งที่สุด ผมเลยเลือกที่จะจ้างคุณไปดูแลแม่ผมที่นิวยอร์กไงครับ” เขาพยายามที่สุดที่จะคิดหาเหตุผลมาอ้างเพื่อให้หญิงสาวคล้อยตาม
ศิริยาฟังเหตุผลที่เขาเล่ามาทุกอย่างมันก็จริงอย่างว่า จึงเลิกสงสัยพร้อมกับหันมาสนใจเรื่องข้อเสนอที่เขาได้ยื่นให้
“ไปดูแลแม่คุณที่นิวยอร์กเหรอคะ?” เอ่ยถามเขาด้วยความไม่อยากเชื่อหูของตัวเองว่าเธอจะได้ไปนิวยอร์ก เมืองในประเทศที่ใฝ่ฝันอยากจะไปมานานแล้วแต่ก็ไม่ได้ไปสักทีเพราะทำงานหนักเกิน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้อยากไปเที่ยวนิวยอร์กนั้น เพราะว่าเธออยากไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เมโทรโพลิทัน หญิงสาวเป็นคนหลงใหลในศิลปะจึงอยากไปเห็นพิพิธภัณฑ์แห่งนั้นสักครั้งในชีวิต
“ครับ ส่วนเรื่องค่าจ้าง ผมจะให้คุณเดือนละสามพันดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณเดือนละเก้าหมื่นบาท ส่วนเรื่องที่อยู่ อาหารการกินฟรีครับ เพราะคุณจะได้เข้าไปอยู่ในบ้านผมในฐานะแขกคนพิเศษของบ้านเรา คุณคิดยังไงกับข้อเสนอของผม ถ้าคุณไม่พอใจ อยากปรับเปลี่ยนตรงไหนบอกได้นะครับ”
ศิริยาคิดตามคำพูดของเขาตลอด ซึ่งสิ่งที่ทำให้หญิงสาวอยากรีบตกลงทันทีก็คือเรื่องค่าตอบแทนที่คิดเป็นเงินไทยเยอะมากในความคิด แถมอยู่ฟรีกินฟรีอีก เป็นใครจะไม่สน เธอก็ตัวคนเดียว ไม่มีใครด้วย พ่อแม่ก็เสียไปหมดแล้ว ส่วนญาติพี่น้องก็ไม่มีแล้ว แบบนี้ไม่ตกลงก็โง่แล้ว
“ฉันยังไม่ตกลงว่าจะไปเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยเล่นตัวไปนิดหนึ่ง
“แล้วคุณจะตกลงไปไหมครับ ถ้าไปก็เตรียมตัวเดินทางพรุ่งนี้เย็นเลยครับ พอดีผมรีบ” เขาเอ่ยด้วยความเจ้าเล่ห์ ซึ่งศิริยาดูไม่ออกเลยว่ารอยยิ้มของเขานั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่บ้าง
“คือทำไมมันกะทันหันแบบนี้คะ” นึกว่าจะไปเดือนหน้าเสียอีก
“คงไม่ได้ครับ เพราะผมต้องรีบกลับนิวยอร์กด่วนเลย”
“อ๋อ ถ้างั้นดิฉันตกลงไปเป็นพยาบาลพิเศษให้กับแม่คุณค่ะ” คนงกอย่างศิริยามีหรือจะปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป
แดเนียลยิ้มร่าทันทีที่ได้ยินคำตอบที่หน้าพอใจจากปากของเธอ “งั้นคุณก็กลับไปเก็บของได้เลยครับ ไม่ต้องมาทำงานแล้ว ส่วนเรื่องพาสปอร์ตของคุณไม่ใช่ปัญหา ผมจะให้แซมไปจัดการให้คุณเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วง” เมื่อเธอเอ่ยตกลงแล้ว เขาก็ไม่คิดจะรีรออะไรอีก อยากพาสาวเจ้าไปในถิ่นของตัวเองเพื่อจะได้เผด็จศึกง่ายขึ้น
“ค่ะคุณแดเนียล ถ้างั้นดิฉันขอตัวไปลาเพื่อนร่วมงานและกลับไปเก็บของใช้จำเป็นเพื่อจะใช้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ตอนเย็นก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” ศิริยาเอ่ยขอตัวพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่ม
