ร่างบางในชุดนักศึกษาพอดีตัวกระโปรงพลีทยาวเหนือเข่าขึ้นมาเพียงนิด กำลังวิ่งขึ้นบันไดด้วยความเร่งรีบ เมื่อตอนนี้เลยเวลาเข้าเรียนมากว่าสิบนาทีแล้ว เพราะเธอมัวแต่จัดระเบียบห้องและคิดหาวิธีที่จะทำให้ลูกแมวของเธออยู่ในห้องได้โดยไม่ส่งเสียงร้องให้ห้องข้าง ๆ ได้ยินอีก ไม่งั้นครั้งนี้เธอคงถูกเจ้าของหอพักเข้ามาค้นในห้องและไล่ออกแน่
แอด…
มือเล็กดันประตูผลักเข้าไปด้านในทันทีที่วิ่งมาถึงหน้าห้อง ทำให้อาจารย์ที่กำลังบรรยายอยู่หน้าห้องหันมามองจนเธอต้องรีบก้มหัวให้ แล้วรีบมองหาที่ว่างเพื่อเข้าไปนั่งเรียนเมื่ออาจารย์ไม่ได้ว่าอะไร
ดวงตากลมโตของเอพริลกวาดมองไปทั่วห้องขนาดใหญ่ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษา จนหาที่ว่างแทบไม่มี แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับมือเล็กของยี่หวาที่กำลังยกมือขึ้นโบกไปมาให้เธอได้มองเห็น ก่อนรอยยิ้มบางจะปรากฏบนใบหน้าแล้วรีบเดินตรงไปนั่งลงที่ว่างข้าง ๆ กับเพื่อนทันที
"ทำไมวันนี้เธอมาสาย ปกติจะมาก่อนอาจารย์เกือบชั่วโมง" ยี่หวากระซิบถามเสียงเบาเมื่อเอพริลนั่งลงข้าง ๆ แถมยังมีอาการหอบเหนื่อยอีกด้วย
"ฉันวุ่นวายอยู่กับแมวนิดหน่อยน่ะ ตั้งใจฟังอาจารย์ก่อนเดี๋ยวโดนดุอีก" เอพริลตอบกลับเสียงเบาโดยไม่ได้หันไปมองแถมยังบอกให้เพื่อนตั้งใจฟังที่อาจารย์กำลังสอน เพราะกลัวว่าจะโดนอาจารย์ดุเหมือนครั้งก่อน มือเล็กก็เปิดกระเป๋าหาสมุดโน๊ตเพื่อใช้จดเลคเชอร์ไว้ทบทวนเนื้อหา
ตั้งแต่วันที่ยี่หวามาจ้างให้ทำรายงานให้วันนั้น ตั้งแต่นั้นมาก็เหมือนเธอจะได้พูดคุยกันกับเพื่อนคนนี้มากขึ้น จากที่ตอนแรกเธอมองว่ายี่หวาเป็นคนที่ดูเย่ยหยิ่งทะนงตัวสูง แต่พอได้รู้จักจริง ๆ กลับไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด
"กลับยังไง ให้ไปส่งไหม" ยี่หวาเอ่ยถามเมื่อเดินออกมาจากห้องเรียนในคลาสเรียนสุดท้ายของวันนี้ ที่กว่าจะเลิกได้ก็เกือบจะมืดจนมองไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว
"เสียเวลาเธอเปล่า ๆ ฉันนั่งวินไม่ถึงห้านาทีก็ถึงแล้ว" เอพริลหันมาตอบคำถามพลางควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเพื่อกดดูเวลา ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าชีสน้อยของเธอจะเป็นยังไงบ้าง เพราะวันนี้เธอเองก็มีเรียนตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น
"งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งหน้ามอ ไปขึ้นรถเร็ว" ยี่หวาพยักหน้ารับก่อนจะคว้าข้อมือเล็กของเอพริลให้เดินตามไปขึ้นรถที่จอดอยู่ แล้วขับออกมานอกรั้วมหาวิทยาลัยทันทีก่อนจะจอดเทียบฟุตบาทเมื่อถึงที่หมายที่เอพริลชี้มองจุด
"ขอบคุณนะ ขับรถกลับบ้านระวังด้วย"
"บอกตัวเองเถอะ ยิ่งเริ่มมืดแบบนี้ยิ่งดูอันตราย"
"ฉันระวังตัวอยู่แล้วล่ะ บ๊ายบาย" พูดจบก็เปิดประลงจากรถ ก่อนจะก้มหน้าลงโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนพร้อมรอยยิ้มหวาน
เอพริลยืนรอจนรถยนต์ของยี่หวาเคลื่อนตัวออกไปจึงเดินไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์เพื่อกลับหอพักตัวเองต่อ โชคดีที่หอพักเธออยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่ไกลนัก แต่ถ้าเดินก็คงจะใช้เวลานานพอสมควรถึงจะไม่ไกลมากก็เถอะ
"พี่! มันไม่ใช่ทางนี้นะคะ" เสียงเล็กร้องตะโกนแข่งกับลมที่ตีเข้ามากระทบใบหน้าสวย เมื่อวินมอเตอร์ไซค์ขับพาเธอมาคนละทางกับทางกลับหอพักของเธอ
ใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เมื่อบรรยากาศตอนนี้มืดสนิทจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้างแล้ว
"ทางเดิมเขาซ่อมถนนต้องใช้ทางนี้แทน" เสียงของคนขับวินมอเตอร์ไซค์ตอบกลับมา นั่นทำให้เอพริลเริ่มมองหาหนทางเอาตัวรอดทันที เพราะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเองแล้ว ก็เมื่อเช้าเธอยังใช้เส้นทางนั้นอยู่เลย ถึงจะมีการซ่อมถนนแต่รถเล็กก็ยังสามารถผ่านไปมาได้อยู่
สองมือเล็กกอดกระเป๋าตัวเองไว้แน่นพยายามตั้งหลักให้ตัวเองเตรียมตัววิ่ง เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในซอยเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านที่เหล่านักศึกษาชอบมาเที่ยวกัน แต่เวลานี้กลับเงียบสนิทเมื่อยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ เพียงแค่รถจอดยังไม่สนิทดีด้วยซ้ำสองขาเรียวเล็กก็รีบตวัดลงจากการนั่งคร่อมเบาะรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะออกแรงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งที่บนศีรษะเล็กยังคงสวมหมวกกันน็อคอยู่
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!" สองเท้ายังคงวิ่งต่อไปยังด้านหน้า ปากก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เผื่อว่าจะมีผู้คนผ่านมาได้ยิน
หมับ!
