“แซม นายไปตามศิริยามาพบฉันที่ห้องทำงานทีสิ” เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แดเนียลก็สั่งแซมก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟต์ของผู้บริหารเพื่อที่จะไปรอพบหญิงสาวที่ห้องทำงาน
“ครับคุณแดเนียล” แล้วแซมก็เดินแยกตัวออกไปทำตามคำสั่งทันที
“คุณศิริยาใช่ไหมครับ” แซมเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาถึงตัวศิริยา ที่กำลังล้างแผลให้คนป่วยในห้องผู้ป่วยรวมอยู่
“ใช่ค่ะ” เธอเอ่ยเพียงสั้น ๆ แล้วก็หันไปสนใจคนป่วยต่อ
“ขอโทษนะครับผมชื่อแซมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลครับ พอดีคุณแดเนียล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ผมมาตามคุณไปพบที่ห้องทำงานครับ” แซมเอ่ยแนะนำตัวกับศิริยาก่อนจะเอ่ยถึงธุระของตัวเอง
พยาบาลสาวชะงักมือที่กำลังจะพันแผลให้คนป่วยทันที ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน กลัวว่าตัวเองทำอะไรผิดจนผู้อำนวยการเรียกพบ
“อะไรนะคะผู้อำนวยการโรงพยาบาลเรียกฉันไปพบ ฉันทำอะไรผิดคะ” หญิงสาวถามแซมด้วยความตกใจ
“ไม่รู้ครับ ถ้าคุณอยากรู้ คุณต้องตามผมไปพบคุณแดเนียลเดี๋ยวนี้เลยครับ”
“ค่ะ ถ้างั้นรอฉันแป๊บหนึ่งนะคะ ฉันขอพันแผลให้คนป่วยรายนี้เสร็จก่อนค่ะ” ศิริยารู้ว่าโรงพยาบาลมีผู้อำนวยการมาใหม่และชื่อก็ไม่รู้
“ครับคุณศิริยา” เหลือแค่พันแผลเฉย ๆ หญิงสาวก็จะเสร็จแล้วแซมเลยไม่เร่งศิริยา และรอไม่นานเธอก็ทำแผลเสร็จ
“เสร็จแล้วค่ะคุณแซม เราไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวผู้อำนวยการจะรอนานค่ะ” เมื่อทำแผลเสร็จ ศิริยาก็หันมาเอ่ยชวนแซม
“ครับ” แล้วแซมก็เดินนำศิริยาไปที่ลิฟต์ของผู้บริหารเพื่อจะไปห้องทำงานของผู้บริหารที่อยู่ชั้นสูงสุดของตึก
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"
“ใคร” แดเนียลร้องถามคนที่มาเคาะประตูห้องทำงานของตัวเองด้วยท่าทางยิ้มแย้มอารมณ์ดี รู้อยู่แล้วว่าใครมา แต่เขาก็แกล้งร้องถามไปงั้น ๆ
“ผมแซมเองครับ คุณแดเนียล” แซมร้องตอบกลับไปเช่นกัน
“เข้ามาได้แซม” เอ่ยอนุญาตเสร็จก็หมุนเก้าอี้ตัวที่ตัวเองนั่งหันหลังให้กับประตูห้องที่กำลังจะมีคนเข้ามาทันที
แซมและศิริยาได้เข้ามาในห้องทำงานเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวได้แต่ยืนตัวเกร็ง หลบอยู่ด้านหลังของแซมด้วยความกลัวว่าจะโดนผู้อำนวยการเรียกมาพบแล้วไล่เธอออก
“นายออกไปได้แล้วแซม ฉันจะคุยกับศิริยาเพียงลำพัง” เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง เขาก็สั่งให้แซมออกไปข้างนอกทันที
“ครับคุณแดเนียล” แซมทำตามคำสั่งทันทีเพราะเป็นคนเดียวที่รู้จักแดเนียลดีไม่แพ้คนเป็นพ่อกับแม่ และที่เขาได้มาเป็นผู้ช่วยของแดเนียล ได้ตามมาประเทศไทยก็เพราะว่าแซมพูดภาษาไทยได้จึงได้ติดตามมาทำงานที่ประเทศไทยด้วย
“อืม...นายออกไปอย่าลืมล็อกประตูให้ฉันด้วยล่ะ” เขาเอ่ยสั่งแซมก่อนที่แซมจะเดินออกไป
“ครับคุณแดเนียล” แล้วแซมก็เดินออกไป แต่เดินยังไม่ถึงประตู ศิริยาก็ร้องเรียกเขาไว้