“ครับ” พอแดเนียลอนุญาตแค่นั้นแหละ หญิงสาวก็เดินออกไปจากห้องทำงานของเขาทันที
เมื่อศิริยาได้เดินออกไปจากห้องทำงานแล้ว เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแซมทันทีเพื่อที่จะสั่งให้ไปจัดการเรื่องพาสปอร์ตของเธอให้เรียบร้อยก่อนตอนเย็นของวันพรุ่งนี้
“แซม นายเข้ามาหาฉันหน่อยสิ” เมื่อปลายสายกดรับ เขาก็รีบเอ่ยขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“ครับคุณแดเนียล” แล้วแซมก็ตัดสายเดินเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายทันทีที่ถูกเรียก พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็เห็นเจ้านายตัวเองนั่งยิ้มหน้าบานเท่าจานเชิงเลยในตอนนี้
“คุณแดเนียลอารมณ์ดีเรื่องอะไรครับ” เมื่อเห็นเจ้านายยิ้มหน้าบานเลยเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ฮ่า ๆ ๆ จะเรื่องอะไรที่ทำให้ฉันยิ้มได้ในเวลานี้แซม นอกจากเรื่องของศิริยา ฮ่า ๆ ๆ” ชายหนุ่มพูดไปหัวเราะไปจนทำให้แซมอดหัวเราะตามไม่ได้
“ฮ่า ๆ ๆ สงสัยงานนี้คุณแดเนียลจะรักคุณศิริยาจริง ๆ แน่ ๆ เลยถึงได้ดูมีความสุขอารมณ์ดีเช่นนี้ ฮ่า ๆ ๆ” แซมหัวเราะเจ้านายของตัวเองพร้อมกับเอ่ยแซวไปด้วย
“ฮ่า ๆ ๆ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าแซม” ทั้งพูดทั้งหัวเราะ
“ครับคุณแดเนียล” แซมหยุดหัวเราะพร้อมรับคำนั่งลงเก้าอี้ตัวที่หญิงสาวนั่งอยู่ก่อนหน้านี้
“ฉันมีงานไปให้นายทำด่วน ให้ได้ก่อนเย็นของวันพรุ่งนี้นะ เพราะเราจะเดินทางกลับนิวยอร์กกันพรุ่งนี้เลย”
“แล้วมันงานอะไรครับ?”
“คือฉันอยากให้นายไปทำพาสปอร์ตให้ศิริยา และนายไม่ต้องบอกนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ เรามีเงินซะอย่าง เรื่องแค่นี้เอง นายก็ใช้เป็นใบเบิกทางก็แล้วกันนะแซม” ชายหนุ่มรู้ว่าการทำพาสปอร์ตมันต้องยื่นเรื่องไว้ก่อนเป็นเดือน แต่มีหรือคนมีเงินอย่างเขาจะทำให้เป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ได้
“ครับคุณแดเนียล” แซมรู้อยู่แล้วว่าถ้าหากคนอย่างแดเนียลคิดจะทำอะไรแล้วสามารถทำได้ทุกอย่างที่เขาอยากทำและต้องการ ไม่มีใครสามารถมาขัดใจได้
“อืม...ถ้านายเข้าใจดีแล้วนายก็รีบไปทำซะ ส่วนฉันจะทำงานที่ค้างไว้ให้เสร็จก่อนเดินทางกลับพรุ่งนี้” เวลานี้แดเนียลอยากรีบเคลียร์งานที่กองอยู่ตรงหน้าของตัวเองให้เสร็จก่อนที่จะเดินทางกลับนิวยอร์ก
“ครับ” แซมรับคำสั่งแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงานไปเพื่อจะไปจัดการธุระที่เจ้านายของตัวเองสั่ง