ทางด้านแดเนียล พอวางสายจากศิริยา เขาก็รีบต่อสายไปนิวยอร์กหาผู้เป็นพ่อทันที เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทร.บอกเรื่องที่จะเดินทางกลับวันนี้เลย ซึ่งตอนแรกเขาบอกพ่อว่าจะกลับอาทิตย์หน้า แต่ด้วยความใจร้อนของตัวเองจึงอยากกลับในเช้าของวันนี้เลย
“สวัสดีครับคุณพ่อ” เมื่อปลายสายกดรับเขาก็รีบทักทายไปทันที
“ว่าไงลูกชาย” โลแกนถามด้วยความสงสัยที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนโทร.หา
“คือผมจะโทร.มาบอกคุณพ่อว่าผมจะเดินทางกลับวันนี้ครับ จะขึ้นเครื่องเวลา 5 โมงเช้าของไทยครับ ก็จะนั่งเครื่องประมาณ 14 ชั่วโมง คงจะถึงที่โน่นประมาณ 2 โมงเช้าครับพ่อ” เขาเอ่ยชี้แจงให้ผู้เป็นพ่อฟัง
“อืม...ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมไอ้ลูกชาย ถ้างั้นแค่นี้นะ”
“ครับพ่อ” แล้วเขาก็ตัดสายกับผู้เป็นพ่อแล้วเดินตรงไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สดชื่นรับวันใหม่
ศิริยาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ทานข้าวเช้าเรียบร้อยแล้วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.หาสุภาเพื่อแจ้งเวลาการเดินทางให้สุภาได้รับรู้
“ว่าไงจ๊ะศิ” สุภาเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครโทร.มาหาแต่เช้า
“คือ...ศิจะโทร.มาบอกภาว่าศิจะเดินทางวันนี้ห้าโมงเช้านะ”
“อะไรนะ!" สุภาอุทานออกมาด้วยความตกใจ ก็ไหนเมื่อวานศิริยาบอกว่าเดินทางตอนเย็นไง ถ้าเดินทาง 5 โมงเช้า เธอก็ไม่ได้ไปส่งเพื่อนน่ะสิ เพราะตอน 5 โมงเช้าเธอต้องเข้าเวรพอดี
“คือคุณแดเนียลโทร.มาเลื่อนเมื่อเช้านี้เองภา เขาบอกว่าแม่ของเขาอาการหนัก ศิเลยต้องรีบไปดูแลท่าน” อธิบายให้สุภาฟัง
“อ๋อ แล้วแบบนี้ภาจะไปส่งศิได้ไง ก็ตอน 5 โมงเช้าภาเข้าเวรพอดี แถมภาไปสายไม่ได้ด้วยนะ เพราะภาเคยสายไปสามครั้งแล้วโดนหัวหน้าแผนกเตือนมาแล้วครั้งหนึ่ง” สุภาเอ่ยด้วยความเศร้าที่จะไม่ได้ไปส่งเพื่อนรักที่สนามบิน
“ไม่เป็นไรภา ศิเข้าใจภา” รู้ว่าสุภานั้นอยากไปส่งเธอที่สนามบินขนาดไหน
“จ้า ศิไม่ว่าภานะ?”
“ไม่ว่าหรอก ก็ภาติดงานนี่ เราเข้าใจ ถ้าไปถึง ศิจะโทร.หาภาเลยนะ”
“ขอบคุณนะศิที่เข้าใจภา ภาขอโทษจริง ๆ ที่ไปส่งไม่ได้” สุภาเอ่ยจากใจจริง
“จ้า ถ้างั้นแค่นี้นะภา ดี๋ยวศิจะโทร.ไปบอกพี่หมอก่อนว่าเดินทาง 5 โมงเช้า”
“จ้า” แล้วสุภาก็ตัดสายทันที
วางสายจากสุภาแล้ว ศิริยาก็รีบกดหาเบอร์ของธนาทันทีเพื่อจะโทร.ไปแจ้งเรื่องการเดินทางของเธอให้กับธนาได้รับรู้ พอเห็นเบอร์โทร. เธอก็รีบกดโทร.ทันที
“ว่าไงศิ โทร.มาแต่เช้าเลยนะ?” ธนาเอ่ยทักเสียงหวานทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นน้องสาวโทร.มา
“พี่หมอ ศิโทร.มาเพื่อจะบอกพี่ว่าศิจะไปขึ้นเครื่อง 5 โมงเช้าวันนี้นะคะ”
“เอ้า! ทำไมเร็วจัง? ไหนเมื่อวานบอกว่าตอนเย็นไง?”
“ศิก็เพิ่งรู้เมื่อเช้าค่ะพี่หมอ พอดีแม่ของคุณแดเนียลอาการหนัก ศิเลยต้องรีบเดินทางค่ะ”
“อืม...ไม่เป็นไร พี่ไปส่งเราได้เหมือนเดิม ว่าแต่ภารู้ยังว่าศิเดินทาง 5 โมงเช้า?”
“รู้แล้วค่ะ ศิโทร.ไปบอกภาก่อนจะโทร.มาบอกพี่หมอ”
“แล้วภาว่าไงบ้าง ภาไปส่งศิได้ไหม?”
“ภาไปส่งไม่ได้ค่ะ เพราะภาเข้าเวรพอดีค่ะเวลา 5 โมง ว่าแต่พี่หมอจะไปส่งศิจริง ๆ นะคะ?” ศิริยารู้สึกใจหายยังไงไม่รู้ เหมือนกับว่าไปแล้วจะไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกยังไงอย่างงั้นแหละ หญิงสาวจึงอยากให้ใครคนใดคนหนึ่งระหว่างธนากับสุภาสักคนไปส่ง
“ไปสิ น้องสาวพี่ทั้งคนนะ พี่จะไม่ไปส่งได้ไง”
“ขอบคุณพี่หมอมากนะคะ ถึงเราจะไม่ใช่พี่น้องกันจริง ๆ แต่ศิก็รักพี่หมอเหมือนพี่ชายแท้ ๆ เลยนะคะ” เอ่ยออกจากความรู้สึกจริงของเธอ
“จ้า พี่ก็รักเราเหมือนน้องสาวแท้ ๆ เหมือนกัน” ตอนนี้ธนาเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่าเขานั้นไม่ได้รักชอบศิริยาแบบชู้สาวแต่รักแบบน้องสาวมากกว่า
“ขอบคุณค่ะพี่หมอ” เธอรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำพูดนี้จากปากของธนา ถ้าธนาพูดออกมาแบบนี้ได้ก็แสดงว่าไม่ได้เสียใจเรื่องที่เธอปฏิเสธรักแล้ว หญิงสาวรู้สึกโล่งอก สบายใจอย่างบอกไม่ถูกที่ธนาพูดแบบนี้
“จะให้พี่ไปรับที่คอนโดฯ ตอนไหน?” วันนี้มีตรวจคนไข้ตอนบ่าย เขาเลยว่างไปส่งหญิงสาวได้
“พี่หมอมารับศิตอน 9 โมงครึ่งแล้วกันนะคะ กลัวรถติดค่ะ เลยต้องให้พี่มาเร็วนิดค่ะ”
“ได้เลยค้าบ...คุณผู้หญิง ถ้างั้นแค่นี้นะ พี่จะไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน”
“ค่ะพี่หมอ ขอบคุณนะคะ” แล้วก็ตัดสายจากธนาทันที
ศิริยากำลังเช็กดูของในกระเป๋าว่าเตรียมของจำเป็นครบยัง หญิงสาวเช็กดูหลายรอบก่อนจะมั่นใจแล้วว่าไม่ลืมอะไรสำคัญ