"กรี๊ดดดด!" เสียงเล็กกรีดร้องลั่นทันทีที่ถูกคว้าแขนไว้จากทางด้านหลังพร้อมกับแรงกระชากให้เธอหันกลับไป
"ฤทธิ์เยอะนักใช่ไหม พามาดี ๆ พอเสร็จแล้วจะพากลับไปส่งดี ๆ ไม่ชอบหรือไง"
"พะ พี่ปล่อยหนูไปเถอะนะ หนูไม่มีอะไรให้พี่เลย เงินหนูก็มีไม่กี่บาทเอง ของมีค่าที่มีก็ขายได้นิดเดียว" เธอพยายามพูดจาดีเพื่อขอร้องให้ชายตัวใหญ่ร่างกายบึกบึนตรงหน้าเห็นใจ แต่ดูแล้วคงไร้ประโยชน์เมื่อสายตาหื่นกระหายนั้นจ้องมองมาที่เธออย่างจาบจ้วง
"หึ! ตัวน้องไงล่ะของมีค่า ดูท่าทางซื่อบื้อแบบนี้เร้าใจดีพี่ชอบ" มือหนาหยาบกร้านยกขึ้นลูบริมฝีปากตัวเองหลังจากพูดจบ ใช้สายตาหื่นกามจ้องมองหน้าอกเกินขนาดภายใต้เสื้อนักศึกษาพร้อมกับเลียริมฝีปากไปด้วยอย่างโรคจิต
"ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ ลูกหนูยังเล็กอยู่เลย ป่านนี้คงจะร้องแย่แล้วที่ยังไม่เห็นแม่กลับถึงห้องสักที"
คำพูดของเอพริลทำให้ชายตรงหน้าถึงกับชะงักมือที่กำลังจะยกขึ้นลูบไล้ตามใบหน้าสวย นั่นทำให้เธอใช้จังหวะนั้นรีบสะบัดแขนข้างที่ถูกจับไว้ออกสุดแรง ก่อนจะออกตัววิ่งอีกครั้ง ในหัวของเธอตอนนี้มีแต่ภาพตากับยายที่นั่งยิ้มหัวเราะกันอยู่เวลาที่เธอกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ยิ่งทำให้เธอต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอดจากอันตรายในครั้งนี้ไปให้ได้
"ช่วยด้วยค่ะ!" เสียงเล็กร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออีกครั้ง เมื่อสายตาที่เริ่มพร่ามัวไปด้วยน้ำตาแห่งความหวาดกลัวเหลือบไปเห็นคนที่อยู่ไม่ไกลจากจุดนี้ ไม่รอช้าเธอรวบรวมแรงทั้งหมดที่พอมีเหลือเร่งฝีเท้าวิ่งตรงไปที่คนตรงหน้าทันที
ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นคนดีหรือเปล่า แต่ตามสัญญาณนั้นบอกให้เธอวิ่ง วิ่งไปหาเขาคนนั้นให้ได้ก่อนที่เธอจะถูกไอ้โรคจิตที่กำลังวิ่งตามมาจับไปบังคับขืนใจ
ปึก!
ร่างบางวิ่งพุ่งเข้าชนคนตรงหน้าอย่างจังพร้อมกับตวัดแขนโอบกอดเขาไว้แน่น ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร
"ช่วยด้วย… ช่วยฉันด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย" น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขอความช่วยเหลือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างสูงที่เธอกำลังกอดเขาไว้แน่น บนศีรษะเล็กก็ยังคงสวมหมวกกันน็อคอยู่เช่นเดิม
"นี่เธอ… อีกแล้วเหรอ?"