“คุณแซมแล้วฉันล่ะคะ?” ร้องถามแซมด้วยความกลัวที่จะได้อยู่กับผู้ชายที่นั่งหันหลังให้เธอในตอนนี้
“คุณศิริยาก็อยู่กับคุณแดเนียล คุยงานกันในนี้แหละครับ ส่วนผมจะไปรออยู่ข้างนอกครับ ไม่ต้องกลัวครับ เจ้านายผมเป็นคนใจดี” แซมหันมาเอ่ยก่อนจะเดินออกไป
“คุณไม่ต้องกลัวผมหรอกครับคุณศิ” แดเนียลเอ่ยออกมาด้วยความตลกในน้ำเสียงสั่น ๆ ของศิริยา
“คุณรู้จักชื่อเล่นฉันได้ยังไง” ศิริยาร้องถามด้วยความไม่พอใจ อีกอย่างตอนนี้หญิงสาวกำลังคิดว่าเสียงของผู้ชายที่นั่งหันหลังให้เธอในตอนนี้ทำไมมันช่างคุ้นหูนักแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน
ยัยศิทำไมแกสมองปลาทองแบบนี้เนี่ย...หญิงสาวบ่นพึมพำในใจด้วยความโกรธตัวเองที่เป็นคนขี้ลืมแบบนี้บ่อย ๆ
“หึหึ...ผมรู้สึกว่าคุณจะเป็นคนขี้ลืมจริง ๆ เลยนะคุณศิ” เขาไม่ตอบคำถามศิริยาแต่เลือกเอ่ยถามหญิงสาวแทน พร้อมกับลุกขึ้นยืนหันหน้ามาหาหญิงสาว ก้าวยาว ๆ อ้อมโต๊ะมาหาเธอที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน
ศิริยาอึ้งทันทีที่เห็นผู้ชายที่นั่งอยู่เมื่อกี้ลุกขึ้นหันหน้ามาทางเธอ ตอนนี้ขาของสาวเจ้าแทบก้าวไม่ออกเลยทั้ง ๆ ที่สมองของเธอสั่งให้เดินหนีออกจากตรงนี้ แต่ขาเจ้ากรรมกลับทรยศไม่ยอมขยับไปไหน
“คะ...คุณคนเมื่อเช้านี่” เอ่ยถามเขาเสียงขาด ๆ หาย ๆ
“ใช่ผมเองคุณศิ” แดเนียลยิ้มแฉ่งทันทีเมื่อเธอจำเขาได้
“อย่าบอกนะที่คุณเรียกดิฉันมานี่ก็เพราะว่าคุณไม่พอใจที่ฉันวิ่งหนีคุณขึ้นรถมาเมื่อเช้านี้” ศิริยาไม่รู้ว่าเขาเรียกมาเพราะเหตุผลอะไร หญิงสาวจึงคิดว่าคงเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อเช้านี้แน่ ชายหนุ่มถึงได้เรียกเธอมาพบ
“ผมว่าคุณนั่งลงก่อนเถอะครับ” เอ่ยเชิญหญิงสาวนั่งลงเก้าอี้ตรงหน้า ส่วนตัวเองก็เดินกลับไปนั่งที่เดิมที่ลุกมาเมื่อกี้
“ขอบคุณค่ะผู้อำนวยการ” ขอบคุณพร้อมกับนั่งลง
แดเนียลไม่พอใจอยู่ในทีที่หญิงสาวเรียกเขาว่าผู้อำนวยการ เมื่อนั่งลงแล้วจึงก็เอ่ยแนะนำตัวกับหญิงสาวอย่างเป็นทางการให้รู้จัก
“สวัสดีครับ ผมแดเนียลครับ เรียกผมแดเนียล ไม่ต้องเรียกผู้อำนวยการก็ได้ ผมรู้สึกห่างเหินยังไงก็ไม่รู้ครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองพร้อมกับขายขนมจีบศิริยาไปด้วย
“ค่ะผู้อำนวยการ ดิฉันว่าอย่าเลยค่ะ ดิฉันไม่อยากตีสนิทเจ้านายค่ะ ว่าแต่ว่าคุณรู้ชื่อดิฉันได้ไงคะ” ศิริยาดูออกจากสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมา ว่าที่เขาเอ่ยมาเมื่อกี้นั้นมันส่อแววถึงอะไร
“หึหึ คุณนี่จริง ๆ เลยนะครับคุณคิดให้ดี ๆ สิว่าเคยเจอผมที่ไหน” ยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะให้หญิงสาวคิดว่าเคยเจอเขาที่ไหน
“แหะ ๆ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ จำไม่ได้ คุณช่วยบอกฉันหน่อยค่ะ” ในเมื่อคิดยังไงก็คิดไม่ออกจึงเอ่ยถามเขาไป
เชื่อหญิงสาวเลยจริง ๆ ผ่านไปแค่วันเดียวก็ลืมเขาไปเสียแล้ว ก็อย่างว่าแหละวัน ๆ ทำงานเจอคนป่วยในโรงพยาบาลเยอะแยะไปหมด อาจจะจำเขาไม่ได้จริง ๆ ก็ได้